การจัด 50 สุดยอดช่างภาพทางภาพยนตร์ จากเว็บ Total Film
ตอนที่ 1 จะถอยหลังจากคนที่ 50 ไป 41 ครับ
50 - Wally Pfister

ปัจจุบันเขากำลังเปลี่ยนไปเป็นผู้กำกับหนัง(เรื่อง Transcendence ฉายปี 2014) - Pfister เป็นคนที่อยู่เคียงข้าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ในตำแหน่งช่างภาพมาอย่างยาวนาน
เขาเคยร่วมงานกับหนังโนแลนทุกเรื่องตั้งแต่ Following เป็นต้นมา – ทั้งแบทแมนไตรภาค บวก Memento, The Prestige และ Inception
ความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุด : แล้วแต่คุณจะเลือก แต่แน่นอน สดๆร้อนๆก็คือ The Dark Knight Rises แล้วเขายังทำให้ The Dark Knight มืดมัว ขุ่นเทา และบ่งบอกถึงลางร้ายของเรื่องราวได้อีกด้วย
49 - Vilmos Zsigmond

นักรักสีสันสดใสและแสงตามธรรมชาติ Vilmos Zsigmond ผู้เกิดในฮังการี ก่อนย้ายมาอเมริกา โดยการหนีบ้านเกิดพร้อมภาพฟุตเทจของการรุกรานจากโซเวียต(เขาขายฟุตเทจให้ CBS)
งานของเขาที่โดดเด่นมากที่สุด คือ The Long Goodbye(1973) และ Close Encounters Of The Third Kind(1977)
ผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ : Close Encounters ทำให้เขาชนะเลิศออสการ์ครั้งแรก(เข้าชิง 3 ครั้งจาก ครั้งล่าสุดปี 2007 จาก The Black Dahlia)
48 - Roger Deakins

Deakins เคยได้รับหน้าที่ในหนังดีๆ หลายเรื่องของพี่น้อง Coen โดยทำงานรวมกันตั้งแต่ ปี 1991 ด้วยการควบคุมสีและอารมณ์อย่างสมบูรณ์ เขาทำให้ The Man Who Wasn’t There (2001) ด้วยภาพขาวดำ ขณะที่ O Brother, Where Art Thou? (2000) อบอุ่น ด้วยโทนสีซีเปีย
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : ปีที่แล้ว Skyfall เป็น 1 ในภาพยนตร์บอนด์ที่ดูดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา
47 - Ellen Kuras

ผู้ร่วมงานบ่อยครั้งของ สไปค์ ลี (และเป็นหนึ่งในช่างภาพหญิงไม่กี่คนที่ถูกยอมรับในฝืมือ) Kuras ถ่ายหนัง He Got Game (1998) ยกระดับหนังขึ้นไปในระดับใหม่
งานที่ประสบความสำเร็จ : Eternal Sunshine Of The Spotless Mind (2004) เป็นรูปแบบภาพยนตร์ประติมากรรมที่เปิดกว้างต่อผู้ชมมาก
Kuras โอบกอดความท้าทายและผลที่ได้คือบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ซ้ำกันอย่างสิ้นเชิง
46 - Eduardo Serra

Serra ทำงานล่าสุดกับ Harry Potter And The Deathly Hallows: Parts 1 และ 2 (เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มั่นใจได้ว่าทำงานดาร์คได้ต่อเนื่อง)
เครดิตเรื่องอื่นๆของ Serra คืองานดัดแปลงจากคอมมิค Unbreakable (2000), Blood Diamond (2006) และThe Wings Of The Dove (1997)
ประสบความสำเร็จสูงสุด : Girl With A Pearl Earring (2003)ซึ่ง Serra นำภาพวาดของ Joannes Vermeer มีชีวิตโลดแล่นบนหน้าจอ
45 - Dante Spinotti

ภาพยนตร์เรื่อง Manhunter (1986) เป็นจุดเปลี่ยนของ Spinotti หลังจากเคยทำงานทีวีในอิตาลีมาก่อน
เรื่องนั้นวิชวลของเขาเปล่งประกายน่าตื่นเต้นให้งานของ Michael Mann ได้แสดงคุณค่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงจ้าง Spinotti อีกครั้งในเรื่อง Heat (1995) และ Public Enemies (2009)
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด LA Confidential (1997)แผ่ซ่านงานหม่นมืดอันมีเสน่ห์ในยุด 50 ออกมาพร้อมความกราดเกรี้ยวที่ถาโถมเข้ามา
44 - ดาริอุส คอนจิ (Darius Khondji)

