อาทิตย์ยามอุทัย.................ส่องไสวปลายขอบฟ้า
เรื่อเรืองประเทืองครา..............................บูรพาแสนอำไพ
ถวิลจินตนา........................แดนพฤกษาพนาไพร
พิศเพลินเจริญใจ.................................ถิ่นสถานอันชวนชม
เหยาะย่างพลางลัดเลี้ยว.......เลาะรอบเหลียวเปลี่ยวพนม
พระพายสะบัดพรม..............................พร่างริ้วริ้วปลิวใบบาง
แหงนเกยเงยชะเง้อ..................สุดตาเหม่อยอดสล้าง
ใบบังดังร่มกาง...................................ขวางทินกรซอนสู่ดิน
มากมายไม้ป่าสูง.......................ทั้งยางยูงพุ่งเมฆินทร์
รับแสงแลแบ่งสินธุ์..............................ดินอาหารเจือจารปรุง
กันเกราเกลาเกลี้ยงเนื้อ.........แข็งยิ่งเหลือเพื่อหมายมุ่ง
เสาหลักปักผดุง................................ค้ำโครงสร้างยั่งยืนนาน
ลิบลิ่วทิวสนไกล...................สามเส้นใบเดี่ยวเรียวก้าน
แม้นเข็มหมื่นเล่มปาน...........................เสียบสลักปักตรึงตรง
ศรีตรังดั่งแพรม่วง.....................ประทับทรวงนาถอนงค์
สไบนางคลุมองค์................................แนบนวลเนื้อเจือผกา
สมอต่อเรื่องเล่า....................ชุ่มคอเอาเข้าเครื่องหา
ครบครันตำรายา..............................ล้าเหนื่อยแก้ดีแท้เทียว
ตรงโน้นต้นโตใหญ่..............ตะเคียนใกล้สายธารเชี่ยว
ตำนานชวนหวั่นเสียว...............................ว่านางไม้อาศัยเรือน
ปรงใบคล้ายหมากพร้าว..........ลูกร่วงกราวลงดินเกลื่อน
พ้องถ้อยชะรอยเตือน....................................ทิ้งรักหลงจงรู้พอ
สิงขรชะง่อนง้ำ......................จันผาล้ำยื่นลำกอ
คลับคล้ายคนเราหนอ....................ล้อเล่นภัยไม่หวั่นตรม...
มองแลเหนือลำธาร................กระเซ็นซ่านสายน้ำพรม
รินพราวคราวยินขรม........................ก้องสะท้านพนานต์พง
สู่แอ่งแก่งหินราย.....................ละอองพรายละลิ่วลง
รวยรินระเรื่อยคง................................สุดสิ้นทางหว่างทะเล
ตะไคร่คลุมปกปิด........................เสียสนิทมิดหินเห
เช่นชนทอดใจเท..............................ปล่อยอบายให้ครอบงำ
กรวดทรายใต้วารี........................เรืองระวีสะท้อนน้ำ
วับวาวราวระบำ..................................หว่างธารินรพินทร์ปอง
เย็นใสในธารห้วย....................ครีบหางช่วยว่ายประคอง
ปลาน้อยใหญ่คอยจอง.......................ร่องน้ำไหลได้ซอกซอน
แทรกซ่อนก้อนหินโขด...........ลัดเลี้ยวลดเลียบริมขอน
ไม้เอนระเนนนอน....................................พาดเกยข้างฝั่งนที
ใดหนอพอจ้องจับ......................ใต้ท่อนทับกรุบกรับหนี
โอ้เต่าเจ้าเร็วรี่......................................เร่งดุ่มคลานมิทันไกล
แอ่งในตัวใสเกาะ................ค่อยค่อยเลาะตรงล่างใต้
ตื้นน้ำพอรำไร......................................กุ้งฝอยไต่ไปทะยอย
หันขวาว่าใดดู..................แท้เจ้าปูอยู่รูน้อย
ทะลุอีกรูคอย........................เป็นทางออกหลอกเลี่ยงมัน
ลูบไล้กายชุ่มชื้น..................หอมระรื่นโชยชื่นพลัน
