เพียงแค่พรีเมียร์ ลีก เกมเดียว เดวิด มอยส์ ก็ทำให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ซัดประตูไปมากกว่าปีก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งเขาลงเล่นในลีก 35 เกม!
การยิง 2 ลูกใส่สวอนซี ซิตี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นักเตะวัย 22 ปีจากลองไซท์ยิงเบิ้ลในเกมลีกให้กับทีมปีศาจแดง ก่อนหน้านี้เขาเคยยิงได้ 2 ประตูที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมที่เสมอบาเซิ่ล 3 - 3 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 แต่กับในลีกนั้นเขาไม่เคยยิงได้เกินกว่าลูกเดียวใน 1 เกมเลย
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แม้ว่าเขาจะลงเล่นไปถึง 27 เกม แต่เขาก็สามารถซัดได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้นในเดือนตุลาคมที่พบกับสโต๊ค ซิตี้ การเล่นของเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีก เป็นไปด้วยความไม่เห็นแก่ตัว เขาต้องไปยืนในตำแหน่งที่แตกต่างออกไปโดยไม่กังวลถึงสถิติการยิงประตูของเขาเองเลย
แต่มอยส์ก็เชื่อว่าเขาสามารถทำให้เวลเบ็คกลับมาเป็นจอมล่าตาข่ายได้เหมือนกับฤดูกาลแรกที่เขาได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว
มอยส์ และทีมสต๊าฟฟ์ของเขาไม่ได้บอกให้เวลเบ็คเห็นแก่ตัวมากขึ้น ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อธิบายว่า "ที่จริงก็คือเราหวังให้เขาขยับเข้าไปในตำแหน่งที่สามารถทำประตูได้มากขึ้น เราบอกให้เขาพยายามขยับเข้าไปตรงพื้นที่นั้น"
"อันที่จริงเขาพลาดไปพอสมควรในเกมพรีซีซั่น เขามีโอกาสยิงได้มากกว่านี้ แต่จากประตูที่เขาทำได้ในเกมทีมชาติที่พบกับสก็อตแลนด์ก็ช่วยเขาได้เยอะ"
"ผมชอบลูกแรกที่เขายิงใส่สวอนซีมาก เพราะมันเป็นการหาพื้นที่ยิงโล่งๆ ส่วนลูกที่ 2 ก็เป็นการจบสกอร์ของคนที่มีความมั่นใจ และเป็นฟอร์มของคนที่น่าจะยิงได้ถึง 20 ลูกในพรีเมียร์ ลีก เราได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เราพยายามที่จะกระตุ้นให้เขากลายเป็นกองหน้าที่ยิงได้ 15-20 ลูกให้ได้"
"ผมคิดว่าบางครั้งคุณก็ต้องมีความมั่นใจในการซัดประตู บางครั้งคุณก็ต้องวิ่งหาพื้นที่ให้ถูกทางด้วย และบางทีที่ผ่านมาเขาอาจจะไม่ได้พยายามวิ่งหาพื้นที่ทำประตูสักเท่าไหร่"
"นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมพอใจมากกับประตูแรก เขาวิ่งขยับเข้าหาบอลได้อย่างถูกที่ถูกเวลาในกรอบ 6 หลา และหลังจากนั้นเขาก็แปเข้าไปโล่งๆ"
เวลเบ็คยังคงถูกใช้งานเป็นตัวริมเส้นที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม แต่เขาก็ยังขยับเข้าในมาช่วย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วยเช่นกัน
มอยส์บอกว่าเวลเบ็คยังสามารถผสมผสานความสามารถทั้งหมดของเขาในการสร้างสรรค์ประตูด้วยอาวุธที่หลากหลายได้
"เขาเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้กับทีมชาติอังกฤษ แต่ในช่วงพรีซีซั่นผมไม่ได้จับเขาเล่นตรงนั้น แต่ผมก็คิดว่าเขาทำได้ดีกับทีมชาติ นั่นทำให้ผมเปลี่ยนเขามาเล่นตรงนั้นบ้าง"
"ในเกมกับสวอนซี ผมให้เขาเล่นสลับตำแหน่งกันไปมากับ ไรอัน กิ๊กส์ ตามแต่ช่วงเวลาอันสมควร ความตั้งใจในการเล่นของแดนนี่นั้นมีมากอยู่แล้ว ที่เขายังขาดไปก็คือประตูเท่านั้น และมาในฤดูกาลนี้มันก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้มันแตกต่างจากเดิม"
"ตอนที่ผมส่งเขาเล่นทางกราบซ้าย เขาก็ทำผลงานได้ดี แต่บางครั้งผู้คนก็อาจจะไม่สังเกตเห็นถึงความพยายามของเขา ก็หวังว่าเขาจะสามารถทำประตูได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะจากตรงกลางหรือด้านซ้ายก็ตาม นั่นจะส่งผลสำคัญสำหรับเราเลย"
เพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษอย่าง ไมเคิล คาร์ริค เองก็ปลื้มใจไปกับการออกสตาร์ทฤดูกาลอันยอดเยี่ยมของเขาด้วยเช่นกัน
"มันเป็นเรื่องดีที่เวลเบ็คทำประตูได้ เขายิงได้กับทีมชาติอังกฤษมาเมื่อกลางสัปดาห์ด้วย และก็หวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มนี้ต่อไปจนกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ได้" เขากล่าว
"ประตูที่ 2 นั้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเขา การเล่นได้แบบนี้มันช่วยเขาได้มาก เขาคือของจริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากองหน้าคนนี้จะพัฒนาตัวเองต่อไปอีก"
