[Spoil] Inumaru Dash - Special Chapter ~Trip in Thailand~

ตอนพิเศษตอนเดียวจบของซีรีส์แนวตลกของ ShonenJump ที่อวสานไปนานแล้ว แต่มีตอนพิเศษที่เขียนเกี่ยวกับการเที่ยวเมืองไทยมาลงเป็นพิเศษเลยเอามาลงให้ชมกันเป็นพิเศษ

Credit Text : watabo

เปิดมาเป็นแนะนำตัวละครคร่าวๆเผื่อคนจะลืมไปแล้ว
ครูโรงเรียนอนุบาลแสนธรรมด๊าธรรมดา ยามาดะ ทามาโกะ ก่อนเข้าเรื่องมีโฆษณาถึงซีรีย์ของตัวเองเล็กน้อย

ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนนี้ ยามาดะตัดสินใจมาเที่ยวที่เมืองไทย


ถึงในตอนเลือกประเทศในเกมสตรีทไฟท์เตอร์2 จากประเทศญี่ปุ่น(ฮอนดะ)ไปเลือกประเทศไทย(สกัด)
จะใช้เวลาแค่แป๊บเดียว แต่เวลาเดินทางจริงนั้น จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ส่วนต่างเวลาระหว่างไทยกับญี่ปุ่นคือ ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย2ชั่วโมง

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดปีคือ 28 องศา
ทามาโกะ "ร้อนสุดๆ!"
(โตเกียวประมาณ 16 องศา)

เมื่อทามาโกะมาถึงกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรแล้วก็รู้สึกว่าศิวิไลซ์กว่าที่ตัวเองคาดไว้

เกร็ดเล็กน้อยเมืองไทย
ชื่อเต็มของ Bangkokหรือกรุงเทพฯ(หรือออกเสียงแบบญี่ปู๊นนน ญี่ปุ่นคือบังโคขุ)เมืองหลวงประเทศไทยคือ
"กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์" ยาวและยากกว่าคาถาเรียกเทพมังกรของดาวนาเม็กซะอีก

พอมาถึงแล้ว ห้างร้านของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งกิจการอยู่ที่นี่ก็ไม่น้อย แถมด้วยร้านสะดวกซื้อที่ไม่ค่อยต่างจากญี่ปุ่น
ทำให้รู้สึกโล่งอกพอสมควร แต่ตอนที่จะหาโรงแรมที่จองไว้ก็เข้าช่วงฟ้ามืดซะแล้ว


ทามาโกะดันเดินหลงเข้ามาแถบอโคจรที่เต็มไปด้วยร้านอะโกโก้เต้นจ้ำบ๊ะเต็มไปหมด (สีลม?พัฒน์พงษ์?)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
หากเผลอเดินเถลไถลยามค่ำคืน ก็จะสามารถพบเจอชีวิตไนท์ไลฟ์
ถ้าเดินทางกันแบบครอบครัวสุขสันต์ละก็ พึงระวังเอาไว้
หมายเหตุ ตอนผู้เขียนไปเก็บข้อมูลที่เมืองไทย ผู้ดูแลบอกว่าขอออกไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย
และได้หายสาบสูญไป (เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องแต่งขึ้น)


ทามาโกะที่กำลังตะลึงกับสาวนุ่งน้อยห่มน้อยก็ไปเห็นอินุมารุคุงที่แก้ผ้าอย่างเคยรูดเสาอะโกโก้อยู่
ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่เด็กหน้าเหมือน เพราะพูดทักทายด้วยภาษาไทยอย่างคำว่า "สวัสดีครับ" ได้


แต่สรุปก็เป็นอนุมารุคุงนั่นแหละ ทำเอาครูทามาโกะตกใจรีบพาตัวออกมาจากบาร์
พอคุยกันแล้วจึงได้ใจความว่าพ่อของอินุมารุมาถ่ายหนังที่ไทย เลยตามมาด้วย (หนังที่ว่าคือหนุ่มคิวชูปะทะต้มยำกุ้ง)

