เราไม่เคยคิดเคยฝันหรอกค่ะว่า วันนึงเราจะได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เมือง Stavanger (ออกเสียงว่า สะ ตา วาง ง่ะ) ประเทศ นอร์เวย์ เพราะหลังจากที่เราเรียนจบ ผ่านการเข้าร่วมโครงการ work and travel ที่อเมริกา เราก็กลับมาทำงานที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งที่จังหวัดกระบี่ ทำงานตามสายงานที่เราเรียนมา เวลาผ่านไปเกือบปีเราก็เริ่มเบื่อ และอยากที่จะกลับไปอเมริกาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราคิดว่าจะไปเป็นออแพร์ เราชอบอเมริกา เพราะต้องบอกเลยนะคะว่าหลังจากที่เราไปเวิร์คแอนแทรเวลมา ภาษาของเราเก่งขึ้นมากพอสมควร เราถึงอยากจะไปฝึกฝนให้เก่งมากขึ้นอีก เราก็เลยเริ่มดำเนินการสมัครตามเอเจนซี่ทันที ในขณะนั้นเราก็ยังทำงานที่โรงแรมต่อไป
ขณะที่เราทำงานที่โรงแรม เราก็มีหน้าที่พิเศษอีกอย่างคือ เป็น เบบี้ซิสเตอร์ ให้กับทางโรงแรม อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นเราชอบเล่นกับเด็ก รักเด็กประหนึ่งนางงามกระมัง ฮ่าๆๆๆ ตอนนั้นเราเป็นเบบี้ซิสเตอร์ให้กับครอบครัวที่มาพักที่โรงแรมมากมายหลายเชื้อชาติมากค่ะ แล้วเรื่องของโชคชะตาก็เกิดขึ้น เมื่อมีครอบครัวนึงจากนอร์เวย์มาพักที่โรงแรมประมาณสามอาทิตย์ ครอบครัวนี้ขอเบบี้ซิสเตอร์ที่คิดว่ามีประสบการณ์ที่สุด และมีใบ certificate ด้วย และจะขอสัมภาษณ์ก่อน แน่ะ! ค่อนข้างเรื่องเยอะมากค่ะ แขกห้องนี้ ทางโรงแรมก็เลยส่งเราไปเป็นตัวตายตัวแทน บอกตามตรงนะคะ เราไม่มีใบรับรองอะไรทั้งนั้นค่ะ เพียงแค่ตอนนั้น ทางโรงแรมรู้ว่าเรากำลังดำเนินการเรื่องการไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา ซึ่งความจริงเราพึ่งจ่ายค่าสมัคร และก็พึ่งตรวจสุขภาพไปเอง ยังทำเรื่องไม่ได้ถึงไหนเลยค่ะ …..เราก็บอกเขาตามตรงว่าเราไม่มีใบอะไรทั้งนั้นนะ แต่กำลังจะไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา เขาก็บอก เขาก็กำลังมองหาออแพร์เหมือนกัน เราก็ไม่ได้สนใจหรอกค่ะ เพราะตอนนั้นใจอยู่อเมริกานู่นนนน ………..ตกลงเราก็ได้เลี้ยงเด็กให้แขกห้องนี้ตลอดระยะเวลาที่เหลือที่แขกพักที่โรงแรม และก่อนกลับเขาก็ทิ้งอีเมลล์ไว้ ว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจ เธอเมลล์หาเรานะ เราก็ได้แต่ โอเค โอเค
และอีเมลล์นั้นก็ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานหลายเดือน จนในที่สุดความอดทนในการดำเนินการ ที่มากมายหลายขั้นตอนของการไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาก็ได้หมดลง ตอนนั้นเราเบื่อและเราก็เหนื่อยมาก เราก็เลยนั่งทบทวนดูว่า เรากำลังทำอะไร ต้องการอะไร แล้วเราก็ได้พบคำตอบว่า ทำไมเราไม่เลือกทำในสิ่งที่ง่ายกว่า ที่ๆ โอกาสรอเราอยู่แล้ว เรายึดติดแค่คำว่าอเมริการเหรอ? เธอเคยไปมาแล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเธออยากเห็นโลกใบนี้ให้กว้างขึ้น ทำไมเธอไม่มองให้กว้าง เลือกสิ่งที่ง่ายและรอเธออยู่ล่ะ ? พอเราคิดได้ …แค่นั้นแหละเราก็หันหัวเรือจากอเมริกามาที่ยุโรปทันที ฮ่าๆๆ ..ตอนที่เราบอกแม่เราว่า “แม่นิ่มตัดสินใจแล้ว นิ่มจะไปเป็นออแพร์ที่นอร์เวย์” แม่บอกว่า”นอร์เวย์มันอยู่ไหนอ่ะลูก?” โธ่! แม่ก็ T_T แล้วอีเมลล์แรกก็ถูกส่งไปถึงแขกห้องนั้น ซึ่งกลายมาเป็นครอบครัวเราในตอนนี้
