เคืองใจกับร้านสตูถ่ายรูป

คือ จะแวะมาบ่นนิดหน่อยครับ

พอดีผมและแฟน เป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ และมีกำหนดแต่งงานกันปลายปีนี้ ซึ่งก็เป็นปกติที่ก่อนแต่งงาน ก็ต้องมีการถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง (สมัยนิยม) ซึ่งผมก็ได้ติดต่อช่างภาพ เอาไว้แล้ว แต่ช่างภาพเขาให้ แต่งหน้า ทำผม และเช่าชุดเอง

ซึ่งแฟนผมก็ได้ไปหาร้านเช่าชุด และทำผมได้แล้วร้านหนึ่ง อยู่แถว ๆ ชานเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับ Airport ขอตั้งชื่อสมมติว่า ชื่อร้าน ก และเจ้าของร้านชื่อ เจ๊ ก นะครับ

ราคาก็ถือว่าไม่ถูก และไม่แพงมาก แต่เรื่องที่จะบ่น ต่อไปเป็นเรื่องการให้การบริการ และการพูดจาดูถูก ลูกค้าเกินไป

ไปถึงวันแรก เจอกันที่ร้าน ก และเจ๊เจ้าของร้าน ก ก็พูดคุยดีใช้ได้ ออกแนวโม้ไปเยอะ และจะคอยเสนอ โปรโมชั่นอันนั้นอันนี้มาให้ตลอด ซึ่งแฟนผมเขาชอบร้านนี้เพราะว่ามีเสื้อให้เลือกเยอะ แค่นั้นเอง ก็ไม่มีอะไร ก็แค่ตกลงกันว่าจะมาเช่าชุด แต่งหน้า ทำผมร้านนี้ ซึ่งโปรโมชั่นที่แกเสนอมาคือ เช่าชุดไทยชาย หญิง และชุดขาวชาย (ให้เช่าแค่สูท) กับแต่งหน้าสองครั้ง ส่วนชุดขาวของแฟน แฟนผมบอกว่าจะใช้ชุดเชียร์หลีดเดอร์ตัวเก่าที่เคยใช้ตั้งแต่มัธยมปลาย (ก่อนหน้านี้ลองใส่แล้วสวย และใส่ได้อยู่ก็เลยจะใช้ชุดนั้น) ผมก็รู้สึกดีนะครับเพราะก็รู้ว่าแฟนก็ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วก็ตกลงกันแบบนี้และก็ได้จ่ายเงินมัดจำ ครึ่งหนึ่งไปก่อนเลย ก่อนกลับเจ๊ ก แกก็คุยโม้หรืออะไร ประมาณว่า ราคานี้น้องเก็บไว้เป็นความลับนะ ไม่ต้องไปโปรโมทอะไรมาก ราคานี้พี่ให้น้องคนเดียว (แต่ผมกับแฟนก็เฉย ๆ)

พอก่อนถึงวันถ่ายหนึ่งวัน ก็นัดเจ้าของร้านไปลองชุด และแก้ชุด คือ ก่อนหน้านั้นมีลูกค้า มาก่อน เจ๊ ก ก็มาแนะนำ พูดคุยและโม้ ๆ ไป จนทำให้คู่นั้นเขาตกลงที่จะถ่ายรูปทำผม ทั้งวันพรีเวดดิ้ง และวันจริง กับร้าน ก นี้ทั้งหมด เป็นเงิน สองหมื่นกว่าบาท (ตอนนั้นผม กับแฟน ก็นั่งฟังกันเฉย ๆ รอให้เขาคุยกันเสร็จ แฟนก็ดู ๆ ชุดอื่นไปด้วย) พอเสร็จจากคู่นั้น เจ๊ ก ก็เดินมาคุยกับคู่ของผม แล้วคุยประมาณว่า