อินุมารุ "ว่าแล้วเชียว ว่าครูทามาโกะมาเมืองไทยเพราะว่าจะมาผ่าตัดแปลงเพศ"
ทามาโกะ "ทำที่ไหนล่ะยะ ครูอยากมาเที่ยวที่นี่ตั้งนานแล้ว"

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
ค่าผ่าตัดศัลยกรรมที่ประเทศไทยนั้นราคาถูกมาก
อีกทั้งฝีมือการผ่าตัดยังอยู่ระดับโลก โดยเฉพาะการผ่าตัดแปลงเพศ
จึงได้รับการกล่าวขานว่า "สวรรค์ของสาวประเภทสอง"

(ราคาผ่าตัดแปลงเพศของเมืองไทย เริ่มต้นที่ 60,000 - 400,000 บาท
และยังมีเรื่องการผ่าตัดอื่นๆเช่นเกลากระเดือก ผ่าเส้นเสียง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังถือว่าราคาถูกกว่าที่ต่างประเทศอยู่ 5-10 เท่าเลยทีเดียว)


ระหว่างที่ทามาโกะลากอินุมารุเดินไปมาก็เห็นคนไทยยิ้มกันอย่างร่าเริง

ทามาโกะ "ก็ที่ไทยเป็น "ประเทศเมืองยิ้ม" พอเห็นทุกคนยิ้มแย้มอย่างนี้แล้วก็ไม่คิดว่าที่นี่เป็นญี่ปุ่นเลย"

แต่อันที่จริง ที่ทุกคนยิ้มหัวเราะกันคิกคัก ก็ด้วยนิสัยส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งคืออินุมารุคุงที่ยังแก้ผ้าเดินไปเดินมาต่างหาก

ครูทามาโกะคิดว่าจะปล่อยอินุมารุอยู่คนเดียวคงอันตราย เลยตั้งใจจะพาไปด้วย ก่อนเมล์บอกพ่ออินุมารุว่าจะคอยดูแลให้
แต่ระหว่างนั้นครูก็ยังหาที่อยู่โรงแรมไม่เจอ พูดภาษาไทยก็ไม่ได้
เลยโดนอินุมารุตอกใส่ไปหนึ่งดอกว่ามาเที่ยวทั้งทีน่าจะจำภาษาท้องถิ่นเอาไว้บ้าง


เลยตกลงกันว่าจะนั่งแท็กซี่ แต่กลับไปเจอมอไซด์รับจ้าง
ครูทามาโกะว่าจะไปเริ่มต้นที่ห้างก่อน โดยพยายามเปิดดิคฯภาษาไทยหาคำผิดๆถูกๆ
อินุมารุเลยช่วยบอกคำแปลวิธีบอกสถานที่ที่จะไปด้วยภาษาไทยให้
พร้อมทั้งบิวท์ท่าทางแถมย้ำว่า ท่าขยำหน้าอกก็สำคัญกับการสื่อสารด้วย...

เจอคนญี่ปุ่นสุดพิลึกแบบนี้ พี่ไทยก็เงิบไปเหมือนกัน

พอสื่อสาร(?)เรียบร้อย ก็เจอความอเมซซิ่งไทยแลนด์เข้าไป
กับมอไซด์รับจ้างไม่ได้ให้หมวกกันน็อคกับคนนั่งแถมยังซ้อนสามซะอีก
(อันตรายนะเนี่ย...ยิ่งมีเหตุสลดBRTครั้งล่าสุดแล้วด้วย...)

ทามาโกะถามราคาค่ารถกับวิน ก็เจอราคามาตรฐาน "ร้อยนึง" (...)


ครูทามาโกะเลยนึกเปรียบเทียบค่าเงินเยนกับเงินบาทในใจว่าที่นั่งมาราคาถูกหรือเปล่า

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
อัตราค่าแลกเปลี่ยนเงินของไทยกับญี่ปุ่นอยู่ที่ 1 บาท = 3 เยน
ดีวีดีคอนเสิร์ตของทานิมุระ ชินจิ(แผ่นดีวีดีแผ่นแรกของโลกเชียวนะ)แผ่นนึง ตีเป็นเงินไทย ตกประมาณ 1,200 บาท

ทามาโกะ "ค่ารถที่โตเกียว 1 โลฯ ก็710เยน...งั้นที่นี่ โลฯนึงแค่300เยนเอง ถูกจัง!"

แต่พออ่านหนังสือนำเที่ยวแล้ว...
"ถึงค่าโดยสารรถแท็กซี่จะถูกกว่าที่ญี่ปุ่น
แต่ค่าวินมอไซด์ภายในเมืองจะตกอยู่ที่ 10-20 บาทหรือ 30-60เยน (ถ้าตามตรอกซอกซอยน่ะใช่ แต่ตามถนนใหญ่น่าจะอยู่ที่40-60บาทแล้วนา แพงกว่าแท็กซี่อีก)
ที่ประเทศไทย มักจะเพิ่มราคาข้าวของเครื่องใช้หรือค่าใช้จ่ายต่างๆกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เพราะงั้นถึงแม้ว่าจะถูกกว่าที่ญี่ปุ่น แต่ยังไง ถ้าศึกษามาก่อน ก็จะไม่ถูกขูดรีดโดยใช่เหตุ" (งามหน้าประเทศไทยจริงๆ...)

ถึงแม้รู้ว่าตัวเองจะถูกขูดรีดค่ารถไปแล้ว แต่ก็ช้าเกินกว่าที่จะไปโวยกับพี่วินที่บึ่งเผ่นไปแล้ว
พอเกิดอารมณ์เสีย เลยเริ่มท้องหิวขึ้นมา


มาที่เมืองไทยก็ต้องกินอาหารไทย แต่พอลองกินไปคำสองคำแลวก็ไฟพุ่งออกจากปากด้วยความเผ็ดร้อน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
อาหารไทยหลายชนิดจะประกอบไปด้วยพริกขี้หนู ถ้าหากเผลอเคี้ยวพริกขี้หนูไปล่ะก็ลวกปากแน่นอน
เพราะงั้น จงระวังของที่ดูเหมือนไม่เผ็ด แต่จริงๆแล้วเผ็ดสุดๆด้วยนะ
(หนึ่งในกับดักอันแสนโหดร้าย พริกขี้หนูสีเขียวในผักบุ้งไฟแดง คนไม่กินเเผ็ดเคี้ยวพริกเขียวกรุบไป ฟาคคค)

ครูทามาโกะตาลีตาเหลือกรีบสั่งเบียร์มาระงับความเผ็ด
แต่ถ้าสั่งแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะเจอ โคตรเบียร์เหยือกยักษ์ขนาด3ลิตร
(เคยแต่สั่งแบบขวดหรือกระป๋องแฮะ ถ้าเบียร์สดก็ทาวเวอร์ = =)


เจอเบียร์เหยือกยักษ์เข้าไปแบบนี้ใครจะกินไหว เลยขอสั่งเป็นผลไม้มาลดความเผ็ดแทน
ผลไม้ที่มาเสิร์ฟเพื่อลดความเผ็ดก็คือ "ทุเรียน"

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
ผลไม้มีชื่อของประเทศไทยมีทั้ง มะม่วง ทุเรียน ส้มโอ
แต่ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว จึงมีหลายคนที่ไม่ชอบอยู่เหมือนกัน

(ผลไม้เมืองร้อนที่หากินได้ง่ายๆในประเทศไทย
แต่พออยู่ญี่ปุ่นราคากลับสูงปรี๊ดดดอย่างน่ากลัว เช่น มะม่วงลูกละร้อยกว่าบาทขึ้นไป
ส่วนทุเรียนลูกละหนึ่งพันถึงสามสี่พันบาทก็มี)

ในที่สุดก็ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพพร้อมทั้งพูดชมรสชาติของทุเรียนว่าพอใส่ปากก็อร่อยกว่าที่คิด


แต่อินุมารุก็ติดมาพักอยู่กับครูด้วย ตอนแรกครูทามาโกะว่าจะให้มาเที่ยวด้วยกัน
อินุมารุอยากไปอยู่กับพ่อเพราะบอกว่าพ่อสัญญาแล้ว ว่าถ้าถ่ายหนังเสร็จก็จะพาไปดูสาวๆในชุดว่ายน้ำที่หาดพัทยา
สรุปครูทามาโกะก็ต้องดูแลอินุมารุอยู่ดี


