ช่วงชีวิตสีเทา เพราะเราหลงรักผู้ชายเจ้าชู้

ช่วงปีที่ผ่านมานี้ มีเรื่องเยอะแยะเกิดขึ้นกับชีวิตเรา มันมากมายหนักหน่วงจนคิดว่าไม่อยากมีความรักอีกแล้ว ไม่ต้องการคบผู้ชายคนไหนอีกแล้วตลอดชีวิต เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ฟังกันคะ

ขอเล่าพื้นฐานชีวิตตัวเองก่อนนะ ตอนนี้เราอายุ 25 ปี ทำงานด้านการเงินอยู่ในกรุงเทพมาได้ 2 ปี เรียนจบจากมหาลัยแถวสามย่าน บ้านอยู่ต่างจังหวัด เรียนจบมาก็ได้งานทำเลยที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เลยอยู่หอในกรุงเทพต่อ เพื่อนย้ายออกไปแล้วเลยต้องอยู่คนเดียว แต่มีเงินเดือนก้อพอไหวกับการจ่ายค่าเช่าคนเดียว ตอนเข้ามาทำงานเราโสดคะ ก็หน้าตาพอใช้ได้ มีพี่ผู้ชายที่ทำงานเข้าหาบ้าง เราก็คุยเล่นไปตามภาษา ยอมรับว่าตัวเองก็นิสัยเจ้าชู้อยู่นิดๆหน่อยๆ ใครคุยเล่นมา เราคุยเล่นตอบ แต่ถ้าพอจะเริ่มพัฒนากว่านั้น เริ่มชวนเดท กินข้าว ดูหนัง เราจะถอยห่างทันที ก็ใช้ชีวิตรักแบบนี้มาเรื่อยๆตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ตอนทำงานก็เป็นเหมือนเดิมจนปีนึงผ่านไป

มีเพื่อนร่วมงานเข้ามาใหม่ค่ะ เป็นผู้ชาย หน้าตาธรรมดา ผิวคล้ำ ไม่สูง ห่างไกลจากเสปคเรามาก ชื่อ เป้ เป้ย้ายมาจากแผนกอื่นในบริษัท มาอยู่แผนกเรา ทำงานทีมเดียวกับเรา ก็ทำความรู้จักกันตามปกติ แต่ก็สนิทกันเร็ว เนื่องจากในแผนกส่วนมากจะมีแต่คนแก่กว่า เรากับเป้จึงได้พูดคุยกันหลายๆเรื่อง และประกอบกับหอเราอยู่ทางเดียวกับบ้านเค้า เวลาที่ทำงานเลิกดึกเป้จะขับรถไปส่งเราที่หอเสมอ

2 เดือนแรกที่เรารู้จักเป้ เราคิดว่าเป็นเป็นเพื่อนที่จริงใจ พึ่งพาได้ เราไว้ใจเป้ค่อนข้างเร็ว เนื่องจากช่วงนั้นในชีวิตขาดหายจากเพื่อนวัยเดียวกันไปนาน เป้มักจะช่วยเหลือเราเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเสมอๆ และไม่เคยมีท่าทีจะจีบเราซักครั้ง ต่างกับผู้ชายคนอื่นๆในชีวิตที่เข้ามาหาเรา ทำให้เราเปิดใจรับเป้อย่างง่ายดาย และสนิทกันมาก เรากับเป้คงจะเป็นเพื่อนสนิทกันต่อมาเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไป
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 76
ตอนนี้สุขภาพเรากลับมาปกติ เรากลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม ไปฟิตเนสหลังเลิกงาน เย็นวันศุกร์สังสรรค์กับเพื่อน เสาร์อาทิตย์กลับบ้านไปหาพ่อกับยิ้มานเราไปได้ดี หลังจากเรื่องคราวนั้น 3 เดือน เราได้งานใหม่ ตำแหน่งดีกว่า เงินเดือนมากกว่า และจะทำให้เราไม่ต้องเจอเป้อีกแล้ว เราจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเลที่จะย้ายงาน ตอนนี้เรามีความสุขกับงานที่ใหม่ ชีวิตแฮปปี้ไปได้เรื่อยๆ
ส่วนเรื่องเป้ หลังจากวันที่เราออกจากโรงพยาบาล เราไม่ติดต่อ ไม่รับโทรศัพท์ เราจะพูดคุยกับเป้ผ่านอีเมลบริษัทเท่านั้น หลังจากเราย้ายงาน เราก็ไม่รู้ความเป็นไปของเป้อีกเลย และไม่คิดอยากรู้ด้วย

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่ถึงปี เราเลยได้บทเรียนมากมายจากเรื่องนี้ แต่เดิมเราเป็นคนมีปมด้านความรักอยู่แล้ว จึงไม่ชอบผูกมัดกับใคร แล้วมาเจอเรื่องเป้ เรากลายเป็นคนกลัวความรักไปเลย เราไม่เชื่ออีกแล้วว่าความรักมีจริง เราแค่ใช้ชีวิตมีความสุขจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่ความรักแบบชู้สาว แค่นั้นก็คงพอสำหรับชีวิตเราแล้ว ความรักทำให้เรามีความสุขมาก แต่ความทุกข์ก็มากเหมือนกัน เราเลยขอเลือกเดินสายกลางดีกว่า ไม่ทุกข์และไม่สุข

และอยากฝากถึงคนที่เพศสัมพันธ์กันในวัยที่ไม่พร้อม ครั้งเดียวก็ท้องได้ ยาคุมฉุกเฉินก็ท้องได้ ถ้าพร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ ขอให้พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ตามมา

เรื่องของเราจบแล้วคะ ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านและให้กำลังใจ เรากลับมามีชีวิตอย่างไม่ทุกข์ได้ เพราะสติ
ความคิดเห็นที่ 75
เราเข้าไปรักษาอาทิตย์ถัดมาคะ หมอฉีดยาเข้าที่สะโพก มันเจ็บมาก หลังจากนั้นเราปวดท้องแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน เป้จับมือเราไว้ แต่เราสะบัดออก
เรากดเรียกพยาบาลและขอยานอนหลับ คืนนั้นเราหลับไป ตื่นมาความปวดลดลง พอทนไหว เป้นอนอยู่ที่โซฟา เราเรียกให้เป้มาพาเราไปห้องน้ำ เป้ดูแลเราอย่างดีตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่าพยายามชดเชยเรา หรือแค่ดีใจมากที่ลูกเราไม่อยู่แล้ว เราพยายามไม่เอาเรื่องเป้มาใส่ใจอีก และคิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น

ช่วงบ่ายเราอาการดีขึ้น เราออกจากโรงพยาบาลได้ เป้ไปส่งและนอนอยู่เป็นเพื่อนเราอีกคืนนึง เราหายปวดท้องแล้วและมีแรงมากขึ้น เราบอกให้เป้กลับไปตอนที่เราสามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้แล้ว เป็นช่วงเวลาที่เรานอนพักฟื้นอยู่ที่ห้อง คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ตั้งแต่เรารู้จักกับเป้ชีวิตเราก็เปลี่ยนไปมาก เราเจอกับเรื่องที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอ ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง และการปล่อยเป้ไปก็เป็นเรื่องนึงที่เราตัดสินใจแล้ว เป้มีแต่ทำให้ชีวิตเราตกต่ำลง และความสุขที่เป้ให้เรามันแค่ของปลอมเท่านั้น ตามสโลแกนประกันภัย มาเร็ว เคลมเร็ว แถมไปเร็วด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่