ยาวนิดนึงนะคะ เพลินไปหน่อย ขี้เกียจอ่านก็ข้ามๆไปเนอะ ^^
เกริ่นก่อนว่าเรื่องของเราอาจจะไม่ได้ inspire ใครขนาดนั้น
แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เราเองก็แอบภูมิใจกับตัวเองเล็กๆ
จขกท.เป็นแค่นักศึกษาคนนึงนะคะ และที่สำคัญนี่ไม่ใช่กระทู้ยอตัวเอง 55
เห็นห้องนี้ชอบมีคนตั้งว่าอยากเก่งภาษา
แต่คอร์สเรียนภาษาตามสถาบันต่างๆก็แพงเหลือเกิน
เราคิดว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นหนทางเดียวในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
เรามองว่ามันคือทางที่ 'บีบ' ให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษต่างหาก
ซึ่งไม่ใช่ไม่ดีนะ เพราะถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ เราก็ต้องพยายามใช้ให้ได้
เหมือนเวลาคนที่ไปอยู่เมืองนอกแรกๆ ไม่รู้เรื่องเลย
พออยู่ๆไปมันได้ใช้ ต้องใช้ ก็พูดได้ เพราะพูดไทยไปก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
เอาล่ะเข้าเรื่อง เราเป็นคนนึงที่ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษเลย ไม่เคยเรียนพิเศษ
(ตามวิชาในโรงเรียนมัธยมไม่นับ เพราะมันห่วย ไม่ได้อะไรเลย สอนแบบซับซ้อน เข้าใจยาก)
เรียนโรงเรียนไทยมาตลอด ไม่เคยไปเมืองนอก ไม่ได้เรียนนานาชาติ
แต่ชอบภาษา ชอบฝรั่ง 55 อยากอินเตอร์บ้าง จริงๆคือกระแดะนั่นแหละ
ดูแต่หนังฝรั่งซีรีย์ฝรั่งฟังเพลงฝรั่งมาตั้งแต่เด็กๆ
จะเรียกว่าศึกษาก็ไม่ถูก เพราะไม่ได้ตั้งใจอะไรขนาดนั้น
เอาจริงๆมันเป็นเรื่องรสนิยมอย่างนึง คือถ้าชอบ มันก็ง่าย ไม่ใช่ปัญหา
เหมือนพวกคลั่งเกาหลีก็จะพยายามพูดเกาหลีน่ะ 55
อยากเขียนได้ ทำบล็อกซะเลย บล็อกภาษาอังกฤษ พร่ำเพ้อไปเรื่อยๆ
อยากเขียนอะไรก็เขียน วันนี้เจอไอ้นั่นไอ้นี่มา รู้สึกอย่างงู้นอย่างงี้
เริ่มจากเขียนไดอารี่ง่ายๆ พูดถึงตัวเอง
แล้วก็เริ่มแต่งเรื่องสั้นนิดหน่อย ไว้อ่านเองบ้างแชร์บ้าง
พอเริ่มมีคนติดตามก็เริ่มได้ใจ ฮึด เขียนไปเรื่อยๆ
อยากคุยกับฝรั่ง ก็ไปสมัครตามเว็บคุยๆ หรือเล่นเกมก็ได้
(แต่ก็ต้องระวังนิดนึง พวกหื่นๆมีอยู่ทุกที่ 55)
อันนี้จะได้ศัพท์แสลงเยอะด้วย ก็เลือกใช้เอา
บางทีเจอคนดีๆหน่อยเค้าก็จะคอยบอกว่าเฮ้ย you ใช้อย่างงี้ไม่ถูกนะ ต้องแบบนี้ๆ
บอกไปก่อนเลยว่า I'm not very good at english
พอพูดแบบนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรเราถ้าเราใช้ผิด เค้าจะคอยเตือนเราเอง
อยากได้สำเนียง ดูหนังแล้วพูดตาม พูดแบบเป็น phrase หรือเป็นประโยคไปเลย
