กรุงเทพฯ->โจฮันเนสเบิร์ก->เคป ทาวน์->กรุงเทพฯ
ตอนที่2 เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ซันซิตี้ The Palace of the lost city - โจฮันเนสเบิร์ก(เหมืองทอง)
หลังจากพักและใช้ชีวิตวันแรกที่ The Legend Golf And Safari Resort
ตอนที่1 โจฮันเนสเบิร์ก - เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ตามล่า Big Five
http://ppantip.com/topic/30852752
ตอนที่2 เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ซันซิตี้ The Palace of the lost city - โจฮันเนสเบิร์ก(เหมืองทอง)
ตอนที่3 เคปทาว์น เมืองในฝัน ติดตาตรึงใจ และอยากกลับไปอีกครั้ง
http://ppantip.com/topic/30872627
ตอนที่4 เคป ทาว์น - V&A Waterfront - แหลมกู๊ดโฮป - กรุงเทพฯ
http://ppantip.com/topic/30889222
เข้าวันที่2เราก็ยังอยู่ที่เดิม 7โมงเช้า..รถจี๊บขับมารับที่หน้าบ้าน ไปแต่ตัวนะคะ กระเป๋าเด๋วมีรถกระบะมาขนไปไว้ที่บัสให้เอง
เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเสียงสิงโตคำราม..ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นเสียงช้าง พร้อมด้วยกวางที่เดินผ่านไปมาที่หน้าต่างห้องน้ำ
อากาศดีมากๆ วิวสวยมากๆเช่นกันค่ะ
ตอนนั่งรถ ถึงรู้ว่าอากาศเช้านี้ไม่ถึง5องศา แต่โชคดีที่รถจี๊บมีผ้าห่มให้ประจำที่นั่งของแต่ละคนให้ พอช่วยได้นิดหน่อยค่ะ
รถขับเข้ามาในทุ่ง ลึกมากๆ หรือเพราะอากาศหนาวเลยมีความรู้สึกว่า ไกลจัง..เมื่อไหร่จะถึงสักที!
แต่พอมาถึง เห็นบรรยากาศที่ทานข้าวแบบนี้ ก็อิ่มใจแล้วค่ะ
Goodbye The legend golf and safari resort,, We will be back to you for sure
เราเดินทางต่ออีก4ชั่วโมงเพื่อมาพักที่โรงแรม The Palace of the lost city โรงแรมหรือปราสาท ที่จัดประกวด Miss World นางงามโลก ซึ่งอยู่ภายในบริเวณ Sun City
ตอนบัสขับเข้ามาจอดหน้าโรงแรม รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ว่าไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดไว้เลย
แต่พอเริ่มเข้าสู่ภายในโถงโรงแรม ก็รู้ว่าไม่ได้เล็กอย่างที่คิด
เดินผ่านทะลุLobbyมาจะเจอห้องอาหาร
ทางเดินไปห้องพัก
ภายในห้องพัก
ได้ยินเสียงน้ำตกเบาๆในห้องพัก ห้องฝั่งที่เรานอน เปิดออกไปที่ระเบียงจะเป็นวิวแบบนี้ค่ะ
มาที่นี่ต้องถ่ายรูปกับช้างตัวนี้เกือบทุกคน
ภายในโรงแรมมีกิจกรรมให้เล่นเยอะมาก ทั้ง ทะเลเทียมที่จำลองคลื่นยักษ์ทุก5นาที สะพานแห่งกาลเวลาที่จำลองแผ่นดินไหวทุกๆหนึ่งชั่วโมง ก่อนเข้าสู่เขาวงกต
เสียดายที่เราพลาดการเล่นน้ำไป เพราะบริเวณทะเลเทียมจะปิด5โมงเย็นห้ามแม้แต่เดินเข้ามาถ่ายรูป
น้องๆที่เล่นทันบอกว่า ที่ทะเลเทียมมีสไลด์เดอร์ที่สูงและเสียวมาก ต้องสไลด์ตัวออกจากหุบเขาเลยทีเดียว!!