ภู่ว่อนวนเวียนหัน.............................ตอมผกาแห่งป่าไพร
ภมรร่อนโฉบเฉี่ยว..............ดอกกระเจียวเที่ยวซุกไซ้
คนึงถึงดวงใจ...............................ชายรักลองมองดังเกมส์
ฝูงผึ้งหึ่งหึ่งมา....................ลิ้มรสาเกสรเขม
โสกน้ำงามสีเข้ม............................เล็มรุมล้อมออมคืนรัง
โง้งแหลมแซมคมหนาม........ดอกงิ้วงามบานสะพรั่ง
แสงส่องแสดสุกปลั่ง...........................กลางพงผืนยืนต้นชู
คิ้วนางดังกอดเกี่ยว......เลื้อยเถาเหนี่ยวเกลียวพันตู
ดอกขาวราวพธู..........................สอางค์หมายชิดชายเชย
เหลืองทองมองระย้า................อร่ามตาระวิเผย
คูณคู่ก้ามปูเอย..................................ชมพูแซมแกมประชัน
ทอดเถายาวครอบคลุม..................ปกสุมทุมชะอุ่มนั้น
เปลี่ยนราวเอาแพรพรรณ.................จันทร์กระจ่างวางผืนแทน
ยอดโยนโอนลมสาย............หางยูงคล้ายส่ายรำแพน
จ้าจัดจรัสแสน.........................................ต้องสุรีย์สีสาดดล
ดาษดาดังทาทอง.............ยามบัวตองครองแห่งหน
สุวรรณทาบสกนธ์...........................บนคำเคียงเรียงอักษรา
พิศแพรวแนวมาลี...............หลากหลายสีประดับหล้า
หอมอวลชวนอุรา........................สุขล้นเหลือเมื่อชมดง....
เจื้อยแจ้วแว่วสำเนียง.........เพรียกพร่ำเสียงกู่ขานส่ง
สกุณินถิ่นป่าพง..............................คงสำเริงเหลิงบรรเลง
แก้วเขียวดูเปรียวปราด.........เกาะกิ่งพาดโดดหยงเหยง
เริงร่าหาหวั่นเกรง...............................หมู่มนุษย์ประทุษปอง
กางเขนจับเป็นคู่..........................เฝ้าจี๋จู๋อยู่เพียงสอง
ขมิ้นเขม้นมอง.....................................จ้องทิศใดใกล้รวงรัง
แซงแซวแว่วยินร้อง...............กังวาลก้องปลุกภวังค์
นกน้อยลูกคอยหลัง................................คงหมายไว้ส่งให้ยิน
กระตั้วหัวงามหงอน.............พร้อมนกค้อนทองร่อนผิน
เกาะต้นตะขบกิน.................................ด้วยโหยหิวบินลิ่วมา
นั่นนกโพระดก........................ร้องโฮกป๊กโบราณว่า
ขุดเจาะเหมาะไม้หา.....................เช่นหัวขวานเผ่าพันธุ์เดียว
นกเงือกเลือกคู่แล้ว......หากคลาดแคล้วขอเปล่าเปลี่ยว
รักหนึ่งอย่างแน่นเหนียว.....................เหนี่ยวใจคนคิดเคยยิน
ขุนแผนสาลิกา......................แจ้วพนาดังวาทิน
ดีดสีดนตรีพิณ.........................เสนาะแม้นแดนเพลงเพลิน
กาเหว่าเจ้าร่ำร้อง..................หาคู่ครองคราห่างเหิน
เหงาหงอยน้อยใจเกิน.........................ฤาจึงเฝ้าเร้าเรียกคืน
วิหคนกเสรี.......................ในพงพีมิต้องฝืน
อยู่กรงคงสะอื้น......................ขืนใจข่มตรมเศร้าตาย
ล่วงคล้อยลอยตะวัน.......................จรผายผันดั้นทิศบ่าย
ย้อนทางย่างเยื้องกราย.......................หมายใจทวนหวนคืนเรือน
ทอดน่องมองทิวไม้.......................สั่นไหวไหวสิ่งใดเคลื่อน
นางอายอุ้ยอ้ายเหมือน...........................สาวซบหน้าหลบตาชาย
กระจงตรงโป่งดิน..........................หันผันผินระวังกาย