คู่ก่อนหน้านั้นเขาดี เชื่อฟัง ไม่เรื่องมาก ไม่ขี้เหนียวเหมือนคู่พวกน้องเลย ซึ่งหลังจากนั้น เจ๊ ก ก็จะแซวแบบนี้ตลอด ส่วนมากจะแซวแฟนผมมากกว่า ซึ่งพอผมได้ยิน ผมก็รู้สึก เคืองใจ มากระดับหนึ่งแล้ว และระหว่างนั้น ระหว่างที่ลองชุด แกก็จะคอยแนะนำ ว่าให้ใช้บริการอื่น ๆ ของร้านต่ออีก ทั้งให้เปลี่ยนชุดให้เลือดชุดแพง ๆ บ้าง ให้เอาช่างแต่งหน้าของร้านไปด้วยมั่ง ให้เอาช่างถ่ายรูปของร้าน สารพัด คือแนะนำว่า ต้องใช้ของ ๆ แก (แนะนำแต่เรื่องเสียเงิน) ซึ่งพอเจ๊แกแนะนำเสร็จแต่ละอย่าง แล้วผมกับแฟน ไม่ตกลง ก็จะคอยแซวตลอดว่า ขี้เหนียว  ขี้งกบ้าง
แอบไซโค ตลอดเวลา และระหว่างลองชุดแฟน พอดี กระโปรงชุด มันบานผิดปกติมาก ดูแล้วไม่ค่อยสวย แฟนก็บอกว่าขอแก้ตรงนี้อีกหนึ่งจุด เจ๊ ก ก็พูดว่า ไม่แก้ชุดให้แล้ว เพราะถ้าแก้ชุดมาก ชุดจะเสียทรงเดิมไป (คือไม่อยากจะแก้ให้) และถ้าอยากได้ดี ๆ สวย ๆ ก็ต้อง เอาชุดใหม่ และบวกเงินอีก พอพูดจบผมกับแฟนก็มองหน้ากัน แล้วก็แอบกระซิบกันว่า ไม่เป็นไร ช่างเถอะ (เสียความรู้สึกดี ๆ ไปแล้ว)

และก่อนกลับก็ได้ทำการนัด เจ๊ ก ว่าจะนัดแต่งหน้า ทำผมอีกวัน เวลาตีห้า เจ๊ ก ก็จะบ่นอีกว่าเช้ามาก ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ เพราะแกต้องตื่นเช้ามาทำเอง ซึ่งก่อนหน้าก็คุยนัดกันว่า ช่วงเช้าจะแต่งชุดไทยก่อน แล้วบ่ายถึงจะมาแต่งชุดขาว เราก็โทรบอกช่างภาพ และเตรียมวางแผนการเดินทางถ่ายรูปไว้หมดแล้ว

ก็ก่อนถึงวันถ่ายจริง แฟนผมเขาก็ตื่นเต้นมาก เตรียมของ เตรียมอุปกรณ์ ของประดับตกแต่งหลาย ๆ อย่างมาถ่ายรูป ทั้งศึกษาการวางท่า มุมกล้องการถ่าย มาเป็นอย่างดี ซึ่งตรงนี้ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ

พอถึงวันถ่ายจริง ผมก็ตื่นตีสี่ ขับรถไปที่ร้านถึงตีห้าพอดี เจ๊ ก แกนอนรอในร้าน เปิดประตูหน้าร้าน แงม ๆ ไว้ ผมกับแฟนก็เดินเข้าไป ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ๊ ก แซวมาทันที เรื่องความ งก กับการถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ผมก็เริ่มเกิดอาการไม่พอใจ เจ๊ ก จนแกคงมองออกจนแกเงียบไป แกก็ไปแต่งหน้าให้แฟน แล้วบอกกับแฟนว่า จะแต่งชุดขาวให้ก่อน ซึ่งแฟนผมเขาก็บอกว่า นัดกับช่างถ่ายรูปเอาไว้แล้วว่าจะถ่ายชุดไทยก่อน เจ๊ ก แกไม่ยอม บอกว่าถ้าเกล้าผมตอนเช้า ตอนบ่ายปล่อยผม (ชุดขาว) แกไม่อยากเหนื่อย (ออกอาการขี้เกียจอย่างเห็นได้ชัด) และตามสูตร แกก็จะเสนอว่าทำไมไม่เอาช่างทำผมของร้านไปด้วย จะได้สบายไม่เหนื่อย ซึ่งพวกผมก็ไม่ตกลงตามเคยเช่นกัน เจ๊แกก็จะเริ่มไซโค แฟนผมอีกว่า ทำไมขี้เหนียวจัง อะไรต่าง ๆ นา ๆ แฟนผมเขาก็เริ่มจะงอย ๆ (หน้าจ๋อยแล้ว) พอแฟนผมแต่งเสร็จ ของผมเจ๊ ก แกแต่งยังไงหน่ะเหรอครับ แค่ทาแป้ง แล้วใส่เยลผม แค่นี้เอง เสร็จแล้ว ผมคิดในใจ แต่งแค่นี้ผมทำเองอยู่ที่บ้านก็ได้ (ตอนนั้นในใจรู้สึกผิดหวังอย่างแรง) และก่อนออกร้าน เจ๊ ก แกก็นัดว่าช่วงบ่ายจะมาเปลี่ยนชุดประมาณบ่ายสอง หรือบ่ายสามโมงเย็น

