Chapter 1 อยากมีรัก รักมันก็ไม่มาหา
เช้านี้ น้ำตื่นมาด้วยอาการอ่อนเพลีย การเดินทางเกือบสามชั่วโมงเมื่อคืนด้วยเครื่องบิน
จากกรุงเทพถึงสิงคโปร์ กว่าจะนอนหลับก็เกือบตีสาม
การตื่นเจ็ดโมงเพื่อไปประชุมก็ดูจะเช้าเกินไปสำหรับเขา
แต่ด้วยภาระและหน้าที่ที่สำคัญทำให้ไม่สามารถปฎิเสธการนอนต่อบนเตียงได้
การลุกขึ้นเดินเหมือนร่างไร้วิญญาณไปเข้าห้องน้ำก็เริ่มขึ้น
แปดโมง
ผู้คนมากมายต่างมารอกันที่หน้าห้องประชุม
วันนี้มีการประชุมจากตัวแทนหลายๆบริษัทจากหลายๆประเทศ
มีการจับกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแลกนามบัตรกัน
น้ำเองก็เดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟร้านดังที่แวะก่อนจะมาถึงห้องประชุม
“Good Morning, How are you?”
คำทักทายจากผู้เข้าร่วมประชุมที่เข้ามาถาโถมใส่เขา
ไม่นานนัก ประตูห้องประชุมก็เปิดออกเพื่อตอนรับผู้เข้าประชุมประมาณ 150 คน
น้ำเลือกนั่งในจุดที่เขาคิดว่ามันปลอดภัยที่สุด นั่นคือด้านหลังห้องประชุม
เขาหยิบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการประชุมขึ้นมา นั่นคือ ไอแพด
เนื้อหาช่วงเช้าไม่ค่อยจะถูกใจเขานัก เพราะเป็นเรื่องไกลตัว สาระสำคัญที่เขาสนใจนั้น อยู่ที่การสัมนาในช่วงบ่าย
App ที่เขาโหลดลงมาที่ไอแพด เพื่อใช้ฆ่าเวลาที่น่าเบื่อก็เปิดขึ้น
ในขณะที่สายตาที่จดจ่อกับเกมส์นั่น ก็มีคนเลื่อนเก้าอี้ ก่อนจะพูดอย่างสุภาพกับเขา
“Excuse me, would you mind if I sit here?”
“No”
ก่อนที่ชายคนนั้นจะนั่งลงแล้วมองมาที่ไอแพดของเขา น้ำรู้สึกอึดอัด เลยปิดไอแพด และเงยหน้ามาตั้งใจฟังการสัมนาบนเวที
“Hi i am Dennis form Singapore”
“I am Pat from Thailand Nice to meet you”
เค้าเลือกใช้ชื่อภัทรที่เป็นคำสุดท้ายในชื่อจริง
เพราะจากประสบการณ์เวลาที่มีการแนะนำตัวให้กับต่างชาติ คำว่า”น้ำ”
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการออกเสียงที่ถูกต้อง
น้ำเริ่มสังเกตว่าคนที่นั่งข้างๆ เขาดูตั้งใจฟังมาก จดสิ่งที่ได้ยิ่ง บันทึกอย่างเป็นระเบียบ
ซึ่งต่างจากเขาที่ตอนนี้วาดรูปเครื่องบินเสร็จไปหนึ่งลำแล้ว
“good drawing” เดนนิสชายหนุ่มนั่งข้างๆ กล่าวแซวน้ำเบาๆ
“I am so damn bored”
“I know”
แล้วเดนนิสก็ขำเบาๆ
การสัมนาช่วงเช้าจบที่เที่ยงครึ่ง มีเวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับการพักทานข้าวกลางวัน
น้ำเดินตรงไปที่ลิฟท์ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เดินไปที่ห้องอาหารข้าง
“Pat, Where are you going?”
“Have lunch”
“The room is on the left side”
“I know but I wanna try my favorite meal in Takashimaya”
“OK see you in the afternoon”
การสนทนาสิ้นสุดลงเพราะลิฟท์มาถึง
น้ำเลือกจะออกไปทานข้างนอกเพราะเขาตั้งใจที่จะมาทานบะหมี่ร้านโปรดที่ชั้นใต้ดินห้างทาคาชิยามา
บรรยากาศช่วงเที่ยงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนทำงาน
การมองหาที่นั่งว่างๆ จึงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก
เขาตัดสินใจนั่งลงใกล้ชายหนุ่มสูงวัยชาวจีน ก่อนที่ชายผู้นั้นจะพยักงหน้าตอบ
นี่เขาหนีชีวิตที่เร่งรีบจากกรุงเทพไม่ได้เลยหรือไง
น้ำนั่งคิดก่อนจะก้มหน้าซดบะหมี่ที่เขาโปรดปราน
ช่วงบ่าย น้ำดูตั้งใจกับการสัมนามากขึ้นเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง
มีการลุกถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก่อนที่เวลาการสัมนาจะหมดไปอย่างรวดเร็วสำหรับเขา
มีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่งานเลี้ยงช่วงค่ำจะเริ่มขึ้น
บางคนเลือกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนจะกลับออกมาใหม่อีกครั้งช่วงเย็น
เดนนิสเลือกที่จะกลับบ้านไปพักผ่อน เขาเองไม่ค่อยชอบงานสังสรรค์ที่มีคนเยอะๆมากนัก
เริ่มเดินย้อนไปด้านซ้ายมือ เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Somerset
เขาเห็นชายหนุ่มร่างอวบเดินอยู่ ก่อนจะรีบก้าวเดินให้ทัน
“Pat, Do you plan to join the party tonight?”
“Not yet, but I plan to travel at night in Singapore. Do you have any idea for me?”
“Umm, the best one I think Clarke Quay.”
“How about China town?”
“Pretty good, Would you like to visit my restaurant?”
น้ำทำหน้าแปลกใจ
“your restaurant!!”
“Yes, this is my name card, call me”
“Thanks”
ทั้งสองคนต่างแยกย้ายกันเมื่อถึงทางเข้าสถานีรถใต้ดิน
น้ำเดินต่อไปที่โรงแรมเพื่อเก็บอุปกรณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูทะมัดทะแมงขึ้น
การเข้าพักในถนนออชาร์ด อันมีชื่อเสียงของสิงคโปร์นี่ทำให้กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งออกมาได้ล้นเหลือ
น้ำอุทิศเวลาให้กับการเดินซื้อของไปสองชั่วโมง ก่อนที่จะตัดสินใจไปเดินชมวิวที่อ่าวมารีน่า
แวะเข้าไปเก็บของที่โรงแรมไม่นานนัก น้ำก็เดินต่อไปถึงสถานีรถไฟ Dhoby Ghaut
เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานี Bayfront ที่โผล่ขึ้นมาก็เจอกับ มารีน่าเบย์แซนด์
แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่ง จ่ายค่าขึ้นไปชมวิวชั้นลอย วิวยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ
ก่อนที่น้ำจะถ่ายภาพส่งให้คนรักที่อยู่กรุงเทพ เดินเล่นข้างบนสักพัก เริ่มรู้สึกกระหายอยากได้เครื่องดื่ม
ขณะหยิบกระเป๋าตังออกมา มีกระดาษใบเล็กเป็นนามบัตรตกลงที่พื้น
เขาหยิบขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดอีกรอบก่อนจะยิ้มออก น้ำลงจากจากชั้นดาดฟ้า
แล้วตรงไปชั้นใต้ดินโซนร้านอาหาร ก่อนจะมองหาชื่อร้านที่อยู่บนนามบัตร
“One please”
น้ำบอกพนักงานที่เดินมาต้อนรับ ร้านอาหารฝรั่งเศษแบบนี้
เขาเองก็พึ่งเคยที่จะเข้ามาครั้งแรก แน่นอนว่าเมนู หรือรายการอาหารดูไม่ค่อยคุ้นเคยเลย
เขาเลงไว้แล้วว่าที่ปลอดภัยสำหรับเขาคือ สลัด ทานได้แน่นอน
เมนูที่เลือกคือสลัดกุ้งกับไวน์แดง เขาสองจิตสองใจว่าจะติดต่อเจ้าของร้านดีไหม
แต่อีกใจนึงก็อย่าดีกว่า เพราะเจ้าของร้านก็คงชวนตามมารยาท
เขาหยิบมือถือขึ้นมาเลือกสติกเกอร์ลายน่ารักส่งให้แฟนที่กรุงเทพ
จากนั้นจ้องไปที่จอเพื่อให้มีตัวอักษรคำว่า “Read” ขึ้น แต่ขณะที่ลุ้นอยู่ เบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
“ซาหวาดดีคับ”
“oh sorry, good evening”
“Pat, Im Den. How about your plan? U will come to my restaurant, right?”