หวาดหวั่นอันตราย...................................ใกล้ตัวลี้หนีกระโจน
ค่างเหวี่ยงเบี่ยงเปลี่ยนต้น...............สนุกบนซนห้อยโหน
กิ่งเกี่ยวเหนี่ยวเอนโอน........................ตามแรงโน้มโถมกายา
กระรอกกระแตเหล่า..................กระถิกเจ้ากระจ้อนหนา
ดังเยาวกุมารา...................................เต้นเล่นเหลิงบันเทิงจริง
เกาะ"รั้ง"อย่างแน่นเหนียว...........กายสีเขียวกลมกลืนยิ่ง
ต่างคำนำอ้างอิง........................................อีกัวน่ากิ้งก่าพันธุ์
ฉุนเฉียวชะมดกลิ่น...............ขานใต้ถิ่นมูสังนั้น
เปรียบได้ดีเลวครัน................................ติดกายามาอย่างไร
ปลักตมชมชัดแจ้ง......................ว่าคือแปลงหมูป่าใหญ่
กลิ้งเกลือกเถลือกไว้..............................ให้ฉาบหนาทาผิวเลย
กระต่ายกระโจนหนี....................หูตั้งชี้หางจุกเอย
เวทนานะเจ้าเอ๋ย.............................คงสะพรึงระแวงภัย
อาทิตย์สนธยา...................จวนเวลาว่าค่ำใกล้
รื่นรมย์สมสุขใน.........................เพลินไพรท่องร้อยกรองกานท์
ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต และ
เพลง เพลินชมไพร จาก www. youtube ค่ะ
**แก้ไข คำห้าม จากพันทิป เปลี่ยน ชื่อนก เป็น ขุนแผน ค่ะ
..ร้อยกรอง..เพลินท่องไพร..
อาทิตย์ยามอุทัย.................ส่องไสวปลายขอบฟ้า
เรื่อเรืองประเทืองครา..............................บูรพาแสนอำไพ
ถวิลจินตนา........................แดนพฤกษาพนาไพร
พิศเพลินเจริญใจ.................................ถิ่นสถานอันชวนชม
เหยาะย่างพลางลัดเลี้ยว.......เลาะรอบเหลียวเปลี่ยวพนม
พระพายสะบัดพรม..............................พร่างริ้วริ้วปลิวใบบาง
แหงนเกยเงยชะเง้อ..................สุดตาเหม่อยอดสล้าง
ใบบังดังร่มกาง...................................ขวางทินกรซอนสู่ดิน
มากมายไม้ป่าสูง.......................ทั้งยางยูงพุ่งเมฆินทร์
รับแสงแลแบ่งสินธุ์..............................ดินอาหารเจือจารปรุง
กันเกราเกลาเกลี้ยงเนื้อ.........แข็งยิ่งเหลือเพื่อหมายมุ่ง
เสาหลักปักผดุง................................ค้ำโครงสร้างยั่งยืนนาน
ลิบลิ่วทิวสนไกล...................สามเส้นใบเดี่ยวเรียวก้าน
แม้นเข็มหมื่นเล่มปาน...........................เสียบสลักปักตรึงตรง
ศรีตรังดั่งแพรม่วง.....................ประทับทรวงนาถอนงค์
สไบนางคลุมองค์................................แนบนวลเนื้อเจือผกา
สมอต่อเรื่องเล่า....................ชุ่มคอเอาเข้าเครื่องหา
ครบครันตำรายา..............................ล้าเหนื่อยแก้ดีแท้เทียว
ตรงโน้นต้นโตใหญ่..............ตะเคียนใกล้สายธารเชี่ยว
ตำนานชวนหวั่นเสียว...............................ว่านางไม้อาศัยเรือน
ปรงใบคล้ายหมากพร้าว..........ลูกร่วงกราวลงดินเกลื่อน
พ้องถ้อยชะรอยเตือน....................................ทิ้งรักหลงจงรู้พอ
สิงขรชะง่อนง้ำ......................จันผาล้ำยื่นลำกอ
คลับคล้ายคนเราหนอ....................ล้อเล่นภัยไม่หวั่นตรม...