เราทำงี้จริงๆนะ ตั้งกะเด็กเลย แบบไม่รู้ตัวด้วยบางที
(หนังแผ่นดูที่บ้านนะไม่ใช่หนังโรง 55)
อยากอ่านออก ก็อ่านเว็บฝรั่งบ่อยๆ อ่านบอร์ด นิยาย การ์ตูน รีวิว อะไรก็ได้
อยากฟังออก ก็หนังอีกนั่นแหละ เพลง ยูท้งยูทู้บ ดูเข้าไป ฟังเข้าไป เพลินๆ
ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ได้เอง
คืออยากพูดได้ ก็พูดบ่อยๆ อยากเขียนได้ ก็เขียนบ่อยๆ
อยากฟังได้ ก็ฟังบ่อยๆ อยากใช้ศัพท์เป็น ก็ใช้บ่อยๆ
เท่านั้นเอง คือแค่ให้ทำจนชิน เหมือนภาษาไทย
เราคิดว่าเรื่องภาษามันเป็น sense นะ แบบพอถ้าเห็นบ่อยๆมันจะคุ้นเอง
เราไม่เคยท่องศัพท์ เพราะคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักศัพท์ทุกคำบนโลก แม้แต่ฝรั่งเอง
จะมาเปิดดิกเอาก็ตอนที่เจอคำนึงบ่อยๆ สงสัย และคิดว่าต้องใช้
บางทีเจอคำแปลกประหลาดยาวๆที่ผ่านมาแค่ครั้งเดียวในชีวิต
แล้วมันไม่น่าสนใจ เราก็ไม่จำเหมือนกัน
(บ่น) เราว่าโรงเรียนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากไปหน่อย
ถ้าเทียบกับหลักวิธีการใช้ในชีวิตจริง
อันนี้คือความคิดจากตัวเราเองที่เป็นนักเรียนไทยคนนึงที่พอถูไถได้โดยไม่พึ่งเรื่องพวกนี้นะ
เราคิดว่าเด็กไทย ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่ไม่ได้ใช้ เลยใช้ไม่เป็น
เหมือนท่องศัพท์ไป แล้วจบ ไม่มีอะไรต่อจากนั้น มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา
เวลาเราจำศัพท์ เราไม่จำเป็นคำๆ มันยุ่งยาก
เห็นบอกคนท่องกันแล้วปวดหัว ไหนจะต้องจำคำ จำวิธีใช้ จำนู่นนี่เยอะแยะ
สำหรับเรา เราเลือกที่จะจำทั้งประโยค
ซึ่งทั้งประโยคมันก็จะรวมทั้ง vocab structure grammar ฯลฯ ทุกอย่างไว้ด้วยกันอยู่แล้ว
สำหรับเราเราว่ามันเวิร์คนะ ง่ายด้วย เวลาพูดก็ cool ดี 55
แรกๆเราไม่สนด้วยซ้ำว่า structure แบบนั้นแบบนี้เรียกว่าอะไร
ถ้าพูดมาว่า adv adj ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ แต่ถ้าเห็นเป็นประโยคมาน่ะทำได้
(หลังๆมาสอนน้องๆก็ต้องจำหน่อย เพราะเดี๋ยวน้องไม่รู้เรื่อง พี่พูดอะไรอ่ะ ชี้ๆบอกไอ้นั่นไอ้นี่ 55
แต่พอมาถึงตอนนี้มันก็ง่ายแล้ว เหมือนแค่ตั้งชื่อให้กับเรื่องที่เราทำได้แล้ว)
ซึ่ง ณ ตอนนู้น (ม.ต้น) เราโอเคกับมันนะ พูดได้ เขียนได้ อ่านได้ สำเนียงได้
คนอื่นก็แบบจะเฮ้ยไปเรียนมาจากไหน เราบอกเปล่า ดูหนังเอา มันก็จะไม่ค่อยเชื่อกัน
คือจขกท.จะว่าว่าเป็นคน anti ระบบการศึกษาไทยก็ได้นะ ส่วนตัวง่ะ อย่าว่ากันนะ