แต่เรายังโชคดีค่ะ ที่บริษัทปิดพื้นที่บริเวณทะเลจำลองให้ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับมื้อค่ำสุดพิเศษวันนี้
เครื่องดื่ม อาหาร บุฟเฟ่ต์ทุกอย่างค่ะ
ดื่มพอมึนๆก็ไปลุยเขาวงกตหรือ The Maze Of The Lost City ที่เปิดใหม่เมื่อปลายปี2012 นี่เองค่ะ
มีค่าเข้าด้วย คนละ 190 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เดือดร้อนไม่มีใครพกเงินสดติดตัวมาสักคนเพราะถือเป็นการควักเงินครั้งแรกเลย แต่ที่นี่เค้ารับบัตรเครดิตค่ะlol
ไม่ได้ถ่ายภายในเขาวงกตมาฝากนะคะ ลำพังหาทางออกก็ยากละคะ
แต่คุ้มมากกก.. ทุกครั้งที่เราสับสน หลงทาง พยายามหาทาออกให้ได้นะคะ เพราะปลายทางมีรางวัล มีความสวยงามรอเราอยู่
ตรงทางออกเป็นบาร์สไตล์countryให้นั่งชิวล์ค่ะ นี่แหละรางวัลlol
ล้อเล่นนะคะ นอกจากบาร์แล้ว.. เรายังจะได้เห็น Sun City Hotel ทั้งหมด เป็นวิวที่สวยงามแบบนี้
ลงมาถ่ายด้านหน้าโรงแรมบ้าง
ตื่นเช้ามา ทานอาหารเช้าบริเวณห้องอาหารข้างบน พร้อมกับสัมผัสว่า นี่คือ The Palace ของจริง ใหญ่โตและสวยงามมากค่ะ
บรรยากาศโดยรอบของโรงแรม ถ่ายจากชั้นของห้องพักค่ะ
หน้าโรงแรมของจริง
ออกจาก The Palace เราเดินทางเข้าไปในตัวเมืองของ Johannesburg เมืองที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในในประเทศแอฟริกาใต้ และอันตรายที่สุดด้วย
อาหารกลางวัน มื้อที่รอคอย คือ 'อาหารไทย' อยู่มา3วัน บอกตรงๆคิดถึงอาหารไทย ฝันถึงอาหารไทยทุกคืนเลยค่ะ ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราจริงๆ
จากนั้นก็ไปที่สำคัญอีกที่ในเมืองนี้คือ Gold Reef City สวนสนุกที่มีเหมืองทอง อยู่ภายใน
นั่งลิฟต์ลงไปใต้ดินดูกระบวนการขุดทอง โดยต้องใส่หมวกนิรภัยกันก่อนด้วยค่ะ
จากนั้นก็ขึ้นมาดู กระบวนการหล่อทองแท่ง
ก้อนนี้12กิโล อยากถือแล้ววิ่งกลับไทยมาก.. แต่พอลองยกแล้ว ยกไม่ไหวอ่าคะ
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับทองแท่งใหญ่ ก็แวะไปทานอาหารเย็นก่อนกลับโรงแรม ที่ภัตราคารชื่อดัง Carnivore เพื่อทานเมนูเนื้อสัตว์ย่าง หลากหลายชนิด เช่น หมู ไก่ เนื้อ ซี่โครง และเนื้อสัตว์หายากที่สับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ซึ่งวันที่ปอยไป ก็ได้ทานอาหาร
เมนูตามนี้ค่ะ
เมนูแปลกวันนี้เป็น Impala กับ Crocodile
ซี่โครงหมู กับ เนื้อจระเข้อร่อยมากที่สุดค่ะ เนื้อแกะเหนียวไปหน่อย เนื้ออิมผาลากลิ่นไม่ถูกใจ.. เฉพาะความรู้สึกเรา แต่เนื้ออื่นก็ใช้ได้นะคะ เพียงแค่3วันที่ผ่านมา ทานเนื้อแทบทุกมื้อเลย เรื่มเลียนแล้วอ่ะค่ะ ปิดท้ายด้วยไอศครีม ฟรุ้ตสลัด ที่แปลกมาก ใส่มะละกอลงไปด้วย แหยะๆนะ
