เพราะมันจะเป็นการปั่นราคาและสร้างมาตรฐานของราคายางพาราที่เกินจริงจากกลไกการตลาด
ดูข่าวจากรายการ "ประเด็นเด็ด 7 สี" ประจำวันนี้ (28/08/2556) บอกว่า ที่ประชุมคณะรัฐบาลมีมติจะชดเชยต้นทุนค่าปุ๋ย
ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,200 บาท แต่ไม่เกินคนละ 25 ไร่โดยจะจ่ายผ่าน ธกส. ดำเนินการได้ทันที โดยส่วนตัว
ดิฉันค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับมตินี้ และถ้าหากรัฐบาลยอมอ่อนข้อให้กับเกษตรกรที่กำลังปิดถนนประท้วงเพื่อให้รัฐบาลรับ
ประกันราคายางพาราที่ กก. ละ 120 บาท ด้วยแล้ว ดิฉันขอแสดงจุดยืนที่จะไม่เห็นด้วย และห้ามไม่ให้ที่บ้านเข้าร่วมชุมนุม
ประท้วงโดยเด็ดขาด
ไม่ใช่ดิฉันร่ำรวยเสียจนหยิ่งยโสโอหัง และไม่เห็นอกเห็นใจความเดือดร้อนของคนอื่น เพียงแต่ดิฉันเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมกับ
เกษตรกรรายอื่นที่ไม่ใช่ชาวสวนยาง เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ชาวสวนผลไม้ หอม กระเทียม และอื่นๆอีกมากมาย
ทุกคนล้วนมีต้นทุนการผลิต ต้องใช้ปุ๋ยทั้งสิ้น แล้วทำไมรัฐบาลจะต้องใช้เงินงบประมาณมาชดเชยให้เฉพาะชาวสวนยางพารา?
แล้วเกษตรกรรายอื่นล่ะ....คุณคิดว่าเขาไม่เดือดร้อนหรือ? ถ้าเกษตรกรเหล่านี้ออกมาประท้วงขอให้รัฐบาลประกันราคาผลผลิต
ตามที่เขาพอใจบ้าง หรือขอให้ชดเชยค่าปุ๋ยอย่างชาวสวนยางบ้างล่ะ ? รัฐบาลจะโอบอุ้มพวกเขาบ้างหรือเปล่า ?
แล้วถ้ารัฐบาลต้องช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมด จะต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมากมายขนาดไหน ? แต่ถ้าไม่ช่วยเหลือก็จะ
เป็นการเลือกปฏิบัติ พวกเขาไม่ใช่เกษตรกรชาวไทยหรืออย่างไร ? มันเป็นคำถามที่รัฐบาลจะต้องเตรียมตัวตอบ....
ดิฉันคิดว่า ... การที่รัฐบาลชดเชยค่าปุ๋ยให้กับเกษตรกรชาวสวนยางดังที่ว่ามาข้างต้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่ถูกจุด
เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องและจะกลายเป็นการ "ขว้างงูไม่พ้นคอ"
รัฐบาลต้องระดมสมองเพื่อหาทางออกกับปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำให้กับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
ไม่ใช่ใช้เงินในการแก้ปัญหา แต่ต้องใช้ปัญญาและความสามารถในการแก้ปัญหา
