สมัยก่อนใครคิดอยากจะปรับปรุงหรือตกแต่งบ้านนั้นเป็นเรื่องแสนยุ่งยาก ไปร้านวัสดุก่อสร้างทีต้องเสียเวลาให้พนักงานร้านอธิบายกันอยู่เป็นชั่วโมง กว่าจะเข้าใจว่าวัสดุประเภทไหนเหมาะกับบ้านของเราและไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด หรือหากวัดขนาดไปผิด ก็เสียเวลา เสียงบประมาณที่ตั้งไว้ และที่สำคัญเสียอารมณ์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องช่างอย่างเรา
วีคเอนด์ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน ได้ยินมาว่า SCG ครบรอบ 100 ปีจัดงาน SCG Innovative Exposition แถวเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของคนรักบ้านและงานดีไซน์ ก็เลยขอแวะไปดูซะหน่อย ได้ยินมาว่าเขานำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับการอยู่อาศัยเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคตให้กับคนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ Innovative Store ร้านวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง สามารถพลิกโฉมการรีโนเวทบ้านให้กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลย
ถ้ามา CDC ถูก ก็มา SCG Experience ถูก เพราะมันอยู่ติดกัน แถมยังมีป้ายบอกทางไปงานนี้ตลอดทาง รับรองไม่มีทางหลงชัวร์ แต่สำหรับคนไม่มีรถ สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีพระราม 9 แล้วไปยืนรอ Shuttle Bus ของ SCG ได้เหมือนกัน เขามีบริการรับส่งไปกลับระหว่าง เซ็นทรัลพระราม 9 – ตึก SCG Experience ทุกๆ 1 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงที่งาน พนักงานของ SCG ต้อนรับอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อให้เราไปลงทะเบียนที่จุด Check-in ด้านหน้าสำหรับผู้เข้าชมงาน แต่ถ้าอยากได้สิทธิพิเศษ แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือ App ในโทรศัพท์มือถือดีกว่า เพราะจะได้รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว หนังสือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบ้าน SCG Experience Booklet และส่วนลดพิเศษสำหรับซื้อสินค้าของที่ระลึกภายในงานโดยไม่ต้องเสียเวลายืนกรอกข้อมูลหน้าเคาน์เตอร์ให้เมื่อย อีกทั้ง App ที่ดาวน์โหลดมาไว้ในมือถือยังไม่เสียเปล่า เพราะมันจะเป็นเครื่องมือหลักในการช้อปปิ้งสินค้าแต่งบ้านของเราเลยล่ะ
Visitor Guide ที่ได้รับแจกจากจุดลงทะเบียนเป็นเหมือนแผนที่ให้เรารู้ว่าภายในพื้นที่จัดงานทั้ง 3 ชั้นมีอะไรให้ดูบ้าง ซึ่งมันกว้างใหญ่และมีอะไรให้ดูเยอะกว่าที่คิดไว้มาก และเพื่อไม่ให้งง จึงขอเริ่มต้นจากความตั้งใจแรกด้วยการแวะเข้าไปที่โซน Innovative Store ที่ชั้น 1 ก่อนแล้วกัน ร้านวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่แห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากคอนเซปต์ Anywhere Anytime…Any Device หมายความว่า ต่อไปนี้เราสามารถเลือกซื้อสินค้าและวัสดุต่างๆ จากที่ไหนและเมื่อไรก็ได้ แค่ดาวน์โหลด SCG XP App มาไว้บนโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลวัสดุก่อสร้าง เห็นทั้งรูปร่างหน้าตาสีสัน คุณสมบัติ - ขนาดอย่างละเอียด รวมไปถึงราคา ถูกใจชิ้นไหน ก็กด Add to cart วางใส่ตะกร้าแล้วจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทันที
อีกช่องทางหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ถนัดดาวน์โหลด App เขาเตรียม Innovative Consultant ทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำการเลือกซื้อสินค้า พร้อมจอทัชสกรีนขนาดใหญ่กับก้อนกระจกทรงลูกบาศก์ที่เป็นตัวแทน Category สินค้าแต่ละชนิด ครอบคลุมทั้ง Indoor และ Outdoor ตั้งแต่หลังคา เครื่องครัว ห้องน้ำสุขภัณฑ์ เพดาน ผนัง อุปกรณ์ก่อสร้างแบบไฮเทค ฯลฯ ให้เราเลือกเอาไปวางบนจอทัชสกรีนอย่างกับของเล่น จากนั้นรายละเอียดทั้งหมดก็จะปรากฏขึ้นมาบนหน้าจออัตโนมัติทันทีเช่นเดียวกับในโทรศัพท์มือถือ
เซอร์ไพรซ์กว่านั้น แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ที่ช็อปสินค้า แต่เราก็สามารถขอคำปรึกษาจากทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญได้เหมือนกัน แถมเป็นแบบ Realtime มาพร้อมเทคโนโลยี Innovative X scan ที่ช่วยให้มองเห็นโครงสร้างบ้านและระบบภายในบ้านได้ เหมือนการ x-ray เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นก่อนซื้อ
ประเภทของสินค้าที่จัดแสดงที่ชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผนังเก็บเสียง ประตูหน้าต่าง หลังคา กระเบื้อง (กระเบื้องอิตาลีเลียนแบบลายหินธรรมชาติ) แต่ที่น่าสนใจสุดๆ ก็คือ กระจกพิมพ์ลายด้วยเทคโนโลยี Digital Printing ของคอตโต เพราะเราสามารถนำภาพถ่ายใดก็ได้ที่ชอบมาถ่ายทอดลงบนแผ่นกระจกขนาดใหญ่ ขอบอกว่าคมชัดและสดใสยิ่งกว่าปรินท์ลงบนกระดาษ ดูจากภาพตัวอย่างจากนครเวนิสที่นำมาโชว์แล้ว ทั้งเรือกอนโดลา จัตุรัสเวนิส และสะพานไม้ Ponte dell Academia ทำให้หวนนึกถึงสถานที่ในความทรงจำที่เราเคยไปเที่ยว ถ้านำมาพิมพ์ลายลงบนกระจกไว้ตกแต่งที่บ้านบ้าง คงจะสร้างสีสันให้กับบ้านกลายเป็นสตูดิโอศิลปะย่อมๆ ได้เลย
สินค้าทุกชิ้นในงาน SCG Expo ทั้ง 3 ชั้น จะ Tag ติดไว้หมด สนใจชิ้นไหนก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาแสกน QR code เพื่อดูข้อมูลสินค้า แล้วนำมาขอคำแนะนำจาก Innovative Consultant ที่โซน Innovative Store ชั้น 1 ได้เลย อะไรจะสะดวกสบายปานนี้คะ
เดินไปเดินมา หันไปเจอจอไอแพดเขียนว่า เชิญเล่นเกม เราก็เลยเข้าไปแตะๆ หน้าจอ พนักงานเขาก็เดินเข้ามาทางด้านหลัง แล้วอธิบายว่าเป็นเกม Lifestyle Animation สำหรับทดสอบไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าเป็นแบบไหน เครื่องถามคำถามประมาณว่า ชอบใช้ชีวิตอยู่ในห้องไหนของบ้านมากที่สุด ชอบโทนสีแบบไหน ฯลฯ แล้วก็แสดงผลออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ของเรากับบ้านในฝัน ตอนแรกก็นึกว่าจะอยู่ในจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว เราก็เลยคลิกซะมันมือ ที่ไหนได้...พอจบเกม มันขึ้นมาฉายเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นอยู่บนจอใหญ่ด้านหน้า ซึ่งมีใบหน้าของเราที่ถ่ายรูปเอาไว้ด้วยจ้า ใครผ่านไปผ่านมารู้หมดเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีไลฟ์สไตล์แบบไหน สินค้าวัสดุอะไร รูปแบบไหน ที่เหมาะกับบ้านของนาง