โดยรวมแล้ว บรรยากาศของร้านดู Carnivore มากๆเลยค่ะ คนเสิร์ฟตัวใหญ่ๆดำๆเดินถือเนื้อที่เสียบเหล็กแหลมมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เหมือนจะแทงให้เราตายเลย เวลาทานเลยต้องคอยระวังหลัง ไม่งั้นอาจเป็นเนื้อเราที่ย่างในเตาแทน!!! ล้อเล่นนะคะ ร้านดีค่ะ
คืนนี้เราเข้าพักที่โรงแรม Sandton Sun Hotel โรงแรมระดับห้าดาวที่นักธุกิจนิยมมาพัก ที่ๆอาหารเช้าอร่อยมาก
เราไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศรอบโรงแรมมาให้ดู เพราะมัวแต่เล่นไพ่กันอยู่ที่ห้องlol จริงๆเพราะไกด์เตือนว่า ในเมืองไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ เวลาเดินไปไหนต้องไปกันมากกว่า8คนถึงจะปลอดภัย เพราะอาชญากรรมสูงมาก ลากเข้าตึกปลดทรัพย์ เสื้อผ้าก็เอาไปหมดเลยเหลือทิ้งไว้ให้แต่กางเกงใน! โหดมากอ่ะ จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ไม่กล้าออกนอกโรงแรมเลย!!
เที่ยวต่อด้วยกันในเมืองสวรรค์ของการพักผ่อน
ตอนที่3 เคปทาว์น - ฟาร์มนกกระจอกเทศ - Table Mountain - แหลมกู้ดโฮป
[CR] Exclusive Trip - South Africa ดินแดนเหนือจินตนาการ 2013 [ตอนที่2 เอนทาเบนี - ซันซิตี้ The Palace of the lost city]
ตอนที่2 เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ซันซิตี้ The Palace of the lost city - โจฮันเนสเบิร์ก(เหมืองทอง)
หลังจากพักและใช้ชีวิตวันแรกที่ The Legend Golf And Safari Resort
ตอนที่1 โจฮันเนสเบิร์ก - เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ตามล่า Big Five http://ppantip.com/topic/30852752
ตอนที่2 เอนทาเบนี(ซาฟารี) - ซันซิตี้ The Palace of the lost city - โจฮันเนสเบิร์ก(เหมืองทอง)
ตอนที่3 เคปทาว์น เมืองในฝัน ติดตาตรึงใจ และอยากกลับไปอีกครั้ง http://ppantip.com/topic/30872627
ตอนที่4 เคป ทาว์น - V&A Waterfront - แหลมกู๊ดโฮป - กรุงเทพฯ http://ppantip.com/topic/30889222
เข้าวันที่2เราก็ยังอยู่ที่เดิม 7โมงเช้า..รถจี๊บขับมารับที่หน้าบ้าน ไปแต่ตัวนะคะ กระเป๋าเด๋วมีรถกระบะมาขนไปไว้ที่บัสให้เอง
เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับเสียงสิงโตคำราม..ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นเสียงช้าง พร้อมด้วยกวางที่เดินผ่านไปมาที่หน้าต่างห้องน้ำ
อากาศดีมากๆ วิวสวยมากๆเช่นกันค่ะ
ตอนนั่งรถ ถึงรู้ว่าอากาศเช้านี้ไม่ถึง5องศา แต่โชคดีที่รถจี๊บมีผ้าห่มให้ประจำที่นั่งของแต่ละคนให้ พอช่วยได้นิดหน่อยค่ะ
รถขับเข้ามาในทุ่ง ลึกมากๆ หรือเพราะอากาศหนาวเลยมีความรู้สึกว่า ไกลจัง..เมื่อไหร่จะถึงสักที!