เลยไม่รงไม่เรียนละม.ปลาย เบื่อ ไม่ได้อะไรเท่าไหร่
เห็นเพื่อนเป็นฝรั่งสอบ GED ก็เลยเอาวะ สอบมั่ง
พอได้มาก็เอาไปยื่น IC แถวนครปฐมที่นึงขึ้นต้นด้วย M (อุอุ)
ทุกวันนี้ปกติสุขดีค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร ได้เรียนอินเตอร์สมใจ
เรียนเป็นภาษาอังกฤษ พูดคุยกับครูกับเพื่อน เขียนรายงาน essay thesis อ่าน textbook
รับจ๊อบเป็นครู part time สอน toelf/ielts หลังเลิกเรียน
คือจะบอกว่า ถึงไม่เคยเรียนภาษา ไม่เคยเข้าคอร์สแพงๆ
ก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องได้ค่ะ
จขกท.หันมาใช้เวลากับภาษาอังกฤษเยอะๆ
คือเป็นช่วงกระแดะขั้นสุด แบบเฮ้ยอยากอินเตอออออร์อะะะะะะะะะ
เปลี่ยนมาดูมาฟังทั้งหมด ย้ำว่าทั้งหมด เป็นภาษาอังกฤษจนถึงช่วงเข้ามหาลัย
รวมๆแค่ปีเดียวเองค่ะ เผลอๆไม่ถึงด้วย ไม่นานเลยนะคะ
ส่วนพวก formal language ตอนเรียนไปมันจะได้เองค่ะ
เหมือนที่บอกไปนะคะ อยากทำอะไร ให้ฝึกเยอะๆ
อยากเก่งภาษา ก็ต้องใช้บ่อยๆเท่านั้นเองค่ะ ง่ายนิดเดียว
ไม่ต้องพยายามฝืนตัวเอง แค่ใช้เวลาดูหนังฟังเพลงเล่นเกม
มันก็เหมือนเป็น entertainment ให้เราได้อย่างนึง
ถ้าบอกว่าอยากเก่งแต่อยู่เฉยๆก็ไม่ได้อะไรค่ะ
เฮ้ยฉันอยากเก่ง อยาก speak english ทำไมทำไม่ได้ซักที
ถามตัวคุณเองดีกว่า 'ทำ' อะไรบ้างแล้วหรือยัง
ทำไม่ได้ กับ ไม่ได้ทำ ไม่เหมือนกันนะคะ
เราไม่ได้บอกว่าต้องตั้งใจเคร่งเครียดนะคะ
แต่ทำให้มันเป็นชีวิตประจำวันไปค่ะ แล้วมันจะซึมเอง
เริ่มจากเรื่องง่ายๆก็ได้ เช่นเปลี่ยนภาษาในมือถือให้เป็นภาษาอังกฤษ
อะไรแค่นี้ก็ได้แล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ดีนะสำหรับเรา
เหมือนเราพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้
เพราะมีคนสื่อสารกับเราเป็นภาษาไทยมาตั้งแต่เด็ก
คือเรามองว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆก็ทำได้ ถ้าใช้เวลากับมันซักหน่อย
ไม่มีใครเกิดมาพูดได้ 8 ภาษาตั้งแต่เกิด
แรกๆก็มีเละเทะบ้าง มั่วบ้าง ใช้ไม่ถูกบ้าง ไม่เป็นไรค่ะ ฝึกบ่อยๆเดี๋ยวก็ดี
ไม่ใช่แค่กับเรื่องภาษาเท่านั้นนะคะ เราคิดว่ามันใช้ได้กับทุกเรื่อง
ขี่จักรยานแรกๆก็ล้ม ทอดไข่ดาวแรกๆก็ไหม้ กรีดอายแรกๆก็สองข้างไม่เท่ากัน 55
อยากให้ทุกคนสู้ๆนะคะ อย่าท้อค่ะ ทำไปเรื่อยๆ ให้ชิน เดี๋ยวมันก็ได้
*เพิ่มนิดนึง เราไม่ได้บอกว่าสถาบันสอนภาษาอังกฤษไม่ดีนะ
คือเราว่ามันก็ดีตรงที่ว่ามันจะบีบให้เราได้ใช้จริงๆในชั่วโมงเรียน
