คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
วิธีนี้จะได้ผลดียิ่งขึ้น ถ้ากองที่เราลงทุนอยู่เป็นกองที่มีผลตอบแทนชนะตลาดค่ะ อย่างของเราเราถือ
กองทีโลว์เบต้า ของธนชาติอยู่
เมื่อวันที่ 20 มิย. ทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 15.4680
27 มิย. ขายออกไป 20% ที่ราคา 14.4820 ขาดทุน 6.37%
ทะยอยรับกลับ 8,9,15,16 และเพิ่มเงินเข้าไปอีก 20% ทำให้ต้นทุนเฉลี่ย 15.2219
วันที่ 23 กค. ขายออกไป 16.67% ที่ราคา 15. 5794 ค่ะ เริ่มมีกำไรนิหน่อย เพื่อลดการขาดทุนช่วงแรกนะคะ
แล้วทะยอยรับกลับ วันที่ 31 กค. 2 สค. ด้วยเงินที่ขายไป+เงินเพิ่มอีก 10% ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเหลือ 14.27 ค่ะ
ใจความสำคัญคือ อย่าตกใจ อย่าท้อแท้ ให้ตั้งสติ ค่อยๆ ปรับแต่งพอร์ตของเราไปค่ะ ที่ทำได้เพราะเราจดจำนวนหน่วย
ราคาทุน แล้วก็มาดูราคาปัจจุบัน ค่อยๆ วางแผนจะขายแค่ไหน ขายช่วงไหน ซื้อช่วงไหน ถ้ามันรีบาวน์มากก็ขายไป
ตกมากๆ ค่อยซื้อ ต้นทุนลดลงได้แน่นอนค่ะ เราทำมาแล้วค่ะ
อย่าตกใจหรือชะล่าใจ ปล่อยให้ราคาตกไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมาดู อ้าว แย่แล้วขายหมดเลย ขาดทุนมากมายค่ะ
เหมือนเราปลูกต้นไม้ ถ้าไม่หมั่นพรวนดิน เก็บกวาด ถอนวัชชพืช มันก็จะกลายเป็นสวนที่รกรุงรัง ต้นไม้ที่เราปลูกก็ไม่โต
ไม่สามารถให้ดอกผลได้ เผลอเราก็ต้องจ้างคนมาตัดทิ้งหมด เพราะกลัวงู ทำนองนี้ค่ะ
กองทีโลว์เบต้า ของธนชาติอยู่
เมื่อวันที่ 20 มิย. ทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 15.4680
27 มิย. ขายออกไป 20% ที่ราคา 14.4820 ขาดทุน 6.37%
ทะยอยรับกลับ 8,9,15,16 และเพิ่มเงินเข้าไปอีก 20% ทำให้ต้นทุนเฉลี่ย 15.2219
วันที่ 23 กค. ขายออกไป 16.67% ที่ราคา 15. 5794 ค่ะ เริ่มมีกำไรนิหน่อย เพื่อลดการขาดทุนช่วงแรกนะคะ
แล้วทะยอยรับกลับ วันที่ 31 กค. 2 สค. ด้วยเงินที่ขายไป+เงินเพิ่มอีก 10% ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเหลือ 14.27 ค่ะ
ใจความสำคัญคือ อย่าตกใจ อย่าท้อแท้ ให้ตั้งสติ ค่อยๆ ปรับแต่งพอร์ตของเราไปค่ะ ที่ทำได้เพราะเราจดจำนวนหน่วย
ราคาทุน แล้วก็มาดูราคาปัจจุบัน ค่อยๆ วางแผนจะขายแค่ไหน ขายช่วงไหน ซื้อช่วงไหน ถ้ามันรีบาวน์มากก็ขายไป
ตกมากๆ ค่อยซื้อ ต้นทุนลดลงได้แน่นอนค่ะ เราทำมาแล้วค่ะ
อย่าตกใจหรือชะล่าใจ ปล่อยให้ราคาตกไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมาดู อ้าว แย่แล้วขายหมดเลย ขาดทุนมากมายค่ะ
เหมือนเราปลูกต้นไม้ ถ้าไม่หมั่นพรวนดิน เก็บกวาด ถอนวัชชพืช มันก็จะกลายเป็นสวนที่รกรุงรัง ต้นไม้ที่เราปลูกก็ไม่โต
ไม่สามารถให้ดอกผลได้ เผลอเราก็ต้องจ้างคนมาตัดทิ้งหมด เพราะกลัวงู ทำนองนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
[กระทู้มุงกองทุน] วันหยุด เสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2556 ช่วยตัวประกันบนดอย 1600
(ชื่อพี่ต๊อตโต๊ะ เป็นคนตั้งครับ)
http://ppantip.com/topic/30606804/comment29-2
ขอเอามาปรับปรุงใหม่
เพราะคิดว่า น่าจะเป็นแนวคิดให้เพื่อนๆ ที่ยังติดอยู่ได้ครับ ต้องปรับปรุงตัวเลขด้วยครับ
เพราะตอนนี้ ดัชนี หล่นลงอีกเลเวล หนึ่งแล้ว
