[CR] Brazil "สวยแปลกตา และมีอะไรมากกว่าฟุตบอล" ตอนที่ 3 Bird eye view and Bird Park

ต่อจากตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/30879647
และตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/30884086

วันนี้ตื่นแต่เช้ามาทานอาหารเช้า เหมือนเดิมพวกขนมปังปิ้ง ครัวซอง ชีส ชา กาแฟ เจอหนุ่มอาร์เจนตินาคนเดิมที่ชวนนั่งด้วยกันตั้งแต่เมื่อวาน นั่งคุยกันไปแบบ เค้าพูดได้แต่ภาษาสเปน เราพูดได้แต่อังกฤษ คุยกันจนเมื่อยมือจริงๆ จับความได้ว่า เค้ามาจากบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา เค้ามาเที่ยวไม่กี่วัน นั่งรถบัสมาที่นี่ อยู่เที่ยวประมาณอาทิตย์นึง เค้าไปน้ำตกมาเมื่อสองวันก่อน คนที่นี่ถึงจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกของคนที่มาพักตามโฮสเทลจะคล้ายๆกัน คือเข้ากับคนค่อนข้างง่าย ชวนคุยกันไปเรื่อยๆ คุยแป๊บนึงก็เหมือนรู้จักกันมานานอะไรประมาณนั้น เมื่อวานตอนเย็นๆคนที่โฮสเทลนั่งย่างบาร์บีคิวกินกัน ตอนเราเดินมาเข้าห้องน้ำ หนุ่มคนนี้ก็ชวนเราออกไปกินด้วยกัน อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ มีคนอเมริกัน ฝรั่งเศษ บราซิล อาร์เจนตินา แต่พอดีเราง่วงนอนมากเลยขอตัวไปนอนต่อ ตอนเช้าเจอกันก็นั่งกินข้าวด้วยกันอีก แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมาก ไม่รู้จะคุยยังไงมากกว่า เราก็ได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่าวันนี้จะกลับไปฝั่งบราซิลแล้วนะ ก็กอดร่ำลากันตามธรรมเนียม

ระหว่างทางเดินไปสถานีรถไฟก็แวะร้านขายของที่ระลึก ตั้งใจจะซื้อ Mate กลับมา Mate เป็นเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนและเป็นที่นิยมในหมู่ชาวอาร์เจนตินา อุรุกวัย ปารากวัย และทางใต้ของบราซิล เป็นเหมือนใบแห้งๆเอามาใส่ในภาชนะเหมือนไหเล็กๆที่ทำจากไม้ด้านนอกจะมีโลหะหุ้มอยู่ และหลอดเฉพาะที่เป็นโลหะแล้วด้านปลายจะเป็นที่กรองไม่ให้ดูดใบขึ้นมา นิยมกันมาก ตอนไปเที่ยวน้ำตกก็เห็นคนเอามาเองถือเดินกินกัน นิยมมากโดยเฉพาะอากาศเย็นๆถือถ้วยMate แล้วอุ่นมือดี


ตอนจะกลับไปบราซิล ให้เดินไปฝั่งเดียวกันที่ซื้อตั๋วไปน้ำตก แต่เดินเลยไปอีกหน่อยไปรอที่ช่อง 7 หรือ 8 รอรถที่เขียนว่าไป Foz do Iguacu เป็นรถของบริษัทชื่อ Itaipu เป็นรถเมล์แบบรถเมล์จริงๆ ไม่ใช่รถทัวร์นักท่องเที่ยว ค่ารถคนละ 8 peso ถ้าใครต้องการนั่งสบาย ก็มีรถนักท่องเที่ยวอีกหลายบริษัท ค่ารถก็แตกต่างกันไป รอไม่นานรถเมล์ก็มา เลยไม่ได้สอบถามบริษัทอื่นเลย ขากลับก็เหมือนกันขามา  ทุกคนต้องผ่าน ตม.อาร์เจนตินา ขึ้นรถมาไม่นานก็ลงที่ด่าน ตม.บราซิลที่มีแค่เรากับหนุ่มอีกคนที่ต้องลงมาตรวจพาสปอร์ต แล้วเค้าก็ให้ตั๋วใบเล็กๆมารอขึ้นรถคันถัดไป(ของบริษัทเดียวกัน) มาได้คุยกันตอนรอรถ เป็นคนโปแลนด์ มาเที่ยวคนเดียว พอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทยก็รีบบอกเลยว่าชอบเมืองไทยมาก คุยไปคุยมาก็คุยเรื่องที่บราซิลกำลังมีการประท้วงรัฐบาลเกี่ยวกับสวัสดิการ การศึกษา การรักษาพยาบาล ขนส่งมวลชน ในประเทศที่ยังไม่ได้รับกันอย่างทั่วถึง แต่รัฐบาลเอาเงินจำนวนมหาศาลไปสร้างสนามฟุตบอลใหม่ เพื่อฟุตบอลโลกกับโอลิมปิค (ข้อมูลตรงนี้ได้จากเพื่อนชาวบราซิล) ไปๆมาๆเค้าก็ถามเรื่องการประท้วงในเมืองไทยก่อนหน้า เพราะตอนเค้าอยู่เมืองไทย พอดีช่วงแดงเดือดมีการเผาอาคารต่างๆ เค้าเลยว่ามันรุนแรงมาก ถามเราว่าเคยเจอแย่สุดๆมาแล้ว มาที่นี่ไม่ว่ายังไงเราก็คงชิลล์ใช่ป่ะ?? ตอบไม่ถูกเลย บอกแค่ว่าอยู่บ้านดูข่าวจากทีวีกับเน็ต ไม่ได้ไปประท้วงกับเค้า เอ วกมาการเมืองได้ไง รอรถนานมาก ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาลงจุดเดิมตรงโรงแรม Bourbon แล้วข้ามถนนไปรอรถนั่งต่อไปสวนนกที่อยู่ก่อนถึงทางเข้าน้ำตกฝั่งบราซิล ๖รงกันข้ามสวนนกจะเป็นจุดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมน้ำตก เราก็ว่าน่าสนใจ พอถามราคา 110 USD หรือ 235 Reais เราก็ว่าแพงจัง แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว เลยรูดบัตรเครดิตไป แล้วเราก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ Helisul นี่เลย เพราะกะว่าจะเข้าเดินชมสวนนกต่อ ไม่ต้องเสียค่าฝากด้วย อิอิ  Helisul เป็นเจ้าเดียวที่ได้รับสิทธิในการจัดชมน้ำตกทางเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีเฉพาะฝั่งบราซิลเช่นกัน ใช้เวลาตั้งแต่บินขึ้น วนชมซ้ายขวา และบินกลับประมาณ 15 นาที เฮลิคอปเตอรืที่นี่ค่อนข้างใหม่นั่งได้ 6 คนรวมคนขับ ด้านหลัง 3 ด้านหน้า2 คนขับอีก 1 เค้าจะวนเอียงไปเอียงมาให้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเห็นวิวน้ำตก บางช่วงบินลงมาต่ำมาก เห็นน้ำตกมุมสูงแล้วก็มัวแต่มอง แทบไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ เพราะมองด้วยตาตัวเองเนี่ยสุดยอดมากกกกก


เห็นใกล้ๆ วนมากี่รอบก็ว้าวววทุกที


เวลาแสนสุขช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซักพักเฮลิคอปเตอร์ก็วนกลับ เห็นแม่น้ำสายยาววิ่งผ่านป่าทึบ ก็แอบใจหาย นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเรากับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของที่นี่แล้วเหรอ!!!
พอเฮลิคอปเตอร์ลงจอด ตรงทางออกก็จะมีพนักงานคอยเชียร์ให้ซื้อวิดีโอที่เค้าถ่ายพวกเราตอนก่อนเครื่องจะบินขึ้น พร้อมกับรูปถ่ายทางอากาศที่ช่างภาพถ่ายจากมุมสูงอีกมากมาย แต่ว่าไม่มีใครซื้อเลย ก็แหม ค่าขึ้นไปชมก็ตั้งเท่าไหร่แล้ว น่าจะแจกฟรีเลยนะคะ เค้าล้อเล่น

