"เติบโตและก้าวเดินต่อไป..."
ประโยคนี้ผุดขึ้นในใจหลังจากได้ดูฮอร์โมนตอนปิด Season 1 จบ ส่วนตัวแล้วอีพีนี้
ค่อนข้างจะตอบโจทย์ทุกอย่างของซีรีย์ชุดนี้ในภาคแรกแล้ว ตอนนี้คงมีหลายคนแย้งว่าไม่จริง ไม่เห็นจะมีบทสรุปของแต่ละคนเลย
ตอบแบบไม่กล้าเสียงด่าว่าจริงๆแล้วชีวิตคนบทสรุปคือตอนสุดท้ายของชีวิตนั่นแหละ
เราไม่สามารถที่จะรู้ในอนาคตได้เลยว่าใครจะเป็นอย่างไรต่อไป
ณ วันนี้ หากคนไทยเรียกร้องรูปแบบของการดูหนังหรือละครที่พ้นจากขนบเดิมๆแล้ว ก็คงต้องปรับตัวให้รับได้สิ่งที่เรียกว่าชีวิตจริงด้วย
ขนบเดิมๆคืออะไร คือ การที่ทุกคนในละครมีบทสรุป พระเอกได้กับนางเอก ตัวรองหันมารักกันเอง ตัวร้ายบ้าหรือตาย สิ่งเหล่านี้ คุณก้าวข้ามมันพ้นไปหรือยัง ไม่แปลกใจที่วันนี้ผู้กำกับซีรีย์ชุดนี้ ได้รับเสียงด่ามากกว่าเสียงชม
แล้วตกลงตอบโจทย์ยังไง มีแต่เสียงเพลงและคอนเสิร์ต จริงๆตรงนี้ถ้าเราได้ย้อนกลับไปดูตั้งแต่ ep. 1-13
จะพบว่ามีการปูทางของเนื้อหาไว้อย่างดี โดยเฉพาะธีมหลักของซีรีย์คือเรื่องราวของวัยรุ่น
ชีวิตวัยรุ่น มี 2 สถาบันที่หล่อหลอม คือครอบครัวและโรงเรียน
มี 3 องค์ประกอบที่มีผลกระทบต่อแนวทางความคิดและการดำเนินชีวิต คือ เพื่อน ครูและครอบครัว
ในตัวละครทุกคนมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเองเท่านั้น ที่จะตัดสินอนาคตตัวเราได้
คุณย้งได้ยกตัวอย่างเด็กๆที่มีอยู่ในสังคมได้น่าสนใจ ผ่านตัวละครหลักทั้งเก้าตัว ได้แก่ วิน ขวัญ หมอก ต้า เต้ย ภู ดาว ไผ่ สไปร์ท
วิน เด็กหนุ่มผู้ที่มั่นใจในตัวเองสูง หัวดี หน้าตาดี ฐานะที่บ้านดี หนุ่มป็อบประจำโรงเรียน ที่ใครๆก็อยากเข้าหาอยากเป็น
แต่ซีรีย์ก็ทำให้เราเห็นว่า ในวัยที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน หนุ่มคนนี้ก็สามารถดำดิ่งสู่ความทุกข์และความดำมืด
เมื่อขาดที่ยึดเหนี่ยวจากสถาบันครอบครัวและทิฐิที่มาจากข้อดีของตัวเอง
และตอนนี้เองก็ได้สอนวัยรุ่นถึงโทษของเหล้าและการขาดสติให้วัยรุ่น มากกว่าที่ให้บทพูดผ่านพ่อแม่เด็กๆซะอีก
ขวัญ เด็กเนิร์ดหน้าตาดี อยู่ในกรอบมาตลอด จะเป็นอย่างไรเมื่อค้นพบว่ากรอบนั้นมันบิดเบี้ยว
ในตัวละครของขวัญจะเห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากครอบครัว แต่ยังมีครูและเพื่อนที่ดี (ครูอ้อและสไปร์ท) ทำให้ประคับประคองตัวได้
ขวัญเป็นบทที่แสดงให้เห็นถึงเด็กที่มีความรักดีจากการเลี้ยงดูของแม่และพ่อเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก่อน
ไม่แปลกที่ขวัญจะเป๋ไปตอนแรกๆแต่ก็ยังกลับมาเป็นคนที่ยอมรับกับความบกพร่องของโลกนี้ได้
ซึ่งตัวละครนี้ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับอยากสื่อไปทิศทางได้หม่นหมองกว่านี้หรือไม่
แต่ก็ดีที่ยังคงสไตล์ feel good อยู่บ้าง เพราะชีวิตวัยรุ่น มันไม่ได้หม่นหมองไปซะหมดหรอกนะ
To be continued...