มองแลเหนือลำธาร................กระเซ็นซ่านสายน้ำพรม
รินพราวคราวยินขรม........................ก้องสะท้านพนานต์พง
สู่แอ่งแก่งหินราย.....................ละอองพรายละลิ่วลง
รวยรินระเรื่อยคง................................สุดสิ้นทางหว่างทะเล
ตะไคร่คลุมปกปิด........................เสียสนิทมิดหินเห
เช่นชนทอดใจเท..............................ปล่อยอบายให้ครอบงำ
กรวดทรายใต้วารี........................เรืองระวีสะท้อนน้ำ
วับวาวราวระบำ..................................หว่างธารินรพินทร์ปอง
เย็นใสในธารห้วย....................ครีบหางช่วยว่ายประคอง
ปลาน้อยใหญ่คอยจอง.......................ร่องน้ำไหลได้ซอกซอน
แทรกซ่อนก้อนหินโขด...........ลัดเลี้ยวลดเลียบริมขอน
ไม้เอนระเนนนอน....................................พาดเกยข้างฝั่งนที
ใดหนอพอจ้องจับ......................ใต้ท่อนทับกรุบกรับหนี
โอ้เต่าเจ้าเร็วรี่......................................เร่งดุ่มคลานมิทันไกล
แอ่งในตัวใสเกาะ................ค่อยค่อยเลาะตรงล่างใต้
ตื้นน้ำพอรำไร......................................กุ้งฝอยไต่ไปทะยอย
หันขวาว่าใดดู..................แท้เจ้าปูอยู่รูน้อย
ทะลุอีกรูคอย........................เป็นทางออกหลอกเลี่ยงมัน
ลูบไล้กายชุ่มชื้น..................หอมระรื่นโชยชื่นพลัน
ภู่ว่อนวนเวียนหัน.............................ตอมผกาแห่งป่าไพร
ภมรร่อนโฉบเฉี่ยว..............ดอกกระเจียวเที่ยวซุกไซ้
คนึงถึงดวงใจ...............................ชายรักลองมองดังเกมส์
ฝูงผึ้งหึ่งหึ่งมา....................ลิ้มรสาเกสรเขม
โสกน้ำงามสีเข้ม............................เล็มรุมล้อมออมคืนรัง
โง้งแหลมแซมคมหนาม........ดอกงิ้วงามบานสะพรั่ง
แสงส่องแสดสุกปลั่ง...........................กลางพงผืนยืนต้นชู
คิ้วนางดังกอดเกี่ยว......เลื้อยเถาเหนี่ยวเกลียวพันตู
ดอกขาวราวพธู..........................สอางค์หมายชิดชายเชย
เหลืองทองมองระย้า................อร่ามตาระวิเผย
คูณคู่ก้ามปูเอย..................................ชมพูแซมแกมประชัน
ทอดเถายาวครอบคลุม..................ปกสุมทุมชะอุ่มนั้น
เปลี่ยนราวเอาแพรพรรณ.................จันทร์กระจ่างวางผืนแทน
ยอดโยนโอนลมสาย............หางยูงคล้ายส่ายรำแพน
จ้าจัดจรัสแสน.........................................ต้องสุรีย์สีสาดดล
ดาษดาดังทาทอง.............ยามบัวตองครองแห่งหน
สุวรรณทาบสกนธ์...........................บนคำเคียงเรียงอักษรา
พิศแพรวแนวมาลี...............หลากหลายสีประดับหล้า
หอมอวลชวนอุรา........................สุขล้นเหลือเมื่อชมดง....
