" CSS เคาะราคา IPO ที่ 3 บ. ให้ส่วนลด 49.80% เปิดขาย 26-28 ส.ค. เทรด 3 ก.ย. นี้"
CSS เคาะราคา IPO ที่ 3 บ. ให้ส่วนลด 49.80% เปิดขาย 26-28 ส.ค. เทรด 3 ก.ย. นี้ แกนนำฯ มองราคา IPO เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน แถมโรดโชว์ 4 จ. กระแสตอบรับดี ระบุมั่นใจหุ้น ยืนเหนืองราคาจองที่ 3 บ. เหตุราคามีส่วนลด 49% แถมตั้งราคาเหมาะสมกับภาวะ
"สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" เผยช่วง 3เดือน หลังลงกระดาน ไม่มีแผนขายหุ้นที่ไม่ติดไซเรนต์พีเรียดออก คาดกำไร-รายได้ครึ่งปีหลัง ดีกว่าครึ่งปีแรก หลังตุนงานล้นมือ คาด3-5 ปี รายได้เติบโต 15% ต่อปี มองอุตฯ เติบโต-ปีหน้าพร้อมตั้งเสาในพม่า
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด(มหาชน)CSS เปิดเผยว่ากำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้(พาร์ ) 0.5บาทในราคาหุ้นละ 3 บาทโดยมีส่วนลดให้นักลงทุน 49.80% โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นวันที่ 26-27 สิงหาคม นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 3 กันยายน2556
ทั้งนี้ประเมิน ระดับราคาIPO ที่ 3 บาทถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเมื่อเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหมวดพาณิชย์และบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันในช่วงเวลา 3 เดือน ซึ่งอยู่ที่ 25.50 เท่า
ขณะที่จากการไปโรดโชว์ 4 จังหวัด ได้แก่ ที่หาดใหญ่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ได้รับการตอบรับจากนักลวทุนดีมาก คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
พร้อมกันนี้ มั่นใจราคาหุ้น CSS จะยืนหนือราคาจองIPO ที่ 3 บาท ได้ เนื่องจากการตั้งราคา IPO มีส่วนลดให้นักลงทุนถึง 49% ขณะที่การตั้งราคา IPO มีความเหมาะสมกันภาวะตลาดที่ระดับดัชนีฯ ณ ปัจจุบัน ที่ 1300 จุด
สำหรับการปรับเกณฑ์ของ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ที่กำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เร็วขึ้น จากเดิมเข้าซื้อขาย 4 วัน หลังจากขายหุ้น มาเป็นเข้าซื้เอขายภายใน 3 วันหลังจากขายหุ้น มองว่ามีเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถือหุนให้นักลงทุน และเป็นการเพิ่มใสภาพคล่องให้นักลงทุน ซึ่งโดยส่วนตัวให้ความสนับสนุน
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น(CSS) เปิดเผยว่า หลังบริษัทฯเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯจะไม่ขายหุ้น ที่ไม่ติดไซเรนต์พีเรียดออกขายในตลาดฯ เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จะคงสัดส่วนการถือหุ้นใน CSS 100%
ทั้งนี้บริษัทฯ มีหุ้นสามัญทั้งหมด 700 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป 190 ล้านหุ้น ให้กรรมการและผู้บริหารรวมทั้งพนักงาน 10 ล้านหุ้น ส่วนอีก 500 ล้านหุ้น เป็นหุ้นเดิมซึ่งผู้บริหารยังถือ 100% ส่วนกลุ่ม"กังสวิวัฒน์" ถือ 46% ใน 500 ล้านหุ้น
ขณะที่ คาดกำไรสุทธิและรายได้ของบริษัทฯ ช่วงครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรอยู่ที่ 60 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมจากผู้ประกอบการค่ายมือถือเป็นจำนวนมาก ประกอบกับช่วงครึ่งปีหลังจะมีงานมากกว่าครึ่งปีแรก ส่วนธุรกิจ Trading จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ปี2555 บริษัทฯมีกำไรอยู่ที่ 158 ล้านบาทและมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,300 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นธุรกิจคมนาคม 20% และธุรกิจ Trading 80%
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ โดยเชื่อว่าธุรกิจจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของผู้รับเหมาเพื่อติดตั้งเสาโทรคมนาคมยังมีอยู่อีกมากตามการขยายตัวของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
นอกจากนี้ยังมีงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมต่างประเทศที่บริษัทฯเตรียมจะเข้าไปรับงานในช่วงปีหน้าที่ประเทศพม่า คาดว่าจะติดตั้งเสาต้นแรกได้ในปีหน้าอย่างแน่นอน
http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=212183 
