เรียน ป. โท แผน ก. กับ ข. ต่างกันอย่างไร

สนใจจะต่อโท แต่ว่าเห็นว่าแผน ก. วิทยานิพจน์ 12 นก.
กับ ข. โปรเจ็ค 3 นก. อยากทราบว่าจบแล้วต่างกันอย่างไร
- แผน ก. ต่อ ป.เอกง่ายกว่า แผน ข.
- แผนไหนเหมากับ คนทำงานด้วยเรียนด้วย(มนุษย์เงินเดือน)
- แผนไหน จบแล้วได้เป็นอาจารย์สอนพิเศษ ตามมหาลัยคับ
- เกียรตินิยมอันดับ2 จะได้สิทธิแบบอันดับ 1 ไหมคับที่เรียนป.เอกได้เลยโดยไม่ต้องเรียนโท
ขอบคุณคับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ขออภัยถ้าคำตอบต่างจากชาวบ้าน

1. การต่อปอเอก อาจไม่จำเป็นต้องจบแผน ก เสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้หลายๆ หลักสูตรเปิดกว้างรับคนจบแผน ข มาเรียนต่อแล้วไม่น้อย แต่แผน ข ที่จบควรต้องมีผลลงานวิจัยระดับสารนิพนธ์ที่ดีพอสมควร (หัวข้อ ระเบียบวิธีวิจัย เนื้อหาสาระไม่ต่างจากวิทยานิพนธ์เพียงขอบเขตที่ทำตื้นกว่าอยู่บ้าง) ขณะที่คนจบแผน ก เองก็ใช่จะได้รับสิทธิต่อเองได้ง่าย ถ้าคุณสมบัติอื่นไม่ผ่าน เช่น สอบข้อเขียนไม่ผ่าน ตกสัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษไม่ผ่านเกณฑ์ หรือวิทยานิพนธ์ที่ทำหน่อมแน่ม (ตัวอย่างแบบนี้ใช่จะไม่มี)

2. ไม่มีแผนไหนเหมาะกับใครเพียงเพราะการถามความเห็นคนอื่น การจะเหมาะไม่เหมาะอยู่กับปัจจัยเหตุตัวแปรส่วนบุคคลล้วนๆ เช่น เป้าหมายในอนาคต การจัดสรรบริหารเวลาที่มี ความขยันหมั่นเพียร ต้นทุนความรู้ที่มีอยู่ ปราๆๆ

3. การเป็นอาจารย์พิเศษหรือไม่พิเศษก็ไม่เกี่ยวกับการจบแผนไหนอีก เพราะการเลือกคนต้องดูที่ความสามารถที่สอดคล้องกับงานเป็นหลัก ถ้าจบแผน ก แต่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน หรือจบแผน ก จากสถาบันต่ำชั้นกว่า(มาก) ขณะที่จบแผน ข แต่มีประสบการณ์ทำงานสอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องสอน หรือจบสถาบันดัง คนจบแผน ข ก็จะได้เปรียบ ขณะที่ถ้าจบแผน ข แบบกากๆ ยังไงก็สู้คนจบแผน ก แบบเข้มๆ ไม่ได้ นี้ยังไม่ได้นับรวมเรื่องปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวด้วยนะ เช่น ถ้าเขามีคนที่หมายตาหรือว่าตัวอยู่แล้วอยู่แล้ว แต่ประกาศตามระเบียบไปงั้น ต่อให้เก่งกว่าแต่ไม่มีเส้นก็ยาก

4. เกียรตินิยมอันดับสองถือเป็นคุณสมบัติที่เขามักจะระบุไว้สำหรับหลักสูตรปอเอกที่รับคนจบปอตรีเข้ามาศึกษา แต่จะบอกให้ว่าการเรียนเอกหลักสูตรแบบนี้กินเวลาแทบไม่ต่างจากคนเรียนโทและเรียนเอกทีละใบ เพราะต้องเรียนคอร์สเวิร์คร่วมกับพวกปอโทและปอเอกเหมือนๆ กัน จะพิเศษกว่าก็ตรงไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์แบบปอโท แต่โดดไปทำวิทยานิพนธ์ปอเอกทีเดียวเลย ซึ่งว่าไปก็อาจมีโอกาสจบไวกว่าคนเดินทางสายจบปอโทแล้วมาต่อเอกทีหลังเหมือนกันสำหรับคนที่เอาจริงเอาจัง แต่ข้อเสียก็มีคือ การเรียนต่อเอกเลยสำหรับคนจบปอตรีมันอาจดูยาวนาน เพราะการทำวิทยานิพนธ์ปอเอกมันหนักมาก(ในสถาบันที่ได้มาตรฐานวิชาการ) ถ้าเป้าหมายไม่ชัดเจน และพลาดพลั้งไม่จบก็คือไม่ได้อะไรติดมือเลย ขณะที่คนจบปอโทอย่างน้อยจะมีปริญญามากอดก่อนหนึ่งใบ แถมยังได้พิจารณาความต้องการที่แท้จริงของตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจต่อปอเอกหรือไหม ซึ่งตรงนี้คนจบตรีแล้วต่อเอกเลยจะไม่มีโอกาสอย่างนี้

สรุปให้ว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรแน่อะไรนอน เวลามองอะไรเราจึงต้องหาข้อมูล ต้องดูให้รอบด้าน แค่คำว่าแผน ก แผน ข แค่นี้บอกคุณสมบัติอะไรใครได้ไม่เท่าไรหรอก
ความคิดเห็นที่ 6
เท่าที่เคยฟังจาก อ. ผู้เชี่ยวชาญมา การเรียนระดับ ป.โท นั้นเป็นการเตรียมตัวเพื่อไปสู่ ป.เอก สามารถข้ามไปต่อ ป.เอก ได้ (ในแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน) เท่าที่ได้ยินมาเป็นของโซนฝรั่ง/เอเชีย ใน ม. คุณภาพนะ ที่มีการข้ามระดับแบบนี้ได้ ส่วนที่ไทยไม่เคยได้ยิน

และที่สำคัญกว่านั้น คุณจะต้องมีความสามารถหรือเชี่ยวชาญในสาขานั้นแบบโดดเด่นนะครับ ไม่ใช่ว่าจบ อันดับ 1 ป.ตรี มาแล้วจะทำได้หมด

เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การพูดถึงเรื่องงานวิจัยที่คุณจะทำ ว่ามันมีอะไรน่าสนใจแค่ไหน (การสร้างแนวคิดใหม่ / หักล้างแนวคิดเดิม)

และพูดก็พูดไป การเรียน ป.ตรี แตกต่าง จากการเรียน ป.โท มากนะครับ เพราะฉะนั้นยิ่งเทียบลำบากมากหากไปเทียบกับ ป.เอก ในกรณี ม. ที่มีคุณภาพทางวิชาการจริงๆ

- การเป็น อ. สอนตามมหาลัย ขั้นต่ำ ป.โท ครับ

- แผน ข. ทำ IS  แผน ก. ทำ Thesis
หากเลือกทำ Thesis จะต่อยอด ป. เอก ได้สะดวกกว่า แต่ทำ IS ก็ต่อได้ แต่ต้องมาพิจารณาอีกทีในคุณภาพงานวิจัยของคุณ (ทั้งนี้แล้วแต่ ม. นั้นๆ กำหนดด้วยครับ)

มีคำพูดนึงครับ ...IS ดีๆ ก็ยังดีกว่า Thesis เลวๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่