แต่พอมาถึง เห็นบรรยากาศที่ทานข้าวแบบนี้ ก็อิ่มใจแล้วค่ะ
Goodbye The legend golf and safari resort,, We will be back to you for sure
เราเดินทางต่ออีก4ชั่วโมงเพื่อมาพักที่โรงแรม The Palace of the lost city โรงแรมหรือปราสาท ที่จัดประกวด Miss World นางงามโลก ซึ่งอยู่ภายในบริเวณ Sun City
ตอนบัสขับเข้ามาจอดหน้าโรงแรม รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ว่าไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดไว้เลย
แต่พอเริ่มเข้าสู่ภายในโถงโรงแรม ก็รู้ว่าไม่ได้เล็กอย่างที่คิด
เดินผ่านทะลุLobbyมาจะเจอห้องอาหาร
ทางเดินไปห้องพัก
ภายในห้องพัก
ได้ยินเสียงน้ำตกเบาๆในห้องพัก ห้องฝั่งที่เรานอน เปิดออกไปที่ระเบียงจะเป็นวิวแบบนี้ค่ะ
มาที่นี่ต้องถ่ายรูปกับช้างตัวนี้เกือบทุกคน
ภายในโรงแรมมีกิจกรรมให้เล่นเยอะมาก ทั้ง ทะเลเทียมที่จำลองคลื่นยักษ์ทุก5นาที สะพานแห่งกาลเวลาที่จำลองแผ่นดินไหวทุกๆหนึ่งชั่วโมง ก่อนเข้าสู่เขาวงกต
เสียดายที่เราพลาดการเล่นน้ำไป เพราะบริเวณทะเลเทียมจะปิด5โมงเย็นห้ามแม้แต่เดินเข้ามาถ่ายรูป
น้องๆที่เล่นทันบอกว่า ที่ทะเลเทียมมีสไลด์เดอร์ที่สูงและเสียวมาก ต้องสไลด์ตัวออกจากหุบเขาเลยทีเดียว!!
แต่เรายังโชคดีค่ะ ที่บริษัทปิดพื้นที่บริเวณทะเลจำลองให้ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับมื้อค่ำสุดพิเศษวันนี้
เครื่องดื่ม อาหาร บุฟเฟ่ต์ทุกอย่างค่ะ
ดื่มพอมึนๆก็ไปลุยเขาวงกตหรือ The Maze Of The Lost City ที่เปิดใหม่เมื่อปลายปี2012 นี่เองค่ะ
มีค่าเข้าด้วย คนละ 190 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เดือดร้อนไม่มีใครพกเงินสดติดตัวมาสักคนเพราะถือเป็นการควักเงินครั้งแรกเลย แต่ที่นี่เค้ารับบัตรเครดิตค่ะlol
ไม่ได้ถ่ายภายในเขาวงกตมาฝากนะคะ ลำพังหาทางออกก็ยากละคะ
แต่คุ้มมากกก.. ทุกครั้งที่เราสับสน หลงทาง พยายามหาทาออกให้ได้นะคะ เพราะปลายทางมีรางวัล มีความสวยงามรอเราอยู่
ตรงทางออกเป็นบาร์สไตล์countryให้นั่งชิวล์ค่ะ นี่แหละรางวัลlol
ล้อเล่นนะคะ นอกจากบาร์แล้ว.. เรายังจะได้เห็น Sun City Hotel ทั้งหมด เป็นวิวที่สวยงามแบบนี้
ลงมาถ่ายด้านหน้าโรงแรมบ้าง
ตื่นเช้ามา ทานอาหารเช้าบริเวณห้องอาหารข้างบน พร้อมกับสัมผัสว่า นี่คือ The Palace ของจริง ใหญ่โตและสวยงามมากค่ะ
บรรยากาศโดยรอบของโรงแรม ถ่ายจากชั้นของห้องพักค่ะ
หน้าโรงแรมของจริง
