ต่อจากตอนแรกที่พาชมโรงแรมและเที่ยวกันตังไปแล้วนะคะ  
ตอนแรก http://ppantip.com/topic/30785464



เช้าวันนี้คู่อ้วนจะไปลงทะเลกันค่ะ  นับว่าโชคดีที่วันนี้อากาศดี  เรือออกทะเลได้ เพราะวันก่อนหน้านี้และวันถัดไปเรือก็ออกไม่ได้อีก  เรามาพร้อมกันที่หน้าลอบบี้ตอน 8.30 น. มีอีก 2-3 กลุ่มมาจอยด้วย  รับผ้าเช็ดตัวที่โรงแรมเตรียมให้คนละผืนแล้วก็ขึ้นรถตู้ที่มารับนักท่องเที่ยวตามโรงแรมไปส่งท่าเรือ  ไม่ว่าคุณจะมาจากโรงแรมไหน จองทัวร์ของบริษัทอะไร  ราคาก็จะพอๆ กัน  และส่วนมากทุกคนก็ต้องมาลงเรือเจ้าเดียวกันที่ท่าเรือปากเมงค่ะ  สมัยก่อนที่เราเคยมาจะเป็นเรือหางยาว  แต่เดี๋ยวนี้เป็นเรือขนาดใหญ่สองชั้นจุคนได้กว่า 100 ที่นั่ง  ทุกคนต้องลงชื่อทำประกันก่อนแล้วไปนั่งดื่มน้ำรอจนได้เวลาเกือบ 10 โมง ไกด์ก็เรียกชื่อทีละกลุ่มให้ลงเรือได้  เมื่อเรือออกแต่ละคนก็เอาเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำกันไปคนละชุด  ระหว่างนั้นไกด์ก็ชี้ให้ดูโลมาที่มาว่ายน้ำเล่นอยู่ข้างเรือไม่ไกลจากท่า  เค้าว่าออกทะเลได้เจอโลมาจะโชคดี  เย้

จุดหมายแรกวันนี้คือเกาะมุก  ที่ตั้งของอีกหนึ่ง Unseen Thailand ถ้ำมรกต  ก่อนจะถึงไกด์ก็แนะนำวิธีการเข้าถ้ำว่า เราจะต้องว่ายน้ำต่อแถวกันเข้าไป โดยให้สองมือจับขอบแขนเสื้อชูชีพของคนหน้าแล้วช่วยกันตีเท้าค่ะ  ใครอยากเอากล้องไปด้วยต้องใส่ในถุงกันน้ำที่พับเก็บแน่นหนาแล้วคล้องคอปล่อยสายให้ลอยเหนือน้ำไว้  อย่าคล้องไหล่เพราะมันจะถูกกดให้ลงไปอยู่ใต้น้ำตอนเราว่ายได้ค่ะ  เมื่อเรือมาถึงหน้าถ้ำ  น้องคนเรือคนหนึ่งก็โดดลงทะเลเป็นแนวหน้านำไปก่อนพร้อมห่วงยางให้คนต่อไปเกาะ  จากนั้นคนบนเรือก็ทยอยกันลงน้ำต่อแถวเป็นงูกินหางยักษ์เลื้อยเข้าถ้ำ  ภายในถ้ำค่อนข้างมืดและวันนี้ระดับน้ำสูงและแรง  ต้องใช้แรงขาและเวลามากหน่อยกว่าจะพ้นถ้ำยาว 50 เมตรไปถึงด้านใน  แต่ตลอดทางก็มีทีมไกด์คอยนำทางและดูแลความปลอดภัยให้  พอไปถึงทะเลด้านในก็ขึ้นไปนั่งพักเหนื่อยกันบนชายหาดที่รอบล้อมไปด้วยผาหินเหมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัว  บางคนก็เล่นน้ำตื้นๆ หน้าหาด  ข้อดีอย่างหนึ่งของการมาช่วง low season คือคนไม่แน่น  อย่างเช้านี้ก็มีแต่กลุ่มเรือของเราค่ะ  สักพักไกด์ก็เรียกมาเข้าแถวว่ายน้ำออกจากถ้ำ  ขาออกนี้อย่าลืมมองแสงสีเขียวมรกตที่สะท้อนไปทั่วปากถ้ำด้วยนะคะ  แสงนี้มาจากการหักเหของแสงแดดกับน้ำทะเลด้านหน้าถ้ำจนเกิดเป็นสีเขียวเรืองรองไปทั่ว  เป็นที่มาของชื่อ ถ้ำมรกต  สวยมากค่ะ