หูตั้ง ระลึกชาติ
http://m.youtube.com/watch?feature=related&v=fkaThVrvC1A
ไอ้หูตั้ง หมาระลึกชาติ โดย คุณมาลี สร้อยพิสุทธิ์
จากหนังสือเล่มเดียวกันของเลี่ยงเซียงจงเจริญ
ผู้เขียนอ่านพบหมาระลึกชาติ แต่มันเป็นหมาไทย ไม่ใช้ไอ้ฟลุ้ค หมาฝรั่งระลึกชาติจากภาพยนตร์
ไอ้หูตั้ง สุนัขไทยตัวนี้ ชาติที่ผ่านมาเป็นพลเรือตรี เจ้ากรมทหารเรือ ในสมัยหนึ่ง เรื่องเป็นอย่างไรโปรดติดตามอ่าน
คุณทองทิว สุวรรณทัต ได้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่เป็นคนแรก
สุนัขตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์ไทย รูปร่างลักษณะสง่างาม หน้าตาได้สัดส่วน ขนเกรียน
สีขาวนวลทั่วร่างตลอดถึงเท้า แต่หน้าดำมอมตั้งแต่ใต้ตาถึงปลายจมูก หูทั้งสองตั้งตรง
เจ้าของจึงตั้งชื่อว่า หูตั้ง
เดิมหูตั้งเป็นลูกสุนัขอยู่ร้านขายกาแฟ ซอยวัดเพลงวิปัสสนา ท่าพระ ธนบุรี
คุณมาลี สร้อยพิสุทธิ์ ไปพบหูตั้งเมื่อมันมีอายุเพียง 4-5 เดือน กำลังเข้าสู่วัยรุ่น
เจ้าของร้านกาแฟเห็นมันดุ โตขึ้นอาจกัดคน การเลี้ยงสุนัขดุอาจเป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย
เมื่อเห็นคุณมาลีสนใจอยากได้จึงยกให้ คุณมาลีได้หูตั้งมาเลี้ยงก็ดีใจมาก
หูตั้งเหมือนสัตว์ 2 ชีพในร่างเดียวกันคือ เมื่ออยู่ร้านกาแฟไม่มีใครสนใจมากนัก
จึงปล่อยเขาเจริญเติบโตตามสภาพสุนัขทั่ว ๆ ไป เมื่อเล็ก ๆ ไม่ชอบเห่า
พอเป็นวัยรุ่นขึ้นแล้วทั้งเห่าทั้งกัด นี่คือตอนอยู่ร้านกาแฟ
ต่อเมื่อไปอยู่กับคุณมาลี หูตั้งได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี มีความอบอุ่น
จึงแสดงแววอัจฉริยะออกมา มีความสนใจต่อบุคคลและสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ
ผิดกับสุนัขทั่ว ๆ ไป คุณสุมาลีสังเกตพบว่าหูตั้งชอบสบตาคน ซึ่งผิดจากสุนัขทั่วไปที่ไม่ชอบสบตาคน
หูตั้งสนใจฟังคำพูดของคนบางโอกาส ทำทีเหมือนอยากพูดด้วย แต่พูดไม่ได้
คุณสุมาลีมีวิธีให้หูตั้งตอบคำถามได้ โดยให้เขาใช้เท้าหน้าข้างขวาสื่อความหมาย
โดยเธอตั้งคำถามง่าย ๆ ว่าใช่หรือไม่ใช่ เมื่อได้ทบทวนซ้ำ ๆ และมากเรื่องมากคำถาม คำตอบ
ก็ประมวลเรื่องราวถึงการเล่าเรื่องราวชาติที่เป็นมนุษย์ได้ จึงค้นพบว่าเขาเคยเกิดเป็นคนมาแล้ว และเป็นคนระดับสูงด้วย
ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เขาจึงเป็นมนุษย์ในร่างสุนัข