เกิดในอิหร่าน แต่เรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค คอนจิ ค้นหาตัวเองเร็วว่าเขาชอบถ่ายหนังให้ผู้อื่นมากกว่าที่จะถ่ายหนังของตัวเอง
“ผมชอบเกี่ยวพันกับอำนาจของภาพและไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเล่า(Story)สักเท่าไหร่”เขา ยอมรับ คอนจิได้ร่วมงานกับ David Fincher, Oliver Stone, Woody Allen, Wong Kar-wai, Michael Haneke และ Roman Polanski และคนอื่นมากมาย
ผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : ในฝรั่งเศส คือเรื่อง Delicatessen (1991) ขณะที่ใน อเมริกา แน่นอนว่าคือ Se7en (1995) สร้างบรรยากาศไม่น่าอภิรมย์ได้อย่างเหมาะสม
43 - Bruce Surtees

ด้วยสไตล์ที่คล้ายคลึงงานของ Tonino Delli Colli ผู้ถ่ายงาน Dollars trilogy ของ Sergio Leone จึงไม่น่าแปลกใจที่ Surtees ใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพของเขาทำงานกับคลินต์ อีสต์วู้ด
เป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อเขาเพิ่งเสียชีวิตไปปีที่แล้วหลังเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
งานที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ : Lenny(1974) ซึ่ง Surtees ได้รับการเสนอเข้าชิงออสการ์ แน่นอนงานชีวประวัติของสแตนอัพคอเมดี้อย่าง Lenny Bruce ต้องพึ่งพาการใช้แสงของ Surtees อย่างมาก โดยเฉพาะฉากสำคัญของเรื่อง ซึ่งถูกทำให้ระลึกถึงและน่าตกตะลึง
42 - Robert Richardson

Richardson เป็นนักผสมผสาน เขาใช้ประโยชน์จากเทคนิคแตกต่างหลากหลายตลอดอาชีพของเขา ประกอบด้วยการเปลี่ยนเลนส์ และฟิล์มขึ้นอยู่ความต้องการของโปรเจ็คต์
การเป็นคนง่ายๆและฟรีสไตล์ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของ Quentin Tarantino,Martin Scorsese และ Oliver Stone
ผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุด : Richardson ทำงานยอดเยี่ยมทั้ง Natural Born Killers (1994), Kill Bill (2003) และ JFK (1991) แต่เขาประสบความสำเร็จเป็นอื่นใดไม่ได้นอกจาก Hugo (2011) ซึ่งไม่ดูแต่มหัศจรรย์เท่านั้น แต่ 3D ก็ยังมหัศจรรย์ไปด้วย
41 - Robert Krasker