จากนั้นเราก็ข้ามมาฝั่งตรงกันข้าม เพื่อซื้อตั๋วเข้า Parque das Aves หรือ Bird Park เสียค่าเข้าชมคนละ 28R$ พร้อมแจกแผนที่ให้เดินดู ที่นี่ก็จะเหมือนสวนนกทั่วๆไปที่นกทั้งหลายจะอยู่ในกรงมีชื่อบอก มีคำอธิบายสั้นๆ คำอธิบายยาวๆก็มีแต่เป็นภาษาโปรตุเกตุ เค้าอ่านไม่ออกอ่ะ นกที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นสัตว์ปีกท้องถิ่น มี Taucan, Screamers, King Vulture, Pantanal Aviary, Curassows, Piping-Guans, African Savannah, Rheas, Parrots เยอะแยะ มีอนาคอนด้า ตัวดำมะเมื่อมอยู่ในตู้กระจกด้วย เห็นแล้วอึ๋ยยยมากๆ ห้องกระจกเดียวกันก็มีงูหลามตัวยักษ์ด้วย เราไม่ค่อยชอบสัตว์เลื้อยคลานเลยเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว


ตัวนี้เรียกว่า Grey Crowned Crane


เดินมาจะมีบางส่วนที่เป็นเหมือนกรงใหญ่ที่ให้เราเข้าไปแล้วก็สามารถใกล้ชิดนกต่างๆได้ มีหลายชนิดในกรงนึง เห็นเจ้าตัวนี้เกาะตรงราวทางเดิน

เจอ Taucan ตัวนี้ในบริเวณเดียวกัน สีสวยมาก มองนานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย

เดินมาก็มีนกฮูก, Rei หลายชนิด เดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงตรงทางออก ที่จะมีร้านอาหาร,ที่นั่งพัก ใกล้ๆก็มีนกมาคอว์ไว้ให้ถ่ายรูปกับคนที่มาเที่ยวเป็นบริการของทางปาร์คฟรี ก็คนต่อแถวเข้าคิวรอถ่ายรูปกันมากมาย พอถึงคิวเจ้าหน้าที่ก็จะให้นกมาคอว์มาเกาะที่แขนหรือที่ไหล่เพื่อถ่ายรูป โดยที่ด้านข้างก็จะเขียนไว้ว่า นกเหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างดี  และมีการสลับเปลี่ยนกันออกมา ไม่มีการทารุณ ไม่ได้เอาออกมาแล้วเป็นการทรมานสัตว์ทั้งสิ้น