ต่อไปจะเล่าขั้นตอนถึงเรื่องราวสำคัญ ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นใครมาก่อนตามลำดับ
ชอบนอนมุ้งประทุน ไม่ชอบนอนตากยุง ถ้าใช้มุ้งประทุนครอบให้นอนจะพอใจมาก ไม่ดิ้นรนตะกุยตะกายแต่อย่างใด
หน้าหนาวห่มผ้าอุ่นก็รู้จักระมัดระวังไม่ให้ผ้าห่มหลุดจากร่างจนกระทั่งตื่นเช้า
สนใจกินยาอย่างคน เช่นยาธาตุ เมื่อท้องเสียจะกินยาธาตุ
จนกระทั่งช่วงท้ายของชีวิต ก่อนตายก็รู้จักขอกินยาธาตุเอง
คือแสดงท่าทางเหมือนหิวข้าว เมื่อหาข้าวให้กินกลับเดินนำไปที่ตู้ยา
ครั้งแรกคุณมาลีก็งง จึงถามว่าจะกินยาหรือ หูตั้งก็กระดิกหาง แสดงว่าใช่
เมื่อหยิบขวดยาธาตุมาให้ดู ถามว่าจะกินยานี้หรือ หูตั้งก็เดินมาที่เก็บช้อน จึงเข้าใจได้ว่าจะกินยานี้ก่อนอาหาร
เมื่อกินยาธาตุแล้วจึงเดินไปกินข้าว
ถึงแม้จะกินอยู่หลับนอนสุขสบายเหมือนคน แต่หูตั้งก็ยังทำหน้าของสุนัข
คือรักษาทรัพย์ให้ปลอดจากขโมย หูตั้งมีประสาทหูที่ไวมาก และแม่นยำ
รู้จักแยกเสียงคนในบ้านหรือเสียงขโมย ถ้าขโมยเข้าเขตบ้านหูตั้งจะเห่าเสียงดังจนขโมยต้องรีบหนีไป
เวลาใกล้รุ่งมีคนในบ้านตื่นลุกขึ้นบ้างแล้ว หูตั้งจะนอนหลับสนิทเลย
หูตั้งแสดงให้รู้ว่าเคยเป็นทหารเรือ
วันหนึ่ง ขากลับจากพาไปหาหมอ ก็พาขึ้นรถสองแถว หูตั้งยืนตรงหน้าคุณมาลี
ผู้โดยสารพากันทยอยขึ้น จนมีทหารเรือยศพันจ่าเอกขึ้นมานั่งตรงข้าม เยื้องไปข้างหลัง
คุณมาลีพบว่า หูตั้งมองทหารเรือคนนั้นด้วยความสนใจยิ่ง ตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะ มองขึ้น ๆ ลง ๆ เช่นนี้หลายเที่ยว
จนทหารคนนั้นรู้สึกตัวว่าถูกสุนัขสนใจมองตัวเอง จึงขยับตัวเปลี่ยนท่านั่ง และทำท่าสงสัยว่าทำไมหมาตัวนี้จึงมองเขาเขม้งเช่นนั้น
จะว่าทำท่าเป็นศัตรูก็ไม่เชิง คุณมาลีรู้สึกเกรงใจทหารผู้นั้น จึงจับหูตั้งให้หันไปทางหน้ารถ
แต่เผลอหน่อยเดียวหูตั้งก็หันไปจ้องเขาอีก จับหันหน้าไปอีกทางได้สักพักเขาก็หันไปมองทหารคนนั้นอีก จนลงจากรถ
เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว จึงเอ่ยถามหูตั้งว่า ?ตัวไปมองดูทหารเรือคนนั้นทำไม ชาติก่อนเราเคยเกิดเป็นทหารเรือหรือ?
หูตั้งยกเท้าหน้าขวาให้คุณมาลีทันที ?อ๋อ..เราเคยเป็นทหารเรือ?
คุณมาลีพูดอย่างไม่จริงจังนัก คิดว่าหูตั้งอาจนึกสนุกอะไรขึ้นมาก็ได้
จึงถามอีกว่า ?ชาติก่อนเป็นทหารเรอะ เป็นทหารบกใช่มั้ย?