ข้างในเป็นไงไม่รู้นะ พูดไม่ได้ จขกท.ไม่เคยเรียน ไม่มีตังค์ 55
แต่คิดว่า คิดว่านะ ถ้าเราเรียนไป แล้วไม่ใช้เวลากับมันนอกชั่วโมงเลย มันก็เท่านั้น เสียตังค์ฟรี
เหมือนเรียนเพิ่มอีกวันละชั่วโมงสองชั่วโมงกับฝรั่ง
พอเลิก class มาก็เหมือนเดิม เหมือน เป๊งงง! 4 โมงเลิกเรียน
ทิ้งกองหนังสือไว้ที่พื้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงไปเล่นคอม
เพราะฉะนั้น เราคิดว่าวิธีที่เราใช้ ก็เป็นอีกหลายๆวิธีง่ายๆ ที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ที่ได้กำไรให้กับตัวเองโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย สนุกด้วย
แล้วก็อย่าลืมว่า อันนี้เป็นแค่วิธีที่เราทำ แล้วมันออกมาโอเค ได้ผล
แต่...วิธีใครก็วิธีมัน
อยากแนะนำหาวิธีที่คุณคิดว่าทำแล้วได้ผลกับตัวเองนะคะ ไม่ต้องตามกันเสมอไป
บางคนก็ประสบความสำเร็จได้จากการท่องศัพท์อ่านตำราเหมือนกัน
อ้อ แล้วก็ .. อย่าเป็นวัวลืมตีน (สุภาพมั้ยเนี่ย ไม่รู้ พิมพ์ไปแล้ว 55)
ภาษาไทยอย่าทิ้ง ต้องใช้อย่างถูกต้องเช่นเดียวกันค่ะ
ใครมีประสบการณ์อะไรก็มาแชร์กันได้นะคะ มาคุยกัน ^^
ปล1. ย้ำอีกทีว่านี่ไม่ใช่กระทู้อวยตัวเองนะคะ 55
ปล2. แก้เป็นแล้ว หุหุ
มาเล่าเรื่องตัวเอง + ทริคนิดหน่อยของเรา เป็นกำลังใจให้คนอยากเก่งอังกฤษ ^^
เกริ่นก่อนว่าเรื่องของเราอาจจะไม่ได้ inspire ใครขนาดนั้น
แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เราเองก็แอบภูมิใจกับตัวเองเล็กๆ
จขกท.เป็นแค่นักศึกษาคนนึงนะคะ และที่สำคัญนี่ไม่ใช่กระทู้ยอตัวเอง 55
เห็นห้องนี้ชอบมีคนตั้งว่าอยากเก่งภาษา
แต่คอร์สเรียนภาษาตามสถาบันต่างๆก็แพงเหลือเกิน
เราคิดว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นหนทางเดียวในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
เรามองว่ามันคือทางที่ 'บีบ' ให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษต่างหาก
ซึ่งไม่ใช่ไม่ดีนะ เพราะถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ เราก็ต้องพยายามใช้ให้ได้
เหมือนเวลาคนที่ไปอยู่เมืองนอกแรกๆ ไม่รู้เรื่องเลย
พออยู่ๆไปมันได้ใช้ ต้องใช้ ก็พูดได้ เพราะพูดไทยไปก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
เอาล่ะเข้าเรื่อง เราเป็นคนนึงที่ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษเลย ไม่เคยเรียนพิเศษ
(ตามวิชาในโรงเรียนมัธยมไม่นับ เพราะมันห่วย ไม่ได้อะไรเลย สอนแบบซับซ้อน เข้าใจยาก)