เรื่องเล่าของออแพร์ จากนอร์เวย์
ขณะที่เราทำงานที่โรงแรม เราก็มีหน้าที่พิเศษอีกอย่างคือ เป็น เบบี้ซิสเตอร์ ให้กับทางโรงแรม อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นเราชอบเล่นกับเด็ก รักเด็กประหนึ่งนางงามกระมัง ฮ่าๆๆๆ ตอนนั้นเราเป็นเบบี้ซิสเตอร์ให้กับครอบครัวที่มาพักที่โรงแรมมากมายหลายเชื้อชาติมากค่ะ แล้วเรื่องของโชคชะตาก็เกิดขึ้น เมื่อมีครอบครัวนึงจากนอร์เวย์มาพักที่โรงแรมประมาณสามอาทิตย์ ครอบครัวนี้ขอเบบี้ซิสเตอร์ที่คิดว่ามีประสบการณ์ที่สุด และมีใบ certificate ด้วย และจะขอสัมภาษณ์ก่อน แน่ะ! ค่อนข้างเรื่องเยอะมากค่ะ แขกห้องนี้ ทางโรงแรมก็เลยส่งเราไปเป็นตัวตายตัวแทน บอกตามตรงนะคะ เราไม่มีใบรับรองอะไรทั้งนั้นค่ะ เพียงแค่ตอนนั้น ทางโรงแรมรู้ว่าเรากำลังดำเนินการเรื่องการไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา ซึ่งความจริงเราพึ่งจ่ายค่าสมัคร และก็พึ่งตรวจสุขภาพไปเอง ยังทำเรื่องไม่ได้ถึงไหนเลยค่ะ …..เราก็บอกเขาตามตรงว่าเราไม่มีใบอะไรทั้งนั้นนะ แต่กำลังจะไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา เขาก็บอก เขาก็กำลังมองหาออแพร์เหมือนกัน เราก็ไม่ได้สนใจหรอกค่ะ เพราะตอนนั้นใจอยู่อเมริกานู่นนนน ………..ตกลงเราก็ได้เลี้ยงเด็กให้แขกห้องนี้ตลอดระยะเวลาที่เหลือที่แขกพักที่โรงแรม และก่อนกลับเขาก็ทิ้งอีเมลล์ไว้ ว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจ เธอเมลล์หาเรานะ เราก็ได้แต่ โอเค โอเค
และอีเมลล์นั้นก็ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานหลายเดือน จนในที่สุดความอดทนในการดำเนินการ ที่มากมายหลายขั้นตอนของการไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาก็ได้หมดลง ตอนนั้นเราเบื่อและเราก็เหนื่อยมาก เราก็เลยนั่งทบทวนดูว่า เรากำลังทำอะไร ต้องการอะไร แล้วเราก็ได้พบคำตอบว่า ทำไมเราไม่เลือกทำในสิ่งที่ง่ายกว่า ที่ๆ โอกาสรอเราอยู่แล้ว เรายึดติดแค่คำว่าอเมริการเหรอ? เธอเคยไปมาแล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเธออยากเห็นโลกใบนี้ให้กว้างขึ้น ทำไมเธอไม่มองให้กว้าง เลือกสิ่งที่ง่ายและรอเธออยู่ล่ะ ? พอเราคิดได้ …แค่นั้นแหละเราก็หันหัวเรือจากอเมริกามาที่ยุโรปทันที ฮ่าๆๆ ..ตอนที่เราบอกแม่เราว่า “แม่นิ่มตัดสินใจแล้ว นิ่มจะไปเป็นออแพร์ที่นอร์เวย์” แม่บอกว่า”นอร์เวย์มันอยู่ไหนอ่ะลูก?” โธ่! แม่ก็ T_T แล้วอีเมลล์แรกก็ถูกส่งไปถึงแขกห้องนั้น ซึ่งกลายมาเป็นครอบครัวเราในตอนนี้