หูตั้งนิ่งเฉย ทำไม่รู้ไม่ซี้ ?ทหารอากาศหรือเปล่า ?? หูตั้งเฉยอีก
ย้อนถาม ?เป็นทหารเรือหรือ? หูตั้งก็ยกมือขวาให้ทันที
คุณมาลีถามย้อนกลับไปกลับมา ก็ได้รับคำตอบแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สับสน
คือหูตั้งจะยกมือขวาให้ต่อเมื่อถามว่า ?เป็นทหารเรือใช่มั้ย?
จึงสรุปได้ว่า หูตั้งเคยเป็นทหารเรือในอดีตชาติ
คุณมาลีก็ทดสอบต่อไปอีกว่า เมื่อเป็นทหารเรือ มียศระดับไหน
หรือจะมียศจ่าเอกอย่างที่เขาจ้องมอง
คราวนี้คุณมาลีกับลูกสาวช่วยกันสอบถามกลับไปกลับมา ?
เราเป็นทหารเรือน่ะรู้แล้ว แต่อยากรู้ว่ามียศระดับไหน เป็นกะลาสีหรือ?
คุณมาลีลูบหัวหูตั้งเบา ๆ พลางหันไปสบตาลูกสาว หูตั้งนิ่งเฉย ?
อ้าว..เปนจ่าตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งนิ่งเฉย
คุณมลีก็ถามสูงขึ้นไปตามลำดับ จนถึงนาวาเอก หูตั้งก็นั่งนิ่งเฉย
คุณมาลีจึงเย้าว่า ?สงสัยจะเป็นนายพลละมั้ง? ได้ผลทีนี้ หูตั้งยกมือขวาชูร่อนให้คุณมาลีจับ ?
โอ้โฮ นี่เราเป็นถึงนายพลเชียวรึ? คุณมาลีพูดเสียงดังด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น หูตั้งทำหูหรี่ ส่งมือขวาให้อีก
นายพลอะไร พลเรือตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งส่งมือให้ทันที
คุณมาลีทราบคำตอบแล้ว แต่ก็แกล้งถามต่ออีก ?พลเรือโทใช่มั้ย ? ? หูตั้งนั่งนิ่งเฉย
พลเรือเอกใช่มั้ย ? ? หูตั้งก็นั่งนิ่งเฉยอีก
เมื่อกลับมาถามว่า ?พลเรือตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งก็ส่วมือขวาให้รับอีก
ถึงแม้จะได้คำตอบแล้ว แค่คุณมาลีก็ยังสอบทบทวนอีก ตั้งแต่กะลาสีเรือ จ่าตรี ขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ได้ผลเดียวกัน
หูตั้งยกมือให้เมื่อถามระดับ พลเรือตรี
จึงได้ข้อสรุปชัดเจนว่าหูตั้งเคยเป็นทหารเรือยศพลตรีในอดีตชาติ?..
คราวหนึ่งคุณมาลีพาครอบครัวไปเที่ยวชายทะเล ก็พาหูตั้งไปด้วย
หูตั้งวิ่งเล่นสนุกสนานกับคลื่นกระทบฝั่ง วิ่งไปวิ่งมาอย่างมีความสุข
วันต่อมาหูตั้งนั่งที่หาดทราย มองทอดสายตาออกไปในทะเลอันกว้างใหญ่ นั่งมองอยู่อย่างนั้นแหละเป็นชั่วโมง
ซึ่งทะเลที่คุณมาลีพาไปนั้นอยู่ใกล้กับฐานทัพเรือสัตหีบ แต่เคยพาไปทะเลทีอื่นหูตั้งจะเฉย ๆ
คุณมาลีจึงถามว่า ?เคยไปรบในสงครามอินโดจีนหรือเปล่า? หูตั้งรีบยกมือให้
รบกับเรือลามอทปิเก้ต์นะหรือ? หูตั้งรีบยกมือให้
(ลามอทปิเก้ต์คือเรือรบฝรั่งเศส รบกับเรือไทยที่เกาะช้าง คราวสงครามอินโดจีน)
คุณมาลีถามอีกว่า ?รู้จักคุณหลวงพร้อมวีรพันธ์ไหม ? ?
หูตั้งรีบยกมือให้โดยเร็ว (หลวงพร้อมวีรพันธ์คือวีรบุรุษการรบที่เกาะช้าง)
วันดีคืนดีคุณมาลีก็นึกสนุก ๆ ก็จะถามว่า ? ตั้งจ๊ะ รู้จักคุณสงัด ชะลออยู่มั้ย คุณสงัด ชะลออยู่ นะ ?
