เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ส.ค.56 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานมอบเกียรติบัตรให้กับโรงเรียนที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(O-NET) ที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 42 โรงเรียน และ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 จำนวน 1 โรงเรียน พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียนที่สอบโอเน็ตในปีการศึกษา 2555 ซึ่งปรากฏว่าในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนสังกัดกทม.ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนนใน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 27 คน ดังนี้ ภาษาไทย 1 คน คณิตศาสตร์ 9 คน ภาษาต่างประเทศ 15 คน ศิลปะ 1 คน สุขศึกษาและพลศึกษา 3 คน นอกจากนี้ยังได้มอบเกียรติบัตรให้แก่ครู ที่ชนะการประกวดหนังสือประกอบการเรียนการสอน ประจำปีงบประมาณ 2556 จำนวน 14 คน
นางผุสดี กล่าวว่า การมอบเกียรติบัตรครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กนักเรียนและครูในสังกัดกทม. ซึ่งนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ในด้านการศึกษานอกจากจะเพิ่มการเรียนการสอน ให้เป็นโรงเรียน 2 ภาษา เพื่อเพิ่มความสามารถการสื่อสารให้แก่นักเรียนแล้ว ยังได้มอบหมายให้สำนักการศึกษาสำรวจโรงเรียนใน 50 เขต ที่มีความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นโรงเรียนครบเครื่อง โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ที่พิเศษกว่าโรงเรียนอื่นๆ ให้ครบ 6 กลุ่มโซนๆ ละ 3 โรงเรียน เช่นโรงเรียนกทม.มีหลักสูตรโตไปไม่โกง ในโรงเรียนครบเครื่องจะเสริมกิจกรรมเกมหรือสื่อที่เสริมให้มากขึ้น เป็นต้น โดยจะทำให้เป็นโรงเรียนที่มีศักยภาพ คล้ายๆกับโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้หารือร่วมกับนายพิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในสังกัดกทม. (ม.กทม.)ให้มีการจัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อสนับสนุนบุคลาการทางการศึกษาให้กับ กทม. ซึ่งขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอน 2 คณะ คือ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลและคณะพยาบาลเกื้อการุณย์ ในอนาคตอาจมีโควต้าพิเศษให้กับนักเรียนกทม. เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ด้วย
http://www.dailynews.co.th/bkk/224586
http://bit.ly/เพจข่าวดี
กทม.ปลื้มเด็กเก่งได้คะแนนโอเน็ตเต็ม100 ถึง27คน
นางผุสดี กล่าวว่า การมอบเกียรติบัตรครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กนักเรียนและครูในสังกัดกทม. ซึ่งนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ในด้านการศึกษานอกจากจะเพิ่มการเรียนการสอน ให้เป็นโรงเรียน 2 ภาษา เพื่อเพิ่มความสามารถการสื่อสารให้แก่นักเรียนแล้ว ยังได้มอบหมายให้สำนักการศึกษาสำรวจโรงเรียนใน 50 เขต ที่มีความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นโรงเรียนครบเครื่อง โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ที่พิเศษกว่าโรงเรียนอื่นๆ ให้ครบ 6 กลุ่มโซนๆ ละ 3 โรงเรียน เช่นโรงเรียนกทม.มีหลักสูตรโตไปไม่โกง ในโรงเรียนครบเครื่องจะเสริมกิจกรรมเกมหรือสื่อที่เสริมให้มากขึ้น เป็นต้น โดยจะทำให้เป็นโรงเรียนที่มีศักยภาพ คล้ายๆกับโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้หารือร่วมกับนายพิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในสังกัดกทม. (ม.กทม.)ให้มีการจัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อสนับสนุนบุคลาการทางการศึกษาให้กับ กทม. ซึ่งขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอน 2 คณะ คือ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลและคณะพยาบาลเกื้อการุณย์ ในอนาคตอาจมีโควต้าพิเศษให้กับนักเรียนกทม. เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ด้วย
http://www.dailynews.co.th/bkk/224586
http://bit.ly/เพจข่าวดี