“ Oh Dennis, I have a big task to do?
“What’s?”
“a big bowl of shrimp salad and red wine in French restaurant at Marina Bay”
“Really!!”
“Sure”
ในขณะที่น้ำยังถือสายรออยู่ เดนนิสก็โผล่หน้ามามองหาเขา
น้ำเห็นก่อนจึงยกมือแสดงตน ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มการสนทนาถึงการงาน ไลฟ์สไตล์
และความรักของตนเอง ก่อนที่คำตอบเรื่องความรักของคนสองคนคือ มีแฟนกันแล้วทั้งคู่
ทั้งคู่ต่างไม่ได้เป็นเผยรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของตนเองให้ทราบ
เดนนิสเองก็รู้สึกดีที่ได้คุยกับน้ำ ส่วนตัวน้ำเองก็รู้สึกดีเช่นกัน
การประชุมวันที่ 2
เช้านี้หลายๆคน มาร่วมประชุมในสภาพที่ไม่ค่อยพร้อมนัก
ซึ่งน่าจะเกิดมาจากผลของการดื่มจัดและนอนดึก วันนี้น้ำมัวแต่แวะไปซื้อกาแฟ
ทำให้เข้าห้องประชุมช้ากว่าคนอื่น เขาเห็นแล้วว่า เดนนิสนั่งมองเขาอยู่
น้ำเองตัดสินใจไม่ยากนักที่จะเดินไปนั่งข้างๆ หัวข้อการสัมนาวันนี้ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่
ทั้งสองคนจึงพูดคุยกันเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวกันต่อจากเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังจากปิดการสัมนาตอนเที่ยง ผู้เข้าร่วมประชุมต่างพากันแยกย้าย บางคนกลับประเทศ
บางคนก็อยู่พักผ่อนต่อเชช่นเดียวกับน้ำที่ตั้งใจจะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
เย็นนี้เดนนิสขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร
แต่ถูกปฏิเสธเพราะมื้อดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาเดนนิสก็เลี้ยงไปแล้ว
น้ำเลยขอเป็นคนเลี้ยงคืนบ้าง
การเลือกร้านอาหารกลายเป็นประเด็นที่ทั้งคู่ใช้ในการตัดสินใจนานจนหัวเราะออกมา
น้ำตัดสินใจเลือกเป็นอาหารญี่ปุ่นโดยที่เดนนิสเป็นคนนำทางไป
ซึ่งไม่ไกลจากที่โรงแรมที่จัดประชุมเลย ใช้เวลาสัก 10 นาทีก็เดินมาถึงพารากอน
ห้างหรูอีกแห่งบนถนนออร์ชาด รสชาติอาหารที่อร่อยทำให้ทั้งคู่ทานกันจนอิ่มมาก
“OK Den, a time to say very glad to meet you in Singapore”
“Me too, hope we can make friend”
“ OK”
“Take care Pat”
“Good Bye Den”
เดนนิสจากลาครั้งนี้ด้วยความรู้สึกดีๆ เช่นเดียวกันกับน้ำ
Until me meet again
(Y) Until We Meet Again
เช้านี้ น้ำตื่นมาด้วยอาการอ่อนเพลีย การเดินทางเกือบสามชั่วโมงเมื่อคืนด้วยเครื่องบิน
จากกรุงเทพถึงสิงคโปร์ กว่าจะนอนหลับก็เกือบตีสาม
การตื่นเจ็ดโมงเพื่อไปประชุมก็ดูจะเช้าเกินไปสำหรับเขา
แต่ด้วยภาระและหน้าที่ที่สำคัญทำให้ไม่สามารถปฎิเสธการนอนต่อบนเตียงได้
การลุกขึ้นเดินเหมือนร่างไร้วิญญาณไปเข้าห้องน้ำก็เริ่มขึ้น
แปดโมง
ผู้คนมากมายต่างมารอกันที่หน้าห้องประชุม
วันนี้มีการประชุมจากตัวแทนหลายๆบริษัทจากหลายๆประเทศ
มีการจับกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแลกนามบัตรกัน
น้ำเองก็เดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟร้านดังที่แวะก่อนจะมาถึงห้องประชุม
“Good Morning, How are you?”
