ก่อนอื่นต้องขอย้อนความก่อนว่าเคยทำงานออฟฟิศเมื่ออายุ 22 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ทำงานเป็ฯ PC Part time ตามห้างสรรพสินค้ามาก่อน
งานออฟฟิศสมัยอายุ 22 ปี ก็เป็นงานตรวจเอกสาร (editor) ของบริษัทรับทำวิจัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานที่ทำเป็นทีม
แต่ไม่ต้องประสานงานกับแผนกอื่นมาก มีชุดแบบสอบถามก็จะมีอีกแผนกเดินส่งมาให้เซ็นต์ชื่อรับ นั่งอยู่หน้าโต๊ะตัวเอง
พออายุ 23 ปี เริ่มคิดว่างานออฟฟิศไม่ใช่ไสตล์เราจึงออกมา
หลังจากที่ออกมาก็จะทำงานด้านการบริการมาตลอด เช่น
เป็นพนักงานชั่วคราวห้องยาของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง
ช่วยพี่สาวดูแลร้านข้าวหน้าเป็ด(ประมานเป็นผู้จัดการร้านแต่ทำทุกอย่างตั้งแต่ช่วยกุ๊กทำเป็ดจนถึงช่วยคนงานล้างจาน)
เป็นพนักงานหน้าคอมร้านรับอัดรูปดิจิตอล
แล้วก็กลับไปทำงานออฟฟิศอีกแบบเดิม คือ editor งานรูปแบบเดิมอยู่กับโต๊ะตัวเองไม่ต้องไปยุ่งกับใคร
จนกระทั่งเมื่อปลายปีก่อนตัดสินใจลาออกจากที่เก่าเพื่อมาทำที่ทำงานแฟน ซึ่งตำแหน่งคือธุรการฝ่ายขาย
อะไรคือธุรการฝ่ายขายฟระ!!!! ก็คึือ งง นะ แต่ตอนสัมภาษณ์ ก็ต้องทำเป็นเข้าใจไว้ก่อนละ
พอมาทำงานจริงๆ อะไรหว่า เอกสารเยอะแยะ ต้องเดินเอกสารกับฝ่ายโน้นนี่ แถมยังต้องมาใช้ โปรแกรม office ต่างๆ
ไอ่เรื่องคอมพิวเตอร์เราก็พอถูๆไถๆ มีสกิลติดตัวมาบ้าง โชคดีที่แฟนเคยทำในส่วนที่เราทำมาก่อนจึงเป็นที่ปรึกษาได้ดี
แต่.....เกือบเคยเสียศูนย์ถึงขนาด ไม่!!!!!ชั้นจะไม่ทน ชั้นไม่ทำแล้ว ชั้นจะออก
มันเครียด กดดัน ถูกแผนกอื่นคอมมเม้นต์มา ซึ่งปกติเราเองเป็นคนที่สมบึกสมบันพอสมควร
แต่พอมาทำที่นี้ เรา งง ไม่เข้าใจ อะไร ยังไง สติแตก เครียดมาก
ไหนจะต้องเดินเอกสาร ไหนจะต้องรับโทรศัพท์ลูกค้า เคลียร์ปัญหาพันกว่าอย่างในแต่ละวัน และอีกหลายๆอย่าง
ทำไมเราถึงตัดสินใจอยู่ต่อ?
เราเลือกที่จะพูดกับพี่ๆและเพื่อนร่วมงานในแผนกคะ บอกไปเลยว่าเราเครียด เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ซึ่งเราก็ได้คำแนะนำที่ดี และโชคดีที่เพื่อนร่วมงานดีคะ เค้าจริงใจ พูดจาตรงไปตรงมา
เค้าเองก็บอกเราว่า "ธุรการ" งานมันหนัก เราเจอมาเยอะ ร้องไห้มาแล้วก็มี เครียดจนนอนละเมอก็เคย
แต่เดี๋ยวนี้เฉยแล้ว ใครด่ามาก็ด่ากลับ ถ้าเราถูกเราก็อย่ายอม เราต้องไฟท์
ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะมาทำตรงนี้ เพื่อนร่วมงานเราคนนี้เป็นธุรการอยู่คนเดียว ซึ่งเรารู้เลยว่ามันเหนื่อยมาก
เค้าก็มีสองมือสองขาเท่าเรา เค้ายังผ่านในจุดที่พีคสุดๆมาได้ เราเองเจอแค่นี้เราจะท้อได้ยังไง
ควรทำยังไงต่อ?