ใกล้ๆ กันนั้นมีผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์กระดาษจากดีไซน์เนอร์หลายคน เช่น
- Dinning Chair ของ อภิรัฐ บุญเรืองถาวร เก้าอี้ 4 ขา ทำจากแกนกระดาษ กระดาษรังผึ้ง และข้อต่ออะลูมิเนียม ในสไตล์ Smart Chic และ
- Rolly Puffy ของ อิทรธนู ฟ้าร่มขาว เก้าอี้ทำจากกระดาษลูกฟูกลอนเดียวที่ให้ความรู้สึกไหลลื่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติทั้งรูปทรงฟรีฟอร์มและพื้นผิว และเครื่องประดับบ้าน โดย วไลพรรณ ชูพันธ์ ที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลวดลายลงบนกระดาษกรีนการ์ด ผสมผสานกับการตัด แล้วนำแต่ละชิ้นมาจัดเรียงร้อยด้วยแผ่นทองแดงชุบพิงค์โกลด์ ไว้ส่องประกายวิบวับเพื่อเล่นกับไลท์ติ้งในบ้านยามค่ำคืน
ไปยืนอ่านแรงบันดาลใจของพวกเขาแล้วก็เพลินๆ
ก่อนจะเดินออกจากโซน Innovative Store เห็นร้านขายของที่ระลึก Pick&Go อยู่ทางซ้ายมือ ดูจากชื่อร้านแล้วก็แอบนึกเล่นๆ ว่าเขาให้เลือกหยิบสินค้าฟรีแล้วไปได้เลยรึเปล่านะ แต่ความจริงก็คือ เขาต้องการสื่อว่าเป็นการซื้อขายที่สะดวกรวดเร็วต่างหาก ภายในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ SCG โดยมุ่งเน้นสินค้ารักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม อย่าง สบู่สมุนไพร หมอนและหมอนข้างเพื่อสุขภาพ, บล็อกยางสำหรับทำน้ำแข็ง, ของตกแต่งบ้านอย่าง Magnet รูปใบไม้ Post-it และสมุดจดที่ทำจากกระดาษย่อยสลายง่าย, Rolling Bag กระเป๋าที่เป็นการนำถุงทรายมาออกแบบด้วย Sustainable Design โดยใช้วัตถุดิบและการตัดเย็บอย่างคุ้มค่า ไม่มีวัสดุเหลือทิ้ง, ลำโพงทำจากแกลลอน, เครื่องคิดเลข, กระถางต้นไม้ไบโอพลาสติก ผลิตจากพลาสติกชนิดโพลิเอททีลีน ผสมกับเส้นใยธรรมชาติจากต้นยูคาลิปตัส, แก้วเมลามีน WaveMe ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้อย่างสะดวกปลอดภัย และตอกย้ำความเป็นโลกอนาคตด้วยหุ่นยนต์ทำความสะอาด (ดูดฝุ่น) อัตโนมัติ iRobot Roomba 760 หุ่นยนต์ตัวนี้ฉลาดนะ ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว ไม่ตกบันได แถมทำงานเสร็จยังสามารถเดินกลับไปที่แท่นชาร์ตแบตเตอรี่ได้เอง โอ้ว…ดูท่าว่าแจ๋วจะตกงานก็คราวนี้
ยังมีสินค้าแต่งบ้านที่น่าสนใจอีกเยอะแยะ โดยเฉพาะที่ชั้น 2 ในโซน SCG Innovation for Life ซึ่งทั้งหมดเป็นนวัตกรรมที่สอนให้เราอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน เช่น ปูนซีเมนต์เรืองแสง สามารถขึ้นลายได้เมื่อโดนความชื้น / ละอองน้ำ หรือแสง UV เห็นคนเขามุงดูอะไรกัน พอเข้าไปดู เขากำลังสาธิตการใช้ปากกาแสงเลเซอร์วาดเป็นลวดลายบนแผ่นปูนซีเมนต์ที่ว่านี้อยู่ ใช้แทนไวท์บอร์ดได้เลยทีเดียว, ปลอกหมอน-ผ้าปูที่นอน Memory Foam แสนนุ่ม สามารถยืดหยุ่นไปตามร่างกาย เหมาะสำหรับคนปวดหลัง, แก้ว Biodegradable Paper Cup แก้วที่ย่อยสลายได้เองภายใน 90 วัน และที่ชอบมากเป็นพิเศษก็คือ Chocolate Series กระเบื้องขนมและโมเสคกลิ่นช็อกโกแล็ตจากคอตโต ที่พัฒนาเทคโนโลยีในการเคลือบสารชนิดพิเศษให้กระเบื้องแก้วมีกลิ่นหอมเบาๆ เมื่อสัมผัส โดยช็อกโกแลตมีคุณสมบัติลดความเครียด และสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ลองเข้าไปใกล้ๆ แล้วถูดูนะสนุกมาก