คำทักทายจากผู้เข้าร่วมประชุมที่เข้ามาถาโถมใส่เขา
ไม่นานนัก ประตูห้องประชุมก็เปิดออกเพื่อตอนรับผู้เข้าประชุมประมาณ 150 คน
น้ำเลือกนั่งในจุดที่เขาคิดว่ามันปลอดภัยที่สุด นั่นคือด้านหลังห้องประชุม
เขาหยิบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการประชุมขึ้นมา นั่นคือ ไอแพด
เนื้อหาช่วงเช้าไม่ค่อยจะถูกใจเขานัก เพราะเป็นเรื่องไกลตัว สาระสำคัญที่เขาสนใจนั้น อยู่ที่การสัมนาในช่วงบ่าย
App ที่เขาโหลดลงมาที่ไอแพด เพื่อใช้ฆ่าเวลาที่น่าเบื่อก็เปิดขึ้น
ในขณะที่สายตาที่จดจ่อกับเกมส์นั่น ก็มีคนเลื่อนเก้าอี้ ก่อนจะพูดอย่างสุภาพกับเขา
“Excuse me, would you mind if I sit here?”
“No”
ก่อนที่ชายคนนั้นจะนั่งลงแล้วมองมาที่ไอแพดของเขา น้ำรู้สึกอึดอัด เลยปิดไอแพด และเงยหน้ามาตั้งใจฟังการสัมนาบนเวที
“Hi i am Dennis form Singapore”
“I am Pat from Thailand Nice to meet you”
เค้าเลือกใช้ชื่อภัทรที่เป็นคำสุดท้ายในชื่อจริง
เพราะจากประสบการณ์เวลาที่มีการแนะนำตัวให้กับต่างชาติ คำว่า”น้ำ”
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการออกเสียงที่ถูกต้อง
น้ำเริ่มสังเกตว่าคนที่นั่งข้างๆ เขาดูตั้งใจฟังมาก จดสิ่งที่ได้ยิ่ง บันทึกอย่างเป็นระเบียบ
ซึ่งต่างจากเขาที่ตอนนี้วาดรูปเครื่องบินเสร็จไปหนึ่งลำแล้ว
“good drawing” เดนนิสชายหนุ่มนั่งข้างๆ กล่าวแซวน้ำเบาๆ
“I am so damn bored”
“I know”
แล้วเดนนิสก็ขำเบาๆ
การสัมนาช่วงเช้าจบที่เที่ยงครึ่ง มีเวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับการพักทานข้าวกลางวัน
น้ำเดินตรงไปที่ลิฟท์ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เดินไปที่ห้องอาหารข้าง
“Pat, Where are you going?”
