เราอายุ 26 ปีนะคะ เราเองเกือบจะมีแฟนอยู่ 2-3 ครั้งค่ะ แต่สุดท้ายก็.....ขอเล่าก่อนว่าเรามาจากครอบครัวที่พ่อเจ้าชู้มากกกก มีภรรยาเยอะ และเวลาเบื่อภรรยาคนไหนแล้วอยากจะไปมีภรรยาใหม่ ก็จะหาเรื่องทุบตีภรรยาตัวเอง บางทีภรรยาท้องอยู่ก็ต่อยจนตาแตกกรามหักก็มี เราเองเป็นลูกภรรยาน้อย ก็ได้รับความกดดันจากการโดนลูกภรรยาหลวงว่ากระทบ เราโตมากับภาพความรักที่ล้มเหลวของผู้หญิงคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาในชีวิตพ่อ มองเห็นปัญหาที่เกิดจากความรัก จากตัณหา ราคะ จนกลายเป็นฝังใจโดยไม่รู้ตัว ส่วนพ่อเรายิ่งตัวเองเจ้าชู้ทำร้ายลูกสาวคนอื่นเค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหวงลูกสาวตัวเองมากเท่านั้น
ตั้งแต่เด็กจนโตเราถูกขีดกรอบให้เดินตลอด เลิกเรียนต้องรีบกลับบ้านถ้าวันไหนต้องอยู่ทำรายงานที่โรงเรียนวันนั้นจะมีปัญหาละ พ่อจะด่าเราเสียๆหายหาว่าเราโกหก จริงๆแล้วเราไปกับผู้ชายทั้งๆที่เราอยู่โรงเรียนหญิงล้วน เราก็เลยไม่ได้มีแฟนในช่วงวัยรุ่น พอเริ่มเรียนจบเข้าวัยทำงาน ก็มีผู้ชายหลายๆคนเข้ามาจีบ แต่เราไม่คิดจะคบกับใครเลยยย เพราะเราฝังใจไปแล้วว่าความรักมันไม่มี ถึงมีมันก็ไม่ยั่งยืน ระบบความคิดเราจัดการข้อมูลในส่วนความรักว่ามันคือความทุกข์ ภาพของคนที่มีครอบครัวแล้วทุกข์สาหัส มันฝังอยู่ในทุกเซลสมองของเราเลยก็ว่าได้ เราคิดไว้เล่นๆว่าเราจะไม่แต่งงานถ้าจะมีลูกก็อาจจะไปทำกิฟท์แทน หรือไม่ก็ขอเด็กมาเลี้ยงซะเลย ยิ่งมีคนเข้ามาจีบมากแค่ไหน เราก็ยิ่งไม่อยากมีแฟนเท่านั้น เมื่อก่อนยังมีลองคุยกันก่อนบ้างแต่ช่วงหลังๆมานี่ เราปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาได้ภายใน 3 นาทีจบ!!
เราทุ่มเทความรักทั้งหมดให้กับการดูแลตัวเอง พัฒนาตัวเอง เวลามีผู้ชายชมว่าสวย ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยมีแฟน เราจะมีความคิดแทรกขึ้นมาทันทีว่า "เพราะผู้ชายเป็นเพศที่ไม่รักใครจริง เบื่อแล้วก็ทิ้ง ก็ไม่สมควรจะได้อะไรดีๆ เรามีค่าเกินกว่าจะไปพัวพันกับผู้ชายพวกนั้น" (ทัศนคตินี้ส่วนนึงมาจากแม่เรา และบรรดาผู้หญิงของพ่อที่พูดกรอกหูตลอดว่าผู้ชายเลว อย่ามีครอบครัว อย่าแต่งงาน) ทั้งๆที่ผู้ชายหลายคนที่เข้ามาก็เป็นคนดี จิตใจดี หน้าที่การงานดี และสมควรจะได้เจอผู้หญิงดีๆอย่างยิ่ง หาดีกว่าเรากได้อีกเยอะ เราเอาความคิดเหล่านั้นมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเองอยู่ใน comfort zone เพราะลึกๆแล้วเราไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเป็นแฟนที่ดีได้ เพราะเราไม่เคยเห็นภาพของการเป็นเมียหรือแม่ที่ดีมาก่อน เราจำได้แต่ภาพครอบครัวที่โหดร้าย เสียงแม่ เสียงผู้หญิงของพ่อกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายร่างกาย จบลงด้วยทุกคนถูกทิ้ง รวมทั้งแม่เรา ซึ่งทำให้เราไม่ได้อยู่กับแม่ นานๆจะจเอกันที เพิ่งจะได้มาอยู่ด้วยกันตอนเราโตแล้ว
