เรื่องนี้ขอบอกไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่แฝงตัวขับแท็กซี่ ส่วนใหญ่พี่ๆทั้งหลายต่างตั้งใจประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่โดยสุจริต
แต่มิจฉาชีพบางคนเท่านั้นที่แฝงตัว
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อราวต้นเดือนนี้ (หรืออาจช่วยปลายเดือน) ญาติผมคนหนึ่งเป็นผู้หญิงเรียกรถแท็กซี่จากย่านบางกะปิ
ปรกติเวลาเธอขึ้นรถจะส่งไลน์ ถ่ายรูปเลขทะเบียนข้างประตูผู้โดยสารมาให้ แต่วันเกิดเหตุไม่มีป้ายทะเบียนข้างประตูห้องโดยสารเลย
(นึกตำแหน่งออกนะครับ) ทั้งๆที่รถยังใหม่ เมื่อขับไปถึงถนนเปลี่ยว จู่ๆเธอรู้สึกเหมือนมีคนมาบีบคอ (น่าจะยาออกฤทธิ์) หายใจติดขัด
และจะหลับให้ได้ ทั้งๆที่ปรกติเธอจะนอนดึก แต่นี่แค่ราว ๔ ทุ่มเอง สมองเกิดอาการสลึมสลือ เธอเห็นว่าผิดปรกติแล้วและกลัวมาก
เธอมองเข้าไปที่ไมล์รถ ปรากฏว่าคนขับๆแค่ ๔๐-๕๐ กม/ชม. ทั้งๆที่ถนนโล่ง ขณะนั้นแท็กซี่มีอาการแปลกๆจ้องมองเธอที่ตาเริ่มจะปิด
แต่เธอเป็นคนแข็งแรงพยายามฝืนเอาไว้ จนกระทั่งเธอไม่ไหว จึงบอกให้แท็กซี่เปิดกระจก แท็กซี่แทนที่จะเปิดกระจกหลังกลับเปิดกระจกหน้า
ข้างๆตนเองลงเล็กน้อย เธอจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วสั่งให้แท็กซี่เปิดกระจกหลังเด่วนี้เธอไม่ไหวแล้ว แท็กซี่ตกใจ พร้อมกับถามว่า คุณเมารถหรือ เธอพยักหน้า พร้อมกับมือที่ล้วงกระเป๋าเหมือนเตรียมอาวุธ แท็กซี่รีบเปิดกระจกหลังให้ จากนั้นเธอบอกว่าโล่งเลย อาการต่างๆเริ่มดีขึ้นจังหวะนั้นถึงซอยหน้าบ้านพอดี รปภ.ไม่ได้แลกบัตร เธอจ่ายค่าโดยสารแล้วยืนมึนหน้าบ้านพักหนึ่งจึงกดกริ่งเข้าบ้าน
และเล่าให้ญาตฟัง จะไปแจ้งความก็ไม่อยากมีเรื่องและหลักฐานอะไรก็ไม่มี เธอจึงได้แต่ฝากเตือนมาว่า ใครมีอาการสลึมสลือ
เวลาโดยสารในรถแท็กซี่ หรือรู้สึกเหมือนคอโดนกด ให้หาอุบายลงรถทันที เพราะมิเช่นนี้นอาจถูกข่มขืน หรือฆ่าชิงทรัพย์ได้
สังคมทุกวันนี้ต้องร่วมกันเตือนภัยนะครับ ขอบคุณครับ.
...............ถ้าดูจากรูปการณ์ยาตัวนี้ถ้าจะออกฤทธิ์เร็วมาก และสลายตัวเร็ว เพราะหากเป่ามาจากแอร์ด้านหน้าก็จะมาสลายกับเบาะหลัง นี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไมคนขับไม่สลบด้วย..............................
เตือนภัย!!!...แท็กซี่ยาสลบ ผู้โดยสารสลบ คนขับรถสบาย
แต่มิจฉาชีพบางคนเท่านั้นที่แฝงตัว
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อราวต้นเดือนนี้ (หรืออาจช่วยปลายเดือน) ญาติผมคนหนึ่งเป็นผู้หญิงเรียกรถแท็กซี่จากย่านบางกะปิ
ปรกติเวลาเธอขึ้นรถจะส่งไลน์ ถ่ายรูปเลขทะเบียนข้างประตูผู้โดยสารมาให้ แต่วันเกิดเหตุไม่มีป้ายทะเบียนข้างประตูห้องโดยสารเลย
(นึกตำแหน่งออกนะครับ) ทั้งๆที่รถยังใหม่ เมื่อขับไปถึงถนนเปลี่ยว จู่ๆเธอรู้สึกเหมือนมีคนมาบีบคอ (น่าจะยาออกฤทธิ์) หายใจติดขัด
และจะหลับให้ได้ ทั้งๆที่ปรกติเธอจะนอนดึก แต่นี่แค่ราว ๔ ทุ่มเอง สมองเกิดอาการสลึมสลือ เธอเห็นว่าผิดปรกติแล้วและกลัวมาก
เธอมองเข้าไปที่ไมล์รถ ปรากฏว่าคนขับๆแค่ ๔๐-๕๐ กม/ชม. ทั้งๆที่ถนนโล่ง ขณะนั้นแท็กซี่มีอาการแปลกๆจ้องมองเธอที่ตาเริ่มจะปิด
แต่เธอเป็นคนแข็งแรงพยายามฝืนเอาไว้ จนกระทั่งเธอไม่ไหว จึงบอกให้แท็กซี่เปิดกระจก แท็กซี่แทนที่จะเปิดกระจกหลังกลับเปิดกระจกหน้า
ข้างๆตนเองลงเล็กน้อย เธอจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วสั่งให้แท็กซี่เปิดกระจกหลังเด่วนี้เธอไม่ไหวแล้ว แท็กซี่ตกใจ พร้อมกับถามว่า คุณเมารถหรือ เธอพยักหน้า พร้อมกับมือที่ล้วงกระเป๋าเหมือนเตรียมอาวุธ แท็กซี่รีบเปิดกระจกหลังให้ จากนั้นเธอบอกว่าโล่งเลย อาการต่างๆเริ่มดีขึ้นจังหวะนั้นถึงซอยหน้าบ้านพอดี รปภ.ไม่ได้แลกบัตร เธอจ่ายค่าโดยสารแล้วยืนมึนหน้าบ้านพักหนึ่งจึงกดกริ่งเข้าบ้าน
และเล่าให้ญาตฟัง จะไปแจ้งความก็ไม่อยากมีเรื่องและหลักฐานอะไรก็ไม่มี เธอจึงได้แต่ฝากเตือนมาว่า ใครมีอาการสลึมสลือ
เวลาโดยสารในรถแท็กซี่ หรือรู้สึกเหมือนคอโดนกด ให้หาอุบายลงรถทันที เพราะมิเช่นนี้นอาจถูกข่มขืน หรือฆ่าชิงทรัพย์ได้
สังคมทุกวันนี้ต้องร่วมกันเตือนภัยนะครับ ขอบคุณครับ.
...............ถ้าดูจากรูปการณ์ยาตัวนี้ถ้าจะออกฤทธิ์เร็วมาก และสลายตัวเร็ว เพราะหากเป่ามาจากแอร์ด้านหน้าก็จะมาสลายกับเบาะหลัง นี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไมคนขับไม่สลบด้วย..............................