หมอจีน...อนาคตของการดูแลสุขภาพ
เมื่อกล่าวถึงอาชีพหมอ หลายคนคงจินตนาการภาพชายหญิงในชุดกราวด์ พูดจาฉะฉาน คล้องคอด้วยอุปกรณ์ฟังเสียงหัวใจ ลักษณะเช่นนี้เป็นหมอแผนปัจจุบัน แต่ยังมีหมออีกประเภทหนึ่ง สวมชุดกาวน์เช่นกัน แต่มิได้มีStethoscopeอยู่ที่คอ หากเป็นหมอมือเปล่า อุปกรณ์หลักคือมือทั้งสองข้าง กับเข็มเล็กๆในกล่องพลาสติดปลอดเชื้ออย่างดี หมอประเภทนี้เราเรียกติดปากว่าหมอจีน
ในโลกที่การแพทย์ตะวันตกถูกนับว่ามีอิทธิพลในการดูแลสุขภาพมนุษย์ แต่บ่อยครั้งโรคที่พบเจอบางโรคกลับไม่อาจแก้ไขได้ กลับกลายเป็นการบรรเทาอาการโดยกินยาติดต่อกันเป็นเวลานาน เมื่อคนไข้รู้สึกว่าโรคที่เป็นมิอาจรักษาให้หายขาด จึงกล้าเสี่ยงใช้การดูแลสุขภาพรูปแบบอื่น บ้างกินยาผีบอก บ้างแสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่การรักษาที่ก้าวหน้ามากที่สุดนอกจากแพทย์แผนตะวันตกก็คือแพทย์แผนจีน
แพทย์แผนจีนในปัจจุบัน มิใช่การแมะ ฝังเข็ม ให้ยาแบบชาวบ้านอีกต่อไป มีการบูรณาการการรักษาโดยใช้การตรวจโรคแบบแพทย์แผนตะวันตก พิสูจน์โรคโดยห้องทดลอง ใช้ผลการตรวจเลือดมาอธิบายสาเหตุของโรค แต่ในขั้นการรักษาจะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมและดูแลในแบบองค์รวม ยกตัวอย่างอาการป่วยไข้จากโรคทั่วไปอย่างหวัด แพทย์ตะวันตก มักใช้วิธีให้ยารักษาที่ตรงกับอาการ พุ่งเป้าแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างเดียว แต่การใช้ยาแบบนี้มิได้คำนึงถึงผลข้างเคียงของการรักษา เช่นผลกระทบต่อตับ สารตกค้างในร่างกาย และระดับหรือชนิดของการใช้ยาตามแต่ละบุคคล ตรงกันข้ามแพทย์จีนจะพิจารณาร่างกายของผู้ป่วยในแบบองค์รวม ทั้งสภาพแวดล้อมอยู่ที่อาศัย ระดับอารมณ์ รวมถึงสมดุลร่างกาย เป็นต้น แล้วจึงเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยที่หายจากโรคจึงมีแนวโน้มดำรงระยะเวลาของภูมิต้านทานและสุขภาพแข็งแรงที่ยาวนานกว่า (Fritjof Capra, The Turning Point, 1982)
คำอธิบายข้างต้นไม่ได้ต้องการโจมตีวิธีการของแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะถือว่ามีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติในการช่วยชีวิต แต่เพียงชี้ให้เห็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ซึ่งหลายครั้งเรามองข้ามไปโดยมิได้รู้ว่าของดีอยู่ใกล้ตัว คนที่ทำงานด้านศาสตร์สุขภาพแพทย์จีนในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความรู้ความสามารถสูง ดูแลรักษาคนไข้หลากหลายและมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืมให้โอกาสตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการนะครับ การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษานะครับ
บทความโดย ก.ต.
