ความรู้สึกท่ามกลางหมอกสีเทา

คนเรามักรู้สึกดีที่ได้ตื่นจากฝันร้าย
ฝันร้ายจึงไม่เคยทำร้ายเราในยามเช้าที่ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับชีวิตจริง

แต่หากถูกความจริงปลุกให้ตื่นจากฝันดี เราจะรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินที่โลกนี้ไม่ได้ดีอย่างที่ฝัน

ไม่เป็นไร เข้าใจแล้วว่า ชีวิตที่ดีไม่มีอยู่จริง ความเลวร้ายบนโลกนี้มีหลายด้านรอให้ไปพบเจอ

"Life isn't about waiting for the storm to pass, it's about learning to dance in the rain."
- Vivian greene

รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกสีเทา ไม่อาจจับต้อง ไม่อาจบอกทิศทาง สัมผัสได้เพียงความรู้สึกที่เย็นยะเยือก

ไม่อยากเคลื่อนไหว ไม่อยากจินตนาการถึงสิ่งใดที่แอบซ่อนในความเลือนราง ปล่อยให้เวลาช่วยปรับสายตาให้เคยชิน ถึงตอนนั้นเราคงมองเห็นความจริงค่อย ๆ ปรากฎ

จะสรรหาคำใดมาอธิบายความอึมครึมของท้องฟ้าได้ดีเท่าหยาดฝนที่โปรยปราย
ความรู้สึกที่ท้วมท้นในใจก็เช่นเดียวกัน ไม่อาจมีคำพูดใดแทนความหมายได้ดีเท่าหยาดน้ำตาที่ไหลริน

ขอให้หัวใจได้หยุดนิ่ง ขอให้ร่างกายได้พักผ่อน
ขอบคุณทุกตัวอักษรที่ได้จารึกไว้ เพราะมันย้ำเตือนถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไป ช่วยกดปิศาจร้ายในใจที่ค่อย ๆ ย่างกรายเข้ามา

"อย่าให้พายุหิมะทำให้หัวใจเราเย็นชา แต่จงมีหัวใจที่แข็งแกร่งพอจะแผ่ไออุ่นให้คนรอบข้างเสมอ" ยิ้ม

ขอบคุณที่รับฟังค่ะ พยายามเขียนความรู้สึกในตอนนี้ออกมา แม้มันจะอธิบายค่อนข้างยากและรู้สึกสับสน แต่หวังว่าจะมีใครสักคนเข้าใจ

ไม่รู้ว่าหมอกควันจะจางหายไปเมื่อไร แต่อยากเป็นกำลังใจและเผื่อแผ่ไออุ่นให้ทุกคนที่กำลังตกอยู่ในความเหน็บหนาวของหมอกสีเทาเช่นกันค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่