กระทู้นี้อยากให้พี่น้องทั้งมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมได้ลองอ่านดูตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะพี่น้องต่างศาสนิกที่อาจจะค่อนข้างอคติกับศาสนาอิสลามและคนมุสลิมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน3จังหวัดชายแดนใต้ ลองเปิดมุมมองใหม่ ลองวิเคราะห์ ลองเปิดหัวใจกันดู ส่วนทัศนคติจะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ไม่สามารถบังคับกันได้ครับ (ต่างจิตต่างใจ)
แค่จะบอกว่า ผมก็ไม่เห็นด้วย และพี่น้องมุสลิมคนอื่นๆก็ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทั้งหมด และขอประณามโจรใต้ทุกๆคนที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็นคนนับถือศาสนาไหนก็แล้วแต่ เพราะพระเจ้าของเราบอกผ่านคัมภีร์อัลกุรอานว่าการฆ่าคนนั้นเป็นบาปใหญ่ ฆ่า1คนก็เปรียบเสมือนฆ่าคนทั้งโลกครับ
อิหม่ามยะโก๊บกล่าวในสกู๊ปข้างล่างก่อนโดนลอบยิงว่า...
การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม เพราะไม่มีคำสอนใดที่มุ่งให้ทำร้ายผู้อื่น
คำพูดนี้น่าจะสร้างความชัดเจนให้พี่น้องต่างศาสนิกที่ยังไม่เข้าใจหรือยังสับสนกับเหตุการณ์ต่างๆไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอพระเจ้าทรงโปรดเปิดหัวใจให้เพื่อนๆทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ อามีน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ภาพการละหมาดญะนาซะฮ์(ละหมาดให้คนตาย)ของอืหม่ามยะโก๊ป กระทำการละหมาดเมื่อคืนเวลาประมาณ4ทุ่มครับ***
เสียงนำละหมาดที่หายไป กับคำสัมภาษณ์สุดท้ายของ "อิหม่ามยะโก๊ป"
"อยากให้ทุกฝ่ายสร้างความเข้าใจ จริงใจ และมีความอดทนในการแก้ปัญหา แล้วปัญหาจะจบลงได้" เป็นคำให้สัมภาษณ์สุดท้ายของ อิหม่ามยะโก๊ป หรือ นายยะโก๊ป หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
อิหม่ามกล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ที่มัสยิดกลางเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงเศษของวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.2556 จากนั้นอีกเพียง 3 ชั่วโมงเขาก็ถูกยิงในบริเวณตลาดจะบังติกอ
ยะโก๊ปเป็นอิหม่ามที่มีชื่อเสียง ประกอบกับเป็นผู้นำศาสนาที่ใจดี คุยง่ายและไม่ถือตัว ทำให้เป็นที่รู้จักคุ้นเคยของนักข่าวในพื้นที่เป็นอย่างดี
และในวันที่เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวจากศูนย์ข่าวอิศราได้แวะเวียนไปหาอิหม่ามเพื่อสอบถามถึงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเทศกาลฮารีรายอ เนื่องจากในวันรายอก็เป็นอีกหนึ่งวันที่พี่น้องมุสลิมจะไปร่วมละหมาดที่มัสยิดเป็นจำนวนมาก ทำให้อิหม่ามยะโก๊ปต้องเตรียมพร้อมทั้งตนเองและสถานที่ก่อนถึงเทศกาลสำคัญทุกปี
เช่นเดียวกับการละหมาดตะรอเวียะห์ทุกค่ำคืนในช่วงเดือนรอมฎอนที่อิหม่ามะยะโก๊ปจะเป็นผู้นำละหมาดด้วยตนเองด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์...ใครๆ ก็จำได้
อิหม่ามยะโก๊ปอายุได้ 51 ปี อยู่กินกับภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ย้อนหลังกลับไปเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว ช่วงค่ำวันที่ 11 ต.ค.2553 เขาเคยถูกคนร้ายลอบยิงที่หน้าบ้าน แต่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระสุนโดนเพียงหมวกกะปิเยาะห์
ครั้งนั้นเขาให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า "คนร้ายไม่รู้จะไปยิงใคร อิหม่าม ครู ทุกอาชีพ ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหมดแล้ว โดนกันหมด โจรเลยไม่รู้จะไปยิงใคร อิหม่ามก็ยิงมาเยอะแล้ว ก็เลยมาลงที่ผม แต่โชคดีที่อัลเลาะฮ์คุ้มครอง เพราะผมอยู่ในแนวทางของอัลเลาะฮ์มาตลอด"
