"ไพร์ซ พร็อพเพอร์ตี้" ชี้ผลผวงรถคันแรกทำรถติด ดันคอนโดฯไลว์ไรซ์บูม ส่ง 2 โครงการใหม่มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ซ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเน้นการลงทุนประเภทโครงการคอนโดมิเนียมไลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น เนื่องจากเป็นตลาดมีแนวโน้มการเติบโต ตามพฤติกรรมของการใช้ชีวิตของคนเมืองที่เลือกซื้อที่อยู่อาศัยเดินทางสะดวก และใกล้แหล่งทำงาน ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคให้การยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมากขึ้น อีกทั้ง มองว่าผลจากโครงการรถคันแรก จะเพิ่มปริมาณรถยนต์บนท้องถนนขึ้นอีก 10% ซึ่งจะยิ่งทำให้รถติดมากขึ้นซึ่งเป็นปัญหาเดิมมีความรุนแรงอยู่แล้ว อาจส่งผลให้เป็นปัจจัยสำคัญเร่งในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน เพื่อไม่ต้องเดินทางไกล
"หากย้อนกลับไปตอนที่น้ำมันมีราคาแพงขึ้น ทำให้คนหันมาประหยัดค่าเดินทาง และเลือกซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ๆ ในเมือง หรือใกล้ที่ทำงาน ทำให้ช่วงนั้นคอนโดฯบูมขึ้นมาอย่างมาก เราเชื่อว่า ปัญหารถติดรุนแรง จากจำนวนรถเพิ่มขึ้นมากและรวดเร็วของรถคันแรก จะให้คอนโดโลว์ไรซ์ อยู่ในซอย ราคาไม่สูงมาก บูมขึ้นมา ขณะเดียวกัน การทำคอนโดฯ 8 ชั้น นอกจากมีต้นทุนต่ำกว่าแนวสูงแล้ว และยังมีความเสี่ยงต่ำกว่าอีกด้วย เพราะใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 12-16 เดือน จึงสร้างการรับรู้ได้เร็ว ส่วนแนวสูงใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่" นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการคอนโดฯโลว์ไรซ์ อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโมดิซ มูลค่าโครงการ 490 ล้านบาท ในรูปแบบอาคารชุดสูง 8 ชั้น จำนวน 183 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ส.ค.นี้ และโครงการเอ็กซ์ตร้ามูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท กำหนดเปิดขายเดือนส.ค.นี้ จากก่อนหน้านี้มีการร่วมทุนพัฒนาโครงการ บีแคมบัส ย่านงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น มูลค่าโครงการ 440 ล้านบาท
"ภาพรวมตลาดอสังหาฯมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสที่มีผู้ประกอบการเข้าลงทุนและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ทำเลบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ในปัจจุบันมีซัพพลายอยู่น้อย ซึ่งบางโครงการเหลือจำนวนยูนิตไม่มาก และบางโครงการขายหมดแล้ว บริษัทจึงได้เข้ามาพัฒนาโครงการ กลยุทธ์การลงทุน เลือกทำเลที่มีการแข่งขันไม่สูง แต่มีเรียลดีมานด์"
http://bit.ly/17dtLOi
ชี้รถคันแรกเพิ่มปัญหารถติดดันคอนโดฯบูม
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ซ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเน้นการลงทุนประเภทโครงการคอนโดมิเนียมไลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น เนื่องจากเป็นตลาดมีแนวโน้มการเติบโต ตามพฤติกรรมของการใช้ชีวิตของคนเมืองที่เลือกซื้อที่อยู่อาศัยเดินทางสะดวก และใกล้แหล่งทำงาน ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคให้การยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมากขึ้น อีกทั้ง มองว่าผลจากโครงการรถคันแรก จะเพิ่มปริมาณรถยนต์บนท้องถนนขึ้นอีก 10% ซึ่งจะยิ่งทำให้รถติดมากขึ้นซึ่งเป็นปัญหาเดิมมีความรุนแรงอยู่แล้ว อาจส่งผลให้เป็นปัจจัยสำคัญเร่งในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน เพื่อไม่ต้องเดินทางไกล
"หากย้อนกลับไปตอนที่น้ำมันมีราคาแพงขึ้น ทำให้คนหันมาประหยัดค่าเดินทาง และเลือกซื้อที่อยู่อาศัยใกล้ๆ ในเมือง หรือใกล้ที่ทำงาน ทำให้ช่วงนั้นคอนโดฯบูมขึ้นมาอย่างมาก เราเชื่อว่า ปัญหารถติดรุนแรง จากจำนวนรถเพิ่มขึ้นมากและรวดเร็วของรถคันแรก จะให้คอนโดโลว์ไรซ์ อยู่ในซอย ราคาไม่สูงมาก บูมขึ้นมา ขณะเดียวกัน การทำคอนโดฯ 8 ชั้น นอกจากมีต้นทุนต่ำกว่าแนวสูงแล้ว และยังมีความเสี่ยงต่ำกว่าอีกด้วย เพราะใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 12-16 เดือน จึงสร้างการรับรู้ได้เร็ว ส่วนแนวสูงใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่" นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการคอนโดฯโลว์ไรซ์ อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโมดิซ มูลค่าโครงการ 490 ล้านบาท ในรูปแบบอาคารชุดสูง 8 ชั้น จำนวน 183 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ส.ค.นี้ และโครงการเอ็กซ์ตร้ามูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท กำหนดเปิดขายเดือนส.ค.นี้ จากก่อนหน้านี้มีการร่วมทุนพัฒนาโครงการ บีแคมบัส ย่านงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น มูลค่าโครงการ 440 ล้านบาท
"ภาพรวมตลาดอสังหาฯมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสที่มีผู้ประกอบการเข้าลงทุนและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ทำเลบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ในปัจจุบันมีซัพพลายอยู่น้อย ซึ่งบางโครงการเหลือจำนวนยูนิตไม่มาก และบางโครงการขายหมดแล้ว บริษัทจึงได้เข้ามาพัฒนาโครงการ กลยุทธ์การลงทุน เลือกทำเลที่มีการแข่งขันไม่สูง แต่มีเรียลดีมานด์"
http://bit.ly/17dtLOi