เดี๋ยวมันจะเงิบกันเปล่าๆนะครับ แม้แนวทางสืบสวนจะไปในทิศทางเดียวกับนิติวิทยาศาสตร์ของคุณพรทิพย์ก็ตาม เพราะหลายครั้งแล้วนะครับ แม้แต่คุณพรทิพย์เองก็เงิบเสียเอง ดังนั้นด้วยความห่วงใยเพื่อนๆสมาชิก จะต้องมาหน้าแตก เพราะการจินตนาการแบบคุณพรทิพย์นะครับ
ก่อนอื่นคงต้องตอบประเด็นข้อสงสัย 4 ข้อของคุณโอชิน 77 ให้กระจ่างเสียก่อน ไม่ใช่ให้ใครอื่นหรอกครับ แต่เป็นตัวคุณโอชิน 77 เอง และผมถือว่าเป็นเกียรติสำหรับ “ทวดเอง” ที่อย่างน้อยยังมีคนให้ความใส่ใจ แม้จะเป็นฝ่ายที่คิดเห็นต่างก็ตาม ผมจะไม่มีทางมองว่า คุณโอชิน 77 หวัง “โหน” เหมือนอย่างเพื่อนๆสมาชิกหลายท่านชอบใช้กัน
ข้อสงสัยที่ 1 เล่นที่ราชดำเนินที่เดียว
ไม่ใช่ครับ มีสองที่อย่างที่คุณข้างบูรพากล่าวถึง แต่ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้เวลาที่จะเข้ามาตอบในกระทู้ที่ตัวเองตั้งมากนัก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองขาดความรับผิดชอบ ดังนั้นอีกห้อง ช่วงหลังนี้ผมจึงนานๆจะเข้าไปเยี่ยมเพื่อนๆกันสักที
ข้อสงสัยข้อที่ 2 ส่วนใหญ่เล่นในเวลาราชการ
นั่นเป็นเพราะ “ทวดเอง” ทำงานนั่งโต๊ะ แม้มีอำนาจพอที่จะให้ใครเข้าก็ได้ ให้ใครออกก็ได้ แต่รับรองด้วยเกียรติของชายไทยที่ไม่เคยหนีทหาร ไม่ใช่ข้าราชการระดับสูงแน่ๆเลยครับ แม้จะทำงานในสถานที่ราชการ แต่ก็ไม่ใช่ข้าราชการ เพราะผมรับเงินเดือนกับเอกชน เป็นลูกจ้างตามพจนานุกรมของ ตลก.อย่างสมบูรณ์แบบ เหตุนี้ผมจึงอาศัยช่วงที่กล้องวงจรปิดไม่มีอะไรเคลื่อนไหว และไม่มีรถเข้าออก มาเป็นเวลาตั้งกระทู้ครับคุณโอชิน 77
ข้อสงสัยข้อที่ 3 เก่งเกินบุคลคนเดียวที่สามารถเขียนกระทู้สวยหรูได้ตลอด
ข้อนี้คงต้องแย้งกันอย่างสุดกำลัง เพราะมันเหมือนความพยายามในการเสี้ยมให้เกิดความแตกแยก มันไม่ใช่การอวยกันด้วยความสุจริตใจอย่างแน่นอน เพราะหลายล็อคอินในห้องนี้ ผมให้ความนิยมชมชื่นในความรอบรู้ รู้สึกนับถือในสำนวนการเขียน และแนวคิดอีกหลากหลายที่เป็นไอดอลของผมเลยทีเดียวเชียว
สำหรับล็อคอินธรรมดาอย่าง “ทวดเอง”เป็นได้แค่นักเขียนที่เขียนในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วต่างหาก เขียนด้วยสามัญสำนึกธรรมดาที่คนส่วนใหญ่เขาคิดกันต่างหาก ดังนั้นมันจึงตรงกับจริตของคนส่วนใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าจะมีหลายคนชื่นชอบ ที่มีคนเขียนในสิ่งที่พวกเขากำลังคิดกันอยู่ เว้นแต่พวกคิดไม่เป็นเท่านั้นครับ จึงมองว่า นี่เป็นการสะกดจิตหมู่ ทั้งๆที่ตัวเองถูกสะกดจนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ มันน่าหัวเราะน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ
ข้อสงสัยข้อที่ 4 โพสวันละกระทู้
เป็นตรรกะที่ประหลาดแบบเดียวกับ จีที 200 ทำงานได้เชียวนะครับ ผมต้องการโพสวันละกระทู้ ผมต้องการกินเหล้าวันละครึ่งขวด มีเมียทีละคน (น้องเมียไม่นับ) แล้วมันกลายเป็นเรื่องน่าสงสัยอย่างนั้นหรือครับ แปลกคนจริงเชียวคุณโอชิน 77 นี่