เรียนโรงเรียนไทยมาตลอด ไม่เคยไปเมืองนอก ไม่ได้เรียนนานาชาติ
แต่ชอบภาษา ชอบฝรั่ง 55 อยากอินเตอร์บ้าง จริงๆคือกระแดะนั่นแหละ
ดูแต่หนังฝรั่งซีรีย์ฝรั่งฟังเพลงฝรั่งมาตั้งแต่เด็กๆ
จะเรียกว่าศึกษาก็ไม่ถูก เพราะไม่ได้ตั้งใจอะไรขนาดนั้น
เอาจริงๆมันเป็นเรื่องรสนิยมอย่างนึง คือถ้าชอบ มันก็ง่าย ไม่ใช่ปัญหา
เหมือนพวกคลั่งเกาหลีก็จะพยายามพูดเกาหลีน่ะ 55
อยากเขียนได้ ทำบล็อกซะเลย บล็อกภาษาอังกฤษ พร่ำเพ้อไปเรื่อยๆ
อยากเขียนอะไรก็เขียน วันนี้เจอไอ้นั่นไอ้นี่มา รู้สึกอย่างงู้นอย่างงี้
เริ่มจากเขียนไดอารี่ง่ายๆ พูดถึงตัวเอง
แล้วก็เริ่มแต่งเรื่องสั้นนิดหน่อย ไว้อ่านเองบ้างแชร์บ้าง
พอเริ่มมีคนติดตามก็เริ่มได้ใจ ฮึด เขียนไปเรื่อยๆ
อยากคุยกับฝรั่ง ก็ไปสมัครตามเว็บคุยๆ หรือเล่นเกมก็ได้
(แต่ก็ต้องระวังนิดนึง พวกหื่นๆมีอยู่ทุกที่ 55)
อันนี้จะได้ศัพท์แสลงเยอะด้วย ก็เลือกใช้เอา
บางทีเจอคนดีๆหน่อยเค้าก็จะคอยบอกว่าเฮ้ย you ใช้อย่างงี้ไม่ถูกนะ ต้องแบบนี้ๆ
บอกไปก่อนเลยว่า I'm not very good at english
พอพูดแบบนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรเราถ้าเราใช้ผิด เค้าจะคอยเตือนเราเอง
อยากได้สำเนียง ดูหนังแล้วพูดตาม พูดแบบเป็น phrase หรือเป็นประโยคไปเลย
เราทำงี้จริงๆนะ ตั้งกะเด็กเลย แบบไม่รู้ตัวด้วยบางที
(หนังแผ่นดูที่บ้านนะไม่ใช่หนังโรง 55)
อยากอ่านออก ก็อ่านเว็บฝรั่งบ่อยๆ อ่านบอร์ด นิยาย การ์ตูน รีวิว อะไรก็ได้
อยากฟังออก ก็หนังอีกนั่นแหละ เพลง ยูท้งยูทู้บ ดูเข้าไป ฟังเข้าไป เพลินๆ
ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ได้เอง
คืออยากพูดได้ ก็พูดบ่อยๆ อยากเขียนได้ ก็เขียนบ่อยๆ
อยากฟังได้ ก็ฟังบ่อยๆ อยากใช้ศัพท์เป็น ก็ใช้บ่อยๆ
เท่านั้นเอง คือแค่ให้ทำจนชิน เหมือนภาษาไทย
เราคิดว่าเรื่องภาษามันเป็น sense นะ แบบพอถ้าเห็นบ่อยๆมันจะคุ้นเอง
เราไม่เคยท่องศัพท์ เพราะคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักศัพท์ทุกคำบนโลก แม้แต่ฝรั่งเอง
จะมาเปิดดิกเอาก็ตอนที่เจอคำนึงบ่อยๆ สงสัย และคิดว่าต้องใช้
บางทีเจอคำแปลกประหลาดยาวๆที่ผ่านมาแค่ครั้งเดียวในชีวิต
แล้วมันไม่น่าสนใจ เราก็ไม่จำเหมือนกัน
(บ่น) เราว่าโรงเรียนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากไปหน่อย
ถ้าเทียบกับหลักวิธีการใช้ในชีวิตจริง
อันนี้คือความคิดจากตัวเราเองที่เป็นนักเรียนไทยคนนึงที่พอถูไถได้โดยไม่พึ่งเรื่องพวกนี้นะ