เรากลัวว่าถ้าเรามีความรักมันจะต้องพังพินาศแบบนั้น เรากลัวว่าถ้าวันนึงคนที่ีเข้ามาหาเราให้ความรักกับเราเต็มที่แล้วเราติดใจกับความหอมหวานนั้น แต่วันนึงเค้าเกิดไม่อยากให้ความรักนั้นกับเราแล้วเราจะเจ็บ เราจะทนไม่ได้ ถ้าวันนึงเค้าเข้ามาหาเรามาเสนอตัวที่จะดูแลทนุถนอมเรา แต่พอวันนึงเบื่อเราเค้าอาจจะทำร้ายเราก็ได้ เรากลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง จนเมื่อไม่นานมานี้เราต้องเสียคนที่ดีที่สุดคนนึงไป เพราะเค้ามาจีบเราในช่วงที่เค้าต้องไปเรียนต่อเมืองนอก 2 ปี เค้าพยายามจะบอกเราว่า ระยะทางมันไม่ใช่ปัญหา เราคบกันได้ใน 2 ปีนี้ เราก็คุยกันศึกษากันไป แต่เราไม่เอา เราไม่เชื่อว่าผู้ชายจะซื่อสัตย์กับผู้หญิงที่อยู่ห่างกันได้ จนสุดท้ายพี่เค้าก็ถอดใจ ไม่คิดจะคบกับเราแล้ว วันนั้นก็เลยเป็นวันที่เรารู้ตัวว่าลึกๆแล้วเราโหยหาความรักมากขนาดไหน แต่พอมีความรักเข้ามาเรากลับเป็นคนผลักไสมันไปด้วยตัวเราเอง
เราไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วค่ะ ทุกคนช่วยเราหน่อยได้มั้ยคะ เราอยากเปลี่ยนทัศนคติตัวเองจริงๆ แต่เริ่มไม่ถูก เราไม่เคยเล่าเรื่องนั้ให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิท เวลาใครถามว่าทำไมไม่มีแฟน เราจะตอบไปว่า "ก็ไม่มีเวลา ต้องเตรียมตัวเรียนต่อ ต้องทำตามความฝัน......." อ้างไปเรื่อย แต่ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากแล้วจริงๆ ไม่เคยรู้สึกอ่อนแอเท่าวันนี้มาก่อน ไม่เคยร้องไห้เรื่องความรักมาก่อนในชีวิต รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ หรือใครมีประสบการณ์ความรักดีๆ ช่วยเราให้เราฟังหน่อยนะคะ เราอยากเปลี่ยนภาพในหัวของตัวเองเป็นเรื่องราวดีๆบ้าง ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
จะเปลี่ยนทัศนคติการกลัวความรักของตัวเองยังไงดีคะ?
ตั้งแต่เด็กจนโตเราถูกขีดกรอบให้เดินตลอด เลิกเรียนต้องรีบกลับบ้านถ้าวันไหนต้องอยู่ทำรายงานที่โรงเรียนวันนั้นจะมีปัญหาละ พ่อจะด่าเราเสียๆหายหาว่าเราโกหก จริงๆแล้วเราไปกับผู้ชายทั้งๆที่เราอยู่โรงเรียนหญิงล้วน เราก็เลยไม่ได้มีแฟนในช่วงวัยรุ่น พอเริ่มเรียนจบเข้าวัยทำงาน ก็มีผู้ชายหลายๆคนเข้ามาจีบ แต่เราไม่คิดจะคบกับใครเลยยย เพราะเราฝังใจไปแล้วว่าความรักมันไม่มี ถึงมีมันก็ไม่ยั่งยืน ระบบความคิดเราจัดการข้อมูลในส่วนความรักว่ามันคือความทุกข์ ภาพของคนที่มีครอบครัวแล้วทุกข์สาหัส มันฝังอยู่ในทุกเซลสมองของเราเลยก็ว่าได้ เราคิดไว้เล่นๆว่าเราจะไม่แต่งงานถ้าจะมีลูกก็อาจจะไปทำกิฟท์แทน หรือไม่ก็ขอเด็กมาเลี้ยงซะเลย ยิ่งมีคนเข้ามาจีบมากแค่ไหน เราก็ยิ่งไม่อยากมีแฟนเท่านั้น เมื่อก่อนยังมีลองคุยกันก่อนบ้างแต่ช่วงหลังๆมานี่ เราปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาได้ภายใน 3 นาทีจบ!!
