พาดหัวข่าว นสพ. "วงการอุตสาหกรรมทั่วโลกยอมรับ ช่างเทคนิคและวิศวกรด้านปฏิบัติการไทยคือเบอร์ 1 อาเซียน และอาจไปได้ถึงระดับโลก"
เนื้อข่าว
ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยข้อมูลซึ่งรวบรวมจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในอเมริกา ยุโรปรวมถึงญี่ปุ่นว่า วงการช่างเทคนิคและวิศวกรด้านปฏิบัติการของประเทศไทยได้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดจนสามารถแซงมหาอำนาจด้านนี้ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่าการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้เกิดจาก กลุ่มนักศึกษาสายอุตสาหกรรม ที่ในอดีตเรียกกันว่าเด็กช่างกลหรือเด็กอาชีวะ ทั้งสถาบันของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ กว่า 50,000 คน ได้มีการรวมตัวและร่วมมือกันเรียกร้องให้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาสายอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย เน้นใช้การวิเคราะห์เหตุผลควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีที่ถูกหลัก เพิ่มความเข้มข้นของวิชาด้านภาษาต่างประเทศและวิชาคำนวณที่เกี่ยวกับสายวิชาชีพ ฝึกฝนทักษะด้านปฏิบัติให้เชี่ยวชาญ เพิ่มวิชาในด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) เทคโนโลยีนิเวศ (Eco Technology) เข้าไปหลักสูตร และยุติความรุนแรงทุกรูปแบบเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย จนทำให้ในปีล่าสุดมีผู้สอบแข่งขันเข้าเรียนในสายนี้ กว่า 500,000 คน ทั้งที่มีที่ว่างเพียง 50,000 คน นั่นคืออัตราส่วน 1:10
ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ค่าตอบแทนของบุคลากรในวงการอุตสาหกรรมของไทย มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในอาเซียนและเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย มีโอกาสไปไกลถึงระดับโลกเลยทีเดียว และมีการวิเคราะห์กันว่าบุคลากรกลุ่มนี้จะเป็นเพชรที่ล้ำค่าของประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
************** ที่เขียนมาทั้งหมดเพราะ ผมฝันว่าจะมีวันนั้นครับ *************
-ในฐานะรุ่นพี่ช่างกล ผมอยากเห็นเด็กช่างกลเป็นที่ยอมรับในสิ่งที่สร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งโลกเห็นว่า เรามีดี ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความรุนแรง
-ในฐานะคนไทยในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ผมไม่อยากให้เด็กช่างกลใช้ความรุนแรงกับคนที่คิดต่าง (จริงๆก็ทุกฝ่ายที่รุนแรงนั่นแหละครับ ผมไม่เห็นด้วย แต่กระทู้นี้ว่าด้วยช่างกล)
-ในฐานะลูกองค์พ่อหลวง และองค์พ่อพระวิษณุกรรมเหมือนกัน ผมไม่อยากเห็นเด็กช่างกลทะเลาะวิวาทกัน ผมเชื่อว่าพ่อคงไม่สบายใจ ที่ลูกๆไล่ตีกันในเรื่องของศักดิ์ศรีสถาบัน
***************************************************************************************************
จากรุ่นพี่ช่างกล....ถึง.....น้องๆช่างกล
พาดหัวข่าว นสพ. "วงการอุตสาหกรรมทั่วโลกยอมรับ ช่างเทคนิคและวิศวกรด้านปฏิบัติการไทยคือเบอร์ 1 อาเซียน และอาจไปได้ถึงระดับโลก"
เนื้อข่าว
ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยข้อมูลซึ่งรวบรวมจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในอเมริกา ยุโรปรวมถึงญี่ปุ่นว่า วงการช่างเทคนิคและวิศวกรด้านปฏิบัติการของประเทศไทยได้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดจนสามารถแซงมหาอำนาจด้านนี้ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่าการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้เกิดจาก กลุ่มนักศึกษาสายอุตสาหกรรม ที่ในอดีตเรียกกันว่าเด็กช่างกลหรือเด็กอาชีวะ ทั้งสถาบันของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ กว่า 50,000 คน ได้มีการรวมตัวและร่วมมือกันเรียกร้องให้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาสายอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย เน้นใช้การวิเคราะห์เหตุผลควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีที่ถูกหลัก เพิ่มความเข้มข้นของวิชาด้านภาษาต่างประเทศและวิชาคำนวณที่เกี่ยวกับสายวิชาชีพ ฝึกฝนทักษะด้านปฏิบัติให้เชี่ยวชาญ เพิ่มวิชาในด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) เทคโนโลยีนิเวศ (Eco Technology) เข้าไปหลักสูตร และยุติความรุนแรงทุกรูปแบบเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย จนทำให้ในปีล่าสุดมีผู้สอบแข่งขันเข้าเรียนในสายนี้ กว่า 500,000 คน ทั้งที่มีที่ว่างเพียง 50,000 คน นั่นคืออัตราส่วน 1:10
ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ค่าตอบแทนของบุคลากรในวงการอุตสาหกรรมของไทย มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในอาเซียนและเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย มีโอกาสไปไกลถึงระดับโลกเลยทีเดียว และมีการวิเคราะห์กันว่าบุคลากรกลุ่มนี้จะเป็นเพชรที่ล้ำค่าของประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
************** ที่เขียนมาทั้งหมดเพราะ ผมฝันว่าจะมีวันนั้นครับ *************
-ในฐานะรุ่นพี่ช่างกล ผมอยากเห็นเด็กช่างกลเป็นที่ยอมรับในสิ่งที่สร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งโลกเห็นว่า เรามีดี ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความรุนแรง
-ในฐานะคนไทยในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ผมไม่อยากให้เด็กช่างกลใช้ความรุนแรงกับคนที่คิดต่าง (จริงๆก็ทุกฝ่ายที่รุนแรงนั่นแหละครับ ผมไม่เห็นด้วย แต่กระทู้นี้ว่าด้วยช่างกล)
-ในฐานะลูกองค์พ่อหลวง และองค์พ่อพระวิษณุกรรมเหมือนกัน ผมไม่อยากเห็นเด็กช่างกลทะเลาะวิวาทกัน ผมเชื่อว่าพ่อคงไม่สบายใจ ที่ลูกๆไล่ตีกันในเรื่องของศักดิ์ศรีสถาบัน
***************************************************************************************************