พร้อมกับทิ้งประเด็นต่อสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ช่วงนั้นไว้อย่างน่าคิดว่า
"ผมคิดว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงหลังๆ ดีขึ้นมาก แต่ดูเหมือนมีคนไม่อยากให้สถานการณ์สงบ"
เหตุรุนแรงที่กระทำต่ออิหม่ามคนสำคัญในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐพุ่งเป้าไปที่การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีรายงานเบื้องต้นถึงผลตรวจปลอกกระสุนปืนจากปากกระบอกปืนที่ใช้ยิงอิหม่าม พบว่าเคยใช้ก่อเหตุรุนแรงมาแล้ว 6 เหตุการณ์ ส่วนบุคคลที่ทางการเชื่อว่าเคยลอบยิงอิหม่ามเมื่อปี 2553 ก็เพิ่งถูกจับกุมได้เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
สาเหตุสำคัญที่อิหม่ามยะโก๊ปถูกลอบยิง เจ้าหน้าที่ประเมินว่าเป็นเพราะการทำงานร่วมกับรัฐอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เมื่อเร็วๆ นี้เขาเคยกล่าวต่อสาธารณะถึงความหมายของเดือนรอมฎอนว่า เป็นช่วงเวลาของการให้อภัยและไม่ทำร้ายกัน ขณะที่ก่อนหน้านั้นก็เคยพูดหลายครั้งว่า
การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม เพราะไม่มีคำสอนใดที่มุ่งให้ทำร้ายผู้อื่น
อิหม่ามเพิ่งให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" เกี่ยวกับความหมายและข้อปฏิบัติของเดือนรอมฎอน เพิ่งนำเสนอบนเว็บไซต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง (25 ก.ค.) น่าจะเป็นบทสัมภาษณ์ขนาดยาวชิ้นสุดท้ายของอิหม่าม บางช่วงบางตอนอิหม่ามเน้นย้ำถึงสภาพพื้นที่ชายแดนใต้ว่าทุกฝ่ายต้องยอมรับความแตกต่างหลากหลายว่ามีอยู่จริง และเข้าใจอัตลักษณ์ของศาสนาอื่นด้วย
"ข้อเสนอบางข้อ (เงื่อนไขแลกยุติเหตุรุนแรงของบีอาร์เอ็น มี 7-8 ข้อ) อย่างกรณีให้อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กระทำละหมาด คนเหล่านี้ก็ละหมาดเป็นปกติอยู่แล้ว หรือไม่ให้ขายเหล้า ถ้ามุสลิมขายเหล้าก็หะรอมอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ใช่มุสลิมกระทำได้ เนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย คนพุทธห้ามขายหมูมันไม่ใช่
เราต้องเข้าใจว่าอัตลักษณ์ของศาสนาเป็นอย่างไร ศาสนาของเขาก็ของเขา ของเราก็ของเรา ในเรื่องวิถีชีวิต สังคม เราอยู่ร่วมกันได้ อันไหนที่ทำได้ก็ทำ อันไหนที่ขัดกับระบบอิสลามกำหนดก็มาว่ากันไป"
อิหม่ามยะโก๊ปเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาอิสลามที่มีผลงานโดดเด่นและเคยได้รับรางวัลมากมาย เช่น โล่รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมด้านศาสนา ประจำปี 2552 รางวัลพระราชทาน ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายใต้ ปี 2536 รางวัลพระราชทานผู้ดำเนินรายการวิทยุดีเด่น สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยปี 2535 รางวัลพระราชทานโครงการคัดเลือกผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ สาขาการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ และยังเป็นวิทยากรบรรยายศาสนธรรมตามสถานีวิทยุทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล
นอกจากนั้น อิหม่ามยะโก๊ปยังเป็นตัวแทนประเทศไทยในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบต่อองค์กรโลกมุสลิม เช่น องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี องค์กรสันนิบาตโลกมุสลิม รวมไปถึงองค์กรมุสลิมประเทศต่างๆ ด้วย
ารเสียชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างอิหม่ามยะโก๊ป สร้างความรู้สึกตกใจ สูญเสีย และเศร้าสลดกับผู้คนจำนวนไม่น้อย นางรอเมาะ มือลอ แม่ค้าในตลาดจะบังติกอ เล่าว่า เธอเห็นอิหม่ามยะโก๊ปมาซื้อของที่ตลาดทุกวัน บางวันมากับภรรยา บางวันก็จะมากับเพื่อน แต่วันเกิดเหตุอิหม่ามมากับภรรยา