ช่วยตัวประกันบนดอย 1600
สมมุติว่าเราติดอยู่ที่ 1600 เป็นเงิน 100 บาท
ถ้าเราถือไว้เฉยดัชนีอยู่ที่ 1300 เราจะขาดทุนประมาณ -24%
แต่ถ้าเราขายที่ 1400 เราจะขาดทุนประมาณ 14.29%
ถ้าดัชนีเด้งขึ้นไป +/- 1400 ให้เราขายออกมา 50 บาท (เท่ากับเราขาดทุน -7.14%)
1 ดัชนีลงไปที่ 1300 ให้เราซื้อกลับด้วยเงิน 25 บาท
1.1 ถ้าดัชนีเด้งลงไปอีกที่ 1200 ให้เราซื้อด้วยเงินอีก 25 บาท ที่เหลือ เท่ากับ เรามีต้นทุน 1200=25 บาท/1300=25 บาท
1.1.1 ถ้าดัชนีเด้งกลับไปที่ 1300 ให้เราขายต้นทุนที่ 1200 ออกมา 25 บาท
1.1.2 ถ้าดัชนีเด้งกลับไปที่ 1400 ให้เราขายต้นทุนที่ 1300 ออกมา 25+ดอยที่เหลือ 50 บาท
1.2 ถ้าดัชนีกลับขึ้นไปที่ 1400 ให้เราขายออกมา 25 บาท ที่ต้นทุน 1300+ขายบนดอยที่เหลืออีก 50 บาทด้วย (เท่ากับตอนนี้เรามีเงินสด 100 บาท)
1.2.1 ถ้าดัชนีลงไปที่ 1300 ให้เราซื้อด้วยเงิน 60 บาท รอให้เด้งขึ้นไปที่ 1400 ให้เราขายออกมา 40 บาท (เหลือติดพอร์ตให้วิ่งต่อ 20 บาท)
1.2.2 ถ้าดัชนีลงไปอีก 1200 ให้เราซื้อด้วยเงิน 40 บาท (เท่ากับตอนนี้เรามีต้นทุน 1300=60 บาท/1200=40 บาท)
ข้อดี คือ เราสามารถเล่นได้ทั้งตลาดขาขึ้น และขาลง เราเล่นไปเรื่อยๆ จะทำให้เราหลุดดอยได้ครับ
ถ้ามันหลุดไปถึง 1100 ผมว่า vi ทนไม่ได้แล้วครับ เพราะปี 58 เราจะเป็น aec เหลือเวลาปีกว่า vi อมหุ้นได้สบายมาก
ตัวอย่างเช่นตอนนี้ advanc ราคา 241 บาท เท่ากับปันผลประมาณ 5% แล้ว
VA แบบบ้านๆ
สำหรับคนที่ลงทุกเดือนแบบ dca ผมอยากให้ลองใช้ va แบบบ้านๆ http://ppantip.com/topic/30795906
ขอลอกมาเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเขียนใหม่
สมมุติว่าเราลงทุนทุกเดือน ในวันที่ 30 เดือนละ 1 หมื่น เดือนแรก nav 10 บาท เท่ากับเราได้หน่วย 1000 หน่วย มูลค่าเงิน 10000 บาท
กรณีที่ 1
5.2 เดือนที่สองในวันที่ 29 nav ลดลงเหลือ 9 บาท (เท่ากับพอร์ตเรามีมูลค่า 9 บาท x 1000 หน่วย = 9000 บาท) ให้เราซื้อ 11000 บาท
เท่ากับ มูลค่าพอร์ตเราคือ 20000 บาท ได้หน่วย 1222 หน่วย/เดือนนี้+1000 หน่วย/เดือนก่อน = 2222 หน่วย
(ในกรณีที่วันเราซื้อหุ้นขึ้นหรือลงสักเล็กน้อย ก็ทำให้คลาดเคลื่อนไปบ้าง)
กรณีที่ 2
5.2 เดือนที่สองในวันที่ 29 nav เพิ่มขึ้น เป็น 12 บาท (เท่ากับมูลค่าเงินในพอร์ตของเราคือ 12x1000=12000 บาท) วันที่ 30 ให้เราซื้อ 8 พันบาท
เราจะได้หน่วย 667 หน่วย/เดือนนี้ + 1000 หน่วย/เดือนก่อน =1667 หน่วย
ข้อดีของวิธีนี้คือ
เวลาตลาดขึ้นสูง เราจะถ่วงน้ำหนักลงทุนน้อยลง
(ซึ่งถ้าเราทำไปได้สักระยะ เวลาตลาดขึ้น ระบบ จะให้เราจะขายหน่วยออกมาบ้างเป็นการล็อคกำไร)
เวลาตลาดลง เราจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนได้มากขึ้น และเราไม่ต้องเดาตลาด เพราะระบบจะถ่วงน้ำหนักให้เราเอง
แล้วถ้ามันลงไปเรื่อยๆ เราก็ต้องเติมเงินเพื่มไปตลอดจนเราเติมไม่ไหว
ถ้าเป็นกรณี นี้ ให้เพื่อนๆ กำหนดลิมิตไว้ครับ เช่นกำหนดไว้ที่ 2 หมื่น/งวด เช่นงวดนี้ลงจนต้องเติม 2.4 หมื่น
ให้เราลงแค่ 2 หมื่น พอ (คือเปลี่ยนมาใช้ dca แทน) ผสมสองวิธีเข้าด้วยกัน ถ้างวดไหนน้อยกว่า 2 หมื่น เราก็ใช้ va แทน
ขอให้หลุดดอยกันไวๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้