ย้ำคำถามชัด ๆ หูตั้งเอียงคอจ้องมองหน้าแล้วรีบยกมือให้โดยเร็ว
เป็นอะไรกัน เป็นผู้บังคับบัญชาเหรอ ?? หูตั้งมองหน้าเฉย ๆ
จึงถามล้อ ๆ ว่า ?เป็นลูกน้องเราเหรอ ?? หูตั้งเฉยอีก ?งั้นก็เป็นเพื่อนนะสิ ? หูตั้งรีบยกมือให้ทันที
แล้วก็ลุกเดินห่างออกไป การสอบตอนเป็นทหารเรือในวันนั้นทำหลายครั้งหลายครา
คราวหนึ่งถามทดสอบถึงตำแหน่งตอนเป็นพลเรือตรี สองคนแม่ลูกช่วยกันถาม
คุณมาลีถามว่า เออ...ตั้ง ชาติก่อนที่เป็นพลเรือตรีนะ เคยเป็นเจ้ากรมบ้างไหม ??
หูตั้งฟังคำถามด้วยความเอาใจใส่ พอถามจบก็รีบยกมือให้ทันที
คุณมาลีต้องกรทราบว่าเป็นกรมอะไร จึงยกมาถามทีละกรม
อ้อ..เคยเป็นถึงเจ้ากรมเชียวนะ แล้วเป็นเจ้ากรมอะไร กรมขนส่งใช่มั้ย ?? หูตั้งเฉย
งั้นเจ้ากรมข่าว? หูตั้งเฉยอีก งั้นเจ้ากรมอู่ทหารเรือ? หูตั้งเฉยอีก
กรมสวัสดิการหรือ ?? หูตั้งก็เฉยอีก
คุณวนิดาผู้เป็นลูกสาวเปิดหนังสือดูชื่อกรมต่าง ๆ แล้วเอ่ยขึ้น
กรมอู่ทหารเรือคงไม่ใช่ เพาะเจ้ากรมเป็นพลเรือโท? หูตั้งนั่งฟังคำถาม
คุณวินิดาจึงถามอีกว่า งั้นก็เจ้ากรมพลาธิกานะสิ ? หูตั้งรีบยกมือให้โดยเร็ว แสดงท่าทางดีใจมาก
ชอบให้เรียกผู้การ นายทหารเรือยศสูงเขาเรียกกันว่าผู้การ เมื่อเรียกหูตั้งว่าผู้การ
หูตั้งจะแสดงความดีใจอย่างออกหน้า จะรีบเดินมาหาทันที
เรียกครูก็ชอบ เพราะทหารเรือมักเรียกผู้อาวุโสว่าครู แบบสนิทสนมเป็นกันเองดียิ่ง เมื่อเรียกว่าครู หูตั้งก็จะรีบเดินมาหา
และอีกคำที่ชอบมากคือคำว่า คุณพี่ เพราะภรรยาของของนายทหารสมัยก่อนมักเรียกสามีว่า คุณพี่
เมื่อคุณมาลีแกล้งเรียกลอย ๆ ว่า คุณพี่ หูตั้งก็แสดงอาการดีใจ จะรีบเดินมาหา ทำตาแหววหวานขึ้นมาทีเดียว จนเป็นที่ขบขันกัน
หูตั้งชอบนั่งดูภาพหนังสือพิมพ์ในบ้านเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพระบรมฉายาลักษณ์ จะนั่งจ้องมองอยู่นาน ๆ โดยไม่ขยับเขยื้อน
คุณมาลีเปิดให้ดูหน้าใน ซึ่งมีพระบรมรูปในอิริยาบทต่าง ๆ หูตั้งจะสนใจดูทุกภาพ
เข้าใจว่า เมื่อหูตั้งเป็นทหารผู้ใหญ่ คงมีโอกาสไดเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระยุคลบาทหลายครั้ง มีความซาบซึ้ง จงรักภักดีอยู่มาก
หูตั้ง ระลึกชาติ
http://m.youtube.com/watch?feature=related&v=fkaThVrvC1A
ไอ้หูตั้ง หมาระลึกชาติ โดย คุณมาลี สร้อยพิสุทธิ์
จากหนังสือเล่มเดียวกันของเลี่ยงเซียงจงเจริญ
ผู้เขียนอ่านพบหมาระลึกชาติ แต่มันเป็นหมาไทย ไม่ใช้ไอ้ฟลุ้ค หมาฝรั่งระลึกชาติจากภาพยนตร์
ไอ้หูตั้ง สุนัขไทยตัวนี้ ชาติที่ผ่านมาเป็นพลเรือตรี เจ้ากรมทหารเรือ ในสมัยหนึ่ง เรื่องเป็นอย่างไรโปรดติดตามอ่าน
คุณทองทิว สุวรรณทัต ได้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่เป็นคนแรก
สุนัขตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์ไทย รูปร่างลักษณะสง่างาม หน้าตาได้สัดส่วน ขนเกรียน
สีขาวนวลทั่วร่างตลอดถึงเท้า แต่หน้าดำมอมตั้งแต่ใต้ตาถึงปลายจมูก หูทั้งสองตั้งตรง
เจ้าของจึงตั้งชื่อว่า หูตั้ง
เดิมหูตั้งเป็นลูกสุนัขอยู่ร้านขายกาแฟ ซอยวัดเพลงวิปัสสนา ท่าพระ ธนบุรี
คุณมาลี สร้อยพิสุทธิ์ ไปพบหูตั้งเมื่อมันมีอายุเพียง 4-5 เดือน กำลังเข้าสู่วัยรุ่น
เจ้าของร้านกาแฟเห็นมันดุ โตขึ้นอาจกัดคน การเลี้ยงสุนัขดุอาจเป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย
เมื่อเห็นคุณมาลีสนใจอยากได้จึงยกให้ คุณมาลีได้หูตั้งมาเลี้ยงก็ดีใจมาก
หูตั้งเหมือนสัตว์ 2 ชีพในร่างเดียวกันคือ เมื่ออยู่ร้านกาแฟไม่มีใครสนใจมากนัก
จึงปล่อยเขาเจริญเติบโตตามสภาพสุนัขทั่ว ๆ ไป เมื่อเล็ก ๆ ไม่ชอบเห่า
พอเป็นวัยรุ่นขึ้นแล้วทั้งเห่าทั้งกัด นี่คือตอนอยู่ร้านกาแฟ
ต่อเมื่อไปอยู่กับคุณมาลี หูตั้งได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี มีความอบอุ่น
จึงแสดงแววอัจฉริยะออกมา มีความสนใจต่อบุคคลและสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ
ผิดกับสุนัขทั่ว ๆ ไป คุณสุมาลีสังเกตพบว่าหูตั้งชอบสบตาคน ซึ่งผิดจากสุนัขทั่วไปที่ไม่ชอบสบตาคน
หูตั้งสนใจฟังคำพูดของคนบางโอกาส ทำทีเหมือนอยากพูดด้วย แต่พูดไม่ได้
คุณสุมาลีมีวิธีให้หูตั้งตอบคำถามได้ โดยให้เขาใช้เท้าหน้าข้างขวาสื่อความหมาย
โดยเธอตั้งคำถามง่าย ๆ ว่าใช่หรือไม่ใช่ เมื่อได้ทบทวนซ้ำ ๆ และมากเรื่องมากคำถาม คำตอบ
ก็ประมวลเรื่องราวถึงการเล่าเรื่องราวชาติที่เป็นมนุษย์ได้ จึงค้นพบว่าเขาเคยเกิดเป็นคนมาแล้ว และเป็นคนระดับสูงด้วย
ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เขาจึงเป็นมนุษย์ในร่างสุนัข
ต่อไปจะเล่าขั้นตอนถึงเรื่องราวสำคัญ ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นใครมาก่อนตามลำดับ
ชอบนอนมุ้งประทุน ไม่ชอบนอนตากยุง ถ้าใช้มุ้งประทุนครอบให้นอนจะพอใจมาก ไม่ดิ้นรนตะกุยตะกายแต่อย่างใด