เราทุ่มเทความรักทั้งหมดให้กับการดูแลตัวเอง พัฒนาตัวเอง เวลามีผู้ชายชมว่าสวย ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยมีแฟน เราจะมีความคิดแทรกขึ้นมาทันทีว่า "เพราะผู้ชายเป็นเพศที่ไม่รักใครจริง เบื่อแล้วก็ทิ้ง ก็ไม่สมควรจะได้อะไรดีๆ เรามีค่าเกินกว่าจะไปพัวพันกับผู้ชายพวกนั้น" (ทัศนคตินี้ส่วนนึงมาจากแม่เรา และบรรดาผู้หญิงของพ่อที่พูดกรอกหูตลอดว่าผู้ชายเลว อย่ามีครอบครัว อย่าแต่งงาน) ทั้งๆที่ผู้ชายหลายคนที่เข้ามาก็เป็นคนดี จิตใจดี หน้าที่การงานดี และสมควรจะได้เจอผู้หญิงดีๆอย่างยิ่ง หาดีกว่าเรากได้อีกเยอะ เราเอาความคิดเหล่านั้นมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเองอยู่ใน comfort zone เพราะลึกๆแล้วเราไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเป็นแฟนที่ดีได้ เพราะเราไม่เคยเห็นภาพของการเป็นเมียหรือแม่ที่ดีมาก่อน เราจำได้แต่ภาพครอบครัวที่โหดร้าย เสียงแม่ เสียงผู้หญิงของพ่อกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายร่างกาย จบลงด้วยทุกคนถูกทิ้ง รวมทั้งแม่เรา ซึ่งทำให้เราไม่ได้อยู่กับแม่ นานๆจะจเอกันที เพิ่งจะได้มาอยู่ด้วยกันตอนเราโตแล้ว
เรากลัวว่าถ้าเรามีความรักมันจะต้องพังพินาศแบบนั้น เรากลัวว่าถ้าวันนึงคนที่ีเข้ามาหาเราให้ความรักกับเราเต็มที่แล้วเราติดใจกับความหอมหวานนั้น แต่วันนึงเค้าเกิดไม่อยากให้ความรักนั้นกับเราแล้วเราจะเจ็บ เราจะทนไม่ได้ ถ้าวันนึงเค้าเข้ามาหาเรามาเสนอตัวที่จะดูแลทนุถนอมเรา แต่พอวันนึงเบื่อเราเค้าอาจจะทำร้ายเราก็ได้ เรากลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง จนเมื่อไม่นานมานี้เราต้องเสียคนที่ดีที่สุดคนนึงไป เพราะเค้ามาจีบเราในช่วงที่เค้าต้องไปเรียนต่อเมืองนอก 2 ปี เค้าพยายามจะบอกเราว่า ระยะทางมันไม่ใช่ปัญหา เราคบกันได้ใน 2 ปีนี้ เราก็คุยกันศึกษากันไป แต่เราไม่เอา เราไม่เชื่อว่าผู้ชายจะซื่อสัตย์กับผู้หญิงที่อยู่ห่างกันได้ จนสุดท้ายพี่เค้าก็ถอดใจ ไม่คิดจะคบกับเราแล้ว วันนั้นก็เลยเป็นวันที่เรารู้ตัวว่าลึกๆแล้วเราโหยหาความรักมากขนาดไหน แต่พอมีความรักเข้ามาเรากลับเป็นคนผลักไสมันไปด้วยตัวเราเอง
เราไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วค่ะ ทุกคนช่วยเราหน่อยได้มั้ยคะ เราอยากเปลี่ยนทัศนคติตัวเองจริงๆ แต่เริ่มไม่ถูก เราไม่เคยเล่าเรื่องนั้ให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิท เวลาใครถามว่าทำไมไม่มีแฟน เราจะตอบไปว่า "ก็ไม่มีเวลา ต้องเตรียมตัวเรียนต่อ ต้องทำตามความฝัน......." อ้างไปเรื่อย แต่ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากแล้วจริงๆ ไม่เคยรู้สึกอ่อนแอเท่าวันนี้มาก่อน ไม่เคยร้องไห้เรื่องความรักมาก่อนในชีวิต รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ หรือใครมีประสบการณ์ความรักดีๆ ช่วยเราให้เราฟังหน่อยนะคะ เราอยากเปลี่ยนภาพในหัวของตัวเองเป็นเรื่องราวดีๆบ้าง ขอบคุณล่วงหน้านะคะ