อยากจะหาค่าเฉลี่ยสินสอดในห้องนี้จริงๆ (ไม่เอาโลกสวยสดงดงาม)

ถามคุณสาวๆครับ ถ้ามีชายหนุ่มมาขอแต่งงานกับคุณ คุณมองว่า อย่างน้อยค่าสินสอดตัวคุณไม่ควรต่ำกว่าเท่าไหร่ครับ
เงินเท่าไหร่ ทองเท่าไหร่

ไม่เอาแบบ
- รักแท้ไม่มีเรียกสินสอด
- แล้วแต่เขาจะให้
- แล้วแต่พ่อแม่จะเรียก
- แล้วแต่เงินเก็บ

เพราะผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีตัวเลขในใจกันบ้าง ถ้าแฟนมาขอด้วยเงิน 20 บาทนี่คุณก็คงต้องมีลังเลใจบ้างล่ะ
เผื่ออนาคตจะได้เป็นไกด์ไลน์ให้หนุ่มๆได้เตรียมตัวเตรียมใจกันบ้าง

ถ้าสาวๆคิดยาก ลองถามตัวเองแบบนี้ดู ถ้าผู้ชายมาขอด้วยเงิน 500, 5000, 50000, 500000, 5000000,  50000000  
ตัวเลขไหนที่ทำให้คุณไม่ลังเลใจที่จะตัดสินใจแต่งงานครับ เริ่มจากน้อยไปหามากเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
ผมมีข้อคิดเล็กๆน้อยๆเรื่องสินสอด
ในสมัยก่อนการให้สินสอดสำหรับฝ่ายหญิงถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบว่าฝ่ายชายสามารถที่จะดูแลรักษาฝ่ายหญิงได้
ส่วนฝ่ายหญิงก็มีหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนที่ดีให้แก่ฝ่ายชาย

แต่เนื่องด้วยปัจจุบัน ทั้ง หญิง และ ชาย ต่างสามารถทำงานได้ในลักษณะเช่นเดียวกัน เพราะการศึกษาที่เพิ่มมากขึ้นโอกาสการทำงานที่ทัดเทียมกัน

ดังนั้น มันอาจจะไม่แปลกนักที่หลายคนต่างช่วยกันเก็บเงินเพื่อนำมาเป็นค่าสินสอด
แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะยังคงดำรงไว้ซึ่งธรรมเนียมปัฏิบัติ เช่น การเรียกสินสอด

แต่สิ่งที่ถูกบิดเบือนไปจากความจริงก็คือ จำนวนของตัวเลขในการขอเรียกสินสอด
พ่อแม่บางคนอาจจะกล่าวมาว่า ลูกฉันเลี้ยงมาอย่างดี เพราะฉะนั้นก็ต้องให้สินสอดที่สมน้ำสมเนื้อ สมหน้าตา
ในกรณีที่คุณเป็นผู้รากมากดีมาแต่ครั้งโบราณกาล อันนี้ก็สุดแล้วแต่...

แต่อีกนัยหนึ่งเช่นปุถุชนธรรมดาสามัญทั่วไป การประเมิน บางครั้งมักจะอิงจากหลักการที่ไม่สมเหตุสมผล
คุณต้องเข้าใจว่าการเรียกสินสอด ไม่ได้หมายถึงการจ่ายเงินเพื่อซื้อตัวลูกสาวของบ้านนั้นๆ
แต่การเรียกสินสอด เป็นการทำตามจารีต หรือ ธรรมเนียม ซึ่งจะเกี่ยวโยงและอยู่ในหลักหมวดหมู่ของเรื่องจริยธรรม

บางครอบครัวกะจะหวังรวยเพราะสินสอดกันก็มีมาก อีกทาง บางครอบครัวก็หวังเพียงให้คู่บ่าวสาวครองรักกันไปจนแก่เฒ่า

