เรื่องราวมีอยู่ว่าพอดีคุณแฟนป่วยค่ะ ลักษณะเหมือนจะเป็นหวัด มาตั้งวันพฤหัสที่แล้ว เราสองคนคิดกันเอาเองว่านอนมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ ทานพาราเดี๋ยวก็หาย แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ประกอบกับเริ่มมีไข้สูง มึนหัว จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลรามคำแหงเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ที่ผ่านมา ช่วงเช้า ตรวจแล้วมีไข้สูง 38.3 องศา คุณหมอวิเคราะห์ว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา หลอดลมอักเสบ และจับฉีดไปยา ปัญหามีอยู่ว่า คุณแฟนเราแจ้งไปว่าเค้าเป็น G6PD เพื่อคุณหมอจะสามารถให้ยาที่ถูกต้องและเหมาะสม ได้ยามาค่อนข้างเยอะ 4-5 ตัว คุณแฟนก็ทานยามาเรื่อยๆจนวันนี้ (28/08/2556) อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงเริ่มค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เนทดู ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แล้วเราก็พบว่ายาตัวนึงที่คุณหมอจ่ายให้นั้น มีชื่อว่า LEFLOXIN_(levoFLOXACIN 500mg) ให้ทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า ติดต่อกันจนหมด หลังจากกูเกิ้ลหาข้อมูลเราก็เจอข้อมูลดังนี้ "ยา Cravit เป็นชื่อทางการค้าของยา levofloxacin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ กลุ่ม Quinolone ยากลุ่มนี้ไม่สามารถใช้ในผู้ป่วยภาวะบกพร่องเอนไซม์ จี-6-พีดี (G-6-PD deficiency) เนื่องจากอาจทำให้เกิดเม็ดเลือดแดงแตก ถ้าหากมีการสลายของเม็ดเลือดแดงจำนวนมาก จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก ผู้ป่วยจะมีอาการซีดเหลือง ปัสสาวะสีน้ำปลา อ่อนเพลีย บางคนอาจมีไข้สูง หนาวสั่น ตัวโต ม้ามโต"
เราไม่แน่ใจว่าเพราะยาตัวนี้หรือเปล่า เพราะว่าโทรไปถามทางโรงพยาบาลแล้ว ได้คำตอบจากเภสัชโรงพยาบาลว่า ยาตัวนี้กินได้เพราะไม่มีระบุไว้ในข้อห้ามใช้ของยาตัวนี้ เราแค่สงสัยน่ะค่ะ ใครเคยมีประสบการณ์อะไรทำนองนี้บ้างมั้ยคะ เราควรต้องทำอย่างไรบ้าง