"ฉันไม่คิดเลยว่าคนร้ายจะกล้าเข้ามาก่อเหตุถึงในตลาด น่ากลัวมาก ตอนที่เกิดเหตุแรกๆ ก็ไม่รู้ว่ายิงใคร มารู้อีกทีก็ตอนที่อิหม่ามฟุบลงกับพื้นแล้ว รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าคนที่ตกเป็นเป้าจะเป็นอิหม่าม"
ขณะที่ นายนัน วัย 65 ปี คนทำความสะอาดมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี บอกว่า ตอนที่รู้ข่าวร้ายรู้สึกตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเลย เหมือนจะเป็นลม อิหม่ามเป็นคนจริงจังกับงานมาก ตั้งแต่ท่านเป็นอิหม่าม จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว แต่มัสยิดแห่งนี้พัฒนามาก ท่านตกแต่งจนมัสยิดกลางปัตตานีเป็นมัสยิดที่สวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
"ผมเองอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากท่านอิหม่าม ท่านให้เงินผมเดือนละ 500 บาทเป็นค่าตอนแทนที่ผมทำความสะอาดมัสยิด ถึงแม้ว่าเงินจะน้อย แต่ผมก็ภูมิใจ" นายนัน กล่าว
ส่วนผู้ที่ทำงานด้านประชาสังคมในพื้นที่ซึ่งต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐ ต่างพากันวิตกกังวลหลังเกิดเหตุร้ายกับอิหม่ามยะโก๊ป เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอิหม่ามให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด และยังมีแนวคิดเป็นกลาง มองปัญหาอย่างรอบด้าน
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ญาติของอิหม่าม
คืนวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. การละหมาดตะรอเวียะห์ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานียังคงดำเนินไปตามปกติ แต่เสียงนำละหมาดไม่ใช่เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของอิหม่ามยะโก๊ปอีกแล้ว...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เครดิตสกู๊ป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.isranews.org/south-news/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99/item/22826-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%9B.html
เสียงนำละหมาดที่หายไป กับคำสัมภาษณ์สุดท้ายของ"อิหม่ามยะโก๊ป" (อิหม่ามมัสยิดปัตตานีที่เพิ่งถูกยิงเสียชีวิต)
แค่จะบอกว่า ผมก็ไม่เห็นด้วย และพี่น้องมุสลิมคนอื่นๆก็ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทั้งหมด และขอประณามโจรใต้ทุกๆคนที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็นคนนับถือศาสนาไหนก็แล้วแต่ เพราะพระเจ้าของเราบอกผ่านคัมภีร์อัลกุรอานว่าการฆ่าคนนั้นเป็นบาปใหญ่ ฆ่า1คนก็เปรียบเสมือนฆ่าคนทั้งโลกครับ
อิหม่ามยะโก๊บกล่าวในสกู๊ปข้างล่างก่อนโดนลอบยิงว่า... การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม เพราะไม่มีคำสอนใดที่มุ่งให้ทำร้ายผู้อื่น
คำพูดนี้น่าจะสร้างความชัดเจนให้พี่น้องต่างศาสนิกที่ยังไม่เข้าใจหรือยังสับสนกับเหตุการณ์ต่างๆไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอพระเจ้าทรงโปรดเปิดหัวใจให้เพื่อนๆทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ อามีน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ภาพการละหมาดญะนาซะฮ์(ละหมาดให้คนตาย)ของอืหม่ามยะโก๊ป กระทำการละหมาดเมื่อคืนเวลาประมาณ4ทุ่มครับ***
เสียงนำละหมาดที่หายไป กับคำสัมภาษณ์สุดท้ายของ "อิหม่ามยะโก๊ป"
"อยากให้ทุกฝ่ายสร้างความเข้าใจ จริงใจ และมีความอดทนในการแก้ปัญหา แล้วปัญหาจะจบลงได้" เป็นคำให้สัมภาษณ์สุดท้ายของ อิหม่ามยะโก๊ป หรือ นายยะโก๊ป หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