“Have lunch”
“The room is on the left side”
“I know but I wanna try my favorite meal in Takashimaya”
“OK see you in the afternoon”
การสนทนาสิ้นสุดลงเพราะลิฟท์มาถึง
น้ำเลือกจะออกไปทานข้างนอกเพราะเขาตั้งใจที่จะมาทานบะหมี่ร้านโปรดที่ชั้นใต้ดินห้างทาคาชิยามา
บรรยากาศช่วงเที่ยงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนทำงาน
การมองหาที่นั่งว่างๆ จึงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก
เขาตัดสินใจนั่งลงใกล้ชายหนุ่มสูงวัยชาวจีน ก่อนที่ชายผู้นั้นจะพยักงหน้าตอบ
นี่เขาหนีชีวิตที่เร่งรีบจากกรุงเทพไม่ได้เลยหรือไง
น้ำนั่งคิดก่อนจะก้มหน้าซดบะหมี่ที่เขาโปรดปราน
ช่วงบ่าย น้ำดูตั้งใจกับการสัมนามากขึ้นเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง
มีการลุกถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก่อนที่เวลาการสัมนาจะหมดไปอย่างรวดเร็วสำหรับเขา
มีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่งานเลี้ยงช่วงค่ำจะเริ่มขึ้น
บางคนเลือกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนจะกลับออกมาใหม่อีกครั้งช่วงเย็น
เดนนิสเลือกที่จะกลับบ้านไปพักผ่อน เขาเองไม่ค่อยชอบงานสังสรรค์ที่มีคนเยอะๆมากนัก
เริ่มเดินย้อนไปด้านซ้ายมือ เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Somerset
เขาเห็นชายหนุ่มร่างอวบเดินอยู่ ก่อนจะรีบก้าวเดินให้ทัน
“Pat, Do you plan to join the party tonight?”
“Not yet, but I plan to travel at night in Singapore. Do you have any idea for me?”
“Umm, the best one I think Clarke Quay.”
“How about China town?”
“Pretty good, Would you like to visit my restaurant?”
น้ำทำหน้าแปลกใจ
“your restaurant!!”
“Yes, this is my name card, call me”
“Thanks”
ทั้งสองคนต่างแยกย้ายกันเมื่อถึงทางเข้าสถานีรถใต้ดิน
น้ำเดินต่อไปที่โรงแรมเพื่อเก็บอุปกรณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูทะมัดทะแมงขึ้น
การเข้าพักในถนนออชาร์ด อันมีชื่อเสียงของสิงคโปร์นี่ทำให้กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งออกมาได้ล้นเหลือ
น้ำอุทิศเวลาให้กับการเดินซื้อของไปสองชั่วโมง ก่อนที่จะตัดสินใจไปเดินชมวิวที่อ่าวมารีน่า
แวะเข้าไปเก็บของที่โรงแรมไม่นานนัก น้ำก็เดินต่อไปถึงสถานีรถไฟ Dhoby Ghaut
เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานี Bayfront ที่โผล่ขึ้นมาก็เจอกับ มารีน่าเบย์แซนด์
แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่ง จ่ายค่าขึ้นไปชมวิวชั้นลอย วิวยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ
ก่อนที่น้ำจะถ่ายภาพส่งให้คนรักที่อยู่กรุงเทพ เดินเล่นข้างบนสักพัก เริ่มรู้สึกกระหายอยากได้เครื่องดื่ม
ขณะหยิบกระเป๋าตังออกมา มีกระดาษใบเล็กเป็นนามบัตรตกลงที่พื้น
เขาหยิบขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดอีกรอบก่อนจะยิ้มออก น้ำลงจากจากชั้นดาดฟ้า
แล้วตรงไปชั้นใต้ดินโซนร้านอาหาร ก่อนจะมองหาชื่อร้านที่อยู่บนนามบัตร
“One please”
น้ำบอกพนักงานที่เดินมาต้อนรับ ร้านอาหารฝรั่งเศษแบบนี้
เขาเองก็พึ่งเคยที่จะเข้ามาครั้งแรก แน่นอนว่าเมนู หรือรายการอาหารดูไม่ค่อยคุ้นเคยเลย
เขาเลงไว้แล้วว่าที่ปลอดภัยสำหรับเขาคือ สลัด ทานได้แน่นอน
เมนูที่เลือกคือสลัดกุ้งกับไวน์แดง เขาสองจิตสองใจว่าจะติดต่อเจ้าของร้านดีไหม
แต่อีกใจนึงก็อย่าดีกว่า เพราะเจ้าของร้านก็คงชวนตามมารยาท
เขาหยิบมือถือขึ้นมาเลือกสติกเกอร์ลายน่ารักส่งให้แฟนที่กรุงเทพ
จากนั้นจ้องไปที่จอเพื่อให้มีตัวอักษรคำว่า “Read” ขึ้น แต่ขณะที่ลุ้นอยู่ เบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
“ซาหวาดดีคับ”
“oh sorry, good evening”
“Pat, Im Den. How about your plan? U will come to my restaurant, right?”
