ขอเกริ่นก่อนว่าผมเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 แล้ว และตั้งแต่ขึ้นปีสอง สีผมไม่เคยเป็นสีดำเลย มีทั้งแดงอ่อน แดงเข้ม น้ำเงินสด บลอนด์ทอง เขียว
ซึ่งชีวิตมหาลัยก็ปกติสุขดีครับ 3.5+ ทุกเทอม ไม่มีใครมาว่าเรื่องสีผมเราเลย ยกเว้นแม่นี่แหละ
เค้าบอกว่าผมเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ทำแบบนี้ไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ ผมได้ฟังครั้งแรกคืออึ้งไปเลย ไม่คิดว่าแม่จะคิดแบบนี้
เค้าบอกอีกว่าเค้าเป็นแม่ผม และเป็นวัยรุ่นมาก่อน ทำไมจะไม่รู้ ผมก็ตอบว่าเฮ้ย ทำไมถึงคิดว่าอย่างนั้นหละ ต่างคนต่างความคิดกัน เกิดกันคนละยุคคนละสมัย อะไรมันก็เปลี่ยนไป อีกอย่างที่ทำไปไม่ได้ต้องการให้ใครมาทัก หรือมาให้ความสนใจเราเลย เราชอบของเราเอง ส่องกระจกแล้วเห็นผมตัวเองเป็นสี ๆ แล้วมีความสุข ก็เลยสงสัยว่าทำไมแม่ถึงคิดแบบนั้น
เค้าก็ยังไม่ยอมแพ้นะครับ บอกไม่จริง ให้ผมลองถามใจตัวเองดู (ผมอึ้งไปอีกนานเลย ไม่ได้อึ้งเพราะต้องถามใจ แต่อึ้งเพราะทำไมพูดแบบนี้)
ให้ผมใช้ความสามารถแสดงให้คนเห็นดีกว่า?? บ้านเราไม่ใช่ญี่ปุ่น?? เครียดจนแสดงออกทางหัว ?? นี่เป็นคำพูดจริง ๆ ที่แม่กับผมคุยทางไลน์ครับ
ผมงงมาก ยอมรับว่าไม่เข้าใจตรรกะของเค้าเลย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเค้าคิดแบบนี้ ทำไมถึงคิดไปเองแทนลูก ทำไมไม่ฟังเหตุผลของผมบ้าง ทำไมจะต้องคิดว่าสมัยเค้าต้องเหมือนสมัยเรา สิ่งที่เค้าเคยเจอคือสิ่งที่ผมเจอ สิ่งที่เค้าเคยคิดเคยประสบมาต้องเหมือนกันกับที่ผมกำลังทำอยู่ ยอมรับจริง ๆ ว่าผมไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่ผมกังวลคือ ถ้าแม่ยังไม่เข้าใจในตัวผม ในสิ่งที่ผมชอบ ผมเป็น ไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมอยากจะทำ (แม้แค่เรื่องสีผมก็เถอะ) สมมุติถ้ามีปัญหาอะไรใหญ่ ๆ หรือร้ายแรง ผมไม่กล้าที่จะไปปรึกษาท่านครับ ไม่กล้าเปิดใจ ไม่กล้าพูดในสิ่งที่อยากพูด เพราะผมคิดว่าแม่ยังมีกำแพงกั้นอยู่ กำแพงที่ผมไม่เข้าใจ ทีนี้คนที่ใกล้ชิดที่สุด คนในครอบครัว แต่ผมไปปรึกษาไม่ได้ ไปคุยไม่ได้ ผมจะทำยังไงครับ
ควรจะปล่อยให้เค้าคิดแบบนั้น ไม่สนใจ เป็นตัวของตัวเอง หรือจะพยายามให้ท่านเข้าใจ (แต่ดูแล้วน่าจะยาก) ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไงดี
คนที่ทำสีผมแรง ๆ นี่เป็นพวกเรียกร้องความสนใจหรอครับ
ซึ่งชีวิตมหาลัยก็ปกติสุขดีครับ 3.5+ ทุกเทอม ไม่มีใครมาว่าเรื่องสีผมเราเลย ยกเว้นแม่นี่แหละ
เค้าบอกว่าผมเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ทำแบบนี้ไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ ผมได้ฟังครั้งแรกคืออึ้งไปเลย ไม่คิดว่าแม่จะคิดแบบนี้
เค้าบอกอีกว่าเค้าเป็นแม่ผม และเป็นวัยรุ่นมาก่อน ทำไมจะไม่รู้ ผมก็ตอบว่าเฮ้ย ทำไมถึงคิดว่าอย่างนั้นหละ ต่างคนต่างความคิดกัน เกิดกันคนละยุคคนละสมัย อะไรมันก็เปลี่ยนไป อีกอย่างที่ทำไปไม่ได้ต้องการให้ใครมาทัก หรือมาให้ความสนใจเราเลย เราชอบของเราเอง ส่องกระจกแล้วเห็นผมตัวเองเป็นสี ๆ แล้วมีความสุข ก็เลยสงสัยว่าทำไมแม่ถึงคิดแบบนั้น
เค้าก็ยังไม่ยอมแพ้นะครับ บอกไม่จริง ให้ผมลองถามใจตัวเองดู (ผมอึ้งไปอีกนานเลย ไม่ได้อึ้งเพราะต้องถามใจ แต่อึ้งเพราะทำไมพูดแบบนี้)
ให้ผมใช้ความสามารถแสดงให้คนเห็นดีกว่า?? บ้านเราไม่ใช่ญี่ปุ่น?? เครียดจนแสดงออกทางหัว ?? นี่เป็นคำพูดจริง ๆ ที่แม่กับผมคุยทางไลน์ครับ
ผมงงมาก ยอมรับว่าไม่เข้าใจตรรกะของเค้าเลย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเค้าคิดแบบนี้ ทำไมถึงคิดไปเองแทนลูก ทำไมไม่ฟังเหตุผลของผมบ้าง ทำไมจะต้องคิดว่าสมัยเค้าต้องเหมือนสมัยเรา สิ่งที่เค้าเคยเจอคือสิ่งที่ผมเจอ สิ่งที่เค้าเคยคิดเคยประสบมาต้องเหมือนกันกับที่ผมกำลังทำอยู่ ยอมรับจริง ๆ ว่าผมไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่ผมกังวลคือ ถ้าแม่ยังไม่เข้าใจในตัวผม ในสิ่งที่ผมชอบ ผมเป็น ไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมอยากจะทำ (แม้แค่เรื่องสีผมก็เถอะ) สมมุติถ้ามีปัญหาอะไรใหญ่ ๆ หรือร้ายแรง ผมไม่กล้าที่จะไปปรึกษาท่านครับ ไม่กล้าเปิดใจ ไม่กล้าพูดในสิ่งที่อยากพูด เพราะผมคิดว่าแม่ยังมีกำแพงกั้นอยู่ กำแพงที่ผมไม่เข้าใจ ทีนี้คนที่ใกล้ชิดที่สุด คนในครอบครัว แต่ผมไปปรึกษาไม่ได้ ไปคุยไม่ได้ ผมจะทำยังไงครับ
ควรจะปล่อยให้เค้าคิดแบบนั้น ไม่สนใจ เป็นตัวของตัวเอง หรือจะพยายามให้ท่านเข้าใจ (แต่ดูแล้วน่าจะยาก) ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไงดี