ขอระบายหน่อยค่ะ สวนกระแสวันแม่นิดนึงนะคะ

ขอระบายหน่อยค่ะ

เราอึดอัดใจมาก ทุกวันนี้ทำงานแบบไม่มีกำลังใจเลย เหนื่อย เซ็ง เครียด
พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ต้องพยายามหายใจให้ทั่วท้องตลอด จะบ่นกับใครก็ไม่ได้...

เราเพิ่งเรียนจบได้ประมานปีกว่า ก็ใช้เวลานี้ท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ และสมัครงานที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันไปด้วย ทำ freelance ไปด้วย
เราได้เงินจากการทำงานมาทั้งหมดประมานสองแสนกว่าบาท (คือได้เป็นก้อนนะคะ แต่กว่าจะได้นี่คือนานค่ะ เกินครึ่งปี)
คืนเงินพ่อไปแสนนึง เพราะเรายืมเค้ามาตอนช่วงไม่มีและ etc.
เหลืออยู่แสนกว่าบาท

ตอนนี้ล่ะค่ะ...
หลังจากนั้นเราได้ใช้เงินมือเติบอยู่ไม่กี่วัน อยากได้อะไรก็สั่ง เช่นซื้อของที่เราอยากได้ช่วงรอเงินออก เอามาต่อยอดทำงาน
แพลนของเราคืออยู่บ้านสบาย ๆ กะว่ามีเงินใช้เดือนละหมื่นกว่าบาท ชิว ๆ ไปจนถึงปีหน้า กะแบ่งใช้เป็นเดือน ๆ
ระหว่างนี้ค่อยเริ่มทำโปรเจคใหม่ ถ้าเงินล็อตนี้หมดก็พอดี ปีหน้าเงินใหม่ออก เผลอ ๆ ถ้าเราปิดได้หลายโปรเจ็คต์ เราก็ได้เบิ้ล ๆๆ ไป


แต่...หลังจากที่เงินเราออกได้ประมาน 5 วัน (เราเหลือเงินอยู่แสนต้น ๆ)
แม่เรามาร้องไห้กับเรา บอกว่าช่วงนี้เงินไม่ค่อยพอใช้ เพราะอะไร? ถามไปถามมา เรางี้ช็อคอ่ะ
แม่เราไปทำขายตรงค่ะ ซื้อของมาดองกองเต็มบ้าน ยืมเงินคนอื่นมาโดยที่เราและพ่อไม่รู้
แถมยังโดนคนอื่นโกงด้วย หึหึ...
เป็นจำนวน 80000 บาท ดอกร้อยละ 5 = แม่เราต้องจ่ายดอกเดือนละ 4000
ซึ่งปัจจุบันไอ้บริษัทเวนตะไลนั้นมันเจ๊งกะบ๊งไปแล้วเรียบร้อย -*-
(จริง ๆ แล้วเป็นแผนของแม่อ่ะ 555+ มาบอกเราตอนช่วงเงินเราออกพอดี แถมยังรู้ว่าเราใจอ่อนอีก ฮือออ)

แม่เราทำบ้านเช่า ห้องเช่า รวม ๆ ก็ได้ประมาน 1xxxx-20000 (ตัวเลขไม่แน่นอน)
เราแบบ สงสารแม่อ่ะ ก็ตัดใจเลย เพราะแม่เราเขาก็ให้เงินตายายใช้ด้วย ซื้อของกินไปให้บ้าง แวะไปหาบ่อย ๆ ไรงี้ค่ะ
ก็เลยกะว่าเอางี้ละกัน ตอนนั้นวางแผนคุยกับพี่อีกคนที่ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ดิบดี
ว่าจะหลอกแม่ว่าให้เอาเงินเราไปคืนเจ้าหนี้ แล้วเอาดอกมาให้เราแทน
เพราะยังไงให้คนในครอบครัวกิน ก็ดีกว่าเอาไปให้คนอื่น

ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่กะกินดอกแม่หรอกค่ะ แค่กะว่าให้แม่คืนเงินให้เรา พอให้เราเหลือกินเหลือใช้ไปจนถึงปีหน้า
นอกนั้นก็อาจจะช่วยแม่เก็บเงินโดยไม่บอกเค้า ไรงี้ (เพราะแม่เราเป็นคนไม่เก็บเงินค่ะ เดือนชนเดือน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย)