หน้าหนาวห่มผ้าอุ่นก็รู้จักระมัดระวังไม่ให้ผ้าห่มหลุดจากร่างจนกระทั่งตื่นเช้า
สนใจกินยาอย่างคน เช่นยาธาตุ เมื่อท้องเสียจะกินยาธาตุ
จนกระทั่งช่วงท้ายของชีวิต ก่อนตายก็รู้จักขอกินยาธาตุเอง
คือแสดงท่าทางเหมือนหิวข้าว เมื่อหาข้าวให้กินกลับเดินนำไปที่ตู้ยา
ครั้งแรกคุณมาลีก็งง จึงถามว่าจะกินยาหรือ หูตั้งก็กระดิกหาง แสดงว่าใช่
เมื่อหยิบขวดยาธาตุมาให้ดู ถามว่าจะกินยานี้หรือ หูตั้งก็เดินมาที่เก็บช้อน จึงเข้าใจได้ว่าจะกินยานี้ก่อนอาหาร
เมื่อกินยาธาตุแล้วจึงเดินไปกินข้าว
ถึงแม้จะกินอยู่หลับนอนสุขสบายเหมือนคน แต่หูตั้งก็ยังทำหน้าของสุนัข
คือรักษาทรัพย์ให้ปลอดจากขโมย หูตั้งมีประสาทหูที่ไวมาก และแม่นยำ
รู้จักแยกเสียงคนในบ้านหรือเสียงขโมย ถ้าขโมยเข้าเขตบ้านหูตั้งจะเห่าเสียงดังจนขโมยต้องรีบหนีไป
เวลาใกล้รุ่งมีคนในบ้านตื่นลุกขึ้นบ้างแล้ว หูตั้งจะนอนหลับสนิทเลย
หูตั้งแสดงให้รู้ว่าเคยเป็นทหารเรือ
วันหนึ่ง ขากลับจากพาไปหาหมอ ก็พาขึ้นรถสองแถว หูตั้งยืนตรงหน้าคุณมาลี
ผู้โดยสารพากันทยอยขึ้น จนมีทหารเรือยศพันจ่าเอกขึ้นมานั่งตรงข้าม เยื้องไปข้างหลัง
คุณมาลีพบว่า หูตั้งมองทหารเรือคนนั้นด้วยความสนใจยิ่ง ตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะ มองขึ้น ๆ ลง ๆ เช่นนี้หลายเที่ยว
จนทหารคนนั้นรู้สึกตัวว่าถูกสุนัขสนใจมองตัวเอง จึงขยับตัวเปลี่ยนท่านั่ง และทำท่าสงสัยว่าทำไมหมาตัวนี้จึงมองเขาเขม้งเช่นนั้น
จะว่าทำท่าเป็นศัตรูก็ไม่เชิง คุณมาลีรู้สึกเกรงใจทหารผู้นั้น จึงจับหูตั้งให้หันไปทางหน้ารถ
แต่เผลอหน่อยเดียวหูตั้งก็หันไปจ้องเขาอีก จับหันหน้าไปอีกทางได้สักพักเขาก็หันไปมองทหารคนนั้นอีก จนลงจากรถ
เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว จึงเอ่ยถามหูตั้งว่า ?ตัวไปมองดูทหารเรือคนนั้นทำไม ชาติก่อนเราเคยเกิดเป็นทหารเรือหรือ?
หูตั้งยกเท้าหน้าขวาให้คุณมาลีทันที ?อ๋อ..เราเคยเป็นทหารเรือ?
คุณมาลีพูดอย่างไม่จริงจังนัก คิดว่าหูตั้งอาจนึกสนุกอะไรขึ้นมาก็ได้
จึงถามอีกว่า ?ชาติก่อนเป็นทหารเรอะ เป็นทหารบกใช่มั้ย?
หูตั้งนิ่งเฉย ทำไม่รู้ไม่ซี้ ?ทหารอากาศหรือเปล่า ?? หูตั้งเฉยอีก
ย้อนถาม ?เป็นทหารเรือหรือ? หูตั้งก็ยกมือขวาให้ทันที
คุณมาลีถามย้อนกลับไปกลับมา ก็ได้รับคำตอบแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สับสน
คือหูตั้งจะยกมือขวาให้ต่อเมื่อถามว่า ?เป็นทหารเรือใช่มั้ย?
