เป็นบทวิเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเองอาจมีผิดบ้างถูกบ้างถ้าไม่พอใจตรงไหนก็ขออภัยนะครับ
spoil alert ep 1-12
เริ่มที่คนแรกคือนายชัยชนะ หรือ วิน หรือ เชี่ยวิน ที่เสาร์นี้มีบทบาทมากที่สุดก่อนเลย
วิน เป็นวัยรุ่นที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงไม่ยอมอยู่ในกฏเกณฑ์ของใครง่ายๆ แต่หากมีเหตุผลที่ทำให้เขายอมรับได้ก็พร้อมจะยอมทำตามเช่นกัน จากช่วงท้ายตอนที่ 1 ที่ครูอ้ออธิบายเหตุผลของการต้องใส่ชุดนักเรียนให้ฟังเขาก็ยอมรับฟังจึงเป็นการแสดงถึงความมีเหตุมีผลของเขา
แต่หากคิดจะบีบบังคับให้วินทำตามโดยไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้นเขาก็จะมองเรื่องนั้นเป็นเรื่องงี่เง่าไร้สาระและไม่เก็บเอามาใส่ใจ
ด้วยความที่วินเป็นหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียนสิ่งที่วินพูดจึงมีแรงดึงดูดให้คนอื่นคล้อยตามส่งผลให้วินมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเพราะทำอะไรก็เป็นไปตามที่ตนเองต้องการอยู่เสมอ
และการที่เขาได้อะไรตามใจมาโดยตลอดทำให้เขามองตัวเองเป็นศูนย์กลางของผู้คนยิ่งมีคนตอบสนองจึงยิ่งได้ใจ
ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เขาไม่ค่อยนึกถึงผลที่ตามมาจากการทำตามใจตนเองเสียเท่าไหร่
การกระทำทั้งหลายที่วินทำไปโดยไม่คิดจึงต้องมีผู้เดือดร้อนตามมาเสมอ
หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงเขาก็จะไม่ใส่ใจและบอกว่าไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้(ไม่คิดเลยแหละว่าทำอะไรแล้วจะออกมายังไง) หรือมองคนที่ต้องเดือดร้อนเพราะตนเองเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยไม่เข้าเรื่องไป แน่นอนว่ามาจากการที่คนรอบข้างตามใจเขาอย่างที่พูดไว้ข้างบน ทำให้เขาเป็นคนที่ไม่แคร์ใครนอกจากเพื่อนสนิทหรือคนที่อยากจะสนิทด้วย ยิ่งถ้าไปเซ้าซี้มากเข้าวินก็จะรำคาญจนหายหน้าไปเลย
วินจึงเป็นคนที่มีนิสัยเด็กๆไม่ยอมรับผิดและมักจะหาข้ออ้างแก้ตัวไปเรื่อย
เช่น ในตอนที่เต้ยโดนตบก็บอกว่า
“จะไปรู้ได้ไงว่าเป็นแบบนี้”
(เป็นคำพูดที่แสดงออกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจผลของการกระทำที่ทำไว้เลย)
หรือตอนที่จะโทรไปขอโทษขวัญก็อ้างขึ้นมาว่า
“แต่ถึงเราจะไม่พาเธอไปเธอก็ต้องรู้อยู่ดีเพราะมันเป็นชะตากรรมที่เธอต้องเผชิญ”
(เป็นคำพูดที่ทำให้ขวัญมองว่าวินไม่ได้สำนึกผิดทำให้ตัดสินใจตัดสายโทรศัพท์ไป)
ที่เป็นลักษณะนี้เพราะวินไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด การที่จะขอโทษใครเขารู้ดีว่าควรทำอย่างไรเพราะสามารถแนะนำต้าห์ได้ดีแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ใครเลยแม้แต่คนเดียว
ในตอนล่าสุดวินก็ยังคงคิดว่าตนเองไม่ผิดและหาว่าขวัญไม่ยอมรับความจริงทั้งที่ขวัญยอมรับความจริงและอยู่ร่วมกับอีกครอบครัวได้แล้ว แท้จริงแล้ววินต่างหากที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดเพราะเขามีข้ออ้างว่าไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้
