สวัสดีครับ ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่าน
กระทู้นี้ตอบ/พูดคุยได้ทุกเพศทุกวัยนะครับ ใครขี้เกียจอ่าน อ่านแค่ตัวหนาก็ได้
ผมอายุ 30 หน้าที่การงานฐานะพอใช้ได้ เคยมีแฟนมาแล้วสองคนใช้เวลาคบประมาณคนละปีครึ่ง
จึงคิดว่าพอจะมีทักษะการพูดคุย และ ดูแล take care ผู้หญิงเพียงพอ และไม่เคยมีปัญหาเจ้าชู้ครับ
เมื่อต้นเดือน กค เริ่มเรียนคอร์สพิเศษ ช่วง จ พ ศ หกโมงเย็นถึงสองทุ่มครึ่ง ในห้องมีนักเรียน 15 คน
วัยพอๆกัน 24-38ปี ส่วนใหญ่เป็น หญิง จึงมีการพูดคุยหยอกล้อสนิทกันพอควร (เคยมีการนัดไปกินข้าวนอกสถานที่วันเสาร์ด้วย)
เธอเป็นนักเรียนหนึ่งในนั้นครับ รูปร่างหน้าตาการแต่งตัว ตรงกับสเป็คของผม พูดง่ายๆคือ ปิ๊งตั้งแต่แรกเห็นน่ะแหละครับ
เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ขอให้ข้อมูลเป็นข้อๆละกันนะครับ
1 นักเรียนในห้อง จับกลุ่มคุยกัน ทั้งตอนพักเบรค และคุยกันใน Line ค่อนข้างจะคึกคัก
2 จากการคุยในห้องLine จึงมั่นใจว่าเธอโสด คนล่าสุดที่มาจีบเธอ เธอบอกว่าไม่เวริคเพราะ "เคมีไม่ตรงกัน หรือเพราะเราติสต์เกินไปก็ไม่รู้"
3 เป็นคอร์สเรียนพิเศษสี่เดือนจบช่วงปลายตุลา และเป็นคอรส์ที่จะ fix ที่นั่งนักเรียน ...โชคเข้าข้างมากครับ ผมได้นั่งข้างเธอ
จึงทำให้สนิทกันได้ค่อนข้างเร็ว
4 เลิกเรียนแล้ว ทางกลับบ้านคนละทาง ผมเดินเท้ากลับบ้าง รถส่วนตัวกลับบ้าง ส่วนเธอจะกลับด้วยรถส่วนตัวเสมอ
5 พอเรียนไปได้ซักสองอาทิตย์ ผมเสี่ยงตาย Line ไปคุยกับเธอเรื่องเรียน ปรากฏว่าเธอพูดคุยตอบค่อนข้างดี มีถามกลับบ้างแต่ไม่มาก
6 หลังจากนั้นผม ก็คุย Line สานต่อ สามสี่วันหนนึง เรื่องที่คุยก็จะมีทั้งเรื่องที่เรียน เรื่องงาน ชีวิตประจำวัน เรื่องที่บ้าน ช็อบปื้ง ฯลฯ
7 ผมชวนคุยอะไร เธอก็คุยค่อนข้างดี ไม่เคยรู้สึกถึงอารมณ์ถามคำตอบคำ มีล้อเล่นบ้าง ใช้ศัพท์วันรุ่นบ้าง เช่น จุงเบย
8 แต่จะมีลักษณะพิเศษคือ น่าจะไม่ค่อยติดการ chat และเวลาทำงานจะยุ่งมาก ดูจากการคุยใน Line ทั้งที่ผมชวนคุยและ
ห้องนักเรียนรวม เธอน่าจะหยิบมือถือขึ้นมากดตอบ หนึ่งชั่วโมงหนนึงเป็นอย่างมาก สมมุติว่าผมชวนคุยอะไรไปซักบ่ายโมงตรง
มันจะไม่ ขึ้นว่า Read เลย จนกระทั่งบ่ายสาม ถึงจะขึ้น Read แล้วเธอก็จะตอบเรียงมาสี่ห้าประโยคเลย
9 ชีวิตประจำวันเธอ ทำงานกับที่บ้าน ค้าขาย ไม่มีวันหยุด ถ้าันานๆทีวันไหนอยากหยุด ต้องขอให้แม่มาดูร้านแทน
และเธอเลิกงาน หกโมง เย็น กลับถึงบ้าน ก็กินข้าวกับที่บ้าน เสร็จแล้วอาบน้ำนอน... นอนไวมาก สามทุ่มครึ่ง สี่ทุ่ม
ถ้าหากว่าผมเผลอไปชวนคุยหลังสี่ทุ่ม เธอจะไปตอบตอนนู่นเลย เก้าโมงเช้าวันถัดไป