เอาล่ะ คราวนี้ “ทวดเอง”ขอพูดบ้าง สาเหตุที่ “ทวดเอง”ทำให้เป็น “ทวดเอง”อยู่ทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะ “ความถูกต้อง” เท่านั้นเอง
เพียงเพราะมีการขับไล่รัฐบาลที่กำลังนำพาประเทศสู่ความรุ่งโรจน์
เพียงเพราะมีการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน
เพียงเพราะมีการใช้อำนาจกับอดีตนายกฯอย่างไม่เป็นธรรม
เพียงเพราะมีการปิดกั้นสื่อฯหลายสื่อที่แสดงความคิดเห็นอีกด้าน
สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ “ทวดเอง”ต้องขวนขวายหามุมมองอีกด้านให้ได้ แล้วในที่สุด “ทวดเอง”ก็ได้เจอเวปบอร์ดราชดำเนินแห่งนี้ ที่มีข้อมูลหลากหลายให้เสพ ให้วิเคราะห์และยังเป็นเวปที่ทำให้สมองทั้งสองซีกของ “ทวดเอง”มีโอกาสทำงานไปด้วยพร้อมๆกัน
แรกเริ่ม “ทวดเอง”ก็เพียงแค่เข้ามาหาความรู้ แล้วค่อยๆพัฒนาสู่การเขียน ใหม่ๆก็แค่บรรทัดสองบรรทัด โดยอาศัยไอดอลหลายไอดอล ดังที่ “ทวดเอง”ได้กล่าวมาข้างต้น จนในที่สุดจึงได้เป็น “ทวดเอง”ในวันนี้
“ทวดเอง”ที่เขียนชมคุณทักษิณ ก็มีหลายคนบอกว่า “บูชาแม้ว” ทั้งๆที่พวกเขาก็บูชามาร์คเช่นกัน
“ทวดเอง”ที่เขียนเชียร์คุณยิ่งลักษณ์ เพื่อให้เธอมีกำลังใจในการทำงาน ก็กลายเป็นอวยปูซะงั้น ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่เคยด่าอภิสิทธิ์เช่นกัน
“ทวดเอง”เขียนถึงความไม่ปกติในหลายเรื่องของมาร์ค ก็กลายเป็นว่าถูกแกนนำล้างสมอง
“ทวดเอง”เขียนถึงความไม่ชอบมาพากลขององค์กรอิสระต่างๆ ก็กลายเป็นว่า จ้องดิสเครดิต
“ทวดเอง”เขียนถึงคนหน้าเดิมที่หาเรื่องล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็กลายเป็นว่า ขี้ข้าแม้ว
มีหลายคนเสียด้วยที่กล่าวหา “ทวดเอง”เขียนซ้ำๆ เพื่อล้างสมองหรือสะกดจิตหมู่ไปโน่น หรือแม้กระทั่ง “ทวดเอง”ชอบเสนอความจริงด้านเดียว แต่กลับไม่มีใครออกมาพูดถึงความจริงอีกด้านที่ “ทวดเอง”ไม่พูดถึง
จริงอยู่ “ทวดเอง”ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา อีกทั้งการเขียนการพิมพ์ทั้งหมด ล้วนแต่มาจากความทรงจำกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งสิ้น บางครั้งอาจมีผิดพลาดไปบ้าง ถ้าได้รับการชี้แจงในข้อมูลที่ถูกต้อง “ทวดเอง”ก็พร้อมขอโทษ และเสียใจ ถ้าเป็นความผิดที่เหมือนบิดเบือน “ทวดเอง”ก็ยังเคยแบนตัวเองมาแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
เพียงแต่ใน 7 ปีที่ผ่านมา กับการโพสหนึ่งกระทู้ต่อวันนั้น ปีหนึ่งตกเกือบสามร้อยกระทู้ เจ็ดปีก็ร่วมสองพันกว่ากระทู้ ผมต้องกล่าวคำขอโทษแค่ไม่กี่ครั้ง และเคยแบนตัวเองแค่สองครั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นจะมาบอกว่า การโพสของผมเป็นแค่การจินตนาการคงไม่ถูกต้องนัก เพราะแม้แต่อีกฝ่ายก็ยังหาข้อขัดแย้งมาแย้งผมไม่ได้เลย จริงไหมครับ
