คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คิดเล่นๆครับ
- ขั้นแรกปี 2015 – 2020
เทคโนโลยีบังคับหุ่นยนต์ผ่านระบบจิตใจได้
ความน่าจะเป็น 0.1%
ขั้นที่ 2 ในปี 2020 -2025
คือการถ่ายโอนจิตของมนุษย์ที่ตายแล้วไปสู่หุ่นยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ
ความน่าจะเป็น 0.1%
ขั้นตอนที่ 3 ในปี 2030 -2035
เพื่อให้สามารถถ่ายโอนบุคลิกภาพ นิสัย เข้าไปยังหุ่นยนต์ เพื่อสู่ความเป็นอมตะของมนุษยชาติต่อไป
ความน่าจะเป็น 5%
สุดท้ายในปี 2040 – 2045 เพื่อให้รวบรวม
จิตสำนักของมนุษยชาติทั้งหมดเข้าสู่ระบบโฮโรแกรมเพื่อให้สามารถปรากฎตัวได้ทุกที่ในโลก
ความน่าจะเป็น 5%
****** ผลลัพธ์ 0.001*0.001*0.05*0.05=0.00000025 %
- ขั้นแรกปี 2015 – 2020
เทคโนโลยีบังคับหุ่นยนต์ผ่านระบบจิตใจได้
ความน่าจะเป็น 0.1%
ขั้นที่ 2 ในปี 2020 -2025
คือการถ่ายโอนจิตของมนุษย์ที่ตายแล้วไปสู่หุ่นยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ
ความน่าจะเป็น 0.1%
ขั้นตอนที่ 3 ในปี 2030 -2035
เพื่อให้สามารถถ่ายโอนบุคลิกภาพ นิสัย เข้าไปยังหุ่นยนต์ เพื่อสู่ความเป็นอมตะของมนุษยชาติต่อไป
ความน่าจะเป็น 5%
สุดท้ายในปี 2040 – 2045 เพื่อให้รวบรวม
จิตสำนักของมนุษยชาติทั้งหมดเข้าสู่ระบบโฮโรแกรมเพื่อให้สามารถปรากฎตัวได้ทุกที่ในโลก
ความน่าจะเป็น 5%
****** ผลลัพธ์ 0.001*0.001*0.05*0.05=0.00000025 %
แสดงความคิดเห็น
โครงการของ Dmitry Itskov ที่ว่าด้วยการทำให้มนุษย์อมตะ เป็นไปได้กี่%คะ ?
เป็นคล้ายๆการถ่ายโอนจิตใจของมนุษย์ มาสู่ในร่างกายเทียมที่สร้างขึ้นมาใหม่ให้คงสภาพเดิมอะไรทำนองนั้น แต่ในเมื่อมนุษย์เรายังใช้สมองได้ไม่ถึง 10% มีความเป็นไปได้เหรอคะที่จะถ่ายโอนข้อมูลในสมองออกมาได้ทั้งหมด
ไทม์ไลน์ประมาณนี้ค่ะ
- ในขั้นแรกในภายในปี 2015 – 2020
เขาต้องการให้เกิดเทคโนโลยีบังคับหุ่นยนต์ผ่านระบบจิตใจได้ (คล้ายๆ กับ ในหนังเรื่อง Surrogates )
-เพื่อก้าวสู่ ขั้นที่ 2 ในปี 2020 -2025
คือการถ่ายโอนจิตของมนุษย์ที่ตายแล้วไปสู่หุ่นยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ
-และสู่ขั้นตอนที่ 3 ในปี 2030 -2035
เพื่อให้สามารถถ่ายโอนบุคลิกภาพ นิสัย เข้าไปยังหุ่นยนต์ เพื่อสู่ความเป็นอมตะของมนุษยชาติต่อไป
-และขั้นตอนสุดท้ายในปี 2040 – 2045 เพื่อให้รวบรวม
จิตสำนักของมนุษยชาติทั้งหมดเข้าสู่ระบบโฮโรแกรมเพื่อให้สามารถปรากฎตัวได้ทุกที่ในโลก
และก้าวสู่การ ไม่มีสะสารและอมตะโดยแท้จริง
อ่านไปอ่านมาเเล้วอยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆในห้องหว้ากอ ว่ามีเเนวโน้มจะทำได้สำเร็จไหม เพราะเห็นว่ามีคนเป็นจริงเป็นจังลงชื่อร่วมโครงการไปกว่า 20,000 คนเเล้ว : D