“ Oh Dennis, I have a big task to do?
“What’s?”
“a big bowl of shrimp salad and red wine in French restaurant at Marina Bay”
“Really!!”
“Sure”
ในขณะที่น้ำยังถือสายรออยู่ เดนนิสก็โผล่หน้ามามองหาเขา
น้ำเห็นก่อนจึงยกมือแสดงตน ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มการสนทนาถึงการงาน ไลฟ์สไตล์
และความรักของตนเอง ก่อนที่คำตอบเรื่องความรักของคนสองคนคือ มีแฟนกันแล้วทั้งคู่
ทั้งคู่ต่างไม่ได้เป็นเผยรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของตนเองให้ทราบ
เดนนิสเองก็รู้สึกดีที่ได้คุยกับน้ำ ส่วนตัวน้ำเองก็รู้สึกดีเช่นกัน
การประชุมวันที่ 2
เช้านี้หลายๆคน มาร่วมประชุมในสภาพที่ไม่ค่อยพร้อมนัก
ซึ่งน่าจะเกิดมาจากผลของการดื่มจัดและนอนดึก วันนี้น้ำมัวแต่แวะไปซื้อกาแฟ
ทำให้เข้าห้องประชุมช้ากว่าคนอื่น เขาเห็นแล้วว่า เดนนิสนั่งมองเขาอยู่
น้ำเองตัดสินใจไม่ยากนักที่จะเดินไปนั่งข้างๆ หัวข้อการสัมนาวันนี้ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่
ทั้งสองคนจึงพูดคุยกันเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวกันต่อจากเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังจากปิดการสัมนาตอนเที่ยง ผู้เข้าร่วมประชุมต่างพากันแยกย้าย บางคนกลับประเทศ
บางคนก็อยู่พักผ่อนต่อเชช่นเดียวกับน้ำที่ตั้งใจจะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
เย็นนี้เดนนิสขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร
แต่ถูกปฏิเสธเพราะมื้อดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาเดนนิสก็เลี้ยงไปแล้ว
น้ำเลยขอเป็นคนเลี้ยงคืนบ้าง
การเลือกร้านอาหารกลายเป็นประเด็นที่ทั้งคู่ใช้ในการตัดสินใจนานจนหัวเราะออกมา
น้ำตัดสินใจเลือกเป็นอาหารญี่ปุ่นโดยที่เดนนิสเป็นคนนำทางไป
ซึ่งไม่ไกลจากที่โรงแรมที่จัดประชุมเลย ใช้เวลาสัก 10 นาทีก็เดินมาถึงพารากอน
ห้างหรูอีกแห่งบนถนนออร์ชาด รสชาติอาหารที่อร่อยทำให้ทั้งคู่ทานกันจนอิ่มมาก
“OK Den, a time to say very glad to meet you in Singapore”
“Me too, hope we can make friend”
“ OK”
“Take care Pat”
“Good Bye Den”
เดนนิสจากลาครั้งนี้ด้วยความรู้สึกดีๆ เช่นเดียวกันกับน้ำ
Until me meet again