อิหม่ามกล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ที่มัสยิดกลางเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงเศษของวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.2556 จากนั้นอีกเพียง 3 ชั่วโมงเขาก็ถูกยิงในบริเวณตลาดจะบังติกอ
ยะโก๊ปเป็นอิหม่ามที่มีชื่อเสียง ประกอบกับเป็นผู้นำศาสนาที่ใจดี คุยง่ายและไม่ถือตัว ทำให้เป็นที่รู้จักคุ้นเคยของนักข่าวในพื้นที่เป็นอย่างดี
และในวันที่เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวจากศูนย์ข่าวอิศราได้แวะเวียนไปหาอิหม่ามเพื่อสอบถามถึงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเทศกาลฮารีรายอ เนื่องจากในวันรายอก็เป็นอีกหนึ่งวันที่พี่น้องมุสลิมจะไปร่วมละหมาดที่มัสยิดเป็นจำนวนมาก ทำให้อิหม่ามยะโก๊ปต้องเตรียมพร้อมทั้งตนเองและสถานที่ก่อนถึงเทศกาลสำคัญทุกปี
เช่นเดียวกับการละหมาดตะรอเวียะห์ทุกค่ำคืนในช่วงเดือนรอมฎอนที่อิหม่ามะยะโก๊ปจะเป็นผู้นำละหมาดด้วยตนเองด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์...ใครๆ ก็จำได้
อิหม่ามยะโก๊ปอายุได้ 51 ปี อยู่กินกับภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ย้อนหลังกลับไปเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว ช่วงค่ำวันที่ 11 ต.ค.2553 เขาเคยถูกคนร้ายลอบยิงที่หน้าบ้าน แต่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระสุนโดนเพียงหมวกกะปิเยาะห์
ครั้งนั้นเขาให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า "คนร้ายไม่รู้จะไปยิงใคร อิหม่าม ครู ทุกอาชีพ ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหมดแล้ว โดนกันหมด โจรเลยไม่รู้จะไปยิงใคร อิหม่ามก็ยิงมาเยอะแล้ว ก็เลยมาลงที่ผม แต่โชคดีที่อัลเลาะฮ์คุ้มครอง เพราะผมอยู่ในแนวทางของอัลเลาะฮ์มาตลอด"
พร้อมกับทิ้งประเด็นต่อสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ช่วงนั้นไว้อย่างน่าคิดว่า "ผมคิดว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงหลังๆ ดีขึ้นมาก แต่ดูเหมือนมีคนไม่อยากให้สถานการณ์สงบ"
เหตุรุนแรงที่กระทำต่ออิหม่ามคนสำคัญในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐพุ่งเป้าไปที่การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีรายงานเบื้องต้นถึงผลตรวจปลอกกระสุนปืนจากปากกระบอกปืนที่ใช้ยิงอิหม่าม พบว่าเคยใช้ก่อเหตุรุนแรงมาแล้ว 6 เหตุการณ์ ส่วนบุคคลที่ทางการเชื่อว่าเคยลอบยิงอิหม่ามเมื่อปี 2553 ก็เพิ่งถูกจับกุมได้เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
สาเหตุสำคัญที่อิหม่ามยะโก๊ปถูกลอบยิง เจ้าหน้าที่ประเมินว่าเป็นเพราะการทำงานร่วมกับรัฐอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เมื่อเร็วๆ นี้เขาเคยกล่าวต่อสาธารณะถึงความหมายของเดือนรอมฎอนว่า เป็นช่วงเวลาของการให้อภัยและไม่ทำร้ายกัน ขณะที่ก่อนหน้านั้นก็เคยพูดหลายครั้งว่า การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม เพราะไม่มีคำสอนใดที่มุ่งให้ทำร้ายผู้อื่น
อิหม่ามเพิ่งให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" เกี่ยวกับความหมายและข้อปฏิบัติของเดือนรอมฎอน เพิ่งนำเสนอบนเว็บไซต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง (25 ก.ค.) น่าจะเป็นบทสัมภาษณ์ขนาดยาวชิ้นสุดท้ายของอิหม่าม บางช่วงบางตอนอิหม่ามเน้นย้ำถึงสภาพพื้นที่ชายแดนใต้ว่าทุกฝ่ายต้องยอมรับความแตกต่างหลากหลายว่ามีอยู่จริง และเข้าใจอัตลักษณ์ของศาสนาอื่นด้วย
