Red River (1948)
Genre: Western, Adventure, Drama, Romance, Action
Directors: Howard Hawks, Arthur Rosson
From "The Saturday Evening Post" story: Borden Chase
Screenplay: Borden Chase, Charles Schnee
หลังจากผมได้ดู Shane และ Red River ติด ๆ กัน ทำให้ผมมองว่าแท้จริงแล้วหนังที่เขาเรียกกันว่าแนว western หรือคนไทยนิยมเรียกกันว่าหนังคาวบอยเนี่ย แกนหลักของมันคือเสรีภาพของคนอเมริกันในยุคก่อตั้งประเทศ หลัก ๆ ของหนังแนวนี้จึงมักจะเกี่ยวข้องกับการแย่งพื้นที่จากเจ้าถิ่นเดิมอย่างอินเดียนแดง การต่อสู้กับความอยุติธรรม รวมถึงการลงหลักปักฐานเพื่อประกอบอาชีพบนพื้นที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีเจ้าของ
คาวบอยแท้จริงแล้วความหมายก็ตรงตัวคือพวกต้อนวัวทำปศุสัตว์ เพราะสภาพภูมิศาสตร์เป็นทุ่งหญ้าโล่ง ๆ เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ แต่หลัง ๆ ก็เหมารวมไปถึงชายขี่ม้าเท่ ๆ ทุกคนที่อยู่ในยุคก่อตั้งประเทศ แถมบางทีกลุ่มโจรขี่ม้าที่เป็นนักเลงหน่อยก็ถูกนับรวมเป็นคาวบอยไปด้วย ดังนั้นตอนนี้ผมจึงพอจะเข้าใจการจัดอันดับ top 10 หนัง western ของสถาบัน AFI แล้วครับ เขาเลือกจากหนังที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การก่อตั้งชาตินั่นเอง
Red River พาเราไปดูชีวิตคาวบอยแท้ ๆ เลยครับ หนังเริ่มเรื่องจากดันสันลงหลักปักฐานในที่ดินรัฐเท็กซัส (แสดงโดย John Wayne อีกแล้ว) ซึ่งยุคนั้นยังเป็นขบวนคาราวานเพื่อสร้างหมู่บ้านทำมาหากินครับ ก็จะมีอินเดียนแดงมาคอยตามล่าเพราะเหมือนไปแย่งถิ่นฐานเขา เขาสร้างเนื้อสร้างตัวพร้อมกับแมทเด็กที่เขาเจอระหว่างทาง (Montgomery Clift) ผ่านไป 14 ปีดันสันกลายเป็นเจ้าของฟาร์มวัวเนื้อขนาดใหญ่แต่ประสบปัญหาถังแตกโดนกดราคาเขาจึงต้องนำวัวไปขายไกลมาก เลยเกิดเป็นเรื่องราวความยากลำบากของการเดินทางต้อนวัวกว่าหมื่นตัวไปขายไกลถึงมิสซูรี่ ซึ่งระหว่างทางยังเกิดปัญหาใหญ่อีกว่าคนในขบวนต้อนวัวเริ่มได้ยินว่าเดินทางไปแคนซัสซิตี้ง่ายกว่ากันเยอะ แต่ดันสันกลับไม่ฟังใครครับ เขาถามคำเดียวว่า "เคยเห็นกับตาหรือเปล่า" แต่ทุกคนต่างก็เพียงฟังจากปากคนอื่นอีกทีทำให้เขายังตัดสินใจไปมิสซูรี่ท่ามกลางความไม่พอใจของหลาย ๆ คน
ถ้าหากพูดถึงหนังแนว western ที่เล่นกับประวัติศาสตร์อเมริกาเยอะ ๆ หน่อยก็คงมี The Searchers เรื่องนี้จะเน้นพูดถึงปัญหาของชาวใต้กับอินเดียนแดง, Shane พูดถึงปัญหาของเสรีภาพในการทำมาหากินบนที่ดินที่ไม่มีเจ้าของ, The Treasure of the Sierra Madre และ The Gold Rush การดิ้นรนแสวงโชคด้วยการไปขุดทอง แล้วก็มี Red River ที่เลือกจะพูดถึงการต้อนวัวเดินทางไกล ๆ ว่าต้องเจออะไรบ้าง