ออกจากสวนนกก็มาเอากระเป๋าที่ Helisul แล้วรอรถฝั่งเดียวกับ Helisul เพื่อนั่งไปสนามบิน ให้ดูรถที่เขียนว่า  Aeroporto, หรือ Foz เสียค่ารถ 2.80R$ ที่นี่จะเสียเป็นครั้ง นั่งใกล้นั่งไกลเสียเท่ากันครั้งละ 2.80R$ พอมาถึงสนามบินก็มาเปิดล็อคเกอร์เอากระเป๋าออกมาจัด สำหรับบินในประเทศจะสามารถเช็คอินกระเป๋าได้ 1 ใบๆละ 23 กิโลกรัม หิ้วขึ้นเครื่องได้อีก 7กิโล แต่Cabin Luggage เค้าก็ไม่ค่อยเช็คน้ำหนักกันเท่าไหร่ บินมานับครั้งไม่ถ้วนเคยเห็นเค้าเช็คน้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่องก็ที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ เป็นสายการบินโลว์คอสต์  ที่นี่ก็สบายๆ ถ้ามันไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารก็ไม่มีปัญหา เราใช้บริการ TAM อีกแล้ว บินไป Rio de Janero แต่ต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่ Curitibaอีกเกือบ 3 ชั่วโมง จริงๆก็มีเที่ยวบินตรงของสายการบินGOL แต่ตอนที่เห็นก็หลังจากซื้อตั๋วของ TAM ไปแล้วเลยมานั่งเสียดาย แต่เอาน่า เราไม่ได้พลาดอะไรมากมาย ที่สนามบินในบราซิลจะมี Free Wifi Internet ให้ใช้ แต่ต้องลงทะเบียน ใส่ชื่อ พาสปอร์ต เที่ยวบิน ก่อน เรามาถึง Rio de Janero ก็ 3 ทุ่มแล้ว (เรามาพักกับเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ได้ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวใดๆเลยขอผ่านเรื่องการเดินทางช่วงนี้ไปนะคะ) มาถึงเพื่อนก็แนะนำให้รู้จักครอบครัวของเค้า ซึ่งไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลย แต่ทุกคนก็ต้อนรับขับสู้เราเป็นอย่างดี ทุกคนมารวมกันที่ Rio เพราะพรุ่งนี้เป็นวันแต่งงานของน้องชายเพื่อน
หลังจากอาบน้ำสดชื่นแล้ว ก่อนเที่ยงคืนนิดหน่อยก็นั่งแท็กซี่ไปที่ Lapa ซึ่งเป็นแหล่ง night life ที่นิยมแห่งนึงสำหรับคนบราซิลเองรวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย มานั่งดื่มร้านนู้นเข้าร้านนี้จนตึงๆ แล้วก็เดินไปที่บันไดกระเบื้องที่มีชื่อเสียงหรือที่เรียกว่า Selaron Steps, Selaronเป็นชื่อของศิลปินคนที่สร้างผลงานกระเบื้องบนบันไดนี้จนเป็นที่โด่งดัง เพิ่งรู้จากเพื่อนว่าเค้าเสียชีวิตไปเมื่อต้นปีนี้เอง มองดูรอบๆบริเวณบันได ข้างบันได บนบันได มีคนนั่งเต็มไปหมด บ้างก็ดื่มเบียร์ บ้างก็เล่นกีตาร์ บ้างก็กระหนุงกระหนิงกับคนรัก บางช่วงก็ได้กลิ่นคนสูบกัญชาด้วย
นี่เป็นบรรยากาศบริเวณ Selaron steps ในยามค่ำคืน (ขอเบลอหน้าเพื่อนๆไว้หน่อยเพราะไม่ได้ขออนุญาตเอามาลง) ไม่ได้เอากล้องไปเลยใช้มือถือเพื่อนถ่าย มีแต่รูปพวกเรากันเอง สถานที่อย่างเดียวไม่มีอ่ะ

และศิลปะกระเบื้องนี้ส่วนนึงมาจากเมืองไทย ^^

แล้วก็มีสาวน้อยจากเมืองไทยมาเยี่ยมชมด้วย เค้าล้อเล่น

หลังจากนั้นก็เดินมากินฮ๊อตด๊อก เบอร์เกอร์ตรงรถเข็นใกล้ๆกับทางส่งน้ำสมัยก่อนที่เป็นโค้งๆ

(ภาพนี้นำมาจาก http://www.route777.com.br)
ตรงสุดทางจะมีคนมาเล่นดนตรีแซมบ้าแบบเปิดหมวก คนผ่านไปมาก็ร่วมร้องเต้นไปด้วย ไปทีไรก็เห็นทุกที เราก็ไปยืนดูซักพักเพื่อนๆบราซิลเลียนของเราก็ร่วมแจมด้วย แต่เราก็บอกเพื่อนว่าขอกลับบ้านนอนแล้ว แบบไม่ไหว ตาจะปิด พวกเราเลยนั่งแท็กซี่กลับ แท็กซี่ที่นี่ขึ้นไปก็บอกว่าไปไหน เค้าไม่มีปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่มีบอกว่าน้ำมันหมด ส่งรถ ไม่ไป แบบเมืองไทย แต่ถ้ามากันเองโดยไม่มีคนบราซิลมาด้วยอาจจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง จะให้ดีพักที่ไหนขอนามบัตรที่พักติดไว้ให้แท็กซี่ดูจะดีที่สุดนะคะ

วันนี้ก็ขอลาไปก่อน เจอกันตอนต่อไปที่ชายหาดนะคะ ^^
ชื่อสินค้า:   อิกัวซุ่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่