ดิฉันเป็นเกษตรกร เป็นทั้งชาวสวนยาง ถึงแม้จะมีไม่มากขนาดเป็นร้อยๆไร่ แต่ก็มีอยู่หลายสิบไร่ มากเกิน 25 ไร่ มีสิทธิได้เงินชดเชย
ค่าปุ๋ย เป็นทั้งชาวนามีที่นาอีกหลายสิบไร่ นอกจากนั้นยังมีบ่อเลี้ยงปลาอีก การที่ครอบครัวดิฉันประกอบอาชีพเกษตรหลายอย่างนั้น
เป็นการกระจายความเสี่ยง และทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตหมุนเวียนก่อให้เกิดรายได้ตลอดปี จึงพอมีเงินทุนมาหมุนเวียนได้
จากภาพข่าวที่รายการ "ประเด็นเด็ด 7 สี" นำเสนอ ได้ไปสัมภาษณ์เกษตรกรชาวสวนยางที่ออกมาประท้วงที่อำเภอ ชะอวด จ.นคร
ศรีธรรมราชนั้น ผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่า รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็กอยู่ ในภาพข่าว
เห็นบ้านของผู้ให้สัมภาษณ์เป็นบ้านชั้นเดียวแต่ปลูกอย่างสวยงามหรูหรา และรถปิ๊กอัพยี่ห้อแพงจอดอยู่ ไม่ได้บ่งบอกเลยว่ามีฐานะ
ยากจน .... และกำลังเดือดร้อน
นอกจากนั้น ผู้ให้สัมภาษณ์อีกรายหนึ่งบอกว่า รายได้เฉลี่ยเดือนละ 30,000 กว่าบาทไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
(ไม่ใช่รถปิ๊กอัพที่ใช้ในการเกษตร แต่เป็นรถประเภทสเตชั่นวากอน) พร้อมกับบอกว่าลำพังต้องให้ลูกก็ตกเดือนละ 20,000 กว่าบาท
ซึ่งไม่พอแน่นอน (ทำไมเด็กใช้เงินเยอะจัง?)
ดิฉันเปรียบเทียบดูกับเกษตรกรที่ไม่ใช่ชาวสวนยางทางภาคอีสานบ้านดิฉัน ต่างกันราวฟ้ากับเหว ... ชาวนา ชาวไร่ ทางภาคอีสาน
ส่วนใหญ่ฐานะยังยากจน บ้านเป็นบ้านกระต๊อบ ไม่มีรถยนต์อย่างเก่งก็แค่รถมอร์เตอร์ไซด์ และพวกเขาก็ไม่ได้ขี้เกียจ ทำงานหนัก
ทั้งปี หมดหน้านาก็ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ไว้กินเอง ลูกหลานเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ
เพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ จุนเจือครอบครัว
แต่ก็ยังมีฐานะยากจนเพราะสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่มี ทุกคนต้องดิ้นรน เพื่อหนีจากความยากจน
ข้นแค้น ... แบบนี้ ...พวกเขาไม่เดือดร้อนกว่าหรือ ? แต่ทำไมพวกเขายังอยู่ได้ น้อยครั้งเหลือเกินที่จะเห็นพวกเขาออกมาประท้วง
เรียกร้องและสร้างความกดดันให้รัฐบาล หรือสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเหมือนที่ชาวสวนยางกำลังทำอยู่ในขณะนี้ ....