เพราะสิ่งที่ “ทวดเอง”โพสนั้น มันไม่ใช่เรื่องของการสมมติ ไม่ใช่เรื่องของการคาดเดา แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้น และก็เป็น “ผล”ที่ตามมาจาก “เหตุ”ทั้งสิ้น ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับความถูกต้องไงครับ
แค่เป็นคนที่ติดตามการเมืองอย่างสม่ำเสมอ
แค่เป็นคนที่มีสติกับการรับข้อมูลข่าวสาร
แค่เป็นคนที่มีสัมปชัญญะปกติแบบมนุษย์มนาทั่วๆไป
แค่เป็นคนที่รู้จักวิเคราะห์ไตร่ตรอง
แค่เป็นคนที่คิดอย่างที่คนปกติเขาคิดกัน
และข้อสำคัญขอให้เป็นแค่คนที่รักความถูกต้อง รักความยุติธรรมและรักประชาธิปไตย
ก็จะเข้าใจในสิ่งที่ “ทวดเอง”โพส สิ่งที่ “ทวดเอง”ต้องการสื่อ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก นอกเสียจากอคติมันบังตา ความเกลียดมันบังใจ จนละเลยกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้าในหลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้นอย่าได้สืบสวนความเป็นมาของ “ทวดเอง”ต่อไปเลยนะครับ มันไม่ได้ประโยชน์หรอกครับ สู้เอาเวลาไปอ่านกระทู้ของ “ทวดเอง”ให้เข้าใจในเนื้อหา และทำความเข้าใจกับมันให้ถ่องแท้ แล้วนำไปเปรียบกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา นั่นอาจทำให้เข้าใจความคิดและตัวตนของ “ทวดเอง”ได้กระจ่างกว่าการตั้งสมมติฐานทีน่าหัวเราะอย่างนั้นเลยครับ
อีกทั้งยังจะได้รับรู้ว่า ค่าจ้างของ “ทวดเอง”นั้นแพงกว่าที่หลายๆคนคาดคิดนัก เพราะค่าจ้างของ “ทวดเอง”นั่นคือ “ประชาธิปไตยแบบสากล”ไงครับ ใครล่ะจะมีปัญญาจ้างผม นอกเสียจากคนเสื้อแดงและคนรักประชาธิปไตยเท่านั้นแหละครับที่พอจะจ้างผมได้
ไม่ต้องสืบกันให้ยุ่งยากกันไปเลยครับ สำหรับล็อคอิน “ทวดเอง”
ก่อนอื่นคงต้องตอบประเด็นข้อสงสัย 4 ข้อของคุณโอชิน 77 ให้กระจ่างเสียก่อน ไม่ใช่ให้ใครอื่นหรอกครับ แต่เป็นตัวคุณโอชิน 77 เอง และผมถือว่าเป็นเกียรติสำหรับ “ทวดเอง” ที่อย่างน้อยยังมีคนให้ความใส่ใจ แม้จะเป็นฝ่ายที่คิดเห็นต่างก็ตาม ผมจะไม่มีทางมองว่า คุณโอชิน 77 หวัง “โหน” เหมือนอย่างเพื่อนๆสมาชิกหลายท่านชอบใช้กัน
ข้อสงสัยที่ 1 เล่นที่ราชดำเนินที่เดียว
ไม่ใช่ครับ มีสองที่อย่างที่คุณข้างบูรพากล่าวถึง แต่ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้เวลาที่จะเข้ามาตอบในกระทู้ที่ตัวเองตั้งมากนัก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองขาดความรับผิดชอบ ดังนั้นอีกห้อง ช่วงหลังนี้ผมจึงนานๆจะเข้าไปเยี่ยมเพื่อนๆกันสักที
ข้อสงสัยข้อที่ 2 ส่วนใหญ่เล่นในเวลาราชการ
นั่นเป็นเพราะ “ทวดเอง” ทำงานนั่งโต๊ะ แม้มีอำนาจพอที่จะให้ใครเข้าก็ได้ ให้ใครออกก็ได้ แต่รับรองด้วยเกียรติของชายไทยที่ไม่เคยหนีทหาร ไม่ใช่ข้าราชการระดับสูงแน่ๆเลยครับ แม้จะทำงานในสถานที่ราชการ แต่ก็ไม่ใช่ข้าราชการ เพราะผมรับเงินเดือนกับเอกชน เป็นลูกจ้างตามพจนานุกรมของ ตลก.อย่างสมบูรณ์แบบ เหตุนี้ผมจึงอาศัยช่วงที่กล้องวงจรปิดไม่มีอะไรเคลื่อนไหว และไม่มีรถเข้าออก มาเป็นเวลาตั้งกระทู้ครับคุณโอชิน 77
