ถ้าเป็นยาที่คุณหมอจ่ายให้ ที่เคยทานก็มี ทั้ง Xanax Valium Activan etc.
ก่อนจ่ายยาคุณหมอจะถามถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อจัดยาให้เหมาะสม
ตอนที่ไปหาหมอครั้งแรก อายุ 17 กับตอนนี้อายุ 30 ยาก็คนละแบบ
ถ้ายังไงขอตอบทีละคำถามนะคะ

ในช่วงแรกที่ทานยาต้านเศร้าทำไมมันเบลอๆ มึนๆ เป็นผลข้างเคียงแล้วเมื่อไหร่จะหายมึน ??
ถ้าเป็นตัวยาที่ทานกลางคืน จะมีประเภทที่ทำให้ง่วงและทำให้หลับ บางครั้งเวลาตื่นมา ยาก็ยังคงอยู่ในร่างกาย
เช่นถ้าทาน สี่ทุ่ม ตื่นมาแปดเก้าโมงยังมึนๆ อยู่เลย แนะนำให้ตื่นมาทานน้ำเยอะๆ หรือ ทานยาให้เร็วขึ้นซัก 3 ทุ่ม
ส่วนตัวยาที่ทานตอนกลางวัน - ถ้าคุณมีความรู้สึกแปรปรวน อยากทำร้ายร่างกายตัวเอง ก็จะมีการจ่ายยาอีกแบบ
เช่นยาควบคุมอารมณ์ (Mood-stabilizing drugs) หรือ ยารักษาอารมณ์เศร้า (Antidepressant drugs)
ยาเหล่านี้จะทำหน้าที่กดประสาททำให้สมองหยุดคิดและจินตนาการ เหมือนไม่อยากจะคิดอะไร
ถ้าคุณทำงานในแบบที่เกี่ยวกับการคุมเครื่องจักหรืออะไรที่ต้องมีสมาธิมาก อาจจะไม่ได้รับยาเหล่านี้

และมีวิธีให้กำลังใจตัวเองยังไง ??
ถ้าความเครียดหรือปัญหาแก้จากต้นเหตุไม่ได้ก็แก้ที่ปลายไปก่อน เช่น สวดมนต์ ช่วยได้ สวดกันไป มงคลจักรวาล 8 ทิศ ชินบัญชร ยอดพระไตรปิฎกอะไรก็ว่าไป หรือ ไปออกกำลังกาย ไปวิ่ง เล่นเวท ต่อยมวย อะไรก็ได้ที่ เบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น อย่าจมกับอะไรเดิมๆ

และยังมีอาการปวดหัวข้างเดียวเป็นพักๆ ??
คนทำงานทั่วไปเวลาเครียดก็เป็นได้ เมื่อไหร่ที่ความเครียดลดลง อาการแบบนี้จะหายไปเอง หรือ บางครั้งคุณอาจเครียดจนไม่ค่อยกินอะไร ก็ควรจะกินตามปกติ

ในขณะที่เบลอๆ นี่สามารถทำงานได้ไหม ??
ทำได้ถ้าไม่ใช่งานอะไรอันตรายที่เกียวกับเครื่องจักร หรือ ระบบ Electronic ทั้งหลาย

ในช่วงที่เป็นทำไมขอบตาคล้ำๆ ??
บางครั้งการหลับเกิดจากร่างกายต้องการการพักผ่อนแต่สมองของคุณไม่ได้หยุดคิด ร่างกายหลับเพราะล้า แต่สมองของคุณยังทำงานตลอดเวลา
ต่อให้หลับข้ามวันข้ามคืน ก็จะรู้สึกเหมือนไม่ได้นอน อาการก็จะเหมือนคนอดนอนนะคะ