กรณีน้องเมย์ชนะเลิศแบดมินตันได้แชมป์โลกมีพวกเกาะกระแส
โหนด้ามไม้แบดน้องเมย์เค้าอย่างหน้าไม่อาย..บอกตรงๆว่า"ทุเรศ"
เมื่อก่อนทำไมไม่เห็นมีใครสนับสนุนน้องเค้าอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งๆที่น้องเค้ามีผลงานให้เห็นตั้งแต่ระดับเยาวชน ระดับชาติมาตลอด
ครอบครัวน้องเค้าเท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีฐานะทางการเงินดีเท่าไหร่
พิสูจน์ได้จากน้องเค้าให้สัมภาษณ์ว่าชนะครั้งนี้จะซื้อเครื่องซักผ้าให้กับแม่
แสดงว่าน้องเค้าต้องดิ้นรนใช้ทุนตัวเองในซื้ออุปกรณ์อย่างไม้แบด(อย่างดีราคาก็ไม่ใช่น้อย)
การฝึกซ้อมในสนามก็ต้องใช้เงิน ค่าจ้างโค้ชยันเครื่องแต่งกายก็ต้องใช้ทุนที่หาได้เอง
เชื่อได้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงแบบกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬา
ก็ไม่เคยให้การสนับสนุนน้องเค้าอย่างจริงจัง
แต่พอน้องเค้าดังถึงมีพวกหน้าใหญ่เสนอหน้าเข้าไปบอกจะให้นู่นนี่นั่นกับน้องเค้า..โหนกระแสเสนอขอเครื่องราชย์ให้
ถ้ายังจำกันได้อย่างกรณีไทเกอร์ วู๊ด มือหนึ่งกอล์ฟโลกลูกครึ่งไทยอเมริกา
ที่พอดังก็มีหน่วยงานหนึ่งเสนอจะให้เครื่องราชย์ ให้สัญชาติไทย สาระพัดที่จะประเคนให้
ปรากฏว่าลูกครึ่งอย่างไทเกอร์วู๊ดปฏิเสธไม่ขอรับอะไรจากประเทศสักอย่าง
แม่ไทเกอร์วู๊ดที่เป็นคนไทยแท้ๆก็ออกมาให้สัมภาษณ์แบบไม่มีเยื่อใย
พร้อมกับตำหนิพวกเสนอหน้าว่าเมื่อก่อนทำไมไม่มีใครสนใจเค้า
ทำให้พวกนักฉกฉวยทั้งหลายหน้าแตกกันเป็นทิวแถว
คนไทยเราก็ดราม่าด่าแม่ไทเกอร์วู๊ดว่าลืมสัญชาติเดิม
ตัวผมเองก็ยังเผลอด่าแม่ไทเกอร์วู๊ดว่าลืมชาติไปกับเค้าด้วย
พอนานเข้าถึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรที่แม่ไทเกอร์วู๊ดปฏิเสธ
เพราะรัฐบาลไทยหรือหน่วยงานไหนของไทยเคยสนับสนุนเค้าเลยซักบาทเดียว
เค้าต้องใช้ทุนตัวเองมาตลอด ทั้งฝึกซ้อม ซื้ออุปกรณ์ ค่าสนาม แคชดี้ จ้างโค้ชสอน ตั้งแต่เป็นเด็กโนเนม
ลูกชายเพื่อนอายุ 10 ปี ตอนนี้เป็นนักฬาเยาวชนกอล์ฟเป็นเยาวชนทีมชาติ
ชนะการแข่งขันระดับโลกมานับไม่ถ้วนต้องใชัทุนพ่อ-แม่ มาตลอด
เดินทางไปแข่งต่างประเทศอย่างเก่งก็ได้รับการสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินให้ไปแข่งจากสโมสรในสังกัดแค่คนเดียว
บางรายการสโมสรก็ให้พ่อหรือแม่ หรือโคัชประจำตัวก็ต้องออกเงินซื้อตั๋วเอง
โชคดีที่เด็กคนนี้ไม่ต้องใช้โค้ช มีแต่แม่หรือพ่อเพียงคนเดียวที่บินไปทำหน้าแคชดี้+โค้ชให้เด็กเอง
มีครั้งหนี่งเด็กได้โควต้าไปแข่งระดับเยาวชนโลกที่อเมริกาในฐานะตัวแทนทีมชาติ
ที่มีคนในตระกูลน้ำเมาผูกขาดเป็นนายกสมาคมกอล์ฟของประเทศมาตลอด
ปรากฏว่าเด็กขอวีซ่าไม่ผ่าน ไม่สามารถเดินทางไปแข่งได้
เชื่อมั๊ยไอ้บริษัทน้ำเมาทวงถามขอให้เด็กคืนเสื้อ กางเกง ร่ม ฯลฯที่ราคาไม่มากนักจากเด็ก
ทั้งที่จริงเด็กสังกัดสโมสรน้ำเมานี้มาตั้งแต่โนเนม แต่ความเป็นจริงเด็กก็ใช้ทุนพ่อแม่ตัวเองมาตลอด
เวลาไปแข่งที่ไหน ไม่ว่าทั้งในหรือนอกประเทศต้องสรวมเสื้อ ใฃัร่ม ที่มีโลโก้ของบริษัทนี้ตลอดการแข่งขัน
และการไปแข่งขันแต่ละครั้งต้องได้รับอนุญาต และต้องไปในนามสโมสรน้ำเมาทุกครั้ง(สัญญาทาส)
ความเห็นแก่ตัวของนายทุนที่คอยจ้องฉกฉวย โหนกระแส เกาะความดังของนักกีฬาหาได้ไม่ยากในประเทศนี้
