ส.ศิวรักษ์ เสนอตั้งเจ้าคุณประยุทธ์เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์องค์ใหม่

กระทู้สนทนา
สมเด็จพระพุฒาจารย์องค์ใหม่

การที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ ถึงแก่มรณภาพลงครั้งนี้ พระมหาเถระโดยเฉพาะก็ในชั้นหิรัณยบัตร แม้จะแสดงความเศร้าโศกเสียใจออกมา ก็เป็นแต่อากัปกิริยาภายนอก ที่พูดตามภาษาชาวบ้าน ก็คือการแสดงความหน้าไหว้หลังหลอก เพราะแท้ที่จริงนั้น หลายท่านพากันวางแผนว่าใครควรได้รับสมณฐานันดรดังกล่าวแทนพระคุณท่านที่เพิ่งสิ้นชีวิตไป จะให้ใครในวงการพระสังฆาธิการระดับสูง คิดถึงการพระศาสนา เพื่อแสวงหาพระผู้ทรงคุณงามความดีที่มีศีลาจารวัตรอันงดงาม พร้อมไปด้วยวิชาความรู้อันปราชญ์เปรื่อง มายกย่องเชิดชู เพื่อเป็นพระราชสิริ และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง อย่างสมศักดิ์ศรีกับคณะสงฆ์ หามีไม่

ถ้าที่ว่ามานี้เป็นจริงก็แสดงว่า การพระศาสนาในกระแสหลักของเราถึงซึ่งความเสื่อมอย่างยากที่จะเยียวยาได้เสียแล้ว เพราะตามราชประเพณีที่สืบทอดมาแต่ไหนแต่ไร พระราชาซึ่งเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ย่อมทรงยกย่องเชิดชูพระมหาเถระผู้ทรงไว้ซึ่งศีลาจารวัตร และสติปัญญาอย่างมีความเป็นเลิศในทางธรรม เพื่อเป็นศรีแก่พระนคร และเป็นการทำนุบำรุงพระศาสนา โดยท่านที่รับอาราธนารับสมณศักดิ์ดังกล่าว ก็ยอมรับเพื่อเห็นแก่พระศาสนาและพระราชา ตลอดจนเพื่อหิตานุหิตประโชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย อย่างไม่ติดไปกับยศช้างขุนนางพระนั้นๆกันเอาเลย

สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เมื่อยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระสาสนโสภณอยู่นั้น ทรงปฏิเสธที่จะได้รับเป็นสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และสมเด็จพระวันรัต เป็นลำดับๆมา จนพระเจ้าอยู่หัวต้องทรงขอร้องให้รับเป็นสมเด็จพระญาณสังวร ด้วยการนำเอาราชทินนามเดิมของสมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน วัดราชสิทธาราม มาใช้ขึ้นใหม่ โดยขยายตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะจากเดิมออกไปอีก ๒ รูป หมายความว่าฝ่ายมหานิกาย ก็เพิ่มตำแหน่งสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิ ขึ้นด้วยดังนี้ เป็นต้น

อนึ่ง สมเด็จพระอุปัชฌาย์ขององค์พระสังฆบิดรในเวลานี้ เมื่อเป็นพระญาณ
วราภรณ์ ตำแหน่งเจ้าคณะรองอยู่นั้น พระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ ๗ โปรดให้ถามว่า จะทรงเลื่อนท่านเป็นสมเด็จพระราชาคณะ พระคุณท่านทูลว่าไม่สมัครใจ จนต้องทรงอ้อนวอน จึงรับเป็นสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ดังสมเด็จพระญาณสังวร วัดราชสิทธาราม ก็ไม่ทรงรับเป็นสกลมหาสังฆปริณายก จนพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปขอร้องด้วยพระองค์เอง จึงทรงรับเพื่อสนองพระราชศรัทธา

สังฆประเพณีเป็นเช่นนี้ตลอดมาแต่ไหนแต่ไร เพิ่งมาปลาสนาการไปเมื่อเร็วๆนี้เอง

บัดนี้ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร จะพระราชทานพระราชกระแสมาให้มหาเถรสมาคมหรือรัฐบาลพิจารณาย่อมไม่อาจเป็นไปได้ รัฐบาลเองก็ขาดคุณสมบัติหรือความรอบรู้ในทางที่จะมีความกล้าหาญเข้าไปเสนอความเห็นถวายกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งส่วนใหญ่ก็คิดได้แต่ในทางที่เป็นประโยชน์ของตนและพวกตนเสียนั้นแล ยิ่งกว่าอะไรอื่น หาไม่ก็นิ่งเสียเป็นตำลึงทอง โดยอ้างว่าวางอุเบกขาเอาเสียเลยด้วยซ้ำ