แต่แผนเราพังพินาศ

ตั้งแต่เดือนแรก (เดือนที่แล้ว) แม่เราเงียบกริบ.... ไม่พูดถึงเรื่องเงินสักคำ
เราก็รู้แล้วล่ะ ว่าเขาต้องมาตีเนียนลืม เพราะเขาทำบ่อย
(คือชอบมีปัญหาเรื่องเงินกับพ่อ เช่นยืมเงินพ่อไปปล่อย แต่ถึงเวลาเนียนไม่ยอมให้ดอกพ่อ)
พอเราถามว่าแล้วไหนล่ะแม่ ดอกที่คุยกันไว้อ่ะ นี่มันเดือนใหม่มาจนจะขึ้นเดือนใหม่แล้วนะ เขาตอบเรามาแค่คำเดียวว่า "เหรอ" เสียงอ่อย ๆ
เราเลยบอกเขาไปว่า "ที่ไม่พูด คือไม่ได้ลืมนะ แต่จะดูว่าแม่จะพูดไหม ตกลงจะยังไง ทำไมมีอะไรถึงไม่พูดกันดี ๆ"
เขาก็บอกมาว่า เดือนนี้เขาต้องจ่ายภาษี
เราก็อ่ะ จบไปค่ะ เดือนแรกไม่เป็นไร เรายังไม่เดือดร้อน

.
.
ถึงเดือนนี้ เราอ่ะเริ่มเดือดร้อนแล้วค่ะ เพราะเงินในธนาคารเราเหลืออยู่สองหมื่นกว่าบาท จนกว่าจะได้งวดใหม่ปีหน้า - -

ซึ่งยังไง ๆๆๆๆๆ มันก็ไม่พอ!!!!!!!!

และต้นเดือนมาแล้ว แม่เราก็เงียบเหมือนเคย



จนเราพูดกับแม่ตรง ๆ ว่าดอกอ่ะ ไม่ได้อยากได้หรอก แต่ต้นอ่ะ ขอนะ เพราะเราต้องกิน ต้องใช้
ตอนนี้เหลืออยู่แค่สองหมื่น กว่าจะได้เงินอีกทีก็ปีหน้า ซึ่งเขาพยายามเปลี่ยนเรื่องบ้าง
เช่นเราพูดว่านี่เดือนใหม่แล้วนะ เขาก็พูดขึ้นมา ใส่เสื้อตัวนี้สวยว่ะ - -
เราก็แบบ....​ แม่...​เปลี่ยนเรื่องทำไม T_T เพราะจะพูดเรื่องนี้ออกมามันยากมากนะคะ
พอเราเริ่มจริงจัง อธิบาย เขาก็เงียบ

แล้ววันต่อมา ก็เอามาให้เราพันนึง... จากเดิมที่คุยกันไว้ว่า 4000 แล้วก็ไม่พูดถึงเรื่องเงินอะไรอีกเลย
เราจุกค่ะ



.
.
.
บอกตรง ๆ ค่ะ ว่าเราเสียความรู้สึกมาก
เรารักแม่มาก แต่ทำไมแม่ถึงทำกับเราแบบนี้ ถ้าเรามีงานประจำด้วย มีรายได้หมุนเวียน เราจะไม่ทวงเลย
แต่นี่มันเป็นเงินก้อนที่เราต้องกินต้องใช้ ไปจนถึงปีหน้าอ่ะค่ะ

เหมือนเราคาดหวังกับเงินก้อนนี้ไว้มาก ว่ามันเป็นเงินก้อนที่จะทำให้เราไม่ต้องแบมือขอ(และขอยืม)เงินพ่ออีกแล้ว
กะว่าพอถึงวันแม่ก็จะได้มีเงินให้แม่ ให้ตา ให้ยาย วันพ่อ ก็มีเงินให้พ่อ เหมือนปีก่อน ๆ ที่เคยทำ
(เราเคยทำแบบนี้อยู่ประมาน 2-3 ปี แล้วก็หยุดไปสองปีเพราะเอาเงินไป work and travel สองปีซ้อนค่ะ
บางเทอมก็จ่ายค่าเทอมเอง ซึ่งเราเรียน ม.เอกชน ค่อนข้างแพงอยู่ จะได้ไม่ต้องกวนพ่อ)
ตอนนี้มันจบหมดเลย...​ไม่พอแม้จะยาไส้ตัวเองด้วยซ้ำอ่ะ


คือเราเสียใจ ที่แม่ทำแบบนี้กับเรา คือพอได้ไป ก็นิ่ง เฉย ไม่สนใจ...
จนเราน้อยใจและเสียใจ ว่าทำไมอ่ะ? ลูกจะมีปัญหาอะไร แม่ไม่สนเลยเหรอ
ทำไมตอนนั้นแม่จ่ายดอกให้คนอื่นแม่จ่ายได้...