พอแต่งเสร็จก็นัดช่างถ่ายรูป เจอกันบริเวณใกล้ ๆ กับร้าน ก ก็ต้องคุยกับเขาว่าร้าน ก เขาเปลี่ยนแผนกระทันหัน ทางช่างถ่ายรูปเขาก็ต้องเปลี่ยนโปรแกรมอะไรใหม่หมดเช่นกัน ผมก็รู้สึกเกรงใจเขามาก ๆ นะครับ เพราะนัดและวางแผนกันแล้ว ดันมาเปลี่ยนแผนกระทันหัน แต่เช่าเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ก็บ่น ๆ ร้าน ก นี้เหมือนกัน ซึ่งผม และแฟน รู้สึกประทับใจ และรู้สึกสนุกมากกับการถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง เพราะปกติผมเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรุปสักเท่าไหร่ แต่ช่างภาพเขาทำให้ผมรู้สึกสนุก และลืมเวลาช่วงที่ถ่ายรูปไปเลย ช่วงเที่ยงผมก็เลี้ยงข้าวช่างภาพ และได้พูดคุยกัน รู้สึกสนุก และสนิทกันระดับหนึ่งทีเดียว

พอบ่ายนิด ๆ เจ๊ ก แกคงว่างจัดไม่มีอะไรทำ เหมือนกับว่าโทรมาจิ๊ก ให้รีบไปเปลี่ยนชุด แต่งหน้าใหม่ ตอนนั้นผมกับแฟนยังถ่ายไม่เสร็จ ก็เลย บอกช่างภาพว่า พอก่อนก็ได้ เพราะจะรีบไปเปลี่ยนชุด แต่งหน้าทำผมใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตกลงกันไว้ คือ แต่งหน้าทำผม สองรอบ ระหว่างนั่งในรถแฟนผมเขาก็ว่า เครื่องสำอางมันหลุดไปเยอะแล้ว ก็เลยเช็ดออกหมด เพราะเข้าใจว่าร้านจะแต่งหน้าให้เราสองครั้ง (ก็เป็นไปตามที่ทุกท่านที่อ่านคิดกันเอาไว้หล่ะนะครับ ว่าเจ๊ ก แกจะทำยังไง) พอไปถึงที่ร้าน เจ๊ ก แกโวยวายก่อนเลยว่า "น้องไปเช็ดเครื่องสำอางออกทำไม พี่แค่จะเติม ๆ ให้น้องเฉย ๆ" แฟนผม กับผมนี่อึ้งไปเลยครับ จากนั้นก็สเต็ปเดิมครับ เสนอราคามาว่า ถ้าจะให้แต่งเหมือนเดิม เพิ่มเงินอีก หนึ่งพันบาท ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกโกรธมาก และจะไม่ฟังอะไรแล้ว ระหว่างนั้นแฟนผมก็หันมาถามว่าจะทำยังไง ผมก็บอกว่า ไม่ครับ (คือไม่ใช่ว่าผมขี้เหนียวอะไรแบบนั้นนะครับ ผมรู้สึกว่ามันจะโก่งราคาอะไรกันมากมาย ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมแค่นั้นเอง ผมเลยไม่อยากจะจ่ายเพิ่ม) และจากนั้นก็สเต็ปเดิมอีกครับ เจ๊ ก แกก็ไซโค แซวแรง ๆ ว่าพวกน้องคู่นี้ นี่ขี้เหนียวเนอะ อะไรต่าง ๆ นา ๆ