เจื้อยแจ้วแว่วสำเนียง.........เพรียกพร่ำเสียงกู่ขานส่ง
สกุณินถิ่นป่าพง..............................คงสำเริงเหลิงบรรเลง
แก้วเขียวดูเปรียวปราด.........เกาะกิ่งพาดโดดหยงเหยง
เริงร่าหาหวั่นเกรง...............................หมู่มนุษย์ประทุษปอง
กางเขนจับเป็นคู่..........................เฝ้าจี๋จู๋อยู่เพียงสอง
ขมิ้นเขม้นมอง.....................................จ้องทิศใดใกล้รวงรัง
แซงแซวแว่วยินร้อง...............กังวาลก้องปลุกภวังค์
นกน้อยลูกคอยหลัง................................คงหมายไว้ส่งให้ยิน
กระตั้วหัวงามหงอน.............พร้อมนกค้อนทองร่อนผิน
เกาะต้นตะขบกิน.................................ด้วยโหยหิวบินลิ่วมา
นั่นนกโพระดก........................ร้องโฮกป๊กโบราณว่า
ขุดเจาะเหมาะไม้หา.....................เช่นหัวขวานเผ่าพันธุ์เดียว
นกเงือกเลือกคู่แล้ว......หากคลาดแคล้วขอเปล่าเปลี่ยว
รักหนึ่งอย่างแน่นเหนียว.....................เหนี่ยวใจคนคิดเคยยิน
ขุนแผนสาลิกา......................แจ้วพนาดังวาทิน
ดีดสีดนตรีพิณ.........................เสนาะแม้นแดนเพลงเพลิน
กาเหว่าเจ้าร่ำร้อง..................หาคู่ครองคราห่างเหิน
เหงาหงอยน้อยใจเกิน.........................ฤาจึงเฝ้าเร้าเรียกคืน
วิหคนกเสรี.......................ในพงพีมิต้องฝืน
อยู่กรงคงสะอื้น......................ขืนใจข่มตรมเศร้าตาย
ล่วงคล้อยลอยตะวัน.......................จรผายผันดั้นทิศบ่าย
ย้อนทางย่างเยื้องกราย.......................หมายใจทวนหวนคืนเรือน
ทอดน่องมองทิวไม้.......................สั่นไหวไหวสิ่งใดเคลื่อน
นางอายอุ้ยอ้ายเหมือน...........................สาวซบหน้าหลบตาชาย
กระจงตรงโป่งดิน..........................หันผันผินระวังกาย
หวาดหวั่นอันตราย...................................ใกล้ตัวลี้หนีกระโจน
ค่างเหวี่ยงเบี่ยงเปลี่ยนต้น...............สนุกบนซนห้อยโหน
กิ่งเกี่ยวเหนี่ยวเอนโอน........................ตามแรงโน้มโถมกายา
กระรอกกระแตเหล่า..................กระถิกเจ้ากระจ้อนหนา
ดังเยาวกุมารา...................................เต้นเล่นเหลิงบันเทิงจริง
เกาะ"รั้ง"อย่างแน่นเหนียว...........กายสีเขียวกลมกลืนยิ่ง
ต่างคำนำอ้างอิง........................................อีกัวน่ากิ้งก่าพันธุ์
ฉุนเฉียวชะมดกลิ่น...............ขานใต้ถิ่นมูสังนั้น
เปรียบได้ดีเลวครัน................................ติดกายามาอย่างไร
ปลักตมชมชัดแจ้ง......................ว่าคือแปลงหมูป่าใหญ่
กลิ้งเกลือกเถลือกไว้..............................ให้ฉาบหนาทาผิวเลย
กระต่ายกระโจนหนี....................หูตั้งชี้หางจุกเอย
เวทนานะเจ้าเอ๋ย.............................คงสะพรึงระแวงภัย
อาทิตย์สนธยา...................จวนเวลาว่าค่ำใกล้
รื่นรมย์สมสุขใน.........................เพลินไพรท่องร้อยกรองกานท์
ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต และ
เพลง เพลินชมไพร จาก www. youtube ค่ะ
**แก้ไข คำห้าม จากพันทิป เปลี่ยน ชื่อนก เป็น ขุนแผน ค่ะ