เราเสียใจมากค่ะ

บ่นกับใครก็ไม่ได้เลย พอบ่นกับพ่อ พ่อก็บอกว่า ทวงเงินแม่ บาปกรรมนะเว้ยยยยยย
ก็ไม่ได้อยากทวงเลยจริง ๆ ไม่เคยอยากทวงเลย แต่มันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าเรามีเงินใช้อ่ะ
ซึ่งทุกครั้งที่เราพูดเรื่องเงินก้อนนี้กับแม่ เราก็รู้สึกทุเรศตัวเอง รู้สึกว่าเป็นลูกอกตัญญู
ทำไมวะ เงินแค่นี้ ให้แม่ไม่ได้ ทำไมต้องทวง ทำไม ๆๆๆๆๆๆๆ
แต่พอถามเรื่องเงินกับแม่ ก็เจ็บกว่าที่แม่ไม่สนใจ... T_T ไม่ให้คำตอบ

จริง ๆ ทางออกมันก็มีอยู่ค่ะ ซึ่งก็คงเลือกทางนี้ คือพ่อให้เรายืมหมุนได้
(จะไม่พูดถึงเรื่องขอเงินพ่อนะคะ เพราะแก่แล้วค่ะ อายุ 24 แล้ว แบมือขอเงินพ่อแม่มันทุเรศ)
แต่เราก็ยังรุ้สึกทุเรศอยู่ดี ว่าทำไมนะ ทำไมเราต้องยืมเงินพ่ออีก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเป็นไทมา ทั้ง ๆ ที่กะว่าจะไม่ยืมเงินพ่ออีก T_T




โอเคค่ะ หลังจากที่เราพิมพ์มาถึงบรรทัดนี้ เราก็ได้ข้อสรุปให้ตัวเองสักที

สรุปนะคะ เงินก้อนนี้ เราคงตัดใจค่ะ
เพราะต่อให้เราย้อนเวลากลับไปได้ เราก็คงทำแบบเดิมอยู่ดี
(ตอนนี้อยู่ในช่วงระยะเวลาตัดใจและทำใจค่ะ)



จากนี้ไป เราจะไม่ทวงเงินก้อนนี้กับแม่อีก
แต่จะไม่บอกว่าเราตัดใจแล้ว เพราะเขาจะได้เลิกไปกู้หนี้ยืมสินเพราะไอ้ธุรกิจเฮงซวยเสียที
(ขอบอกนะคะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับไอ้ธุรกิจขายตรงของแม่เราค่ะ เหอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)



และคงเป็นก้อนสุดท้ายที่เราจะให้แม่ยืมค่ะ เขาจะได้เข็ดกับอะไรพวกนี้เสียที
(ซึ่งได้แต่ภาวนาว่าเขาจะเข็ดเสียทีค่ะ ทุกวันนี้ของกองเต็มบ้าน แถมยังเที่ยวให้คนอื่นฟรี ๆ อีก เราจุกมากอ่ะ เงินกรู...)

เราจะคิดซะว่าเงินไม่ตาย ก็หาใหม่ได้
ตอนนี้ก็ต้องยอมทุเรศตัวเอง ยืมเงินพ่อไปก่อน
(ซึ่งพ่อเราขำเรามาก อารมณ์ว่ากุว่าแล้ว เอ็งไม่ได้คืนหรอก ว่ะฮ่ะฮ่า)
คือมองให้ขำ มันก็ขำอ่ะ  แต่เราเสียใจมากจริง ๆ นะคะ
เข้าใจใช่ไหมว่าเราคือ นศ. ที่เพิ่งจบ อยากยืนด้วยขาของตัวเอง
อยากพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าเราทำได้นะ เราไม่ต้องขอเงินเค้าแล้วนะ (โดยเฉพาะพ่อเรา ที่เป็นคนให้เงินและส่งเสียเรามาจนโต)



ตอนนี้เรากำลังพยายามทำโปรเจ็คต์ที่จะได้เงินล็อตหน้าให้เสร็จ เครียดมาก สมองไม่แล่น แต่ก็พยายามคั้น
เพราะเวลาไปยืมเงินพ่อ จะได้ขอยืมเงินพ่อได้อย่างสบายใจว่ายังไง ๆ มีเงินคืนพ่อแน่นอน...

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ T_T

ปล. - เรารักแม่เรานะคะ แต่ไม่ใช่แม่ทุกคนจะมีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสียเลย ซึ่งจุดนี้ เราก็ต้องยอมรับค่ะ แม่ให้เรามาเยอะกว่านี้เยอะค่ะ
- อย่าหาว่าเราขายแม่กินเลยนะคะ เพราะเราอุตส่าห์สมัครล็อคอินใหม่มาเพื่อบ่นโดยเฉพาะและขอกำลังใจ ไม่มีใครรู้จักเราแน่นอน
(ยกเว้นแค่พี่คนเดียวที่เราปรึกษาปัญหานี้กับเขา พี่เขาเล่นพันทิป ซึ่งถ้าพี่ได้อ่าน หนูอยากบอกว่า หนูเครียดจริง ๆ นะคะพี่ T_T)
-ขอบคุณทุกกระทู้ในพันทิป ที่ย้ำเตือนเราว่า เรายังโชคดีกว่าใครหลาย ๆ คนค่ะ (โดยเฉพาะการมีพ่อที่พร้อมจะให้เรายืมเงิน)

โล่งมากค่ะ เฮ้อ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่