เราคิดว่าเด็กไทย ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่ไม่ได้ใช้ เลยใช้ไม่เป็น
เหมือนท่องศัพท์ไป แล้วจบ ไม่มีอะไรต่อจากนั้น มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา
เวลาเราจำศัพท์ เราไม่จำเป็นคำๆ มันยุ่งยาก
เห็นบอกคนท่องกันแล้วปวดหัว ไหนจะต้องจำคำ จำวิธีใช้ จำนู่นนี่เยอะแยะ
สำหรับเรา เราเลือกที่จะจำทั้งประโยค
ซึ่งทั้งประโยคมันก็จะรวมทั้ง vocab structure grammar ฯลฯ ทุกอย่างไว้ด้วยกันอยู่แล้ว
สำหรับเราเราว่ามันเวิร์คนะ ง่ายด้วย เวลาพูดก็ cool ดี 55
แรกๆเราไม่สนด้วยซ้ำว่า structure แบบนั้นแบบนี้เรียกว่าอะไร
ถ้าพูดมาว่า adv adj ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ แต่ถ้าเห็นเป็นประโยคมาน่ะทำได้
(หลังๆมาสอนน้องๆก็ต้องจำหน่อย เพราะเดี๋ยวน้องไม่รู้เรื่อง พี่พูดอะไรอ่ะ ชี้ๆบอกไอ้นั่นไอ้นี่ 55
แต่พอมาถึงตอนนี้มันก็ง่ายแล้ว เหมือนแค่ตั้งชื่อให้กับเรื่องที่เราทำได้แล้ว)
ซึ่ง ณ ตอนนู้น (ม.ต้น) เราโอเคกับมันนะ พูดได้ เขียนได้ อ่านได้ สำเนียงได้
คนอื่นก็แบบจะเฮ้ยไปเรียนมาจากไหน เราบอกเปล่า ดูหนังเอา มันก็จะไม่ค่อยเชื่อกัน
คือจขกท.จะว่าว่าเป็นคน anti ระบบการศึกษาไทยก็ได้นะ ส่วนตัวง่ะ อย่าว่ากันนะ
เลยไม่รงไม่เรียนละม.ปลาย เบื่อ ไม่ได้อะไรเท่าไหร่
เห็นเพื่อนเป็นฝรั่งสอบ GED ก็เลยเอาวะ สอบมั่ง
พอได้มาก็เอาไปยื่น IC แถวนครปฐมที่นึงขึ้นต้นด้วย M (อุอุ)
ทุกวันนี้ปกติสุขดีค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร ได้เรียนอินเตอร์สมใจ
เรียนเป็นภาษาอังกฤษ พูดคุยกับครูกับเพื่อน เขียนรายงาน essay thesis อ่าน textbook
รับจ๊อบเป็นครู part time สอน toelf/ielts หลังเลิกเรียน
คือจะบอกว่า ถึงไม่เคยเรียนภาษา ไม่เคยเข้าคอร์สแพงๆ
ก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องได้ค่ะ
จขกท.หันมาใช้เวลากับภาษาอังกฤษเยอะๆ
คือเป็นช่วงกระแดะขั้นสุด แบบเฮ้ยอยากอินเตอออออร์อะะะะะะะะะ
เปลี่ยนมาดูมาฟังทั้งหมด ย้ำว่าทั้งหมด เป็นภาษาอังกฤษจนถึงช่วงเข้ามหาลัย
รวมๆแค่ปีเดียวเองค่ะ เผลอๆไม่ถึงด้วย ไม่นานเลยนะคะ
ส่วนพวก formal language ตอนเรียนไปมันจะได้เองค่ะ
เหมือนที่บอกไปนะคะ อยากทำอะไร ให้ฝึกเยอะๆ
อยากเก่งภาษา ก็ต้องใช้บ่อยๆเท่านั้นเองค่ะ ง่ายนิดเดียว
ไม่ต้องพยายามฝืนตัวเอง แค่ใช้เวลาดูหนังฟังเพลงเล่นเกม
มันก็เหมือนเป็น entertainment ให้เราได้อย่างนึง
ถ้าบอกว่าอยากเก่งแต่อยู่เฉยๆก็ไม่ได้อะไรค่ะ