"ข้อเสนอบางข้อ (เงื่อนไขแลกยุติเหตุรุนแรงของบีอาร์เอ็น มี 7-8 ข้อ) อย่างกรณีให้อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กระทำละหมาด คนเหล่านี้ก็ละหมาดเป็นปกติอยู่แล้ว หรือไม่ให้ขายเหล้า ถ้ามุสลิมขายเหล้าก็หะรอมอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ใช่มุสลิมกระทำได้ เนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย คนพุทธห้ามขายหมูมันไม่ใช่ เราต้องเข้าใจว่าอัตลักษณ์ของศาสนาเป็นอย่างไร ศาสนาของเขาก็ของเขา ของเราก็ของเรา ในเรื่องวิถีชีวิต สังคม เราอยู่ร่วมกันได้ อันไหนที่ทำได้ก็ทำ อันไหนที่ขัดกับระบบอิสลามกำหนดก็มาว่ากันไป"
อิหม่ามยะโก๊ปเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาอิสลามที่มีผลงานโดดเด่นและเคยได้รับรางวัลมากมาย เช่น โล่รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมด้านศาสนา ประจำปี 2552 รางวัลพระราชทาน ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายใต้ ปี 2536 รางวัลพระราชทานผู้ดำเนินรายการวิทยุดีเด่น สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยปี 2535 รางวัลพระราชทานโครงการคัดเลือกผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ สาขาการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ และยังเป็นวิทยากรบรรยายศาสนธรรมตามสถานีวิทยุทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล
นอกจากนั้น อิหม่ามยะโก๊ปยังเป็นตัวแทนประเทศไทยในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบต่อองค์กรโลกมุสลิม เช่น องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี องค์กรสันนิบาตโลกมุสลิม รวมไปถึงองค์กรมุสลิมประเทศต่างๆ ด้วย
ารเสียชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างอิหม่ามยะโก๊ป สร้างความรู้สึกตกใจ สูญเสีย และเศร้าสลดกับผู้คนจำนวนไม่น้อย นางรอเมาะ มือลอ แม่ค้าในตลาดจะบังติกอ เล่าว่า เธอเห็นอิหม่ามยะโก๊ปมาซื้อของที่ตลาดทุกวัน บางวันมากับภรรยา บางวันก็จะมากับเพื่อน แต่วันเกิดเหตุอิหม่ามมากับภรรยา
"ฉันไม่คิดเลยว่าคนร้ายจะกล้าเข้ามาก่อเหตุถึงในตลาด น่ากลัวมาก ตอนที่เกิดเหตุแรกๆ ก็ไม่รู้ว่ายิงใคร มารู้อีกทีก็ตอนที่อิหม่ามฟุบลงกับพื้นแล้ว รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าคนที่ตกเป็นเป้าจะเป็นอิหม่าม"
ขณะที่ นายนัน วัย 65 ปี คนทำความสะอาดมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี บอกว่า ตอนที่รู้ข่าวร้ายรู้สึกตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเลย เหมือนจะเป็นลม อิหม่ามเป็นคนจริงจังกับงานมาก ตั้งแต่ท่านเป็นอิหม่าม จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว แต่มัสยิดแห่งนี้พัฒนามาก ท่านตกแต่งจนมัสยิดกลางปัตตานีเป็นมัสยิดที่สวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
"ผมเองอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากท่านอิหม่าม ท่านให้เงินผมเดือนละ 500 บาทเป็นค่าตอนแทนที่ผมทำความสะอาดมัสยิด ถึงแม้ว่าเงินจะน้อย แต่ผมก็ภูมิใจ" นายนัน กล่าว
ส่วนผู้ที่ทำงานด้านประชาสังคมในพื้นที่ซึ่งต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐ ต่างพากันวิตกกังวลหลังเกิดเหตุร้ายกับอิหม่ามยะโก๊ป เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอิหม่ามให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด และยังมีแนวคิดเป็นกลาง มองปัญหาอย่างรอบด้าน
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ญาติของอิหม่าม
คืนวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. การละหมาดตะรอเวียะห์ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานียังคงดำเนินไปตามปกติ แต่เสียงนำละหมาดไม่ใช่เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของอิหม่ามยะโก๊ปอีกแล้ว...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เครดิตสกู๊ป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้