วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องความรักของตายาย ปู่ย่ของเรา เราเป็นเด็กที่โตมาแบบจะเชื่อว่ารักแท้มีจริงดีไหม ก็พ่อแม่เล่นหย่ากันตั้งแต่เราเด็กๆทั้งที่อยู่กินกันมาเป็นสิบปี แต่พอเราโต แล้วมองไปที่ปู่ย่า ตายาย ก็เลยรู้ว่ารักแท้มีอยู่จริง
ของเริ่มจากเรื่องปู่-ย่าก่อนดีกว่า
ตระกูลของปู่ย่าเรายากจน เป็นคนลาวเดินทางอพยพมาจากทางเวียงนานแล้ว (ตั้งแต่รุ่นพ่อของทวด) มีลูกหลนเยอะ ย่าเราป่วยเป็นเบาหวาน ในวาระสุดท้าย ย่าเราต้องเสียบที่ช่วยหายใจตลอดเวลา และอยู่ห้องพิเศษไม่ได้ ปู่เราอายุมากแล้ว ก็ไปนอนเฝ้าย่าที่ห้องรวม พอหมดเวลาเยี่ยมก็นั่งเฝ้ามองย่าจากหน้าห้อง แม้ลูกหลนจะบอกให้กลับแกก็ไม่กลับ ปู่บอกว่าไม่รู้ว่าย่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ อยากเก็บช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกันให้นานที่สุด สรุปบ้านเราก็เลยนั่งมันหน้าห้องทั้งบ้าน จนพยาบาลต้องมาไล่กลับไปบางส่วน(อยู่ทั้งตระกูลฝ่ายพ่อ) แล้วก็สลับกันมาอยู่เป็นเพื่อนปู่ กับย่า วันที่ย่าเสีย ปู่กุมมือย่าจนวินาทีสุดท้าย วันนั้นเราติดสอบจึงไม่ได้ไป ย่าลืมตาขึ้นมาครั้งสุดท้ายให้ลูกหลานได้กล่าวลา และขออโหสิกรรม และฟังคำบอกรักจากปู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไปอย่างสงบ
ทุกวันนี้ลูกหลานอย่างเราก็ผลัดกันไปนอนเป็นเพื่อนปู่ที่บ้านของท่าน แม้ย่าจะจากมาเกือบสิบปีแล้ว แต่ปู่ก็ยังคงไม่เคยลืมย่าแม้แต่วันเดียว ปู่หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ย่าอยู่ทุกวัน ทุกวันพระก็ไปถือศีล อุทิศส่วนกุศลให้แก่ย่า เราว่าท่านคงกำลังรอเวลาที่สักวันหนึ่งที่ท่านจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งอยู่แน่ๆ
นอกประเด็น... กับย่าเรารักท่านมากๆ มีครั้งหนึ่งสมัยเราเด็กๆบ้านพ่อเรา ไกลกับบ้านที่ย่าอยู่ พ่อเล่าให้ฟังว่าเรางอแง อยากกลับมาหาพ่อและแม่ ย่าจึงจับเราใส่ชะลอม หรืออะไรสักอย่าง(เรียกไม่ถูก) แล้วหาบเราเดินมา ตั้งแต่เที่ยง มาถึงบ้านเราก็จะมืดแล้ว พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ว่าตัวเองทุกที ทำไมต้องอแงด้วยนะ
ต่อมาเรื่องตาและยาย
ตอนนี้ตาและยายเรายังอยู่ทั้งคู่ แต่ก็ไม้ใกล้ฝั่งเต็มที แต่ทุกคนมองว่าตายังแข็งแรงกว่ายายนัก ยายทำอะไรหนักไม่ได้แล้ว นอนทั้งวัน ทำอะไรนิดหน่อยก็หน้ามืดเวียนหัว เมื่อวันก่อนยายไปทำผมมา แล้วกลับมาหน้ามืด อาเจียนพร้อมกับถ่ายหนัก ตาเราก็มาเช็ดอุจจาระ เช็ดอาเจียน เช็ดปัสสวะให้ยาย เมื่อตกเย็น ก็พายายไปอาบน้ำ โดยที่ตาอุ้มไป
มันก็ดูน่ารัก และท่านรักกันดี แต่ทั้งบ้านไม่มีใครรู้เลย นอกจากเรา พี่สาวเรา และน้าที่เป็นพยาบาลเพราะตาขอให้ปิดไว้ ไม่อยากให้ยายที่ป่วยอยู่เป็นกังวล ตาเราน้ำในกระดุกสันหลังเยอะ กำลังจะผ่าตัดอาทิตย์นี้ ทั้งๆที่ตาก็คงเวียนหัว ปวดหลังเหมือนกัน แต่ตาก็ทำตัวให้ดูเข้มแข็ง ดูแลยาย อุ้มยายไปอาบน้ำ เช็ดตัวให้ เราว่ามันเป็นรักที่ยิ่งใหญ่มาก
เรามองภาพตา-ยาย และย้อนนึกถึงภาพปู่-ย่า ในวันวาน แล้วหันมามองความรักของตนเองที่เพิ่งก่อรากสร้างฐานได้เพียงไม่กี่ปี จะไปได้ถึงไหนกันนะ อีกสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เขาจะยังดูแลและรักเราเหมือนในวันนี้หรือไม่ อยากให้ความรักที่เรามีในวันนี้ ยืนยาวเหมือนรักของตาและยาย ปู่และย่า