ข้อสงสัยข้อที่ 3 เก่งเกินบุคลคนเดียวที่สามารถเขียนกระทู้สวยหรูได้ตลอด
ข้อนี้คงต้องแย้งกันอย่างสุดกำลัง เพราะมันเหมือนความพยายามในการเสี้ยมให้เกิดความแตกแยก มันไม่ใช่การอวยกันด้วยความสุจริตใจอย่างแน่นอน เพราะหลายล็อคอินในห้องนี้ ผมให้ความนิยมชมชื่นในความรอบรู้ รู้สึกนับถือในสำนวนการเขียน และแนวคิดอีกหลากหลายที่เป็นไอดอลของผมเลยทีเดียวเชียว
สำหรับล็อคอินธรรมดาอย่าง “ทวดเอง”เป็นได้แค่นักเขียนที่เขียนในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วต่างหาก เขียนด้วยสามัญสำนึกธรรมดาที่คนส่วนใหญ่เขาคิดกันต่างหาก ดังนั้นมันจึงตรงกับจริตของคนส่วนใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าจะมีหลายคนชื่นชอบ ที่มีคนเขียนในสิ่งที่พวกเขากำลังคิดกันอยู่ เว้นแต่พวกคิดไม่เป็นเท่านั้นครับ จึงมองว่า นี่เป็นการสะกดจิตหมู่ ทั้งๆที่ตัวเองถูกสะกดจนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ มันน่าหัวเราะน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ
ข้อสงสัยข้อที่ 4 โพสวันละกระทู้
เป็นตรรกะที่ประหลาดแบบเดียวกับ จีที 200 ทำงานได้เชียวนะครับ ผมต้องการโพสวันละกระทู้ ผมต้องการกินเหล้าวันละครึ่งขวด มีเมียทีละคน (น้องเมียไม่นับ) แล้วมันกลายเป็นเรื่องน่าสงสัยอย่างนั้นหรือครับ แปลกคนจริงเชียวคุณโอชิน 77 นี่
เอาล่ะ คราวนี้ “ทวดเอง”ขอพูดบ้าง สาเหตุที่ “ทวดเอง”ทำให้เป็น “ทวดเอง”อยู่ทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะ “ความถูกต้อง” เท่านั้นเอง
เพียงเพราะมีการขับไล่รัฐบาลที่กำลังนำพาประเทศสู่ความรุ่งโรจน์
เพียงเพราะมีการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน
เพียงเพราะมีการใช้อำนาจกับอดีตนายกฯอย่างไม่เป็นธรรม
เพียงเพราะมีการปิดกั้นสื่อฯหลายสื่อที่แสดงความคิดเห็นอีกด้าน
สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ “ทวดเอง”ต้องขวนขวายหามุมมองอีกด้านให้ได้ แล้วในที่สุด “ทวดเอง”ก็ได้เจอเวปบอร์ดราชดำเนินแห่งนี้ ที่มีข้อมูลหลากหลายให้เสพ ให้วิเคราะห์และยังเป็นเวปที่ทำให้สมองทั้งสองซีกของ “ทวดเอง”มีโอกาสทำงานไปด้วยพร้อมๆกัน
แรกเริ่ม “ทวดเอง”ก็เพียงแค่เข้ามาหาความรู้ แล้วค่อยๆพัฒนาสู่การเขียน ใหม่ๆก็แค่บรรทัดสองบรรทัด โดยอาศัยไอดอลหลายไอดอล ดังที่ “ทวดเอง”ได้กล่าวมาข้างต้น จนในที่สุดจึงได้เป็น “ทวดเอง”ในวันนี้
“ทวดเอง”ที่เขียนชมคุณทักษิณ ก็มีหลายคนบอกว่า “บูชาแม้ว” ทั้งๆที่พวกเขาก็บูชามาร์คเช่นกัน
“ทวดเอง”ที่เขียนเชียร์คุณยิ่งลักษณ์ เพื่อให้เธอมีกำลังใจในการทำงาน ก็กลายเป็นอวยปูซะงั้น ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่เคยด่าอภิสิทธิ์เช่นกัน
“ทวดเอง”เขียนถึงความไม่ปกติในหลายเรื่องของมาร์ค ก็กลายเป็นว่าถูกแกนนำล้างสมอง
“ทวดเอง”เขียนถึงความไม่ชอบมาพากลขององค์กรอิสระต่างๆ ก็กลายเป็นว่า จ้องดิสเครดิต
