ตอนที่ 4 เราได้ชมแต่ดอกไม้งามแห่งเมือง Aspen กันจนฉ่ำใจแต่ยังไม่ค่อยได้เห็นตึกรามบ้านช่องของเมืองกันเลยตอนนี้ก็เลยยังอยู่ในเมือง Aspen ชมตึกสวยงามและโดยเฉพาะร้านที่ขายสินค้าแบรนด์เนมดังๆที่คุณสุภาพสตรีโปรดปรานจนไม่อยากไปเที่ยวไหนต่อขอเดินช๊อปที่นี่อย่างเดียวก็พอ
1. จากตอนที่แล้วเราได้แต่ชมความงามของดอกไม้สวยสีสดแสบตาของ Aspen จนยังไม่ได้ชมตึกรามบ้านช่องของเมืองนี้วันนี้ลองมาชมกันบ้างครับ
2. ตึกที่อยู่ตรงข้ามกับน้ำพุยอดนิยมของเมืองเป็นตึกเก่าแก่โดดเด่นตึกหนึ่งด้านในตึกมีโรงโอเปร่าอยู่ด้วย
3. ผมจอดรถที่หน้าร้าน Louis Vuitton เลยเพราะกะว่าจะขนของแบรนด์นี้ไปสักครึ่งคันรถ
4. ร้าน Burberry
5. ร้านปร้าดา Prada มองในกระจกประตูร้านจะเห็นป้าสูงวัยคนหนึ่งมองดูของในร้านตาละห้อยแต่ที่จริงตั้งใจมาสอยกระเป๋าใบสีชมพูในร้านเสียดายที่ยังเช้าไปร้านยังไม่เปิดไม่งั้นได้เสียตังค์ซื้อกระเป๋าใบเล็กๆแต่ราคาเท่ารถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆแล้ว
6.ร้าน Ralph Lauren
7. ร้าน Dior
8. ร้าน Gucci
9. ช๊อปร้านแบรนด์เนมกันจนเมื่อยเพราะได้แต่เดินดูก็แวะนั่งกินกาแฟแต่ไม่มีปาท่องโก้ที่ร้านบรรยกาศดีๆรูปทรงชาเล่ต์ร้านนี้ได้นะครับเพราะอยู่ในบริเวณเดียวกัน
10.ไปดูตึกทั่วๆไปบ้าง
11. ตึกสีแดงได้ใจแบบนี้ก็มี
12.ร้านอาหารร้านหนึ่งในจำนวนหลายร้านหลังน้ำพุแต่ตอนนี้ยังไม่เปิดเพราะยังเช้าอยู่
13. มีคนเป่าลูกโป่งแล้วมามัดเป็นรูปต่างๆขายด้วย
14.บรรยากาศอันร่มรื่นของเมือง
15.บางแห่งก็เล่นระดับลงไปอยู่กึ่งใต้ดิน
16.ร้านขายบุหรี่และอ๊อกซิเยน ? แบบว่าควันบุหรี่เยอะจนต้องซื้ออ๊อกซิเยนเพิ่มหรือเปล่า
17.อ้อ..ที่ Aspen นี่มีร้านอาหารไทยรสชาติอร่อยราคาไม่แพงบริการคนไทยด้วยนะครับชื่อร้าน Thai Cuisine อยู่ในมอล์เล็กๆเยื้องๆกับที่ทำการ ป.ณ.ของเมือง
18. มีโอเลี้ยงขายด้วยแต่ไก่สะเต๊ะผมถ่ายไม่ทันเพราะมือหยิบเข้าปากหมดไปก่อนแล้ว
19.มีลาบไม่หน้าตาน่ารับประทานและก็อร่อยใช้ได้เพราะใส่ข้าวคั่วเยอะดี
20. ผัดมะเขือยาวกับเต้าหู้ : เท่าที่ได้คุยกับน้องคนไทยร้านนี้รวมทั้งคุยกับอาตี๋จากเซี่ยงไฮที่มาตั้งร้านอาหารจีนที่ผมไปทานเมื่อวานก็ได้ข้อมูลตรงกับวิกกีพีเดียว่าค่าครองชีพใน Aspen สูงมากจนคนส่วนใหญ่อยู่ในเมืองไม่ได้ต้องย้ายกันไปอยู่นอกๆเมืองที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าคนที่เห็นในเมืองส่วนใหญ่แล้วจริงๆก็คงมีแต่นักท่องเที่ยวนั้นเองขนาดซุปเปอร์มาเก็ตที่ผมหาตั้งนานก็ไม่เจอก็ยังต้องหลบมาเช่าพื้นที่ในมอล์เล็กๆแห่งนี้ขายของเลยแสดงว่าค่าเช่าหรืออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตัวเมืองคงแพงมากจริงๆ
21. การเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบ Maroon ในหุบเขา Maroon Bells ช่วงฤดูร้อนท่านอาจจะใช้รถยนต์ส่วนตัวขับไปได้แต่ต้องเป็นเวลาก่อน 9.00 น.หรือหลัง 17.00 น.เพราะช่วงเวลา 9-17 น.ท่านจะต้องใช้บริการรถ Bus ของทางการร่วมกับเอกชนจัดให้โดยสามารถขึ้นรถ Bus ได้ที่ Aspen Highlands รีสอร์ตใหญ่บนถนนสาย Maroon Creek Road ถนนสายที่จะไป Maroon Bells แค่ 2 ไมล์จากเมืองค่าโดยสารคนละ 6 เหรียญซื้อได้ที่ร้านให้เช่าจักรยานและขายของที่ระลึกในบริเวณ Aspen Highlands ที่เห็นในภาพครับ
22.ที่รีสอร์ต Aspen Highlands นี่ใหญ่พอสมควรเลยดูอาคารแล้วผมว่าคล้ายรีสอร์ตทรงลานนาแถวๆภาคเหนือของไทยมากทีเดียว
23. ฤดูหนาวคงมีนักเล่นสกีมาพักผ่อนเล่นสกีกันเยอะเพราะเขาด้านหลังรีสอรต์ก็มีกระเช้าให้นั่งขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อเล่นสกี
24.และที่ถูกใจผมก็คือดอกไม้นานาพันธ์สวยๆของที่นี่มีสีสันแสบตาและเยอะมาก
25. งี้ก็ไม่พ้นมือบุรุษผู้ถนอมบุปผาแน่นอนครับ
26. ชมดอกไม้ระหว่างรอรถบัสกันไปเพลินๆก่อนนะครับ
27.
28.
29.
30.
31. รถบัสมาแล้วครับมัวแต่ถ่ายรูปดอกไม้จนเพลินเกือบไปไม่ทันแต่ที่จริงรอคันหลังก็ได้เพราะรถบัสวิ่งมารับทุกๆ 15 นาทีอยู่แล้ว
32.นั่งรถไต่เขาขึ้นไปไม่นานประมาณ 20-25 นาทีก็ถึงปลายทางรถจอดให้ลงแล้วเดินเข้าไปตามทางคอนกรีตพ้นโค้งก็มองเห็นทุ่งดอกไม้อันกว้างใหญ่สุดสายตาและพุ่มกุหลาบป่าหอมอบอวลสดชื่นใจมียอดเขา Maroon Bells เป็นฉากหลัง
Maroon Lake ทะเลสาปมารูนชื่อมาจากยอดเขาสองลูกด้านหลังทะเลสาบ Maroon Bells ห่างจากเมือง Aspen ไปทางตะวันตกเฉียงใต้แค่ 12 ไมล์ยอดเขาMaroon สูง 14,156 ฟุตจัดเป็นยอดเขาสูงลำดับที่ 27 ของรัฐโคโลราโด ทัศนีย์ภาพของลำธารด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ Maroon Bells จัดเป็นทัศนีย์ภาพที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดของรัฐโคโลราโดประมาณว่าใครมา โคโลราโดแล้วไม่ได้มาดูที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโคโลราโด
33. ด้านข้างก็มีเขาลูกนี้เป็นฉาก
34.มองเห็นทะเลสาบ Maroon ทะเลสาบในฝันอยู่ด้านหลังทุ่งดอกไม้
35.เดินมาประมาณ 3-400 เมตรก็ถึงริมทะเลสาบที่มีน้ำใสแจ๋ว
36. มีห่านป่าแคนนาดาที่ลืมบินกลับถิ่นยึดเอาทะเลสาบแห่งนี้ออกลูกออกหลานแปลงสัญชาติเป็นห่านMaroon Bellsไปแล้ว