สร้างภาพ โหนกระแส หรือฉกฉวย
กรณีน้องเมย์ชนะเลิศแบดมินตันได้แชมป์โลกมีพวกเกาะกระแส
โหนด้ามไม้แบดน้องเมย์เค้าอย่างหน้าไม่อาย..บอกตรงๆว่า"ทุเรศ"
เมื่อก่อนทำไมไม่เห็นมีใครสนับสนุนน้องเค้าอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งๆที่น้องเค้ามีผลงานให้เห็นตั้งแต่ระดับเยาวชน ระดับชาติมาตลอด
ครอบครัวน้องเค้าเท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีฐานะทางการเงินดีเท่าไหร่
พิสูจน์ได้จากน้องเค้าให้สัมภาษณ์ว่าชนะครั้งนี้จะซื้อเครื่องซักผ้าให้กับแม่
แสดงว่าน้องเค้าต้องดิ้นรนใช้ทุนตัวเองในซื้ออุปกรณ์อย่างไม้แบด(อย่างดีราคาก็ไม่ใช่น้อย)
การฝึกซ้อมในสนามก็ต้องใช้เงิน ค่าจ้างโค้ชยันเครื่องแต่งกายก็ต้องใช้ทุนที่หาได้เอง
เชื่อได้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงแบบกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬา
ก็ไม่เคยให้การสนับสนุนน้องเค้าอย่างจริงจัง
แต่พอน้องเค้าดังถึงมีพวกหน้าใหญ่เสนอหน้าเข้าไปบอกจะให้นู่นนี่นั่นกับน้องเค้า..โหนกระแสเสนอขอเครื่องราชย์ให้
ถ้ายังจำกันได้อย่างกรณีไทเกอร์ วู๊ด มือหนึ่งกอล์ฟโลกลูกครึ่งไทยอเมริกา
ที่พอดังก็มีหน่วยงานหนึ่งเสนอจะให้เครื่องราชย์ ให้สัญชาติไทย สาระพัดที่จะประเคนให้
ปรากฏว่าลูกครึ่งอย่างไทเกอร์วู๊ดปฏิเสธไม่ขอรับอะไรจากประเทศสักอย่าง
แม่ไทเกอร์วู๊ดที่เป็นคนไทยแท้ๆก็ออกมาให้สัมภาษณ์แบบไม่มีเยื่อใย
พร้อมกับตำหนิพวกเสนอหน้าว่าเมื่อก่อนทำไมไม่มีใครสนใจเค้า
ทำให้พวกนักฉกฉวยทั้งหลายหน้าแตกกันเป็นทิวแถว
คนไทยเราก็ดราม่าด่าแม่ไทเกอร์วู๊ดว่าลืมสัญชาติเดิม
ตัวผมเองก็ยังเผลอด่าแม่ไทเกอร์วู๊ดว่าลืมชาติไปกับเค้าด้วย
พอนานเข้าถึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรที่แม่ไทเกอร์วู๊ดปฏิเสธ
เพราะรัฐบาลไทยหรือหน่วยงานไหนของไทยเคยสนับสนุนเค้าเลยซักบาทเดียว
เค้าต้องใช้ทุนตัวเองมาตลอด ทั้งฝึกซ้อม ซื้ออุปกรณ์ ค่าสนาม แคชดี้ จ้างโค้ชสอน ตั้งแต่เป็นเด็กโนเนม
ลูกชายเพื่อนอายุ 10 ปี ตอนนี้เป็นนักฬาเยาวชนกอล์ฟเป็นเยาวชนทีมชาติ
ชนะการแข่งขันระดับโลกมานับไม่ถ้วนต้องใชัทุนพ่อ-แม่ มาตลอด
เดินทางไปแข่งต่างประเทศอย่างเก่งก็ได้รับการสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินให้ไปแข่งจากสโมสรในสังกัดแค่คนเดียว
บางรายการสโมสรก็ให้พ่อหรือแม่ หรือโคัชประจำตัวก็ต้องออกเงินซื้อตั๋วเอง
โชคดีที่เด็กคนนี้ไม่ต้องใช้โค้ช มีแต่แม่หรือพ่อเพียงคนเดียวที่บินไปทำหน้าแคชดี้+โค้ชให้เด็กเอง
มีครั้งหนี่งเด็กได้โควต้าไปแข่งระดับเยาวชนโลกที่อเมริกาในฐานะตัวแทนทีมชาติ
ที่มีคนในตระกูลน้ำเมาผูกขาดเป็นนายกสมาคมกอล์ฟของประเทศมาตลอด
ปรากฏว่าเด็กขอวีซ่าไม่ผ่าน ไม่สามารถเดินทางไปแข่งได้
เชื่อมั๊ยไอ้บริษัทน้ำเมาทวงถามขอให้เด็กคืนเสื้อ กางเกง ร่ม ฯลฯที่ราคาไม่มากนักจากเด็ก
ทั้งที่จริงเด็กสังกัดสโมสรน้ำเมานี้มาตั้งแต่โนเนม แต่ความเป็นจริงเด็กก็ใช้ทุนพ่อแม่ตัวเองมาตลอด
เวลาไปแข่งที่ไหน ไม่ว่าทั้งในหรือนอกประเทศต้องสรวมเสื้อ ใฃัร่ม ที่มีโลโก้ของบริษัทนี้ตลอดการแข่งขัน
และการไปแข่งขันแต่ละครั้งต้องได้รับอนุญาต และต้องไปในนามสโมสรน้ำเมาทุกครั้ง(สัญญาทาส)
ความเห็นแก่ตัวของนายทุนที่คอยจ้องฉกฉวย โหนกระแส เกาะความดังของนักกีฬาหาได้ไม่ยากในประเทศนี้