ความเป็นหนัง western ของ Red River สอบผ่านแบบ 10/10 สบาย ๆ ครับ หนังดำเนินเรื่องเป็นธรรมชาติมาก ตั้งแต่เปิดเรื่องด้วยการตั้งตัวของดันสันจนถึงช่วงวิกฤติที่ทำให้เขาต้องเดินทางไกล ซึ่งช่วงนี้ก็จะเห็นว่าคาวบอยสมัยก่อนเขาต้อนวัวกันยังไง แล้วที่สำคัญคือตัวละครคาวบอยน่าสนใจมาก ๆ ตั้งแต่ดันสันคาวบอยหัวรั้นเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง กับแมทคาวบอยหนุ่มที่ฟังคำสั่งของดันสันแต่ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย บุคลิกของสองคนนี้ก็ถูกนำไปใส่ในบทหนังให้เป็นพล๊อตอีกพล๊อตหนึ่งด้วยครับ
บทหนังก็ถือว่าเยี่ยมมากทีเดียว ตอนแรกเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรก็แค่ต้อนวัวไปขายมิสซูรี่ คอยระแวงพวกโจรมาปล้น แต่พอเข้ากลางเรื่องนี่เริ่มเห็นความเจ๋งเพราะหนังเริ่มใส่ความขัดแย้งที่น่าเชื่อถือเข้ามา เท่านั้นไม่พอช่วงท้ายยังเอารายละเอียดจากต้นเรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรมาทำเป็นดราม่าผสมโรแมนซ์ได้อย่างลงตัว บทหนังเข้าชิงออสการ์ปีนั้นด้วยครับ
อ่อ ใครที่ติดภาพหนังคาวบอยต้องมีฉากดวลปืนรับรองไม่ผิดหวังครับ เหมือนเป็นลายเซ็นของหนังคาวบอยทุกเรื่องไปแล้วว่ายังไงก็ต้องมีดวลปืน ถ้าไม่มีไม่นับเป็นหนังคาวบอย หะหะ (หนัง western ที่ผมได้ดูมา 22 เรื่องมีเรื่องเดียวคือ The Gold Rush ของแชปลินที่ไม่มีฉากดวลปืน)
ใครที่เป็นแฟนหนังแนว western ผมขอการันตีเลยครับว่าห้ามพลาด ดีกรีหนัง western อันดับ 5 ของสถาบัน AFI ช่วยการันตีอีกเสียงครับ
9.5/10
แฟนหนังคาวบอยเคยชม Red River กันหรือยังครับ
Genre: Western, Adventure, Drama, Romance, Action
Directors: Howard Hawks, Arthur Rosson
From "The Saturday Evening Post" story: Borden Chase
Screenplay: Borden Chase, Charles Schnee
หลังจากผมได้ดู Shane และ Red River ติด ๆ กัน ทำให้ผมมองว่าแท้จริงแล้วหนังที่เขาเรียกกันว่าแนว western หรือคนไทยนิยมเรียกกันว่าหนังคาวบอยเนี่ย แกนหลักของมันคือเสรีภาพของคนอเมริกันในยุคก่อตั้งประเทศ หลัก ๆ ของหนังแนวนี้จึงมักจะเกี่ยวข้องกับการแย่งพื้นที่จากเจ้าถิ่นเดิมอย่างอินเดียนแดง การต่อสู้กับความอยุติธรรม รวมถึงการลงหลักปักฐานเพื่อประกอบอาชีพบนพื้นที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีเจ้าของ
คาวบอยแท้จริงแล้วความหมายก็ตรงตัวคือพวกต้อนวัวทำปศุสัตว์ เพราะสภาพภูมิศาสตร์เป็นทุ่งหญ้าโล่ง ๆ เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ แต่หลัง ๆ ก็เหมารวมไปถึงชายขี่ม้าเท่ ๆ ทุกคนที่อยู่ในยุคก่อตั้งประเทศ แถมบางทีกลุ่มโจรขี่ม้าที่เป็นนักเลงหน่อยก็ถูกนับรวมเป็นคาวบอยไปด้วย ดังนั้นตอนนี้ผมจึงพอจะเข้าใจการจัดอันดับ top 10 หนัง western ของสถาบัน AFI แล้วครับ เขาเลือกจากหนังที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การก่อตั้งชาตินั่นเอง