ขอให้ทุกคนที่หลงเข้ามา พบเจอรักที่ดี อย่างปู่-ย่า และตา-ยาย ของเราด้วยเถอะค่ะ
รักแบบนี้ ที่ใครๆต่างก็ปราถนา
รักที่เรานั้นปราถนาอยากให้เกิดขึ้นจริง
ของเริ่มจากเรื่องปู่-ย่าก่อนดีกว่า
ตระกูลของปู่ย่าเรายากจน เป็นคนลาวเดินทางอพยพมาจากทางเวียงนานแล้ว (ตั้งแต่รุ่นพ่อของทวด) มีลูกหลนเยอะ ย่าเราป่วยเป็นเบาหวาน ในวาระสุดท้าย ย่าเราต้องเสียบที่ช่วยหายใจตลอดเวลา และอยู่ห้องพิเศษไม่ได้ ปู่เราอายุมากแล้ว ก็ไปนอนเฝ้าย่าที่ห้องรวม พอหมดเวลาเยี่ยมก็นั่งเฝ้ามองย่าจากหน้าห้อง แม้ลูกหลนจะบอกให้กลับแกก็ไม่กลับ ปู่บอกว่าไม่รู้ว่าย่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ อยากเก็บช่วงเวลาสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกันให้นานที่สุด สรุปบ้านเราก็เลยนั่งมันหน้าห้องทั้งบ้าน จนพยาบาลต้องมาไล่กลับไปบางส่วน(อยู่ทั้งตระกูลฝ่ายพ่อ) แล้วก็สลับกันมาอยู่เป็นเพื่อนปู่ กับย่า วันที่ย่าเสีย ปู่กุมมือย่าจนวินาทีสุดท้าย วันนั้นเราติดสอบจึงไม่ได้ไป ย่าลืมตาขึ้นมาครั้งสุดท้ายให้ลูกหลานได้กล่าวลา และขออโหสิกรรม และฟังคำบอกรักจากปู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไปอย่างสงบ
ทุกวันนี้ลูกหลานอย่างเราก็ผลัดกันไปนอนเป็นเพื่อนปู่ที่บ้านของท่าน แม้ย่าจะจากมาเกือบสิบปีแล้ว แต่ปู่ก็ยังคงไม่เคยลืมย่าแม้แต่วันเดียว ปู่หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ย่าอยู่ทุกวัน ทุกวันพระก็ไปถือศีล อุทิศส่วนกุศลให้แก่ย่า เราว่าท่านคงกำลังรอเวลาที่สักวันหนึ่งที่ท่านจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งอยู่แน่ๆ
นอกประเด็น... กับย่าเรารักท่านมากๆ มีครั้งหนึ่งสมัยเราเด็กๆบ้านพ่อเรา ไกลกับบ้านที่ย่าอยู่ พ่อเล่าให้ฟังว่าเรางอแง อยากกลับมาหาพ่อและแม่ ย่าจึงจับเราใส่ชะลอม หรืออะไรสักอย่าง(เรียกไม่ถูก) แล้วหาบเราเดินมา ตั้งแต่เที่ยง มาถึงบ้านเราก็จะมืดแล้ว พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ว่าตัวเองทุกที ทำไมต้องอแงด้วยนะ
ต่อมาเรื่องตาและยาย
ตอนนี้ตาและยายเรายังอยู่ทั้งคู่ แต่ก็ไม้ใกล้ฝั่งเต็มที แต่ทุกคนมองว่าตายังแข็งแรงกว่ายายนัก ยายทำอะไรหนักไม่ได้แล้ว นอนทั้งวัน ทำอะไรนิดหน่อยก็หน้ามืดเวียนหัว เมื่อวันก่อนยายไปทำผมมา แล้วกลับมาหน้ามืด อาเจียนพร้อมกับถ่ายหนัก ตาเราก็มาเช็ดอุจจาระ เช็ดอาเจียน เช็ดปัสสวะให้ยาย เมื่อตกเย็น ก็พายายไปอาบน้ำ โดยที่ตาอุ้มไป
มันก็ดูน่ารัก และท่านรักกันดี แต่ทั้งบ้านไม่มีใครรู้เลย นอกจากเรา พี่สาวเรา และน้าที่เป็นพยาบาลเพราะตาขอให้ปิดไว้ ไม่อยากให้ยายที่ป่วยอยู่เป็นกังวล ตาเราน้ำในกระดุกสันหลังเยอะ กำลังจะผ่าตัดอาทิตย์นี้ ทั้งๆที่ตาก็คงเวียนหัว ปวดหลังเหมือนกัน แต่ตาก็ทำตัวให้ดูเข้มแข็ง ดูแลยาย อุ้มยายไปอาบน้ำ เช็ดตัวให้ เราว่ามันเป็นรักที่ยิ่งใหญ่มาก
เรามองภาพตา-ยาย และย้อนนึกถึงภาพปู่-ย่า ในวันวาน แล้วหันมามองความรักของตนเองที่เพิ่งก่อรากสร้างฐานได้เพียงไม่กี่ปี จะไปได้ถึงไหนกันนะ อีกสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เขาจะยังดูแลและรักเราเหมือนในวันนี้หรือไม่ อยากให้ความรักที่เรามีในวันนี้ ยืนยาวเหมือนรักของตาและยาย ปู่และย่า
ขอให้ทุกคนที่หลงเข้ามา พบเจอรักที่ดี อย่างปู่-ย่า และตา-ยาย ของเราด้วยเถอะค่ะ
รักแบบนี้ ที่ใครๆต่างก็ปราถนา