ดิฉัน อยากให้ราคายางพาราเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่อยากให้รัฐบาลรีบเร่งหาตลาดใหม่ หรือหาวิธีแปรรูป หรือหาผู้ลงทุนใน
อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราก่อนส่งออกสู่ตลาดเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน
ราคายางพาราแผ่น กิโลกรัมละ 90 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ ในความคิดเห็นของดิฉัน
(กระทู้นี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของ เจ้าของกระทู้เท่านั้น )
เพชรน้ำนิล ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาร่วมคอมเม้นท์พูดคุยกันอย่างสร้างสรรนะคะ และต้องขอโทษทุกๆท่านด้วยที่ทิ้งกระทู้
ไปทั้งวัน เนื่องจากต้องทำงาน มีหลายๆคำถามและข้อคิดเห็นที่น่าสนใจ ....ขอติดไว้ก่อน แล้วเพชรน้ำนิลจะหาข้อมูลมาร่วมพูดคุยด้วย
อีกครั้งในวันอาทิตย์ (ถ้าหัวข้อกระทู้ยังอยู่ในความสนใจและยังหาข้อสรุปการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+ + + ดิฉันชาวสวนยาง ไม่เห็นด้วยถ้ารัฐบาลจะประกันราคายาง 120 บาท + + +
ดูข่าวจากรายการ "ประเด็นเด็ด 7 สี" ประจำวันนี้ (28/08/2556) บอกว่า ที่ประชุมคณะรัฐบาลมีมติจะชดเชยต้นทุนค่าปุ๋ย
ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,200 บาท แต่ไม่เกินคนละ 25 ไร่โดยจะจ่ายผ่าน ธกส. ดำเนินการได้ทันที โดยส่วนตัว
ดิฉันค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับมตินี้ และถ้าหากรัฐบาลยอมอ่อนข้อให้กับเกษตรกรที่กำลังปิดถนนประท้วงเพื่อให้รัฐบาลรับ
ประกันราคายางพาราที่ กก. ละ 120 บาท ด้วยแล้ว ดิฉันขอแสดงจุดยืนที่จะไม่เห็นด้วย และห้ามไม่ให้ที่บ้านเข้าร่วมชุมนุม
ประท้วงโดยเด็ดขาด
ไม่ใช่ดิฉันร่ำรวยเสียจนหยิ่งยโสโอหัง และไม่เห็นอกเห็นใจความเดือดร้อนของคนอื่น เพียงแต่ดิฉันเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมกับ
เกษตรกรรายอื่นที่ไม่ใช่ชาวสวนยาง เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ชาวสวนผลไม้ หอม กระเทียม และอื่นๆอีกมากมาย
ทุกคนล้วนมีต้นทุนการผลิต ต้องใช้ปุ๋ยทั้งสิ้น แล้วทำไมรัฐบาลจะต้องใช้เงินงบประมาณมาชดเชยให้เฉพาะชาวสวนยางพารา?
แล้วเกษตรกรรายอื่นล่ะ....คุณคิดว่าเขาไม่เดือดร้อนหรือ? ถ้าเกษตรกรเหล่านี้ออกมาประท้วงขอให้รัฐบาลประกันราคาผลผลิต
ตามที่เขาพอใจบ้าง หรือขอให้ชดเชยค่าปุ๋ยอย่างชาวสวนยางบ้างล่ะ ? รัฐบาลจะโอบอุ้มพวกเขาบ้างหรือเปล่า ?
แล้วถ้ารัฐบาลต้องช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมด จะต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมากมายขนาดไหน ? แต่ถ้าไม่ช่วยเหลือก็จะ
เป็นการเลือกปฏิบัติ พวกเขาไม่ใช่เกษตรกรชาวไทยหรืออย่างไร ? มันเป็นคำถามที่รัฐบาลจะต้องเตรียมตัวตอบ....
ดิฉันคิดว่า ... การที่รัฐบาลชดเชยค่าปุ๋ยให้กับเกษตรกรชาวสวนยางดังที่ว่ามาข้างต้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่ถูกจุด
เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องและจะกลายเป็นการ "ขว้างงูไม่พ้นคอ"
รัฐบาลต้องระดมสมองเพื่อหาทางออกกับปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำให้กับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
ไม่ใช่ใช้เงินในการแก้ปัญหา แต่ต้องใช้ปัญญาและความสามารถในการแก้ปัญหา
