ทิดนาคเบียร์กับการสอนคนปฏิบัติธรรม

กระทู้สนทนา
ผมตั้งกระทู้พูดถึงทิดนาคเบียร์หรืออาจารย์เบียร์ของหลายๆ คน (รวมทั้งผมก่อนหน้านี้ด้วย) ติดกันเป็นกระทู้ที่ 2 ยังไงก็อย่าว่ากัน เหตุผลก็เพราะผมเคยเชียร์หรือเคยแนะนำไว้หลายครั้ง หลายความเห็น ถ้าผมไม่ตั้งกระทู้นี้ ผมคงไม่สบายใจไปตลอด (ถ้าผมไม่ยุ่งเกี่ยวแต่แรกก็คงไม่มีกระทู้นี้)
 
ก่อนอื่น ผมขอเรียกว่า ทิดนาคเบียร์ เป็นการเรียกตามที่หลวงพ่ออินทร์ถวายท่านเคยพูดไว้ประมาณนี้ (ไม่แน่ใจว่าควรเรียกว่าทิดนาคหรือนาคทิด แต่ผมขอใช้คำว่าทิดนาค ซึ่งหมายถึงคนที่สึกระหว่างที่ยังเป็นนาค ยังไม่ได้บวช)
 
ในการแสดงความเห็นของผมทุกครั้ง ผมย้ำเสมอว่า ทิดนาคเบียร์ เหมาะที่จะสอนคนที่มีความเชื่อเรื่องงมงาย มีความเชื่อแบบผิดๆ พวกสิ่งลี้ลับ เชื่อหมอดู ร่างทรง ขายวัตถุมงคล ฯลฯ ซึ่งคนที่หลงเชื่อ ก็อาจจะต้องที่สูญเสียเงินเป็นจำนวนมากเหมือนในรายการโหนกระแสเมื่อวานนี้ (กรณีหมอดูฮวงจุ้ย ที่มีคุณย่าเสียเงินไป 60 กว่าล้านบาท)
 
แต่ถ้าเป็นเรื่องสอนการปฏิบัติธรรม ไม่ใช่สิ่งที่ทิดนาคเบียร์สมควรทำ เพราะตัวเองยังเป็นเพียงปุถุชน ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องพวกนี้อ่านพระไตรปิฏกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเกิดจากการปฏิบัติ และที่สำคัญ ต้องมีครูบาอาจารย์
 
ซึ่งฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมคิดว่าผมควรตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ก่อนจะเป็นไฟลามทุ่ง นั่นก็คือ มีแฟนคลับถามคำถามทิดนาคเบียร์เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผมขอไม่พูดในรายละเอียดว่าปฏิบัติแบบไหนเพราะเดี๋ยวจะนอกประเด็น
 
ทิดนาคเบียร์ตอบคำถามนั้นว่า การปฏิบัติแบบนั้นไม่ถูกต้อง พร้อมกับพูดว่า "ใครมันสอนให้ทำแบบนั้นวะ" 
 
โดยปกติ มีครูบาอาจารย์ที่สอนให้ปฏิบัติในแบบนั้นจริงๆ แต่ทิดนาคเบียร์อาจจะยังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไร แต่กลับมาห้ามคนอื่นไม่ให้ปฏิบัติ แล้วแนะนำให้ปฏิบัติในแบบที่ตัวเองเข้าใจ
 
ผมนึกไปถึงกรณีที่ทิดนาคเบียร์บอกว่าจะไปบวชกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย บางที ถ้าหลวงพ่อท่านแนะนำให้ทำแบบเดียวกับที่แฟนคลับถามมา (ผมเชื่อว่ามีสอนแน่) ทิดนาคเบียร์จะยอมทำตามหรือไม่ จะพูดแบบคำพูดข้างต้นนี้หรือไม่?
 
ยังมีเรื่องระยะเวลาที่บอกว่าจะไปบวช จากที่ผมได้ยินในรายการโหนกระแสว่าอีกไม่กี่เดือนจะเลิกเล่นโซเชียลแล้วไปบวช ตอนนี้ขอใช้หนี้ให้หมดก่อน ถ้าผมฟังไม่ผิดน่าจะประมาณ 6 เดือน แต่ผมอาจจะจำผิดก็ได้ แต่ไม่ถึง 1 ปีแน่ๆ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมเกิดความชื่นชม จะบอกว่าเกิดความศรัทธา (ในตอนนั้น) ก็ได้

แต่พอตอนนี้กลับบอกตอนที่ไปออกในรายการหนึ่งว่า จะบวชในอีก 1 ปีนับจากวันนี้ (ไม่ พ.ย. ก็ ธ.ค. 68)
 
ช่วงระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ มีอะไรเกิดขึ้นได้มากมาย แม้กระทั่งการเปลี่ยนใจไม่บวชแล้ว หรือพอถึงเวลาก็จะมีข้ออ้างจากความสุดโต่งของตัวเอง ไม่ยอมรับฟังคำสอนหรือไม่ยอมรับการกระทำของครูบาอาจารย์ ฯลฯ อาจจะสึกทันทีหรือขอย้ายไปอยู่วัดตัวเอง เพราะตอนนี้มีคนศรัทธาจำนวนหนึ่งแล้ว
 
จริงอยู่ สำหรับบางคนหรือคนส่วนใหญ่ ถ้าน้ำขึ้นให้รีบตัก แต่คนที่ถ้าคิดจะบวชจริงๆ เห็นโทษภัยในวัฏสงสาร ธุลีในดวงตาน้อยถึงขนาดคิดที่จะบวชไม่สึก ไม่น่าจะรออะไรนานขนาดนั้น (แต่ถ้าหนี้ยังไม่หมดก็อีกเรื่อง พอมีเหตุผล)
 
อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าผมเป็นห่วงเพียงเรื่องเดียวคือการที่มาสอนคนปฏิบัติ ทั้งที่ตัวเองยังไม่เคยปฏิบัติกับครูบาอาจารย์ ยังไม่มีครูบาอาจารย์รับรอง ยิ่งถ้าเกิดมีคนศรัทธาจำนวนมาก เชื่อว่าสิ่งที่สอนถูกต้อง อาจจะตามไปเป็นลูกศิษย์ตอนที่มีวัดของตัวเอง ซึ่งโอกาสที่จะสร้างวัดของตัวเองก็เป็นไปได้สูง ถึงตอนนั้นคงแก้ไขได้ลำบาก
 
ผมขอแสดงความเป็นห่วงไว้เท่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามอะไรก็ไม่เท่ากับห้ามตัวเอง ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้
 
(เราทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ แต่เราสนับสุนนคนดีได้ ส่งเสริมคนดีเป็นผู้นำ คนที่ไม่ดีเราก็ไม่ควรสนับสนุน)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่