10 จากข้อ 8 ข้อ 9 สมมุติว่าผมชวนคุยตั้งแต่บ่ายโมง ผมก็จะต้องรอไปจนถึงประมาณบ่ายสอง เธอถึงจะตอบ ผมคุยกลับไปอีก
ก็ตอบอีกทีห้าโมงหกโมงนู่น คุยอีกทีก็อาจจะเป็น ก่อนนอนไปเลย สรุปคือ พูดคุยLineตอบดี แต่คงได้แค่คุยจุกจิกเล่นๆ
11 ทุกคนในห้อง มีเบอร์มือถือของทุกคน แต่ผมไม่เคยโทรไป
12 ถึงจะสนิท แต่ยังไม่มีสัญญาณว่า เธอจะเริ่มชอบผม มีอยู่คืนนึง ที่เธอพิมพ์บอก"ฝันดีนะจ๊า" แต่ผมคิดว่า ไม่น่าจะมีนัยสำคัญ
คำถามครับ
ผมว่า เรื่องตีสนิทไม่น่าจะมีปัญหา แต่ผมกลัวว่า ถ้าปล่อยนานไปยังซื้อใจเธอไม่ได้ พัฒนาความสัมพันธ์ไม่ได้ ผมจะติดแหงก
อยู่ในสถานะเพื่อนสนิท Friend Zone ขอคำแนะนะในการทลายกำแพงครับ
ที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำ
- เวลาที่จะตีสนิทได้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงที่เรียน คือนั่งข้างๆกัน ก็จะมีช่วงที่ช่วยดูบทเรียนบ้าง ช่วยขนของบ้าง คุยเล่นบ้าง
- วันที่ไม่มีเรียน ในช่วงเวลาที่เธอเลิกงานจนก่อนกลับบ้านสองสามทุ่ม น่าจะสามารถชวนไป กินข้าว ได้ (อยู่ที่ผมแหละ ว่ากล้าชวนยัง)
- โทรศัพท์คุย ผมว่าไม่น่าจะเวริค
- มีวิธีไหนไหมครับ ที่จะเป็นการสื่อเป็นทางอ้อมว่า ที่คุยที่ตีสนิทเนี่ย ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนนะ
[ปรึกษา] จีบสาววัย30 ตีสนิทได้ แต่กลัวติดอยู่ใน Friend Zone
กระทู้นี้ตอบ/พูดคุยได้ทุกเพศทุกวัยนะครับ ใครขี้เกียจอ่าน อ่านแค่ตัวหนาก็ได้
ผมอายุ 30 หน้าที่การงานฐานะพอใช้ได้ เคยมีแฟนมาแล้วสองคนใช้เวลาคบประมาณคนละปีครึ่ง
จึงคิดว่าพอจะมีทักษะการพูดคุย และ ดูแล take care ผู้หญิงเพียงพอ และไม่เคยมีปัญหาเจ้าชู้ครับ
เมื่อต้นเดือน กค เริ่มเรียนคอร์สพิเศษ ช่วง จ พ ศ หกโมงเย็นถึงสองทุ่มครึ่ง ในห้องมีนักเรียน 15 คน
วัยพอๆกัน 24-38ปี ส่วนใหญ่เป็น หญิง จึงมีการพูดคุยหยอกล้อสนิทกันพอควร (เคยมีการนัดไปกินข้าวนอกสถานที่วันเสาร์ด้วย)
เธอเป็นนักเรียนหนึ่งในนั้นครับ รูปร่างหน้าตาการแต่งตัว ตรงกับสเป็คของผม พูดง่ายๆคือ ปิ๊งตั้งแต่แรกเห็นน่ะแหละครับ
เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ขอให้ข้อมูลเป็นข้อๆละกันนะครับ
1 นักเรียนในห้อง จับกลุ่มคุยกัน ทั้งตอนพักเบรค และคุยกันใน Line ค่อนข้างจะคึกคัก
2 จากการคุยในห้องLine จึงมั่นใจว่าเธอโสด คนล่าสุดที่มาจีบเธอ เธอบอกว่าไม่เวริคเพราะ "เคมีไม่ตรงกัน หรือเพราะเราติสต์เกินไปก็ไม่รู้"
3 เป็นคอร์สเรียนพิเศษสี่เดือนจบช่วงปลายตุลา และเป็นคอรส์ที่จะ fix ที่นั่งนักเรียน ...โชคเข้าข้างมากครับ ผมได้นั่งข้างเธอ
จึงทำให้สนิทกันได้ค่อนข้างเร็ว