ชั้น 2 ยังมีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ มาต่อเติมจินตนาการ ฝึกระบายสี ในการสร้างสรรค์บ้านในฝัน รวมทั้งห้องสมุดที่ให้คนเมื่อยขาเข้าไปพักผ่อน เอนกายอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเกี่ยวกับดีไซน์และการแต่งบ้าน (Gardening, Industrial Design) ทั้งระดับโลกและระดับ local ปกติต้องเสียค่าสมาชิกขั้นต่ำ 600 บาท แต่สำหรับงานนี้เขาเปิดให้เข้าใช้บริการห้องสมุดได้ฟรี แถมยังมี wifi ให้ใช้ฟรีอีกด้วย
นั่งดูหนังสือเล่มยักษ์เจาะลึกสถาปัตยกรรมระดับโลกอย่างหอไอเฟล พร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊คหาข้อมูลอยู่สักพัก ก็ขอโผล่หน้าขึ้นไปดูชั้น 3 ในโซนจำลองรูปแบบเมืองและเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต (The City of Tomorrow) และโซนจำลองประสบการณ์ของผู้สูงวัย (Elderly Experience) เพื่อเตรียมพร้อมกับการสร้างที่อยู่อาศัยให้รองรับการเสื่อมถอยของร่างกาย แล้วก็รู้สึกว่านวัตกรรมของ SCG เขาใส่ใจไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนทุกช่วงวัยในทุกรายละเอียดจริงๆ เห็นแล้วเสียดายว่าน่าจะพาผู้ใหญ่ที่บ้านมาเดินชมด้วย เช่นเดียวกับคุณย่าคุณยายหลายๆ คนที่กำลังเดินเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าสบายใจ
ขอย้ำว่างานนี้มีอะไรให้ดูเยอะมากจริงๆ รู้ตัวอีกทีฟ้าข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว เรากลับลงมาที่ชั้น 1 อีกครั้งเมื่อพนักงานชี้ชวนให้เราเข้าไปในห้องการแสดง Live Performance ผสมผสานมัลติมีเดียแบบ 4 มิติ ซึ่งแปลกตรงที่ว่าผู้ชมจะต้องขึ้นบันไดไปยืนที่ชั้น 2 เพื่อมองลงมาและเห็นฉากแบ็คกราวด์ขนาดใหญ่ที่จอระนาบเดียวกับพื้น พอมีแสงสีเสียงสาดลงไป จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ โดยมีผู้แสดง Body Movement เพียง 1 คน ออกมาเคลื่อนไหวถ่ายทอดเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของผู้คนที่เปลี่ยนไปทุกวัน
โซน SCG Heritage ที่หน้าประตูทางออกส่งเรากลับบ้านด้วยการบอกให้เรารู้ถึงความเป็นมาและการเติบโตของ SCG ดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเหมือนต้นไม้เก่าอายุกว่า 100 ปี ซึ่งงอกเงยและออกดอกออกผลให้แก่สังคมไทยมามากมาย ขึ้นอยู่กับคนในสังคมแล้วว่าจะใช้ชีวิตต่อไปในอนาคตยังไงให้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
งาน SCG Innovative Exposition
เปิดให้เข้าชมจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2556
วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 11.00-19.00น.
[SR] ช้อปปิ้งของแต่งบ้านจากโลกอนาคต
วีคเอนด์ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน ได้ยินมาว่า SCG ครบรอบ 100 ปีจัดงาน SCG Innovative Exposition แถวเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของคนรักบ้านและงานดีไซน์ ก็เลยขอแวะไปดูซะหน่อย ได้ยินมาว่าเขานำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับการอยู่อาศัยเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคตให้กับคนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ Innovative Store ร้านวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง สามารถพลิกโฉมการรีโนเวทบ้านให้กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลย
ถ้ามา CDC ถูก ก็มา SCG Experience ถูก เพราะมันอยู่ติดกัน แถมยังมีป้ายบอกทางไปงานนี้ตลอดทาง รับรองไม่มีทางหลงชัวร์ แต่สำหรับคนไม่มีรถ สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีพระราม 9 แล้วไปยืนรอ Shuttle Bus ของ SCG ได้เหมือนกัน เขามีบริการรับส่งไปกลับระหว่าง เซ็นทรัลพระราม 9 – ตึก SCG Experience ทุกๆ 1 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงที่งาน พนักงานของ SCG ต้อนรับอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อให้เราไปลงทะเบียนที่จุด Check-in ด้านหน้าสำหรับผู้เข้าชมงาน แต่ถ้าอยากได้สิทธิพิเศษ แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือ App ในโทรศัพท์มือถือดีกว่า เพราะจะได้รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว หนังสือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบ้าน SCG Experience Booklet และส่วนลดพิเศษสำหรับซื้อสินค้าของที่ระลึกภายในงานโดยไม่ต้องเสียเวลายืนกรอกข้อมูลหน้าเคาน์เตอร์ให้เมื่อย อีกทั้ง App ที่ดาวน์โหลดมาไว้ในมือถือยังไม่เสียเปล่า เพราะมันจะเป็นเครื่องมือหลักในการช้อปปิ้งสินค้าแต่งบ้านของเราเลยล่ะ
Visitor Guide ที่ได้รับแจกจากจุดลงทะเบียนเป็นเหมือนแผนที่ให้เรารู้ว่าภายในพื้นที่จัดงานทั้ง 3 ชั้นมีอะไรให้ดูบ้าง ซึ่งมันกว้างใหญ่และมีอะไรให้ดูเยอะกว่าที่คิดไว้มาก และเพื่อไม่ให้งง จึงขอเริ่มต้นจากความตั้งใจแรกด้วยการแวะเข้าไปที่โซน Innovative Store ที่ชั้น 1 ก่อนแล้วกัน ร้านวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่แห่งนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากคอนเซปต์ Anywhere Anytime…Any Device หมายความว่า ต่อไปนี้เราสามารถเลือกซื้อสินค้าและวัสดุต่างๆ จากที่ไหนและเมื่อไรก็ได้ แค่ดาวน์โหลด SCG XP App มาไว้บนโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลวัสดุก่อสร้าง เห็นทั้งรูปร่างหน้าตาสีสัน คุณสมบัติ - ขนาดอย่างละเอียด รวมไปถึงราคา ถูกใจชิ้นไหน ก็กด Add to cart วางใส่ตะกร้าแล้วจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทันที
อีกช่องทางหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ถนัดดาวน์โหลด App เขาเตรียม Innovative Consultant ทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำการเลือกซื้อสินค้า พร้อมจอทัชสกรีนขนาดใหญ่กับก้อนกระจกทรงลูกบาศก์ที่เป็นตัวแทน Category สินค้าแต่ละชนิด ครอบคลุมทั้ง Indoor และ Outdoor ตั้งแต่หลังคา เครื่องครัว ห้องน้ำสุขภัณฑ์ เพดาน ผนัง อุปกรณ์ก่อสร้างแบบไฮเทค ฯลฯ ให้เราเลือกเอาไปวางบนจอทัชสกรีนอย่างกับของเล่น จากนั้นรายละเอียดทั้งหมดก็จะปรากฏขึ้นมาบนหน้าจออัตโนมัติทันทีเช่นเดียวกับในโทรศัพท์มือถือ
เซอร์ไพรซ์กว่านั้น แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ที่ช็อปสินค้า แต่เราก็สามารถขอคำปรึกษาจากทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญได้เหมือนกัน แถมเป็นแบบ Realtime มาพร้อมเทคโนโลยี Innovative X scan ที่ช่วยให้มองเห็นโครงสร้างบ้านและระบบภายในบ้านได้ เหมือนการ x-ray เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นก่อนซื้อ
ประเภทของสินค้าที่จัดแสดงที่ชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผนังเก็บเสียง ประตูหน้าต่าง หลังคา กระเบื้อง (กระเบื้องอิตาลีเลียนแบบลายหินธรรมชาติ) แต่ที่น่าสนใจสุดๆ ก็คือ กระจกพิมพ์ลายด้วยเทคโนโลยี Digital Printing ของคอตโต เพราะเราสามารถนำภาพถ่ายใดก็ได้ที่ชอบมาถ่ายทอดลงบนแผ่นกระจกขนาดใหญ่ ขอบอกว่าคมชัดและสดใสยิ่งกว่าปรินท์ลงบนกระดาษ ดูจากภาพตัวอย่างจากนครเวนิสที่นำมาโชว์แล้ว ทั้งเรือกอนโดลา จัตุรัสเวนิส และสะพานไม้ Ponte dell Academia ทำให้หวนนึกถึงสถานที่ในความทรงจำที่เราเคยไปเที่ยว ถ้านำมาพิมพ์ลายลงบนกระจกไว้ตกแต่งที่บ้านบ้าง คงจะสร้างสีสันให้กับบ้านกลายเป็นสตูดิโอศิลปะย่อมๆ ได้เลย
สินค้าทุกชิ้นในงาน SCG Expo ทั้ง 3 ชั้น จะ Tag ติดไว้หมด สนใจชิ้นไหนก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาแสกน QR code เพื่อดูข้อมูลสินค้า แล้วนำมาขอคำแนะนำจาก Innovative Consultant ที่โซน Innovative Store ชั้น 1 ได้เลย อะไรจะสะดวกสบายปานนี้คะ
เดินไปเดินมา หันไปเจอจอไอแพดเขียนว่า เชิญเล่นเกม เราก็เลยเข้าไปแตะๆ หน้าจอ พนักงานเขาก็เดินเข้ามาทางด้านหลัง แล้วอธิบายว่าเป็นเกม Lifestyle Animation สำหรับทดสอบไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าเป็นแบบไหน เครื่องถามคำถามประมาณว่า ชอบใช้ชีวิตอยู่ในห้องไหนของบ้านมากที่สุด ชอบโทนสีแบบไหน ฯลฯ แล้วก็แสดงผลออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ของเรากับบ้านในฝัน ตอนแรกก็นึกว่าจะอยู่ในจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว เราก็เลยคลิกซะมันมือ ที่ไหนได้...พอจบเกม มันขึ้นมาฉายเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นอยู่บนจอใหญ่ด้านหน้า ซึ่งมีใบหน้าของเราที่ถ่ายรูปเอาไว้ด้วยจ้า ใครผ่านไปผ่านมารู้หมดเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีไลฟ์สไตล์แบบไหน สินค้าวัสดุอะไร รูปแบบไหน ที่เหมาะกับบ้านของนาง
ใกล้ๆ กันนั้นมีผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์กระดาษจากดีไซน์เนอร์หลายคน เช่น
- Dinning Chair ของ อภิรัฐ บุญเรืองถาวร เก้าอี้ 4 ขา ทำจากแกนกระดาษ กระดาษรังผึ้ง และข้อต่ออะลูมิเนียม ในสไตล์ Smart Chic และ
- Rolly Puffy ของ อิทรธนู ฟ้าร่มขาว เก้าอี้ทำจากกระดาษลูกฟูกลอนเดียวที่ให้ความรู้สึกไหลลื่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติทั้งรูปทรงฟรีฟอร์มและพื้นผิว และเครื่องประดับบ้าน โดย วไลพรรณ ชูพันธ์ ที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลวดลายลงบนกระดาษกรีนการ์ด ผสมผสานกับการตัด แล้วนำแต่ละชิ้นมาจัดเรียงร้อยด้วยแผ่นทองแดงชุบพิงค์โกลด์ ไว้ส่องประกายวิบวับเพื่อเล่นกับไลท์ติ้งในบ้านยามค่ำคืน
ไปยืนอ่านแรงบันดาลใจของพวกเขาแล้วก็เพลินๆ
ก่อนจะเดินออกจากโซน Innovative Store เห็นร้านขายของที่ระลึก Pick&Go อยู่ทางซ้ายมือ ดูจากชื่อร้านแล้วก็แอบนึกเล่นๆ ว่าเขาให้เลือกหยิบสินค้าฟรีแล้วไปได้เลยรึเปล่านะ แต่ความจริงก็คือ เขาต้องการสื่อว่าเป็นการซื้อขายที่สะดวกรวดเร็วต่างหาก ภายในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ SCG โดยมุ่งเน้นสินค้ารักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม อย่าง สบู่สมุนไพร หมอนและหมอนข้างเพื่อสุขภาพ, บล็อกยางสำหรับทำน้ำแข็ง, ของตกแต่งบ้านอย่าง Magnet รูปใบไม้ Post-it และสมุดจดที่ทำจากกระดาษย่อยสลายง่าย, Rolling Bag กระเป๋าที่เป็นการนำถุงทรายมาออกแบบด้วย Sustainable Design โดยใช้วัตถุดิบและการตัดเย็บอย่างคุ้มค่า ไม่มีวัสดุเหลือทิ้ง, ลำโพงทำจากแกลลอน, เครื่องคิดเลข, กระถางต้นไม้ไบโอพลาสติก ผลิตจากพลาสติกชนิดโพลิเอททีลีน ผสมกับเส้นใยธรรมชาติจากต้นยูคาลิปตัส, แก้วเมลามีน WaveMe ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้อย่างสะดวกปลอดภัย และตอกย้ำความเป็นโลกอนาคตด้วยหุ่นยนต์ทำความสะอาด (ดูดฝุ่น) อัตโนมัติ iRobot Roomba 760 หุ่นยนต์ตัวนี้ฉลาดนะ ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว ไม่ตกบันได แถมทำงานเสร็จยังสามารถเดินกลับไปที่แท่นชาร์ตแบตเตอรี่ได้เอง โอ้ว…ดูท่าว่าแจ๋วจะตกงานก็คราวนี้
ยังมีสินค้าแต่งบ้านที่น่าสนใจอีกเยอะแยะ โดยเฉพาะที่ชั้น 2 ในโซน SCG Innovation for Life ซึ่งทั้งหมดเป็นนวัตกรรมที่สอนให้เราอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน เช่น ปูนซีเมนต์เรืองแสง สามารถขึ้นลายได้เมื่อโดนความชื้น / ละอองน้ำ หรือแสง UV เห็นคนเขามุงดูอะไรกัน พอเข้าไปดู เขากำลังสาธิตการใช้ปากกาแสงเลเซอร์วาดเป็นลวดลายบนแผ่นปูนซีเมนต์ที่ว่านี้อยู่ ใช้แทนไวท์บอร์ดได้เลยทีเดียว, ปลอกหมอน-ผ้าปูที่นอน Memory Foam แสนนุ่ม สามารถยืดหยุ่นไปตามร่างกาย เหมาะสำหรับคนปวดหลัง, แก้ว Biodegradable Paper Cup แก้วที่ย่อยสลายได้เองภายใน 90 วัน และที่ชอบมากเป็นพิเศษก็คือ Chocolate Series กระเบื้องขนมและโมเสคกลิ่นช็อกโกแล็ตจากคอตโต ที่พัฒนาเทคโนโลยีในการเคลือบสารชนิดพิเศษให้กระเบื้องแก้วมีกลิ่นหอมเบาๆ เมื่อสัมผัส โดยช็อกโกแลตมีคุณสมบัติลดความเครียด และสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ลองเข้าไปใกล้ๆ แล้วถูดูนะสนุกมาก
ชั้น 2 ยังมีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ มาต่อเติมจินตนาการ ฝึกระบายสี ในการสร้างสรรค์บ้านในฝัน รวมทั้งห้องสมุดที่ให้คนเมื่อยขาเข้าไปพักผ่อน เอนกายอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเกี่ยวกับดีไซน์และการแต่งบ้าน (Gardening, Industrial Design) ทั้งระดับโลกและระดับ local ปกติต้องเสียค่าสมาชิกขั้นต่ำ 600 บาท แต่สำหรับงานนี้เขาเปิดให้เข้าใช้บริการห้องสมุดได้ฟรี แถมยังมี wifi ให้ใช้ฟรีอีกด้วย
นั่งดูหนังสือเล่มยักษ์เจาะลึกสถาปัตยกรรมระดับโลกอย่างหอไอเฟล พร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊คหาข้อมูลอยู่สักพัก ก็ขอโผล่หน้าขึ้นไปดูชั้น 3 ในโซนจำลองรูปแบบเมืองและเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต (The City of Tomorrow) และโซนจำลองประสบการณ์ของผู้สูงวัย (Elderly Experience) เพื่อเตรียมพร้อมกับการสร้างที่อยู่อาศัยให้รองรับการเสื่อมถอยของร่างกาย แล้วก็รู้สึกว่านวัตกรรมของ SCG เขาใส่ใจไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนทุกช่วงวัยในทุกรายละเอียดจริงๆ เห็นแล้วเสียดายว่าน่าจะพาผู้ใหญ่ที่บ้านมาเดินชมด้วย เช่นเดียวกับคุณย่าคุณยายหลายๆ คนที่กำลังเดินเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าสบายใจ
ขอย้ำว่างานนี้มีอะไรให้ดูเยอะมากจริงๆ รู้ตัวอีกทีฟ้าข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว เรากลับลงมาที่ชั้น 1 อีกครั้งเมื่อพนักงานชี้ชวนให้เราเข้าไปในห้องการแสดง Live Performance ผสมผสานมัลติมีเดียแบบ 4 มิติ ซึ่งแปลกตรงที่ว่าผู้ชมจะต้องขึ้นบันไดไปยืนที่ชั้น 2 เพื่อมองลงมาและเห็นฉากแบ็คกราวด์ขนาดใหญ่ที่จอระนาบเดียวกับพื้น พอมีแสงสีเสียงสาดลงไป จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ โดยมีผู้แสดง Body Movement เพียง 1 คน ออกมาเคลื่อนไหวถ่ายทอดเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของผู้คนที่เปลี่ยนไปทุกวัน
โซน SCG Heritage ที่หน้าประตูทางออกส่งเรากลับบ้านด้วยการบอกให้เรารู้ถึงความเป็นมาและการเติบโตของ SCG ดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเหมือนต้นไม้เก่าอายุกว่า 100 ปี ซึ่งงอกเงยและออกดอกออกผลให้แก่สังคมไทยมามากมาย ขึ้นอยู่กับคนในสังคมแล้วว่าจะใช้ชีวิตต่อไปในอนาคตยังไงให้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
งาน SCG Innovative Exposition
เปิดให้เข้าชมจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2556
วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 11.00-19.00น.