แต่ก็ดีหน่อย แฟนผมพูดว่า แบบนี้แต่งเองก็ได้ค่ะ (แฟนผมเขาแต่งหน้าเป็นระดับหนึ่ง) หลังจากทำผมเสร็จ แฟนผมเขาก็แต่งหน้าเอง ส่วนเจ๊ ก แกเหรอครับ นั่งดูเฉย ๆ ระหว่างที่ดูแฟนผมแต่งหน้าก็แซวต่อว่า "น้องก็แต่งเป็นนิ แต่สู้เจ๊ไม่ได้หรอก แล้วก็จะย้ำมา เจ๊บอกแล้วว่าให้จ้างช่างแต่งหน้าไปด้วย เชื่อเจ๊ตั้งแต่แรก ก็ดีแล้ว ไม่เหนื่อยไม่เสียเวลา ใช้โปรโมชั่นของเจ๊ ทั้งหมดก็สบายแล้ว นี่ต้องเสียเวลาเจ๊อีก" ตอนนั้นผมไม่สนใจอะไรแล้ว นั่งเฉย ๆ ในใจอยากให้แฟนผมออกมาเลย ไปแต่งในรถเอาก็ได้ หรือในใจตอนนั้นถ้าแฟนผมแต่งหน้าไม่เป็นเลยจริง ๆ ผมกะจะให้ไปแต่งหน้าอื่น ที่ไม่ใช่ร้านนี้ เพราะรู้สึกเซงสุด ๆ แล้ว ระหว่างที่รอแฟนผมแต่งหน้า พอดีแฟนผมเขาไม่มีลิปสติ๊ก ก็เลยพูด ขอยืมลิปสติ๊ก พี่เขา แต่ก็เหมือนเดิมครับ ลูกค้าอยู่ในร้านแต่งหน้าเอง ตัวเองนั่งดูแล้วไซโคไปตลอด พอลูกค้าแค่ขอยืมลิปสติ๊ก แค่นั้นเอง เจ๊แกก็บ่นขึ้นมาอีก บ่นเหมือนเดิมอีกครับ ทำอย่างกับว่า พวกผมเป็นคนผิด ที่ไม่จ้างร้าน ก ทำให้ครบทุกอย่างเอง แต่แกก็ให้ยืมนะครับ แต่วิธีการให้คือ เดินไปเอาลิปสติ๊กแท่งเก่า ๆ แท่งหนึ่งมา เก่าสุด ๆ แทบไม่มี แล้วเอามาให้แฟนผมทา (ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าแฟนผมเขาคิดยังไง) แต่ผมอยากออกไปจากร้านนี้ให้เร็วที่สุดแล้ว พอแต่งหน้าเสร็จ เจ๊ ก แกก็บอกว่าให้จ่ายเงินส่วนที่เหลือมาให้แกเลย ผมขี้เกียจไปต่อรองอะไรอีก ไม่อยากพูดด้วยแล้วก็เลยจ่าย ๆ ไป แล้วออกมาเลย