“ทวดเอง”เขียนถึงคนหน้าเดิมที่หาเรื่องล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็กลายเป็นว่า ขี้ข้าแม้ว
มีหลายคนเสียด้วยที่กล่าวหา “ทวดเอง”เขียนซ้ำๆ เพื่อล้างสมองหรือสะกดจิตหมู่ไปโน่น หรือแม้กระทั่ง “ทวดเอง”ชอบเสนอความจริงด้านเดียว แต่กลับไม่มีใครออกมาพูดถึงความจริงอีกด้านที่ “ทวดเอง”ไม่พูดถึง
จริงอยู่ “ทวดเอง”ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา อีกทั้งการเขียนการพิมพ์ทั้งหมด ล้วนแต่มาจากความทรงจำกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งสิ้น บางครั้งอาจมีผิดพลาดไปบ้าง ถ้าได้รับการชี้แจงในข้อมูลที่ถูกต้อง “ทวดเอง”ก็พร้อมขอโทษ และเสียใจ ถ้าเป็นความผิดที่เหมือนบิดเบือน “ทวดเอง”ก็ยังเคยแบนตัวเองมาแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
เพียงแต่ใน 7 ปีที่ผ่านมา กับการโพสหนึ่งกระทู้ต่อวันนั้น ปีหนึ่งตกเกือบสามร้อยกระทู้ เจ็ดปีก็ร่วมสองพันกว่ากระทู้ ผมต้องกล่าวคำขอโทษแค่ไม่กี่ครั้ง และเคยแบนตัวเองแค่สองครั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นจะมาบอกว่า การโพสของผมเป็นแค่การจินตนาการคงไม่ถูกต้องนัก เพราะแม้แต่อีกฝ่ายก็ยังหาข้อขัดแย้งมาแย้งผมไม่ได้เลย จริงไหมครับ
เพราะสิ่งที่ “ทวดเอง”โพสนั้น มันไม่ใช่เรื่องของการสมมติ ไม่ใช่เรื่องของการคาดเดา แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้น และก็เป็น “ผล”ที่ตามมาจาก “เหตุ”ทั้งสิ้น ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับความถูกต้องไงครับ
แค่เป็นคนที่ติดตามการเมืองอย่างสม่ำเสมอ
แค่เป็นคนที่มีสติกับการรับข้อมูลข่าวสาร
แค่เป็นคนที่มีสัมปชัญญะปกติแบบมนุษย์มนาทั่วๆไป
แค่เป็นคนที่รู้จักวิเคราะห์ไตร่ตรอง
แค่เป็นคนที่คิดอย่างที่คนปกติเขาคิดกัน
และข้อสำคัญขอให้เป็นแค่คนที่รักความถูกต้อง รักความยุติธรรมและรักประชาธิปไตย
ก็จะเข้าใจในสิ่งที่ “ทวดเอง”โพส สิ่งที่ “ทวดเอง”ต้องการสื่อ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก นอกเสียจากอคติมันบังตา ความเกลียดมันบังใจ จนละเลยกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้าในหลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้นอย่าได้สืบสวนความเป็นมาของ “ทวดเอง”ต่อไปเลยนะครับ มันไม่ได้ประโยชน์หรอกครับ สู้เอาเวลาไปอ่านกระทู้ของ “ทวดเอง”ให้เข้าใจในเนื้อหา และทำความเข้าใจกับมันให้ถ่องแท้ แล้วนำไปเปรียบกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา นั่นอาจทำให้เข้าใจความคิดและตัวตนของ “ทวดเอง”ได้กระจ่างกว่าการตั้งสมมติฐานทีน่าหัวเราะอย่างนั้นเลยครับ
อีกทั้งยังจะได้รับรู้ว่า ค่าจ้างของ “ทวดเอง”นั้นแพงกว่าที่หลายๆคนคาดคิดนัก เพราะค่าจ้างของ “ทวดเอง”นั่นคือ “ประชาธิปไตยแบบสากล”ไงครับ ใครล่ะจะมีปัญญาจ้างผม นอกเสียจากคนเสื้อแดงและคนรักประชาธิปไตยเท่านั้นแหละครับที่พอจะจ้างผมได้