โดยความคิดเห็นส่วนตัว ผมไม่เห็นด้วยที่จะเรียกสินสอดจนเกินขอบเขตหรือความพอดี เช่น บาง User
อีกประการหนึ่งก็คือการจัดงานแต่งงานนั้น หน้าที่ขอมันเพียงแค่ต้องการบ่งบอกว่า สองครอบครัว ได้เกี่ยวดองกัน  (เพียงแค่นี้เอง)
แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คิดว่าการแต่งงานต้องเป็นอะไรที่โก้หรูมีระดับ มีหน้ามีตา ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์

ท้ายสุด - การคำนึงถึงหลักความเป็นจริงและไตร่ตรองสิ่งที่กระทำอย่างมีเหตุผล จะเป็นทางออกที่ดีสำหรับหัวข้อนี้
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่ได้งก ไม่ได้เว่อร์นะค่ะ แต่เอาจริงๆ ตรงๆเลยนะ
เงินสด 10 ล้าน ทอง 10 บาท ที่ดินที่มีมูลค่าประมาณนึง
หุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคงสูงและมีแนวโน้มที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้น
บ้านเดี่ยวหลังเล็กๆราคาสัก 3-4ล้านก็พอล่ะค่ะ คอนโดธรรมดา
ไม่ต้องหรูมากค่ะ เอาโครงการกลางๆ แล้วก็รถบีเอ็มธรรมดาๆสักคัน

ไม่ได้เท่านี้ เราก็ตั้งใจไว้แล้วค่ะว่า จะอยู่คนเดียวต่อไป
ไม่ได้คิดว่า จะเกาะแฟนกิน หรือหน้าเงิน คิดจะหาเงิน
จากการแต่งงานนะค่ะ คือ เราไม่ได้ซีเรียส ได้ก็ได้
ไม่ได้ก็ไม่แต่ง อยู่คนเดียวก็ได้ แก่มาก็ไปอยู้บ้านพักคนชรา
ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
แม่แฟนผมขอทองและเงิน อย่างละ สิบล้าน ผมเลยบอกไปว่าผมเป็นเกย์ จบครับ
ความคิดเห็นที่ 4
ของเรา ตังค์ 50,000 ทอง 1 บาท แถมลูกในท้องอีก 6 เดือน
ความคิดเห็นที่ 34
ในความคิดของเรานะ แค่ให้เค้ามาคุยกับพ่อแม่เรา แลกแหวนกันคนละวงก็พอ ตอนค่ำก็พาพ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายไปทานข้าวด้วยกัน แค่นั้นก็พอละ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายค่ะ มันอยู่ที่เรา เราต่างหากที่ใช้ชีวิตคู่  อีกอย่างคบกันด้วยความรัก ไม่ได้คบที่เงินนะคะ แต่ถ้าให้ไปกัดก้อนเกลือกินก็คงไม่ไหวค่ะยิ้ม เพราะฉะนั้นการจัดงานแต่งงานจึงไม่จำเป็นสำหรับเราเลย สู้เก็บเงินที่จะจัดงาน ค่าสินสอด เก็บไว้ทำทุน หรือเก็บไว้เพื่ออนาคตจะดีกว่าค่ะ ลองคิดดูนะคะ แต่งไปแล้วต้องมีลูก เดี่ยวนี้ค่าใช้จ่ายอะไรก็สูงขึ้นทุกวัน...อึม.....เอาไว้เป็นค่ารักษาตอนลูกป่วย เพราะถ้ามีลูกเด็กๆตัวน้อยป่วยได้ง่ายมากค่ะ ค่ารักษาก็แพง ไหนจะค่านม ค่าเทอมลูกอีก ณ.ปัจจุบันนี้ค่าเทอมเรียนหนังสือก็สูงมากแล้ว คุณลองคิดเผื่อไปอีกสักประมาณ10-20ปีสิคะ ว่าจะเป็นเท่าไรกัน และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกจิปาถะที่เป็นตัวเสริมตามมาอีกค่ะ ซึ่งมันคงจะเยอะมากๆ ลองคิดดูให้ดีๆนะคะ^^ อึม.. ขอโทษด้วยนะคะ แค่พูดให้ข้อคิดเฉยๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่