ตั้งสติคะ ก่อนจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ตั้งสติ ลำดับเรื่องที่ต้องทำก่อนหลัง ถ้าลิสรายการได้ก็ทำ อะไรที่เป็นงานด่วนต้องรีบเคลียร์
ก่อนจะติดต่อับแผนกอื่น เราต้องมีข้อมูลด้วยไม่ว่าจะเป็นเอกสารอะไร ควรอ่านก่อนว่าเป็นเอกสารแบบใด
ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังพัฒนาตัวเองอย่างมากๆคะ เพราะว่า เราไม่อยากเป็นตัวถ่วงเพื่อนร่วมงาน
อะไรที่พอทำเองได้ก็จะทำเอง จะพยายามสู้ๆคะ หวังว่าทุกคนสู้ๆเหมือนกันนะคะ
มีวิธีการจัดการตัวเองอย่างไรเมื่อไม่เคยทำงานออฟฟิศ(ฝ่ายธุรการ)
งานออฟฟิศสมัยอายุ 22 ปี ก็เป็นงานตรวจเอกสาร (editor) ของบริษัทรับทำวิจัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานที่ทำเป็นทีม
แต่ไม่ต้องประสานงานกับแผนกอื่นมาก มีชุดแบบสอบถามก็จะมีอีกแผนกเดินส่งมาให้เซ็นต์ชื่อรับ นั่งอยู่หน้าโต๊ะตัวเอง
พออายุ 23 ปี เริ่มคิดว่างานออฟฟิศไม่ใช่ไสตล์เราจึงออกมา
หลังจากที่ออกมาก็จะทำงานด้านการบริการมาตลอด เช่น
เป็นพนักงานชั่วคราวห้องยาของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง
ช่วยพี่สาวดูแลร้านข้าวหน้าเป็ด(ประมานเป็นผู้จัดการร้านแต่ทำทุกอย่างตั้งแต่ช่วยกุ๊กทำเป็ดจนถึงช่วยคนงานล้างจาน)
เป็นพนักงานหน้าคอมร้านรับอัดรูปดิจิตอล
แล้วก็กลับไปทำงานออฟฟิศอีกแบบเดิม คือ editor งานรูปแบบเดิมอยู่กับโต๊ะตัวเองไม่ต้องไปยุ่งกับใคร
จนกระทั่งเมื่อปลายปีก่อนตัดสินใจลาออกจากที่เก่าเพื่อมาทำที่ทำงานแฟน ซึ่งตำแหน่งคือธุรการฝ่ายขาย
อะไรคือธุรการฝ่ายขายฟระ!!!! ก็คึือ งง นะ แต่ตอนสัมภาษณ์ ก็ต้องทำเป็นเข้าใจไว้ก่อนละ
พอมาทำงานจริงๆ อะไรหว่า เอกสารเยอะแยะ ต้องเดินเอกสารกับฝ่ายโน้นนี่ แถมยังต้องมาใช้ โปรแกรม office ต่างๆ
ไอ่เรื่องคอมพิวเตอร์เราก็พอถูๆไถๆ มีสกิลติดตัวมาบ้าง โชคดีที่แฟนเคยทำในส่วนที่เราทำมาก่อนจึงเป็นที่ปรึกษาได้ดี
แต่.....เกือบเคยเสียศูนย์ถึงขนาด ไม่!!!!!ชั้นจะไม่ทน ชั้นไม่ทำแล้ว ชั้นจะออก
มันเครียด กดดัน ถูกแผนกอื่นคอมมเม้นต์มา ซึ่งปกติเราเองเป็นคนที่สมบึกสมบันพอสมควร
แต่พอมาทำที่นี้ เรา งง ไม่เข้าใจ อะไร ยังไง สติแตก เครียดมาก
ไหนจะต้องเดินเอกสาร ไหนจะต้องรับโทรศัพท์ลูกค้า เคลียร์ปัญหาพันกว่าอย่างในแต่ละวัน และอีกหลายๆอย่าง
ทำไมเราถึงตัดสินใจอยู่ต่อ?
เราเลือกที่จะพูดกับพี่ๆและเพื่อนร่วมงานในแผนกคะ บอกไปเลยว่าเราเครียด เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ซึ่งเราก็ได้คำแนะนำที่ดี และโชคดีที่เพื่อนร่วมงานดีคะ เค้าจริงใจ พูดจาตรงไปตรงมา
เค้าเองก็บอกเราว่า "ธุรการ" งานมันหนัก เราเจอมาเยอะ ร้องไห้มาแล้วก็มี เครียดจนนอนละเมอก็เคย
แต่เดี๋ยวนี้เฉยแล้ว ใครด่ามาก็ด่ากลับ ถ้าเราถูกเราก็อย่ายอม เราต้องไฟท์
ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะมาทำตรงนี้ เพื่อนร่วมงานเราคนนี้เป็นธุรการอยู่คนเดียว ซึ่งเรารู้เลยว่ามันเหนื่อยมาก
เค้าก็มีสองมือสองขาเท่าเรา เค้ายังผ่านในจุดที่พีคสุดๆมาได้ เราเองเจอแค่นี้เราจะท้อได้ยังไง
ควรทำยังไงต่อ?
ตั้งสติคะ ก่อนจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ตั้งสติ ลำดับเรื่องที่ต้องทำก่อนหลัง ถ้าลิสรายการได้ก็ทำ อะไรที่เป็นงานด่วนต้องรีบเคลียร์
ก่อนจะติดต่อับแผนกอื่น เราต้องมีข้อมูลด้วยไม่ว่าจะเป็นเอกสารอะไร ควรอ่านก่อนว่าเป็นเอกสารแบบใด
ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังพัฒนาตัวเองอย่างมากๆคะ เพราะว่า เราไม่อยากเป็นตัวถ่วงเพื่อนร่วมงาน
อะไรที่พอทำเองได้ก็จะทำเอง จะพยายามสู้ๆคะ หวังว่าทุกคนสู้ๆเหมือนกันนะคะ