37. ลูกสนที่นี่สีส้มสดแปลกกว่าลูกสนแถวบ้านผม
38. ผีเสื้อพันธ์นี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
39.ดอกสีม่วงๆนี่มีทั่วไปในโคโลราโด
40. ลากันด้วยภาพด้านหลังของทะเลสาบ Maroon ทะเลสาบอันแสนสวยแห่งนี้ที่ผมได้ชมและเก็บความประทับใจพร้อมกับสูดเอาความสดชื่นไปเต็มปอด
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม
และอย่าลืมติดตามชมตอนต่อไปในเร็วๆนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพที่ 1-6 Canon 6D + Canon EF L 17-40mm
ภาพ 7-8 Pentax Q + Pentax 8.5/1.9
ภาพ 9-26 Canon 6D + Canon EF L 17-40mm
ภาพ 27-31 Sony NEX5N + Olympus OM 50/1.4 Manual Focus
ภาพ 32 Canon 6D + Canon EF L 17-40mm
ภาพ 33 Sony NEX5N + Pentacon 135/2.8 Manual Focus
ภาพ 34-35 Canon 6D + Canon EF L 17-40mm
ภาพ 36 Nikon D7000 + Nikon 18-135mm
ภาพ 37-39 Sony NEX5N + Pentacon 135/2.8 Manual Focus
ภาพ 40 Canon 6D + Canon EF L 17-40mm
ติดตามชมย้อนหลังได้นะครับ
ตอนที่ 1 สวนแห่งทวยเทพ, Manitou springs
http://ppantip.com/topic/30775632
ตอนที่ 2 ยอดเขา Pikes Peak , บ้านแห่งภูผา
http://ppantip.com/topic/30783423
ตอนที่ 3 พิพิธภัณฑ์บ้านแห่งภูผา, ปราสาท Miramont
http://ppantip.com/topic/30791861
ตอนที่ 4 ระหว่างทาง, Aspen เมืองเล่นสกีชื่อดังกลางหุบเขา
http://ppantip.com/topic/30803124
>>>>>>> [ ทริปโคโลราโด ตอน 5 : เมืองไฮโซ Aspen, ทะเลสาบ Maroon ] <<<<<<<
1. จากตอนที่แล้วเราได้แต่ชมความงามของดอกไม้สวยสีสดแสบตาของ Aspen จนยังไม่ได้ชมตึกรามบ้านช่องของเมืองนี้วันนี้ลองมาชมกันบ้างครับ
2. ตึกที่อยู่ตรงข้ามกับน้ำพุยอดนิยมของเมืองเป็นตึกเก่าแก่โดดเด่นตึกหนึ่งด้านในตึกมีโรงโอเปร่าอยู่ด้วย
3. ผมจอดรถที่หน้าร้าน Louis Vuitton เลยเพราะกะว่าจะขนของแบรนด์นี้ไปสักครึ่งคันรถ
4. ร้าน Burberry
5. ร้านปร้าดา Prada มองในกระจกประตูร้านจะเห็นป้าสูงวัยคนหนึ่งมองดูของในร้านตาละห้อยแต่ที่จริงตั้งใจมาสอยกระเป๋าใบสีชมพูในร้านเสียดายที่ยังเช้าไปร้านยังไม่เปิดไม่งั้นได้เสียตังค์ซื้อกระเป๋าใบเล็กๆแต่ราคาเท่ารถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆแล้ว
6.ร้าน Ralph Lauren
7. ร้าน Dior
8. ร้าน Gucci
9. ช๊อปร้านแบรนด์เนมกันจนเมื่อยเพราะได้แต่เดินดูก็แวะนั่งกินกาแฟแต่ไม่มีปาท่องโก้ที่ร้านบรรยกาศดีๆรูปทรงชาเล่ต์ร้านนี้ได้นะครับเพราะอยู่ในบริเวณเดียวกัน