4 เลิกเรียนแล้ว ทางกลับบ้านคนละทาง ผมเดินเท้ากลับบ้าง รถส่วนตัวกลับบ้าง ส่วนเธอจะกลับด้วยรถส่วนตัวเสมอ
5 พอเรียนไปได้ซักสองอาทิตย์ ผมเสี่ยงตาย Line ไปคุยกับเธอเรื่องเรียน ปรากฏว่าเธอพูดคุยตอบค่อนข้างดี มีถามกลับบ้างแต่ไม่มาก
6 หลังจากนั้นผม ก็คุย Line สานต่อ สามสี่วันหนนึง เรื่องที่คุยก็จะมีทั้งเรื่องที่เรียน เรื่องงาน ชีวิตประจำวัน เรื่องที่บ้าน ช็อบปื้ง ฯลฯ
7 ผมชวนคุยอะไร เธอก็คุยค่อนข้างดี ไม่เคยรู้สึกถึงอารมณ์ถามคำตอบคำ มีล้อเล่นบ้าง ใช้ศัพท์วันรุ่นบ้าง เช่น จุงเบย
8 แต่จะมีลักษณะพิเศษคือ น่าจะไม่ค่อยติดการ chat และเวลาทำงานจะยุ่งมาก ดูจากการคุยใน Line ทั้งที่ผมชวนคุยและ
ห้องนักเรียนรวม เธอน่าจะหยิบมือถือขึ้นมากดตอบ หนึ่งชั่วโมงหนนึงเป็นอย่างมาก สมมุติว่าผมชวนคุยอะไรไปซักบ่ายโมงตรง
มันจะไม่ ขึ้นว่า Read เลย จนกระทั่งบ่ายสาม ถึงจะขึ้น Read แล้วเธอก็จะตอบเรียงมาสี่ห้าประโยคเลย
9 ชีวิตประจำวันเธอ ทำงานกับที่บ้าน ค้าขาย ไม่มีวันหยุด ถ้าันานๆทีวันไหนอยากหยุด ต้องขอให้แม่มาดูร้านแทน
และเธอเลิกงาน หกโมง เย็น กลับถึงบ้าน ก็กินข้าวกับที่บ้าน เสร็จแล้วอาบน้ำนอน... นอนไวมาก สามทุ่มครึ่ง สี่ทุ่ม
ถ้าหากว่าผมเผลอไปชวนคุยหลังสี่ทุ่ม เธอจะไปตอบตอนนู่นเลย เก้าโมงเช้าวันถัดไป
10 จากข้อ 8 ข้อ 9 สมมุติว่าผมชวนคุยตั้งแต่บ่ายโมง ผมก็จะต้องรอไปจนถึงประมาณบ่ายสอง เธอถึงจะตอบ ผมคุยกลับไปอีก
ก็ตอบอีกทีห้าโมงหกโมงนู่น คุยอีกทีก็อาจจะเป็น ก่อนนอนไปเลย สรุปคือ พูดคุยLineตอบดี แต่คงได้แค่คุยจุกจิกเล่นๆ
11 ทุกคนในห้อง มีเบอร์มือถือของทุกคน แต่ผมไม่เคยโทรไป
12 ถึงจะสนิท แต่ยังไม่มีสัญญาณว่า เธอจะเริ่มชอบผม มีอยู่คืนนึง ที่เธอพิมพ์บอก"ฝันดีนะจ๊า" แต่ผมคิดว่า ไม่น่าจะมีนัยสำคัญ
คำถามครับ
ผมว่า เรื่องตีสนิทไม่น่าจะมีปัญหา แต่ผมกลัวว่า ถ้าปล่อยนานไปยังซื้อใจเธอไม่ได้ พัฒนาความสัมพันธ์ไม่ได้ ผมจะติดแหงก
อยู่ในสถานะเพื่อนสนิท Friend Zone ขอคำแนะนะในการทลายกำแพงครับ
ที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำ
- เวลาที่จะตีสนิทได้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงที่เรียน คือนั่งข้างๆกัน ก็จะมีช่วงที่ช่วยดูบทเรียนบ้าง ช่วยขนของบ้าง คุยเล่นบ้าง
- วันที่ไม่มีเรียน ในช่วงเวลาที่เธอเลิกงานจนก่อนกลับบ้านสองสามทุ่ม น่าจะสามารถชวนไป กินข้าว ได้ (อยู่ที่ผมแหละ ว่ากล้าชวนยัง)
- โทรศัพท์คุย ผมว่าไม่น่าจะเวริค
- มีวิธีไหนไหมครับ ที่จะเป็นการสื่อเป็นทางอ้อมว่า ที่คุยที่ตีสนิทเนี่ย ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนนะ