Monsters University การ์ตูนเด็กๆที่น่าเอาไปสอนผู้ใหญ่ (สปอย)



Monsters University การ์ตูนเด็กๆที่น่าเอาไปสอนผู้ใหญ่ (สปอย)

การรู้จักตัวเราเองอย่างดีที่สุดคือการรับฟังผู้อื่น ไมค์และซัลลีนั้นก่อนที่จะมาเป็นคู่หูนักเขย่าขวัญเบอร์1ของบริษัท พวกเขาเคยโดนไล่ออกจากโรงเรียนสอนเขย่าขวัญมาแล้วเพราะการไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้ว่าตนเองมีความถนัดในเรื่องใด ด้วยการที่เป็นศัตรูกันทำให้ต่างฝ่ายอยากจะเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งยามที่อยู่ทีมเดียวกันเพื่อแข่งขันเกมส์กับทีมอื่น ถึงแม้สุดท้ายพวกเขาจะมาเข้าใจกันในเกมส์นัดสุดท้าย แต่ซัลลีดันไปโกงแทนที่จะบอกกับไมค์ตรงๆว่าตัวเขาเป็นอย่างไร ทำให้สุดท้ายก็เกิดความวุ่นวายบานปลายจนทั้งสองโดนไล่ออก

ไมค์ วาซาวสกี้ ผู้มีความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นสูง เขาคงเคยได้ยินคำสุภาษิตที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" มาตั้งแต่เด็กๆจึงทำให้เขามีความตั้งใจและคิดว่าตนเองจะทำได้แน่ๆ โดยไม่มองถึงสรรพคุณของตัวเองว่าจะไปได้แค่ไหน ไมค์ผู้อยากจะเป็นนักเขย่าขวัญผู้เก่งกาจ แต่รูปร่างหน้าตารวมไปถึงน้ำเสียงของเขาดันไม่ได้มีความน่ากลัวเลย ด้วยความพยายามของเขาในการศึกษาหาความรู้ในเรื่องการเขย่าขวัญเด็กๆ ทำให้เขามีความรู้อย่างแน่นเอี๊ยด จำได้ทุกทฤษฏีในการหลอกหลอนเด็ก แต่ด้วยข้อจำกัดทางกรรมพันธ์ุ ยังไงเขาก็ไม่มีทางหลอกเด็กให้ร้องได้ เปรียบเสมือนกับคนที่ขาพิการแต่อยากเป็นนักฟุตบอล ต่อให้เขาจะจำเทคนิคต่างๆได้ดีแค่ไหน เมื่อเขาไม่มีขา ยังไงเขาก็ไม่มีทางเป็นนักฟุตบอลแบบคนปกติได้

อย่าฝันจนเกินตัว หากเราทำอะไรที่มันเกินตัวเราไม่ได้ก็จงมองตัวเราอย่างเปิดใจโดยเฉพาะการเปิดใจรับฟังผู้อื่น เพื่อที่จะได้เห็นข้อดี ข้อเสียของตนเอง สุดท้ายไมค์ก็ค้นพบว่าแม้เขาจะเป็นนักเขย่าขวัญไม่ได้ แต่เขาก็เป็นผู้ฝึกสอนที่ดีได้ เหมือนกับผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ส่วนใหญ่เล่นบอลไม่เก่งหรอก แต่ด้วยความที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอล สุดท้ายพวกเขาก็ได้มาเป็นผู้จัดการทีมที่จะสร้างนักเตะที่ดีต่อไป

ทีนี้เราลองมาดูผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รัฐมนตรี ส.ส.ทั้งหลายดู หลายๆท่านไม่ได้มีความรู้ความสามารถในตำแหน่งที่ตัวเองดำรงอยู่เลย เพียงแต่ได้ตำแหน่งมาก็รีบรับไว้เพราะผลประโยชน์กลิ่นมันหอมหวล ที่แย่กว่าคือนอกจากจะไม่มีความรู้ความสามารถแล้วก็ยังไม่ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม สู้ไมค์ตัวน้อยไม่ได้แม้แต่น้อยนิดเลยที่ถึงแม้ไม่มีความสามารถแต่ก็ยังมีความพยายาม แต่ถึงไม่มีความพยายามก็น่ารู้จักความสามารถของตนแบบ"ไมค์ วาซาวสกี้"ก็ยังดี เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระแก่ประชาชนตาดำๆนัก

หลายท่านถ้ารู้ตัวว่ามีดีทางการพูดก็น่าจะลาออกไปเปิดทอล์คโชว์แข่งกับพี่โน๊ตดู ดีไม่ดีดังกว่าเดี่ยว10อีก

หลายท่านมีความสามารถแต่งเรื่องเก่ง น่าจะลาออกไปเขียนบทหนัง อาจจะได้มีสปีลเบิร์กเมืองไทยก็ได้

เชื่อสิถ้าทุกคนรู้จักตนเอง แล้วนำความสามารถมาใช้อย่างถูกวิธี ป่านนี้ทีมชาติไทยคงได้ไปบอลโลกแล้วครับ!!!

‪#‎คุยเรื่องหนัง

www.facebook.com/talkthemovie

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่