10.ไปดูตึกทั่วๆไปบ้าง
11. ตึกสีแดงได้ใจแบบนี้ก็มี
12.ร้านอาหารร้านหนึ่งในจำนวนหลายร้านหลังน้ำพุแต่ตอนนี้ยังไม่เปิดเพราะยังเช้าอยู่
13. มีคนเป่าลูกโป่งแล้วมามัดเป็นรูปต่างๆขายด้วย
14.บรรยากาศอันร่มรื่นของเมือง
15.บางแห่งก็เล่นระดับลงไปอยู่กึ่งใต้ดิน
16.ร้านขายบุหรี่และอ๊อกซิเยน ? แบบว่าควันบุหรี่เยอะจนต้องซื้ออ๊อกซิเยนเพิ่มหรือเปล่า
17.อ้อ..ที่ Aspen นี่มีร้านอาหารไทยรสชาติอร่อยราคาไม่แพงบริการคนไทยด้วยนะครับชื่อร้าน Thai Cuisine อยู่ในมอล์เล็กๆเยื้องๆกับที่ทำการ ป.ณ.ของเมือง
18. มีโอเลี้ยงขายด้วยแต่ไก่สะเต๊ะผมถ่ายไม่ทันเพราะมือหยิบเข้าปากหมดไปก่อนแล้ว
19.มีลาบไม่หน้าตาน่ารับประทานและก็อร่อยใช้ได้เพราะใส่ข้าวคั่วเยอะดี
20. ผัดมะเขือยาวกับเต้าหู้ : เท่าที่ได้คุยกับน้องคนไทยร้านนี้รวมทั้งคุยกับอาตี๋จากเซี่ยงไฮที่มาตั้งร้านอาหารจีนที่ผมไปทานเมื่อวานก็ได้ข้อมูลตรงกับวิกกีพีเดียว่าค่าครองชีพใน Aspen สูงมากจนคนส่วนใหญ่อยู่ในเมืองไม่ได้ต้องย้ายกันไปอยู่นอกๆเมืองที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าคนที่เห็นในเมืองส่วนใหญ่แล้วจริงๆก็คงมีแต่นักท่องเที่ยวนั้นเองขนาดซุปเปอร์มาเก็ตที่ผมหาตั้งนานก็ไม่เจอก็ยังต้องหลบมาเช่าพื้นที่ในมอล์เล็กๆแห่งนี้ขายของเลยแสดงว่าค่าเช่าหรืออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตัวเมืองคงแพงมากจริงๆ
21. การเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบ Maroon ในหุบเขา Maroon Bells ช่วงฤดูร้อนท่านอาจจะใช้รถยนต์ส่วนตัวขับไปได้แต่ต้องเป็นเวลาก่อน 9.00 น.หรือหลัง 17.00 น.เพราะช่วงเวลา 9-17 น.ท่านจะต้องใช้บริการรถ Bus ของทางการร่วมกับเอกชนจัดให้โดยสามารถขึ้นรถ Bus ได้ที่ Aspen Highlands รีสอร์ตใหญ่บนถนนสาย Maroon Creek Road ถนนสายที่จะไป Maroon Bells แค่ 2 ไมล์จากเมืองค่าโดยสารคนละ 6 เหรียญซื้อได้ที่ร้านให้เช่าจักรยานและขายของที่ระลึกในบริเวณ Aspen Highlands ที่เห็นในภาพครับ
22.ที่รีสอร์ต Aspen Highlands นี่ใหญ่พอสมควรเลยดูอาคารแล้วผมว่าคล้ายรีสอร์ตทรงลานนาแถวๆภาคเหนือของไทยมากทีเดียว
23. ฤดูหนาวคงมีนักเล่นสกีมาพักผ่อนเล่นสกีกันเยอะเพราะเขาด้านหลังรีสอรต์ก็มีกระเช้าให้นั่งขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อเล่นสกี
24.และที่ถูกใจผมก็คือดอกไม้นานาพันธ์สวยๆของที่นี่มีสีสันแสบตาและเยอะมาก
25. งี้ก็ไม่พ้นมือบุรุษผู้ถนอมบุปผาแน่นอนครับ
26. ชมดอกไม้ระหว่างรอรถบัสกันไปเพลินๆก่อนนะครับ
27.