credit : www.redarmyfc.com
[บทความผีแดง 2013-08-26] มอยส์เชื่อสามารถทำให้เวลเบ็คกลับมาเป็นจอมล่าตาข่าย
การยิง 2 ลูกใส่สวอนซี ซิตี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นักเตะวัย 22 ปีจากลองไซท์ยิงเบิ้ลในเกมลีกให้กับทีมปีศาจแดง ก่อนหน้านี้เขาเคยยิงได้ 2 ประตูที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมที่เสมอบาเซิ่ล 3 - 3 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 แต่กับในลีกนั้นเขาไม่เคยยิงได้เกินกว่าลูกเดียวใน 1 เกมเลย
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แม้ว่าเขาจะลงเล่นไปถึง 27 เกม แต่เขาก็สามารถซัดได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้นในเดือนตุลาคมที่พบกับสโต๊ค ซิตี้ การเล่นของเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีก เป็นไปด้วยความไม่เห็นแก่ตัว เขาต้องไปยืนในตำแหน่งที่แตกต่างออกไปโดยไม่กังวลถึงสถิติการยิงประตูของเขาเองเลย
แต่มอยส์ก็เชื่อว่าเขาสามารถทำให้เวลเบ็คกลับมาเป็นจอมล่าตาข่ายได้เหมือนกับฤดูกาลแรกที่เขาได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว
มอยส์ และทีมสต๊าฟฟ์ของเขาไม่ได้บอกให้เวลเบ็คเห็นแก่ตัวมากขึ้น ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อธิบายว่า "ที่จริงก็คือเราหวังให้เขาขยับเข้าไปในตำแหน่งที่สามารถทำประตูได้มากขึ้น เราบอกให้เขาพยายามขยับเข้าไปตรงพื้นที่นั้น"
"อันที่จริงเขาพลาดไปพอสมควรในเกมพรีซีซั่น เขามีโอกาสยิงได้มากกว่านี้ แต่จากประตูที่เขาทำได้ในเกมทีมชาติที่พบกับสก็อตแลนด์ก็ช่วยเขาได้เยอะ"
"ผมชอบลูกแรกที่เขายิงใส่สวอนซีมาก เพราะมันเป็นการหาพื้นที่ยิงโล่งๆ ส่วนลูกที่ 2 ก็เป็นการจบสกอร์ของคนที่มีความมั่นใจ และเป็นฟอร์มของคนที่น่าจะยิงได้ถึง 20 ลูกในพรีเมียร์ ลีก เราได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เราพยายามที่จะกระตุ้นให้เขากลายเป็นกองหน้าที่ยิงได้ 15-20 ลูกให้ได้"
"ผมคิดว่าบางครั้งคุณก็ต้องมีความมั่นใจในการซัดประตู บางครั้งคุณก็ต้องวิ่งหาพื้นที่ให้ถูกทางด้วย และบางทีที่ผ่านมาเขาอาจจะไม่ได้พยายามวิ่งหาพื้นที่ทำประตูสักเท่าไหร่"
"นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมพอใจมากกับประตูแรก เขาวิ่งขยับเข้าหาบอลได้อย่างถูกที่ถูกเวลาในกรอบ 6 หลา และหลังจากนั้นเขาก็แปเข้าไปโล่งๆ"
เวลเบ็คยังคงถูกใช้งานเป็นตัวริมเส้นที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม แต่เขาก็ยังขยับเข้าในมาช่วย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วยเช่นกัน
มอยส์บอกว่าเวลเบ็คยังสามารถผสมผสานความสามารถทั้งหมดของเขาในการสร้างสรรค์ประตูด้วยอาวุธที่หลากหลายได้
"เขาเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้กับทีมชาติอังกฤษ แต่ในช่วงพรีซีซั่นผมไม่ได้จับเขาเล่นตรงนั้น แต่ผมก็คิดว่าเขาทำได้ดีกับทีมชาติ นั่นทำให้ผมเปลี่ยนเขามาเล่นตรงนั้นบ้าง"
"ในเกมกับสวอนซี ผมให้เขาเล่นสลับตำแหน่งกันไปมากับ ไรอัน กิ๊กส์ ตามแต่ช่วงเวลาอันสมควร ความตั้งใจในการเล่นของแดนนี่นั้นมีมากอยู่แล้ว ที่เขายังขาดไปก็คือประตูเท่านั้น และมาในฤดูกาลนี้มันก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้มันแตกต่างจากเดิม"
"ตอนที่ผมส่งเขาเล่นทางกราบซ้าย เขาก็ทำผลงานได้ดี แต่บางครั้งผู้คนก็อาจจะไม่สังเกตเห็นถึงความพยายามของเขา ก็หวังว่าเขาจะสามารถทำประตูได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะจากตรงกลางหรือด้านซ้ายก็ตาม นั่นจะส่งผลสำคัญสำหรับเราเลย"
เพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษอย่าง ไมเคิล คาร์ริค เองก็ปลื้มใจไปกับการออกสตาร์ทฤดูกาลอันยอดเยี่ยมของเขาด้วยเช่นกัน
"มันเป็นเรื่องดีที่เวลเบ็คทำประตูได้ เขายิงได้กับทีมชาติอังกฤษมาเมื่อกลางสัปดาห์ด้วย และก็หวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มนี้ต่อไปจนกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ได้" เขากล่าว
"ประตูที่ 2 นั้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเขา การเล่นได้แบบนี้มันช่วยเขาได้มาก เขาคือของจริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากองหน้าคนนี้จะพัฒนาตัวเองต่อไปอีก"
credit : www.redarmyfc.com