ดิฉันเป็นเกษตรกร เป็นทั้งชาวสวนยาง ถึงแม้จะมีไม่มากขนาดเป็นร้อยๆไร่ แต่ก็มีอยู่หลายสิบไร่ มากเกิน 25 ไร่ มีสิทธิได้เงินชดเชย
ค่าปุ๋ย เป็นทั้งชาวนามีที่นาอีกหลายสิบไร่ นอกจากนั้นยังมีบ่อเลี้ยงปลาอีก การที่ครอบครัวดิฉันประกอบอาชีพเกษตรหลายอย่างนั้น
เป็นการกระจายความเสี่ยง และทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตหมุนเวียนก่อให้เกิดรายได้ตลอดปี จึงพอมีเงินทุนมาหมุนเวียนได้
จากภาพข่าวที่รายการ "ประเด็นเด็ด 7 สี" นำเสนอ ได้ไปสัมภาษณ์เกษตรกรชาวสวนยางที่ออกมาประท้วงที่อำเภอ ชะอวด จ.นคร
ศรีธรรมราชนั้น ผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่า รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็กอยู่ ในภาพข่าว
เห็นบ้านของผู้ให้สัมภาษณ์เป็นบ้านชั้นเดียวแต่ปลูกอย่างสวยงามหรูหรา และรถปิ๊กอัพยี่ห้อแพงจอดอยู่ ไม่ได้บ่งบอกเลยว่ามีฐานะ
ยากจน .... และกำลังเดือดร้อน
นอกจากนั้น ผู้ให้สัมภาษณ์อีกรายหนึ่งบอกว่า รายได้เฉลี่ยเดือนละ 30,000 กว่าบาทไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
(ไม่ใช่รถปิ๊กอัพที่ใช้ในการเกษตร แต่เป็นรถประเภทสเตชั่นวากอน) พร้อมกับบอกว่าลำพังต้องให้ลูกก็ตกเดือนละ 20,000 กว่าบาท
ซึ่งไม่พอแน่นอน (ทำไมเด็กใช้เงินเยอะจัง?)
ดิฉันเปรียบเทียบดูกับเกษตรกรที่ไม่ใช่ชาวสวนยางทางภาคอีสานบ้านดิฉัน ต่างกันราวฟ้ากับเหว ... ชาวนา ชาวไร่ ทางภาคอีสาน
ส่วนใหญ่ฐานะยังยากจน บ้านเป็นบ้านกระต๊อบ ไม่มีรถยนต์อย่างเก่งก็แค่รถมอร์เตอร์ไซด์ และพวกเขาก็ไม่ได้ขี้เกียจ ทำงานหนัก
ทั้งปี หมดหน้านาก็ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ไว้กินเอง ลูกหลานเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ
เพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ จุนเจือครอบครัว
แต่ก็ยังมีฐานะยากจนเพราะสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่มี ทุกคนต้องดิ้นรน เพื่อหนีจากความยากจน
ข้นแค้น ... แบบนี้ ...พวกเขาไม่เดือดร้อนกว่าหรือ ? แต่ทำไมพวกเขายังอยู่ได้ น้อยครั้งเหลือเกินที่จะเห็นพวกเขาออกมาประท้วง
เรียกร้องและสร้างความกดดันให้รัฐบาล หรือสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเหมือนที่ชาวสวนยางกำลังทำอยู่ในขณะนี้ ....
ดิฉัน อยากให้ราคายางพาราเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่อยากให้รัฐบาลรีบเร่งหาตลาดใหม่ หรือหาวิธีแปรรูป หรือหาผู้ลงทุนใน
อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราก่อนส่งออกสู่ตลาดเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน
ราคายางพาราแผ่น กิโลกรัมละ 90 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ ในความคิดเห็นของดิฉัน
(กระทู้นี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของ เจ้าของกระทู้เท่านั้น )
เพชรน้ำนิล ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาร่วมคอมเม้นท์พูดคุยกันอย่างสร้างสรรนะคะ และต้องขอโทษทุกๆท่านด้วยที่ทิ้งกระทู้
ไปทั้งวัน เนื่องจากต้องทำงาน มีหลายๆคำถามและข้อคิดเห็นที่น่าสนใจ ....ขอติดไว้ก่อน แล้วเพชรน้ำนิลจะหาข้อมูลมาร่วมพูดคุยด้วย
อีกครั้งในวันอาทิตย์ (ถ้าหัวข้อกระทู้ยังอยู่ในความสนใจและยังหาข้อสรุปการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้