ตรวจทานโดย Dr. ตี๋
รูปน่ารักๆ โดย PaperPin
ติดตาม กดไลท์ หรือแชร์ บทความดีๆ ที่เพจ Dr ตี๋ แพทย์จีน ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/Dr-%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/1396470143908446
หมอจีน...อนาคตของการดูแลสุขภาพ จากเพจ Dr ตี๋ แพทย์จีน
หมอจีน...อนาคตของการดูแลสุขภาพ
เมื่อกล่าวถึงอาชีพหมอ หลายคนคงจินตนาการภาพชายหญิงในชุดกราวด์ พูดจาฉะฉาน คล้องคอด้วยอุปกรณ์ฟังเสียงหัวใจ ลักษณะเช่นนี้เป็นหมอแผนปัจจุบัน แต่ยังมีหมออีกประเภทหนึ่ง สวมชุดกาวน์เช่นกัน แต่มิได้มีStethoscopeอยู่ที่คอ หากเป็นหมอมือเปล่า อุปกรณ์หลักคือมือทั้งสองข้าง กับเข็มเล็กๆในกล่องพลาสติดปลอดเชื้ออย่างดี หมอประเภทนี้เราเรียกติดปากว่าหมอจีน
ในโลกที่การแพทย์ตะวันตกถูกนับว่ามีอิทธิพลในการดูแลสุขภาพมนุษย์ แต่บ่อยครั้งโรคที่พบเจอบางโรคกลับไม่อาจแก้ไขได้ กลับกลายเป็นการบรรเทาอาการโดยกินยาติดต่อกันเป็นเวลานาน เมื่อคนไข้รู้สึกว่าโรคที่เป็นมิอาจรักษาให้หายขาด จึงกล้าเสี่ยงใช้การดูแลสุขภาพรูปแบบอื่น บ้างกินยาผีบอก บ้างแสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่การรักษาที่ก้าวหน้ามากที่สุดนอกจากแพทย์แผนตะวันตกก็คือแพทย์แผนจีน
แพทย์แผนจีนในปัจจุบัน มิใช่การแมะ ฝังเข็ม ให้ยาแบบชาวบ้านอีกต่อไป มีการบูรณาการการรักษาโดยใช้การตรวจโรคแบบแพทย์แผนตะวันตก พิสูจน์โรคโดยห้องทดลอง ใช้ผลการตรวจเลือดมาอธิบายสาเหตุของโรค แต่ในขั้นการรักษาจะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมและดูแลในแบบองค์รวม ยกตัวอย่างอาการป่วยไข้จากโรคทั่วไปอย่างหวัด แพทย์ตะวันตก มักใช้วิธีให้ยารักษาที่ตรงกับอาการ พุ่งเป้าแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างเดียว แต่การใช้ยาแบบนี้มิได้คำนึงถึงผลข้างเคียงของการรักษา เช่นผลกระทบต่อตับ สารตกค้างในร่างกาย และระดับหรือชนิดของการใช้ยาตามแต่ละบุคคล ตรงกันข้ามแพทย์จีนจะพิจารณาร่างกายของผู้ป่วยในแบบองค์รวม ทั้งสภาพแวดล้อมอยู่ที่อาศัย ระดับอารมณ์ รวมถึงสมดุลร่างกาย เป็นต้น แล้วจึงเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยที่หายจากโรคจึงมีแนวโน้มดำรงระยะเวลาของภูมิต้านทานและสุขภาพแข็งแรงที่ยาวนานกว่า (Fritjof Capra, The Turning Point, 1982)
คำอธิบายข้างต้นไม่ได้ต้องการโจมตีวิธีการของแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะถือว่ามีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติในการช่วยชีวิต แต่เพียงชี้ให้เห็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ซึ่งหลายครั้งเรามองข้ามไปโดยมิได้รู้ว่าของดีอยู่ใกล้ตัว คนที่ทำงานด้านศาสตร์สุขภาพแพทย์จีนในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความรู้ความสามารถสูง ดูแลรักษาคนไข้หลากหลายและมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืมให้โอกาสตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการนะครับ การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษานะครับ
บทความโดย ก.ต.
ตรวจทานโดย Dr. ตี๋
รูปน่ารักๆ โดย PaperPin
ติดตาม กดไลท์ หรือแชร์ บทความดีๆ ที่เพจ Dr ตี๋ แพทย์จีน ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/Dr-%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/1396470143908446