[Hormones] บทสรุปของ Hormones The Series Season 1 "เติบโตและก้าวเดินต่อไป..."
ประโยคนี้ผุดขึ้นในใจหลังจากได้ดูฮอร์โมนตอนปิด Season 1 จบ ส่วนตัวแล้วอีพีนี้
ค่อนข้างจะตอบโจทย์ทุกอย่างของซีรีย์ชุดนี้ในภาคแรกแล้ว ตอนนี้คงมีหลายคนแย้งว่าไม่จริง ไม่เห็นจะมีบทสรุปของแต่ละคนเลย
ตอบแบบไม่กล้าเสียงด่าว่าจริงๆแล้วชีวิตคนบทสรุปคือตอนสุดท้ายของชีวิตนั่นแหละ
เราไม่สามารถที่จะรู้ในอนาคตได้เลยว่าใครจะเป็นอย่างไรต่อไป
ณ วันนี้ หากคนไทยเรียกร้องรูปแบบของการดูหนังหรือละครที่พ้นจากขนบเดิมๆแล้ว ก็คงต้องปรับตัวให้รับได้สิ่งที่เรียกว่าชีวิตจริงด้วย
ขนบเดิมๆคืออะไร คือ การที่ทุกคนในละครมีบทสรุป พระเอกได้กับนางเอก ตัวรองหันมารักกันเอง ตัวร้ายบ้าหรือตาย สิ่งเหล่านี้ คุณก้าวข้ามมันพ้นไปหรือยัง ไม่แปลกใจที่วันนี้ผู้กำกับซีรีย์ชุดนี้ ได้รับเสียงด่ามากกว่าเสียงชม
แล้วตกลงตอบโจทย์ยังไง มีแต่เสียงเพลงและคอนเสิร์ต จริงๆตรงนี้ถ้าเราได้ย้อนกลับไปดูตั้งแต่ ep. 1-13
จะพบว่ามีการปูทางของเนื้อหาไว้อย่างดี โดยเฉพาะธีมหลักของซีรีย์คือเรื่องราวของวัยรุ่น
ชีวิตวัยรุ่น มี 2 สถาบันที่หล่อหลอม คือครอบครัวและโรงเรียน
มี 3 องค์ประกอบที่มีผลกระทบต่อแนวทางความคิดและการดำเนินชีวิต คือ เพื่อน ครูและครอบครัว
ในตัวละครทุกคนมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเองเท่านั้น ที่จะตัดสินอนาคตตัวเราได้
คุณย้งได้ยกตัวอย่างเด็กๆที่มีอยู่ในสังคมได้น่าสนใจ ผ่านตัวละครหลักทั้งเก้าตัว ได้แก่ วิน ขวัญ หมอก ต้า เต้ย ภู ดาว ไผ่ สไปร์ท
วิน เด็กหนุ่มผู้ที่มั่นใจในตัวเองสูง หัวดี หน้าตาดี ฐานะที่บ้านดี หนุ่มป็อบประจำโรงเรียน ที่ใครๆก็อยากเข้าหาอยากเป็น
แต่ซีรีย์ก็ทำให้เราเห็นว่า ในวัยที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน หนุ่มคนนี้ก็สามารถดำดิ่งสู่ความทุกข์และความดำมืด
เมื่อขาดที่ยึดเหนี่ยวจากสถาบันครอบครัวและทิฐิที่มาจากข้อดีของตัวเอง
และตอนนี้เองก็ได้สอนวัยรุ่นถึงโทษของเหล้าและการขาดสติให้วัยรุ่น มากกว่าที่ให้บทพูดผ่านพ่อแม่เด็กๆซะอีก
ขวัญ เด็กเนิร์ดหน้าตาดี อยู่ในกรอบมาตลอด จะเป็นอย่างไรเมื่อค้นพบว่ากรอบนั้นมันบิดเบี้ยว
ในตัวละครของขวัญจะเห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากครอบครัว แต่ยังมีครูและเพื่อนที่ดี (ครูอ้อและสไปร์ท) ทำให้ประคับประคองตัวได้
ขวัญเป็นบทที่แสดงให้เห็นถึงเด็กที่มีความรักดีจากการเลี้ยงดูของแม่และพ่อเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก่อน
ไม่แปลกที่ขวัญจะเป๋ไปตอนแรกๆแต่ก็ยังกลับมาเป็นคนที่ยอมรับกับความบกพร่องของโลกนี้ได้
ซึ่งตัวละครนี้ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับอยากสื่อไปทิศทางได้หม่นหมองกว่านี้หรือไม่
แต่ก็ดีที่ยังคงสไตล์ feel good อยู่บ้าง เพราะชีวิตวัยรุ่น มันไม่ได้หม่นหมองไปซะหมดหรอกนะ
To be continued...