28.
29.
30.
31. รถบัสมาแล้วครับมัวแต่ถ่ายรูปดอกไม้จนเพลินเกือบไปไม่ทันแต่ที่จริงรอคันหลังก็ได้เพราะรถบัสวิ่งมารับทุกๆ 15 นาทีอยู่แล้ว
32.นั่งรถไต่เขาขึ้นไปไม่นานประมาณ 20-25 นาทีก็ถึงปลายทางรถจอดให้ลงแล้วเดินเข้าไปตามทางคอนกรีตพ้นโค้งก็มองเห็นทุ่งดอกไม้อันกว้างใหญ่สุดสายตาและพุ่มกุหลาบป่าหอมอบอวลสดชื่นใจมียอดเขา Maroon Bells เป็นฉากหลัง
Maroon Lake ทะเลสาปมารูนชื่อมาจากยอดเขาสองลูกด้านหลังทะเลสาบ Maroon Bells ห่างจากเมือง Aspen ไปทางตะวันตกเฉียงใต้แค่ 12 ไมล์ยอดเขาMaroon สูง 14,156 ฟุตจัดเป็นยอดเขาสูงลำดับที่ 27 ของรัฐโคโลราโด ทัศนีย์ภาพของลำธารด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ Maroon Bells จัดเป็นทัศนีย์ภาพที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดของรัฐโคโลราโดประมาณว่าใครมา โคโลราโดแล้วไม่ได้มาดูที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโคโลราโด
33. ด้านข้างก็มีเขาลูกนี้เป็นฉาก
34.มองเห็นทะเลสาบ Maroon ทะเลสาบในฝันอยู่ด้านหลังทุ่งดอกไม้
35.เดินมาประมาณ 3-400 เมตรก็ถึงริมทะเลสาบที่มีน้ำใสแจ๋ว
36. มีห่านป่าแคนนาดาที่ลืมบินกลับถิ่นยึดเอาทะเลสาบแห่งนี้ออกลูกออกหลานแปลงสัญชาติเป็นห่านMaroon Bellsไปแล้ว
37. ลูกสนที่นี่สีส้มสดแปลกกว่าลูกสนแถวบ้านผม
38. ผีเสื้อพันธ์นี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
39.ดอกสีม่วงๆนี่มีทั่วไปในโคโลราโด
40. ลากันด้วยภาพด้านหลังของทะเลสาบ Maroon ทะเลสาบอันแสนสวยแห่งนี้ที่ผมได้ชมและเก็บความประทับใจพร้อมกับสูดเอาความสดชื่นไปเต็มปอด
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม และอย่าลืมติดตามชมตอนต่อไปในเร็วๆนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ติดตามชมย้อนหลังได้นะครับ ตอนที่ 1 สวนแห่งทวยเทพ, Manitou springs http://ppantip.com/topic/30775632
ตอนที่ 2 ยอดเขา Pikes Peak , บ้านแห่งภูผา http://ppantip.com/topic/30783423
ตอนที่ 3 พิพิธภัณฑ์บ้านแห่งภูผา, ปราสาท Miramont http://ppantip.com/topic/30791861
ตอนที่ 4 ระหว่างทาง, Aspen เมืองเล่นสกีชื่อดังกลางหุบเขา http://ppantip.com/topic/30803124