ถ้าจะถวายสมณศักดิ์สมเด็จพระราชาคณะที่ว่างลงคราวนี้ ผู้ที่สมควรที่สุดที่อยู่นอกแวดวงของพระมหาเถระที่ทิ้งลาภยศสรรเสริญออกไป และมีคุณงามความดีทั้งศีลาธิคุณ และคุณวิเศษทางพระปริยัติธรรมอย่างที่นานาชาติยกย่องไปจนทั่วโลกแล้วไซร้ ก็เห็นมีแต่พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เพียงองค์เดียว ดังที่เจ้าคุณสมเด็จที่เพิ่งมรณภาพไปถึงกับเสนอราชทินนามเดิมของพระคุณท่าน เมื่อเป็นเจ้าคณะรอง ให้เจ้าคุณประยุทธ์ได้รับสมณฐานันดรในนามนั้น โดยที่ท่านรูปนี้ได้เป็นรองเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มาแต่สมัยยังไม่ได้เป็นพระราชาคณะ และสมเด็จเกี่ยวเป็นเลขาธิการสถาบันการศึกษาแห่งนั้น คือเจ้าคุณสมเด็จแลเห็นคุณงามความสามารถของพระคุณเจ้ารูปนี้มาแต่แรก และพระคุณท่านก็แสดงความสามารถอย่างอาจหาญในทางพระธรรมวินัยยิ่งๆขึ้นตลอดมา จนเริ่มชราภาพแล้ว แม้สุขภาพอนามัยจะไม่เอื้ออำนวยเอาเลยก็ตาม

แท้ที่จริง ถ้าสมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงพระประชวร และทรงบัญชาการพระศาสนาได้ ย่อมต้องเสนอให้พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แท้ทีเดียว เพราะเจ้าพระคุณสมเด็จทรงยกย่องพระเถระรูปนี้ตลอดมา ทรงถือว่าพระคุณท่านเป็นเพชรเม็ดเอกของพระศาสนาเอาเลยทีเดียว

โดยที่สมเด็จพระราชาคณะองค์ใหม่จะได้ดำรงตำแหน่งในปีที่สมเด็จพระสังฆบิดรจะมีพระชนม์ครบศตวรรษอันเป็นมหามงคลพิเศษ และปยุตฺโตภิกขุรูปนี้ นอกจากจะเป็นสามเณรเปรียญ ๙ ประโยครูปที่สองของรัชกาลปัจจุบันแล้ว ยังเป็นสามเณรเปรียญรุ่นแรกๆที่ทรงพระกรุณารับไว้เป็นนาคหลวงและเสด็จพระราชดำเนินไปในงานอุปสมบทพระคุณท่าน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วพระคุณท่านครองพรหมจรรย์ตลอดมาจนปัจจุบัน ในขณะที่สามเณรเปรียญ ๙ ประโยคที่เป็นนาคหลวงก่อนและหลังพระคุณท่านพากันสึกหาลาเพศไปตามๆกัน ที่ทรงสมณฐานันดรอยู่ บางรูปก็เป็นอลัชชีไปแล้ว การตั้งพระคุณท่านให้เป็นสมเด็จพระราชาคณะนั้น พระคุณท่านไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรๆกับโลกธรรม หากการสถาปนาพระคุณเจ้าขึ้นในสมณฐานันดรดังกล่าว จะเป็นพระราชสิริ เป็นการเพิ่มพูนพระบรมราชกฤษฎาภินิหารให้แผ่ไพศาล อย่างน้อยก็เป็นการลดรัศมีแห่งอลัชชีในวงการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะก็ในทางที่ปรากฎว่ามีการติดสินบนกันอย่างหนาตากับการเลื่อนสมณศักดิ์ต่างๆอย่างไม่เป็นมงคลเอาเลย

เราเอามงคลมาลบอัปมงคล เอาความดีมาชนะความชั่วกันบ้าง ในโอกาสเช่นนี้ จะไม่ดีหรือ หรือมหาเถรสมาคมรับข้อเสนอเช่นนี้ไม่ได้เสียแล้ว ถ้าเช่นนี้ก็หมดหวังเสียแล้วกับการที่จะทำให้หายนะเป็นวัฒนะ

ส.ศ.ษ.

ข้อมูลจากhttps://www.facebook.com/sulak.sivaraksa
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่