ยโสธรขึ้นชื่อเรื่องบั้งไฟ  ทั้งการจุดบั้งไฟขึ้นสูงและขบวนฟ้อนเซิ้งของแต่ละหมู่บ้านที่มาประกวดประชันกัน ในวันจุดบั้งไฟขึ้นสูงนั้นถ้าบั้งไฟของใครขึ้นไม่ดี  ไม่สวย  ไม่สูง  เจ้าของบั้งไฟจะถูกจับโยนลงบ่อโคลน   และนอกจากนั้นยังมีการละเล่นอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า  "บักเลง"  
การเล่นจะใช้คนสัก 4-5 คน (เมาทั้งนั้น) เซิ้งรำไปตามถนน หรือบ้านเรือนที่อยู่ในเขต "เอาบุญ"  ร้องเพลงทำนองเดียวตลอดพร้อมอุปกรณ์เคาะจังหวะแล้วแต่จะหาได้ เช่น  คุถัง  กะละมัง  ปี๊ป  และการแต่งตัวที่เน้น ตลกขบขันปนทะลึ่ง   เซิ้งไปรำไปขอแผ่เงินเพื่อจะไปซื้อเหล้า หรือเอาเข้าวัดก็ตามแต่ศรัทธา....

ตัวอย่างคำร้องเซิ้ง....(ร้องนำ 1 คน)    

โอ้เฮาโอ่เฮาโอ้เฮาโอ...
มาฮอดนี่ถึงที่เฮือนไผ          (ลูกคู่ร้องซ้ำ)
เฮือนผู้ได๋หลังใหญ่อาดหลาด (ลูกคู่ร้องซ้ำ)
บ่ได้บาทหลานน้อยกะบ่หนี   (ลูกคู่ร้องซ้ำ)
ตายเป็นผีกะสินำมาหลอก    (ลูกคู่ร้องซ้ำ)  
ออกจากบ้านกะสิหว่านหินนำ   (ลูกคู่ร้องซ้ำ)

โอ้เฮาโอ่เฮาโอ้เฮาโอ...
      ขอเหล้าเด็ดให้ข่อยจักโอ    (ซ้ำ)    
ขอเหล้าโทให้ข่อยจักแก้ว         (ซ้ำ)
เผิ่นให้แล้วแถมพรให้เผิ่นแหน่    (ซ้ำ)
ให้เผิ่นเลี้ยงลูกแผ่คือกะปูยามนา  (ซ้ำ)


โอ้เฮาโอ่เฮาโอ้เฮาโอ...
มาฮอดนี่ถึงที่พรรคไผ
พรรคผู้ได๋คือหลังใหญ่อาดหลาด
ข่อยมาวาดเรื่องพรรคการเมือง
พรรคฮุ่งเฮืองมาแต่ก่อนเก่า
สิขอเหล่าเรื่องความบ่ดี
พรรค 60  ปีมันมีหยังแหน่
มันมีแต่เหยียบหย่ำคนจน
มันฮ้อนมันฮนนำปฏิวัติ
เรื่องถนัดเอาแต่ความดี
เรื่องอับปรีโกงกินหน้าด้าน
วาจาต้าน คือ " ปอ รอ สอ "
น้ำลายน้อ.. ปรีดีย์...คนฆ่า..
มันเป็นบ้าระบอบ ...ทักษิณ..
สร้างมลทินให้เลาไปจ้อย
เอาเรื่องน้อยขับไหล่ใส่ความ
คนประนามผู้เป็นต้นเหตุ
ประชาธิเปต...ผู้เป็นตำนาน
คนเขาขานว่าพรรคกะล่อน
มันเป็นย้อนซวนจอมหลักการ
ใช้โวหารจนพรรคตกต่ำ
สิมาหล่ำ..สนธิ..จำลอง..
บ่ฮู้จะของวังวนน้ำเหน่า
ลูกน้องเห่าอยู่กลางสภา..
อนาถแท้หนาประชาธิเปต..
บักสีหาเหตุ..ขัดอยู่เหมิดปี....

    สีนานวนม้วนไว้สาก่อนส่ำนี่.....แหล่ว....



ฝากความคึดฮอดถึงคุณ...คันริม..นา..ด้วยครับ..