วันต่อมา ที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสองมาก็คือลานแสดงช้าง (ให้เดาอาจจะเป็นฟาร์มจระเข้ที่สมุทรปราการ)
ครูทามาโกะตื่นเต้นที่ได้เห็นช้างซึ่งตามปกติจะไม่ได้พบเจอง่ายๆที่ญี่ปุ่น
แต่อินุมารุเห็นท่าทางเชื่องช้าของช้างแล้วก็คิดว่าคงมีแต่โชว์น่าเบื่อๆ
ทว่าโชว์ที่ช้างแสดงนั้นมีทั้ง เตะบอล เล่นโบล์ลิง ชูตลูกบาส รวมถึงวาดรูปได้อีกต่างหาก

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
การแสดงช้างที่เมืองไทยจะตื่นตาตื่นใจด้วยโชว์ช้างแบบกายกรรมผิดจากลักษณะอันควรจะเป็นของช้าง


ในทริป3วันนี้ นอกจากจะได้ดูโชว์ช้างและขี่ช้างแล้ว
ครูทามาโกะกับอินุมารุยังไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในประเทศไทยทั้ง
เกาะล้าน วัดพระแก้ว วัดอรุณ วัดพระนอน อยุธยา ตลาดน้ำ
หมายเหตุ ภาพที่ปรากฏในรูปต่างๆเป็นภาพของผู้ดูแลคนหนึ่งที่ไปด้วย


เมื่อถึงวันกลับ ครูทามาโกะให้อินุมารุรอคุณพ่ออยู่ที่โรงแรม
ตอนแรกอินุมารุงอแงว่าอยากกลับไปกับคุณครูด้วย ยิ่งพอเจอแอร์โฮสเตสสาวสวยก็รีบอยากขึ้นเครื่องทันที


เมื่อตกลงอยากกลับกับครูทามาโกะแล้ว พอขึ้นเครื่องก็เจอกับแอร์โฮสเตสสาวสวยอีกครั้ง
อินุมารุรีบเข้าไปจีบโดยทันที


เมื่อเห็นอินุมารุพูดอ้อล้อกับแอร์สาว ครูทามาโกะก็นึกถึงว่าอินุมารุคุงสามารถยิ้มเล่นคุยกับคนอื่นได้ไปทั่ว
จนเริ่มเป็นคนในสยามเมืองยิ้มนี้แล้ว ระหว่างนั้นครูทามาโกะก็อ่านนิตยสารฆ่าเวลาและเห็นแอร์สาวในนิตยสารด้วย


"สาวประเภทสองสุดสวย จากชายจริงมาเป็นหญิงแท้"
ครูทามาโกะสะกิดอินุมารุให้อ่านในนิตยสาร จึงทำเอาซึมไปถนัดใจ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเมืองไทย
ที่ประเทศไทยเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นสาวประเภทสองทำงานตามที่ต่างๆ
พนักงานบนเครื่องบินที่เป็นสาวประเภทสองคนแรกของโลกก็เป็นคนไทยจากสายการบินในประเทศไทย

(จากที่ลองค้นหาจากในเน็ต แอร์สาวประเภทสองคนแรกคือ
คุณ* นิกกี้ * กีรนันท์ สุวัณสิงห์ เธอเป็นแอร์โฮเตสของ PB Airสายการบินที่ปิดตัวไปแล้วของค่ายเบียร์สิงห์
credit http://www.oknation.net/blog/print.php?id=681103

ส่วนสายการบินที่เปิดรับสาวประเภทสองมาทำงานอย่างเป็นทางการก็คือ PC AIR
ซึ่งเป็นสายการบินในประเทศไทยเช่นเดียวกัน)

อินุมารุ "ผมอยากจะไปพัทยาง่าา"

ทามาโกะ "มาบอกอะไรเอาป่านนี้!"


จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่