แฟนผมเขาก็ซึม ๆ ไปนิด ๆ นะครับ พอไปถึงสถานที่นัดหมายกับช่างถ่ายรูป ไปเล่าเรื่องราวให้ช่างถ่ายรูปฟัง ช่างเขาช่วยด่าร้านนี้ใหญ่เลย แล้วบอกว่าถ้ามีลูกค้าถ่ายรูปจะไม่แนะนำไปร้านนี้เลย ตอนนั้นแฟนผมเขาเกือบจะร้องให้ แล้ว พอช่างถ่ายรูปเห็นท่าจะไม่ดี เขาก็เลยเงียบกันไป แล้วก็ไปถ่ายรูปต่อ แต่ช่างถ่ายรูปเขาดีมากเลยนะครับ เขาพูดคุย บิ้วอารมณ์จากที่งอย ๆ กัน กลับมามีชีวิตชีวา ได้เหมือนเดิม จนทำให้ลืมร้านนั้นไป แล้วสนุกกับการถ่ายรูปต่อไป พอตกเย็นประมาณสักห้าโมงกว่า ๆ เกิดฝนตก ระหว่างรอฝนหยุดตก ช่างถ่ายรูปก็เหมือนจะเกรงใจ กลัวว่าถ่ายรูปได้ไม่เต็มที่ ไม่คุ้มค่ากับที่จ้างเขามาถ่าย ก็เสนอว่า จะถ่ายกลางฝนไหม ได้ฟิว ไปอีกแบบ แต่ตอนนั้นผมกับแฟนเริ่มเหนื่อยแล้ว ก็เลยบอกว่าพอแล้วครับ ไม่ถ่ายแล้ว ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น โทรศัพท์ดังขึ้น คนเดิมครับ เจ๊ ก แกโทรมาถามว่าจะเอาชุดคืนกี่โมง ร้านจะปิดตอนสองทุ่ม ผมคิดในใจเลยว่า ถ้าไปส่งไม่ทันวันนี้ รับรองโดนปรับแน่ ๆ ก็เลย แยกย้ายกันกับช่างภาพ

พอขับรถกลับถึงร้านจะคืนชุด ผมก็ไม่พูดอะไรมาก แฟนผมด้วย ก็คืนเสร็จ เจ๊แกคงดูออกว่าผมกับแฟนคงไม่พอใจเอามาก ๆ และก่อนออกจากร้าน เจ๊ ก แกกลับพูดว่า ถ้ามีเพื่อนหรือคนรู้จักจะแต่งงาน ก็ช่วยแนะนำมาร้าน ก นี้นะจ๊ะ ผมคิดในใจบริการแบบนี้หน่ะเหรอ จะแนะนำคนมา แค่ผมกับแฟนนี่ก็เต็มทนละ ถ้าเป็นคนอื่นอาจวีนแตกไปแล้วก็ได้ รู้สึกผิดหวังอย่างแรงครับ

แต่ก็ยังดีหน่อยที่ช่างภาพ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ๆ ครับ พอดี และอยากจะมาโฆษณาฝีมือ อีกเช่นกัน ยังไงหลังไมค์มาได้นะครับ   แนะนำว่าดีมาก ๆ คุ้มค่ามากครับ ไม่รู้สึกเสียดายเงินที่จ้างถ่ายรูปแม้แต่บาทเดียวเลยครับ บอกแค่นี้

ส่วนร้าน ก ที่ว่าหน่ะเหรอครับ ก็ใครที่จะแต่งงานแถวเชียงใหม่ ก็อย่าแวะไปทางเส้นหางดงเลย Airport ละกันนะครับ ไปแถวอื่นเถอะครับ ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้แค่จะมาบ่น และเตือนเพื่อน ๆ ที่วางแผนไว้จะแต่งงานไม่อยากให้ผิดหวัง และเสียความรู้สึกกับร้านพวกนี้ และคนจำพวกนี้ เสียความรู้สึกจริง ๆ ครับ

ขอบคุณมากครับที่รับฟัง และช่วยกระจายข่าวบอกต่อ ๆ กัน ไม่อยากให้คู่รักใหม่ต้องมาพบ กับอุปสรรค์ ปัญหาแบบนี้เหมือนผมครับ

ขอแก้ไขนิดครับ มีคนในคอมเม้นบอกมาว่า กลัวร้านที่อยู่แถวนั้นจะได้รับผลกระทบไปด้วย งั้นขอใบ้เพิ่มนิดหน่อยนะครับ

คำใบคือ ร้านอยู่ถนน เส้นเลยโรบินสันแอร์พอร์ต มาทางหางดงนะครับ

บอกคำใบ้ร้านก็ชื่อร้านคือ Glass heart ครับ (ใบ้ชื่อร้านนะครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่