ออกจาก The Palace เราเดินทางเข้าไปในตัวเมืองของ Johannesburg เมืองที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในในประเทศแอฟริกาใต้ และอันตรายที่สุดด้วย
อาหารกลางวัน มื้อที่รอคอย คือ 'อาหารไทย' อยู่มา3วัน บอกตรงๆคิดถึงอาหารไทย ฝันถึงอาหารไทยทุกคืนเลยค่ะ ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราจริงๆ
จากนั้นก็ไปที่สำคัญอีกที่ในเมืองนี้คือ Gold Reef City สวนสนุกที่มีเหมืองทอง อยู่ภายใน
นั่งลิฟต์ลงไปใต้ดินดูกระบวนการขุดทอง โดยต้องใส่หมวกนิรภัยกันก่อนด้วยค่ะ
จากนั้นก็ขึ้นมาดู กระบวนการหล่อทองแท่ง
ก้อนนี้12กิโล อยากถือแล้ววิ่งกลับไทยมาก.. แต่พอลองยกแล้ว ยกไม่ไหวอ่าคะ
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับทองแท่งใหญ่ ก็แวะไปทานอาหารเย็นก่อนกลับโรงแรม ที่ภัตราคารชื่อดัง Carnivore เพื่อทานเมนูเนื้อสัตว์ย่าง หลากหลายชนิด เช่น หมู ไก่ เนื้อ ซี่โครง และเนื้อสัตว์หายากที่สับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ซึ่งวันที่ปอยไป ก็ได้ทานอาหาร
เมนูตามนี้ค่ะ
เมนูแปลกวันนี้เป็น Impala กับ Crocodile
ซี่โครงหมู กับ เนื้อจระเข้อร่อยมากที่สุดค่ะ เนื้อแกะเหนียวไปหน่อย เนื้ออิมผาลากลิ่นไม่ถูกใจ.. เฉพาะความรู้สึกเรา แต่เนื้ออื่นก็ใช้ได้นะคะ เพียงแค่3วันที่ผ่านมา ทานเนื้อแทบทุกมื้อเลย เรื่มเลียนแล้วอ่ะค่ะ ปิดท้ายด้วยไอศครีม ฟรุ้ตสลัด ที่แปลกมาก ใส่มะละกอลงไปด้วย แหยะๆนะ
โดยรวมแล้ว บรรยากาศของร้านดู Carnivore มากๆเลยค่ะ คนเสิร์ฟตัวใหญ่ๆดำๆเดินถือเนื้อที่เสียบเหล็กแหลมมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เหมือนจะแทงให้เราตายเลย เวลาทานเลยต้องคอยระวังหลัง ไม่งั้นอาจเป็นเนื้อเราที่ย่างในเตาแทน!!! ล้อเล่นนะคะ ร้านดีค่ะ
คืนนี้เราเข้าพักที่โรงแรม Sandton Sun Hotel โรงแรมระดับห้าดาวที่นักธุกิจนิยมมาพัก ที่ๆอาหารเช้าอร่อยมาก
เราไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศรอบโรงแรมมาให้ดู เพราะมัวแต่เล่นไพ่กันอยู่ที่ห้องlol จริงๆเพราะไกด์เตือนว่า ในเมืองไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ เวลาเดินไปไหนต้องไปกันมากกว่า8คนถึงจะปลอดภัย เพราะอาชญากรรมสูงมาก ลากเข้าตึกปลดทรัพย์ เสื้อผ้าก็เอาไปหมดเลยเหลือทิ้งไว้ให้แต่กางเกงใน! โหดมากอ่ะ จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ไม่กล้าออกนอกโรงแรมเลย!!
เที่ยวต่อด้วยกันในเมืองสวรรค์ของการพักผ่อน
ตอนที่3 เคปทาว์น - ฟาร์มนกกระจอกเทศ - Table Mountain - แหลมกู้ดโฮป