จึงสรุปได้ว่า หูตั้งเคยเป็นทหารเรือในอดีตชาติ
คุณมาลีก็ทดสอบต่อไปอีกว่า เมื่อเป็นทหารเรือ มียศระดับไหน
หรือจะมียศจ่าเอกอย่างที่เขาจ้องมอง
คราวนี้คุณมาลีกับลูกสาวช่วยกันสอบถามกลับไปกลับมา ?
เราเป็นทหารเรือน่ะรู้แล้ว แต่อยากรู้ว่ามียศระดับไหน เป็นกะลาสีหรือ?
คุณมาลีลูบหัวหูตั้งเบา ๆ พลางหันไปสบตาลูกสาว หูตั้งนิ่งเฉย ?
อ้าว..เปนจ่าตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งนิ่งเฉย
คุณมลีก็ถามสูงขึ้นไปตามลำดับ จนถึงนาวาเอก หูตั้งก็นั่งนิ่งเฉย
คุณมาลีจึงเย้าว่า ?สงสัยจะเป็นนายพลละมั้ง? ได้ผลทีนี้ หูตั้งยกมือขวาชูร่อนให้คุณมาลีจับ ?
โอ้โฮ นี่เราเป็นถึงนายพลเชียวรึ? คุณมาลีพูดเสียงดังด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น หูตั้งทำหูหรี่ ส่งมือขวาให้อีก
นายพลอะไร พลเรือตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งส่งมือให้ทันที
คุณมาลีทราบคำตอบแล้ว แต่ก็แกล้งถามต่ออีก ?พลเรือโทใช่มั้ย ? ? หูตั้งนั่งนิ่งเฉย
พลเรือเอกใช่มั้ย ? ? หูตั้งก็นั่งนิ่งเฉยอีก
เมื่อกลับมาถามว่า ?พลเรือตรีใช่มั้ย ?? หูตั้งก็ส่วมือขวาให้รับอีก
ถึงแม้จะได้คำตอบแล้ว แค่คุณมาลีก็ยังสอบทบทวนอีก ตั้งแต่กะลาสีเรือ จ่าตรี ขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ได้ผลเดียวกัน
หูตั้งยกมือให้เมื่อถามระดับ พลเรือตรี
จึงได้ข้อสรุปชัดเจนว่าหูตั้งเคยเป็นทหารเรือยศพลตรีในอดีตชาติ?..
คราวหนึ่งคุณมาลีพาครอบครัวไปเที่ยวชายทะเล ก็พาหูตั้งไปด้วย
หูตั้งวิ่งเล่นสนุกสนานกับคลื่นกระทบฝั่ง วิ่งไปวิ่งมาอย่างมีความสุข
วันต่อมาหูตั้งนั่งที่หาดทราย มองทอดสายตาออกไปในทะเลอันกว้างใหญ่ นั่งมองอยู่อย่างนั้นแหละเป็นชั่วโมง
ซึ่งทะเลที่คุณมาลีพาไปนั้นอยู่ใกล้กับฐานทัพเรือสัตหีบ แต่เคยพาไปทะเลทีอื่นหูตั้งจะเฉย ๆ
คุณมาลีจึงถามว่า ?เคยไปรบในสงครามอินโดจีนหรือเปล่า? หูตั้งรีบยกมือให้
รบกับเรือลามอทปิเก้ต์นะหรือ? หูตั้งรีบยกมือให้
(ลามอทปิเก้ต์คือเรือรบฝรั่งเศส รบกับเรือไทยที่เกาะช้าง คราวสงครามอินโดจีน)
คุณมาลีถามอีกว่า ?รู้จักคุณหลวงพร้อมวีรพันธ์ไหม ? ?
หูตั้งรีบยกมือให้โดยเร็ว (หลวงพร้อมวีรพันธ์คือวีรบุรุษการรบที่เกาะช้าง)
วันดีคืนดีคุณมาลีก็นึกสนุก ๆ ก็จะถามว่า ? ตั้งจ๊ะ รู้จักคุณสงัด ชะลออยู่มั้ย คุณสงัด ชะลออยู่ นะ ?
ย้ำคำถามชัด ๆ หูตั้งเอียงคอจ้องมองหน้าแล้วรีบยกมือให้โดยเร็ว
เป็นอะไรกัน เป็นผู้บังคับบัญชาเหรอ ?? หูตั้งมองหน้าเฉย ๆ
จึงถามล้อ ๆ ว่า ?เป็นลูกน้องเราเหรอ ?? หูตั้งเฉยอีก ?งั้นก็เป็นเพื่อนนะสิ ? หูตั้งรีบยกมือให้ทันที
แล้วก็ลุกเดินห่างออกไป การสอบตอนเป็นทหารเรือในวันนั้นทำหลายครั้งหลายครา
คราวหนึ่งถามทดสอบถึงตำแหน่งตอนเป็นพลเรือตรี สองคนแม่ลูกช่วยกันถาม
คุณมาลีถามว่า เออ...ตั้ง ชาติก่อนที่เป็นพลเรือตรีนะ เคยเป็นเจ้ากรมบ้างไหม ??
หูตั้งฟังคำถามด้วยความเอาใจใส่ พอถามจบก็รีบยกมือให้ทันที
คุณมาลีต้องกรทราบว่าเป็นกรมอะไร จึงยกมาถามทีละกรม
อ้อ..เคยเป็นถึงเจ้ากรมเชียวนะ แล้วเป็นเจ้ากรมอะไร กรมขนส่งใช่มั้ย ?? หูตั้งเฉย
งั้นเจ้ากรมข่าว? หูตั้งเฉยอีก งั้นเจ้ากรมอู่ทหารเรือ? หูตั้งเฉยอีก
กรมสวัสดิการหรือ ?? หูตั้งก็เฉยอีก
คุณวนิดาผู้เป็นลูกสาวเปิดหนังสือดูชื่อกรมต่าง ๆ แล้วเอ่ยขึ้น
กรมอู่ทหารเรือคงไม่ใช่ เพาะเจ้ากรมเป็นพลเรือโท? หูตั้งนั่งฟังคำถาม
คุณวินิดาจึงถามอีกว่า งั้นก็เจ้ากรมพลาธิกานะสิ ? หูตั้งรีบยกมือให้โดยเร็ว แสดงท่าทางดีใจมาก
ชอบให้เรียกผู้การ นายทหารเรือยศสูงเขาเรียกกันว่าผู้การ เมื่อเรียกหูตั้งว่าผู้การ
หูตั้งจะแสดงความดีใจอย่างออกหน้า จะรีบเดินมาหาทันที
เรียกครูก็ชอบ เพราะทหารเรือมักเรียกผู้อาวุโสว่าครู แบบสนิทสนมเป็นกันเองดียิ่ง เมื่อเรียกว่าครู หูตั้งก็จะรีบเดินมาหา
และอีกคำที่ชอบมากคือคำว่า คุณพี่ เพราะภรรยาของของนายทหารสมัยก่อนมักเรียกสามีว่า คุณพี่
เมื่อคุณมาลีแกล้งเรียกลอย ๆ ว่า คุณพี่ หูตั้งก็แสดงอาการดีใจ จะรีบเดินมาหา ทำตาแหววหวานขึ้นมาทีเดียว จนเป็นที่ขบขันกัน
หูตั้งชอบนั่งดูภาพหนังสือพิมพ์ในบ้านเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพระบรมฉายาลักษณ์ จะนั่งจ้องมองอยู่นาน ๆ โดยไม่ขยับเขยื้อน
คุณมาลีเปิดให้ดูหน้าใน ซึ่งมีพระบรมรูปในอิริยาบทต่าง ๆ หูตั้งจะสนใจดูทุกภาพ
เข้าใจว่า เมื่อหูตั้งเป็นทหารผู้ใหญ่ คงมีโอกาสไดเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระยุคลบาทหลายครั้ง มีความซาบซึ้ง จงรักภักดีอยู่มาก