เฮ้ยฉันอยากเก่ง อยาก speak english ทำไมทำไม่ได้ซักที
ถามตัวคุณเองดีกว่า 'ทำ' อะไรบ้างแล้วหรือยัง
ทำไม่ได้ กับ ไม่ได้ทำ ไม่เหมือนกันนะคะ
เราไม่ได้บอกว่าต้องตั้งใจเคร่งเครียดนะคะ
แต่ทำให้มันเป็นชีวิตประจำวันไปค่ะ แล้วมันจะซึมเอง
เริ่มจากเรื่องง่ายๆก็ได้ เช่นเปลี่ยนภาษาในมือถือให้เป็นภาษาอังกฤษ
อะไรแค่นี้ก็ได้แล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ดีนะสำหรับเรา
เหมือนเราพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้
เพราะมีคนสื่อสารกับเราเป็นภาษาไทยมาตั้งแต่เด็ก
คือเรามองว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆก็ทำได้ ถ้าใช้เวลากับมันซักหน่อย
ไม่มีใครเกิดมาพูดได้ 8 ภาษาตั้งแต่เกิด
แรกๆก็มีเละเทะบ้าง มั่วบ้าง ใช้ไม่ถูกบ้าง ไม่เป็นไรค่ะ ฝึกบ่อยๆเดี๋ยวก็ดี
ไม่ใช่แค่กับเรื่องภาษาเท่านั้นนะคะ เราคิดว่ามันใช้ได้กับทุกเรื่อง
ขี่จักรยานแรกๆก็ล้ม ทอดไข่ดาวแรกๆก็ไหม้ กรีดอายแรกๆก็สองข้างไม่เท่ากัน 55
อยากให้ทุกคนสู้ๆนะคะ อย่าท้อค่ะ ทำไปเรื่อยๆ ให้ชิน เดี๋ยวมันก็ได้
*เพิ่มนิดนึง เราไม่ได้บอกว่าสถาบันสอนภาษาอังกฤษไม่ดีนะ
คือเราว่ามันก็ดีตรงที่ว่ามันจะบีบให้เราได้ใช้จริงๆในชั่วโมงเรียน
ข้างในเป็นไงไม่รู้นะ พูดไม่ได้ จขกท.ไม่เคยเรียน ไม่มีตังค์ 55
แต่คิดว่า คิดว่านะ ถ้าเราเรียนไป แล้วไม่ใช้เวลากับมันนอกชั่วโมงเลย มันก็เท่านั้น เสียตังค์ฟรี
เหมือนเรียนเพิ่มอีกวันละชั่วโมงสองชั่วโมงกับฝรั่ง
พอเลิก class มาก็เหมือนเดิม เหมือน เป๊งงง! 4 โมงเลิกเรียน
ทิ้งกองหนังสือไว้ที่พื้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงไปเล่นคอม
เพราะฉะนั้น เราคิดว่าวิธีที่เราใช้ ก็เป็นอีกหลายๆวิธีง่ายๆ ที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ที่ได้กำไรให้กับตัวเองโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย สนุกด้วย
แล้วก็อย่าลืมว่า อันนี้เป็นแค่วิธีที่เราทำ แล้วมันออกมาโอเค ได้ผล
แต่...วิธีใครก็วิธีมัน
อยากแนะนำหาวิธีที่คุณคิดว่าทำแล้วได้ผลกับตัวเองนะคะ ไม่ต้องตามกันเสมอไป
บางคนก็ประสบความสำเร็จได้จากการท่องศัพท์อ่านตำราเหมือนกัน
อ้อ แล้วก็ .. อย่าเป็นวัวลืมตีน (สุภาพมั้ยเนี่ย ไม่รู้ พิมพ์ไปแล้ว 55)
ภาษาไทยอย่าทิ้ง ต้องใช้อย่างถูกต้องเช่นเดียวกันค่ะ
ใครมีประสบการณ์อะไรก็มาแชร์กันได้นะคะ มาคุยกัน ^^
ปล1. ย้ำอีกทีว่านี่ไม่ใช่กระทู้อวยตัวเองนะคะ 55
ปล2. แก้เป็นแล้ว หุหุ