Red River พาเราไปดูชีวิตคาวบอยแท้ ๆ เลยครับ หนังเริ่มเรื่องจากดันสันลงหลักปักฐานในที่ดินรัฐเท็กซัส (แสดงโดย John Wayne อีกแล้ว) ซึ่งยุคนั้นยังเป็นขบวนคาราวานเพื่อสร้างหมู่บ้านทำมาหากินครับ ก็จะมีอินเดียนแดงมาคอยตามล่าเพราะเหมือนไปแย่งถิ่นฐานเขา เขาสร้างเนื้อสร้างตัวพร้อมกับแมทเด็กที่เขาเจอระหว่างทาง (Montgomery Clift) ผ่านไป 14 ปีดันสันกลายเป็นเจ้าของฟาร์มวัวเนื้อขนาดใหญ่แต่ประสบปัญหาถังแตกโดนกดราคาเขาจึงต้องนำวัวไปขายไกลมาก เลยเกิดเป็นเรื่องราวความยากลำบากของการเดินทางต้อนวัวกว่าหมื่นตัวไปขายไกลถึงมิสซูรี่ ซึ่งระหว่างทางยังเกิดปัญหาใหญ่อีกว่าคนในขบวนต้อนวัวเริ่มได้ยินว่าเดินทางไปแคนซัสซิตี้ง่ายกว่ากันเยอะ แต่ดันสันกลับไม่ฟังใครครับ เขาถามคำเดียวว่า "เคยเห็นกับตาหรือเปล่า" แต่ทุกคนต่างก็เพียงฟังจากปากคนอื่นอีกทีทำให้เขายังตัดสินใจไปมิสซูรี่ท่ามกลางความไม่พอใจของหลาย ๆ คน
ถ้าหากพูดถึงหนังแนว western ที่เล่นกับประวัติศาสตร์อเมริกาเยอะ ๆ หน่อยก็คงมี The Searchers เรื่องนี้จะเน้นพูดถึงปัญหาของชาวใต้กับอินเดียนแดง, Shane พูดถึงปัญหาของเสรีภาพในการทำมาหากินบนที่ดินที่ไม่มีเจ้าของ, The Treasure of the Sierra Madre และ The Gold Rush การดิ้นรนแสวงโชคด้วยการไปขุดทอง แล้วก็มี Red River ที่เลือกจะพูดถึงการต้อนวัวเดินทางไกล ๆ ว่าต้องเจออะไรบ้าง
ความเป็นหนัง western ของ Red River สอบผ่านแบบ 10/10 สบาย ๆ ครับ หนังดำเนินเรื่องเป็นธรรมชาติมาก ตั้งแต่เปิดเรื่องด้วยการตั้งตัวของดันสันจนถึงช่วงวิกฤติที่ทำให้เขาต้องเดินทางไกล ซึ่งช่วงนี้ก็จะเห็นว่าคาวบอยสมัยก่อนเขาต้อนวัวกันยังไง แล้วที่สำคัญคือตัวละครคาวบอยน่าสนใจมาก ๆ ตั้งแต่ดันสันคาวบอยหัวรั้นเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง กับแมทคาวบอยหนุ่มที่ฟังคำสั่งของดันสันแต่ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย บุคลิกของสองคนนี้ก็ถูกนำไปใส่ในบทหนังให้เป็นพล๊อตอีกพล๊อตหนึ่งด้วยครับ
บทหนังก็ถือว่าเยี่ยมมากทีเดียว ตอนแรกเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรก็แค่ต้อนวัวไปขายมิสซูรี่ คอยระแวงพวกโจรมาปล้น แต่พอเข้ากลางเรื่องนี่เริ่มเห็นความเจ๋งเพราะหนังเริ่มใส่ความขัดแย้งที่น่าเชื่อถือเข้ามา เท่านั้นไม่พอช่วงท้ายยังเอารายละเอียดจากต้นเรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรมาทำเป็นดราม่าผสมโรแมนซ์ได้อย่างลงตัว บทหนังเข้าชิงออสการ์ปีนั้นด้วยครับ
อ่อ ใครที่ติดภาพหนังคาวบอยต้องมีฉากดวลปืนรับรองไม่ผิดหวังครับ เหมือนเป็นลายเซ็นของหนังคาวบอยทุกเรื่องไปแล้วว่ายังไงก็ต้องมีดวลปืน ถ้าไม่มีไม่นับเป็นหนังคาวบอย หะหะ (หนัง western ที่ผมได้ดูมา 22 เรื่องมีเรื่องเดียวคือ The Gold Rush ของแชปลินที่ไม่มีฉากดวลปืน)
ใครที่เป็นแฟนหนังแนว western ผมขอการันตีเลยครับว่าห้ามพลาด ดีกรีหนัง western อันดับ 5 ของสถาบัน AFI ช่วยการันตีอีกเสียงครับ
9.5/10