CSS เคาะราคา IPO ที่ 3 บ. ให้ส่วนลด 49.80%
CSS เคาะราคา IPO ที่ 3 บ. ให้ส่วนลด 49.80% เปิดขาย 26-28 ส.ค. เทรด 3 ก.ย. นี้ แกนนำฯ มองราคา IPO เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน แถมโรดโชว์ 4 จ. กระแสตอบรับดี ระบุมั่นใจหุ้น ยืนเหนืองราคาจองที่ 3 บ. เหตุราคามีส่วนลด 49% แถมตั้งราคาเหมาะสมกับภาวะ
"สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" เผยช่วง 3เดือน หลังลงกระดาน ไม่มีแผนขายหุ้นที่ไม่ติดไซเรนต์พีเรียดออก คาดกำไร-รายได้ครึ่งปีหลัง ดีกว่าครึ่งปีแรก หลังตุนงานล้นมือ คาด3-5 ปี รายได้เติบโต 15% ต่อปี มองอุตฯ เติบโต-ปีหน้าพร้อมตั้งเสาในพม่า
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด(มหาชน)CSS เปิดเผยว่ากำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้(พาร์ ) 0.5บาทในราคาหุ้นละ 3 บาทโดยมีส่วนลดให้นักลงทุน 49.80% โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นวันที่ 26-27 สิงหาคม นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 3 กันยายน2556
ทั้งนี้ประเมิน ระดับราคาIPO ที่ 3 บาทถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเมื่อเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหมวดพาณิชย์และบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันในช่วงเวลา 3 เดือน ซึ่งอยู่ที่ 25.50 เท่า
ขณะที่จากการไปโรดโชว์ 4 จังหวัด ได้แก่ ที่หาดใหญ่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ได้รับการตอบรับจากนักลวทุนดีมาก คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
พร้อมกันนี้ มั่นใจราคาหุ้น CSS จะยืนหนือราคาจองIPO ที่ 3 บาท ได้ เนื่องจากการตั้งราคา IPO มีส่วนลดให้นักลงทุนถึง 49% ขณะที่การตั้งราคา IPO มีความเหมาะสมกันภาวะตลาดที่ระดับดัชนีฯ ณ ปัจจุบัน ที่ 1300 จุด
สำหรับการปรับเกณฑ์ของ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ที่กำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เร็วขึ้น จากเดิมเข้าซื้อขาย 4 วัน หลังจากขายหุ้น มาเป็นเข้าซื้เอขายภายใน 3 วันหลังจากขายหุ้น มองว่ามีเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถือหุนให้นักลงทุน และเป็นการเพิ่มใสภาพคล่องให้นักลงทุน ซึ่งโดยส่วนตัวให้ความสนับสนุน
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น(CSS) เปิดเผยว่า หลังบริษัทฯเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯจะไม่ขายหุ้น ที่ไม่ติดไซเรนต์พีเรียดออกขายในตลาดฯ เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จะคงสัดส่วนการถือหุ้นใน CSS 100%
ทั้งนี้บริษัทฯ มีหุ้นสามัญทั้งหมด 700 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป 190 ล้านหุ้น ให้กรรมการและผู้บริหารรวมทั้งพนักงาน 10 ล้านหุ้น ส่วนอีก 500 ล้านหุ้น เป็นหุ้นเดิมซึ่งผู้บริหารยังถือ 100% ส่วนกลุ่ม"กังสวิวัฒน์" ถือ 46% ใน 500 ล้านหุ้น
ขณะที่ คาดกำไรสุทธิและรายได้ของบริษัทฯ ช่วงครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรอยู่ที่ 60 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมจากผู้ประกอบการค่ายมือถือเป็นจำนวนมาก ประกอบกับช่วงครึ่งปีหลังจะมีงานมากกว่าครึ่งปีแรก ส่วนธุรกิจ Trading จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ปี2555 บริษัทฯมีกำไรอยู่ที่ 158 ล้านบาทและมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,300 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นธุรกิจคมนาคม 20% และธุรกิจ Trading 80%
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ โดยเชื่อว่าธุรกิจจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของผู้รับเหมาเพื่อติดตั้งเสาโทรคมนาคมยังมีอยู่อีกมากตามการขยายตัวของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
นอกจากนี้ยังมีงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมต่างประเทศที่บริษัทฯเตรียมจะเข้าไปรับงานในช่วงปีหน้าที่ประเทศพม่า คาดว่าจะติดตั้งเสาต้นแรกได้ในปีหน้าอย่างแน่นอน
http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=212183