แต่ถึงจะอย่างไรวินก็ไม่ใช่คนคิดไม่เป็นเพียงแต่ความคิดของเขาจะมองแต่ด้านของตนเองไม่เผื่อไปถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยทำให้เขาเป็นคนเอาแต่ได้และยังไม่มีพัฒนาการอย่างตัวละครอื่นๆ ตอนที่สะท้อนด้านนี้ออกมา เช่น
- การเอาดอกกุหลาบไปให้เต้ยตัดหน้าต้าห์ไม่ใช่ทำเพราะจงใจแต่เกิดจากการมองเพียงด้านของตนเองไม่ได้สนใจความรู้สึกต้าห์เลยเรียกว่าเป็นไปโดยธรรมชาติไม่รู้ตัวเลยนั้นแหละ
- การวางแผนทำให้ขวัญอ่อนแอเพื่อให้ตัวเองเล่นบทพระเอกทำคะแนน เพราะหากขวัญยังอยู่ในสถานะเดิมก็ไม่หันมามองวินอย่างแน่นอน
(วินไม่ได้มองว่าจะจีบขวัญต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นแต่เลือกวิธีทำให้ขวัญอ่อนแอลงเปิดโอกาสให้ตัวเองแทนแต่เรื่องกลับบานปลายเพราะมันทำให้ขวัญไม่มีสมาธิในการท่องหนังสือจนตัดสินใจทุจริต)
- การเอาเหล้าไปกินในคลาสเรียนของครูอ้อก็เช่นกันเป็นการทำตามใจโดยไม่สนกาลเทศะ ไม่คิดว่าถ้ามีใครรู้จะทำให้ครูอ้อเดือดร้อนหรือเปล่า
แถมยังเป็นคนที่ไม่ลงทุนในการเอาใจสาวเอาซะเลย
เอาของที่จิ๊กมาไปให้บ้าง เอาของที่คนอื่นให้มาไปให้ต่อบ้าง
นี่คงเป็นอย่างเดียวที่วินลงทุน ในอนาคตอาจเป็นพวก แก่ ใจดี สปอร์ต กทม. ก็เป็นได้
แต่แล้วเมื่อเขาเอาแต่ใจ ไม่แคร์ใคร ก็ทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนที่เคยมีก็เริ่มหายไปทีละคนๆจนหมด เช่นในตอนล่าสุดนี้
อาจจะขาดตกบกพร่องอะไรไปบ้างแต่ก็จบแล้วสำหรับวิน
ส่วนคนอื่นถ้าอยากอ่านต่อก็จะทยอยทำมาให้อ่านครับพอดีเวลาดูชอบคิดโน้นคิดนี่ตามอยู่แล้ว
วิเคราะห์เจาะลึกตัวละครในซีรี่ย์ฮอร์โมน
spoil alert ep 1-12
เริ่มที่คนแรกคือนายชัยชนะ หรือ วิน หรือ เชี่ยวิน ที่เสาร์นี้มีบทบาทมากที่สุดก่อนเลย
วิน เป็นวัยรุ่นที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงไม่ยอมอยู่ในกฏเกณฑ์ของใครง่ายๆ แต่หากมีเหตุผลที่ทำให้เขายอมรับได้ก็พร้อมจะยอมทำตามเช่นกัน จากช่วงท้ายตอนที่ 1 ที่ครูอ้ออธิบายเหตุผลของการต้องใส่ชุดนักเรียนให้ฟังเขาก็ยอมรับฟังจึงเป็นการแสดงถึงความมีเหตุมีผลของเขา
แต่หากคิดจะบีบบังคับให้วินทำตามโดยไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้นเขาก็จะมองเรื่องนั้นเป็นเรื่องงี่เง่าไร้สาระและไม่เก็บเอามาใส่ใจ
ด้วยความที่วินเป็นหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียนสิ่งที่วินพูดจึงมีแรงดึงดูดให้คนอื่นคล้อยตามส่งผลให้วินมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเพราะทำอะไรก็เป็นไปตามที่ตนเองต้องการอยู่เสมอ
และการที่เขาได้อะไรตามใจมาโดยตลอดทำให้เขามองตัวเองเป็นศูนย์กลางของผู้คนยิ่งมีคนตอบสนองจึงยิ่งได้ใจ
ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เขาไม่ค่อยนึกถึงผลที่ตามมาจากการทำตามใจตนเองเสียเท่าไหร่
การกระทำทั้งหลายที่วินทำไปโดยไม่คิดจึงต้องมีผู้เดือดร้อนตามมาเสมอ
หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงเขาก็จะไม่ใส่ใจและบอกว่าไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้(ไม่คิดเลยแหละว่าทำอะไรแล้วจะออกมายังไง) หรือมองคนที่ต้องเดือดร้อนเพราะตนเองเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยไม่เข้าเรื่องไป แน่นอนว่ามาจากการที่คนรอบข้างตามใจเขาอย่างที่พูดไว้ข้างบน ทำให้เขาเป็นคนที่ไม่แคร์ใครนอกจากเพื่อนสนิทหรือคนที่อยากจะสนิทด้วย ยิ่งถ้าไปเซ้าซี้มากเข้าวินก็จะรำคาญจนหายหน้าไปเลย
วินจึงเป็นคนที่มีนิสัยเด็กๆไม่ยอมรับผิดและมักจะหาข้ออ้างแก้ตัวไปเรื่อย
เช่น ในตอนที่เต้ยโดนตบก็บอกว่า
“จะไปรู้ได้ไงว่าเป็นแบบนี้”
(เป็นคำพูดที่แสดงออกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจผลของการกระทำที่ทำไว้เลย)
หรือตอนที่จะโทรไปขอโทษขวัญก็อ้างขึ้นมาว่า
“แต่ถึงเราจะไม่พาเธอไปเธอก็ต้องรู้อยู่ดีเพราะมันเป็นชะตากรรมที่เธอต้องเผชิญ”
(เป็นคำพูดที่ทำให้ขวัญมองว่าวินไม่ได้สำนึกผิดทำให้ตัดสินใจตัดสายโทรศัพท์ไป)
ที่เป็นลักษณะนี้เพราะวินไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด การที่จะขอโทษใครเขารู้ดีว่าควรทำอย่างไรเพราะสามารถแนะนำต้าห์ได้ดีแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ใครเลยแม้แต่คนเดียว
ในตอนล่าสุดวินก็ยังคงคิดว่าตนเองไม่ผิดและหาว่าขวัญไม่ยอมรับความจริงทั้งที่ขวัญยอมรับความจริงและอยู่ร่วมกับอีกครอบครัวได้แล้ว แท้จริงแล้ววินต่างหากที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดเพราะเขามีข้ออ้างว่าไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้
แต่ถึงจะอย่างไรวินก็ไม่ใช่คนคิดไม่เป็นเพียงแต่ความคิดของเขาจะมองแต่ด้านของตนเองไม่เผื่อไปถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยทำให้เขาเป็นคนเอาแต่ได้และยังไม่มีพัฒนาการอย่างตัวละครอื่นๆ ตอนที่สะท้อนด้านนี้ออกมา เช่น
- การเอาดอกกุหลาบไปให้เต้ยตัดหน้าต้าห์ไม่ใช่ทำเพราะจงใจแต่เกิดจากการมองเพียงด้านของตนเองไม่ได้สนใจความรู้สึกต้าห์เลยเรียกว่าเป็นไปโดยธรรมชาติไม่รู้ตัวเลยนั้นแหละ
- การวางแผนทำให้ขวัญอ่อนแอเพื่อให้ตัวเองเล่นบทพระเอกทำคะแนน เพราะหากขวัญยังอยู่ในสถานะเดิมก็ไม่หันมามองวินอย่างแน่นอน
(วินไม่ได้มองว่าจะจีบขวัญต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นแต่เลือกวิธีทำให้ขวัญอ่อนแอลงเปิดโอกาสให้ตัวเองแทนแต่เรื่องกลับบานปลายเพราะมันทำให้ขวัญไม่มีสมาธิในการท่องหนังสือจนตัดสินใจทุจริต)
- การเอาเหล้าไปกินในคลาสเรียนของครูอ้อก็เช่นกันเป็นการทำตามใจโดยไม่สนกาลเทศะ ไม่คิดว่าถ้ามีใครรู้จะทำให้ครูอ้อเดือดร้อนหรือเปล่า
แถมยังเป็นคนที่ไม่ลงทุนในการเอาใจสาวเอาซะเลย
เอาของที่จิ๊กมาไปให้บ้าง เอาของที่คนอื่นให้มาไปให้ต่อบ้าง
นี่คงเป็นอย่างเดียวที่วินลงทุน ในอนาคตอาจเป็นพวก แก่ ใจดี สปอร์ต กทม. ก็เป็นได้
แต่แล้วเมื่อเขาเอาแต่ใจ ไม่แคร์ใคร ก็ทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนที่เคยมีก็เริ่มหายไปทีละคนๆจนหมด เช่นในตอนล่าสุดนี้
อาจจะขาดตกบกพร่องอะไรไปบ้างแต่ก็จบแล้วสำหรับวิน
ส่วนคนอื่นถ้าอยากอ่านต่อก็จะทยอยทำมาให้อ่านครับพอดีเวลาดูชอบคิดโน้นคิดนี่ตามอยู่แล้ว