ได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากสไตล์ เยอรมัน expressionism และ ฟิล์ม นัวร์ - Krasker เกิดในออสเตรเลีย รู้จักกันดีกับงานด้านอารมณ์ งานนัวร์ชิ้นเอกของเขาคือ Brief Encounter (1945),The Third Man (1949) และ Uncle Silas (1947)
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : Krasker ชนะออสการ์เรื่อง The Third Man และไม่ใช่เรื่องเดายากว่าทำไม แสงแข็งกระด้าง มุมกล้องแปลกและลึกซึ้ง สีดำที่อุดมไปทั้งภาพยนตร์ให้อารมณ์ที่รุนแรงและยากมากที่จะขจัดออกไป
จบตอน 1 แล้วครับ ขอบคุณมากที่ติดตามโปรดติดตามตอนที่ 2 ในเร็ววัน
ฝากติดตามบล็อกเกี่ยวกับภาพยนตร์ด้วยครับ :
http://a-bellamy.com
ส่วนนี่เพจเฟซบุ๊กครับ :
https://www.facebook.com/A.Surrealism
50 สุดยอดนักถ่ายหนังมือทอง (ตอนที่1)
ตอนที่ 1 จะถอยหลังจากคนที่ 50 ไป 41 ครับ
50 - Wally Pfister
ปัจจุบันเขากำลังเปลี่ยนไปเป็นผู้กำกับหนัง(เรื่อง Transcendence ฉายปี 2014) - Pfister เป็นคนที่อยู่เคียงข้าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ในตำแหน่งช่างภาพมาอย่างยาวนาน
เขาเคยร่วมงานกับหนังโนแลนทุกเรื่องตั้งแต่ Following เป็นต้นมา – ทั้งแบทแมนไตรภาค บวก Memento, The Prestige และ Inception
ความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุด : แล้วแต่คุณจะเลือก แต่แน่นอน สดๆร้อนๆก็คือ The Dark Knight Rises แล้วเขายังทำให้ The Dark Knight มืดมัว ขุ่นเทา และบ่งบอกถึงลางร้ายของเรื่องราวได้อีกด้วย
49 - Vilmos Zsigmond
นักรักสีสันสดใสและแสงตามธรรมชาติ Vilmos Zsigmond ผู้เกิดในฮังการี ก่อนย้ายมาอเมริกา โดยการหนีบ้านเกิดพร้อมภาพฟุตเทจของการรุกรานจากโซเวียต(เขาขายฟุตเทจให้ CBS)
งานของเขาที่โดดเด่นมากที่สุด คือ The Long Goodbye(1973) และ Close Encounters Of The Third Kind(1977)
ผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ : Close Encounters ทำให้เขาชนะเลิศออสการ์ครั้งแรก(เข้าชิง 3 ครั้งจาก ครั้งล่าสุดปี 2007 จาก The Black Dahlia)
48 - Roger Deakins
Deakins เคยได้รับหน้าที่ในหนังดีๆ หลายเรื่องของพี่น้อง Coen โดยทำงานรวมกันตั้งแต่ ปี 1991 ด้วยการควบคุมสีและอารมณ์อย่างสมบูรณ์ เขาทำให้ The Man Who Wasn’t There (2001) ด้วยภาพขาวดำ ขณะที่ O Brother, Where Art Thou? (2000) อบอุ่น ด้วยโทนสีซีเปีย
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : ปีที่แล้ว Skyfall เป็น 1 ในภาพยนตร์บอนด์ที่ดูดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา
47 - Ellen Kuras
ผู้ร่วมงานบ่อยครั้งของ สไปค์ ลี (และเป็นหนึ่งในช่างภาพหญิงไม่กี่คนที่ถูกยอมรับในฝืมือ) Kuras ถ่ายหนัง He Got Game (1998) ยกระดับหนังขึ้นไปในระดับใหม่
งานที่ประสบความสำเร็จ : Eternal Sunshine Of The Spotless Mind (2004) เป็นรูปแบบภาพยนตร์ประติมากรรมที่เปิดกว้างต่อผู้ชมมาก
Kuras โอบกอดความท้าทายและผลที่ได้คือบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ซ้ำกันอย่างสิ้นเชิง
46 - Eduardo Serra
Serra ทำงานล่าสุดกับ Harry Potter And The Deathly Hallows: Parts 1 และ 2 (เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มั่นใจได้ว่าทำงานดาร์คได้ต่อเนื่อง)
เครดิตเรื่องอื่นๆของ Serra คืองานดัดแปลงจากคอมมิค Unbreakable (2000), Blood Diamond (2006) และThe Wings Of The Dove (1997)
ประสบความสำเร็จสูงสุด : Girl With A Pearl Earring (2003)ซึ่ง Serra นำภาพวาดของ Joannes Vermeer มีชีวิตโลดแล่นบนหน้าจอ
45 - Dante Spinotti
ภาพยนตร์เรื่อง Manhunter (1986) เป็นจุดเปลี่ยนของ Spinotti หลังจากเคยทำงานทีวีในอิตาลีมาก่อน
เรื่องนั้นวิชวลของเขาเปล่งประกายน่าตื่นเต้นให้งานของ Michael Mann ได้แสดงคุณค่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงจ้าง Spinotti อีกครั้งในเรื่อง Heat (1995) และ Public Enemies (2009)
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด LA Confidential (1997)แผ่ซ่านงานหม่นมืดอันมีเสน่ห์ในยุด 50 ออกมาพร้อมความกราดเกรี้ยวที่ถาโถมเข้ามา
44 - ดาริอุส คอนจิ (Darius Khondji)
เกิดในอิหร่าน แต่เรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค คอนจิ ค้นหาตัวเองเร็วว่าเขาชอบถ่ายหนังให้ผู้อื่นมากกว่าที่จะถ่ายหนังของตัวเอง
“ผมชอบเกี่ยวพันกับอำนาจของภาพและไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเล่า(Story)สักเท่าไหร่”เขา ยอมรับ คอนจิได้ร่วมงานกับ David Fincher, Oliver Stone, Woody Allen, Wong Kar-wai, Michael Haneke และ Roman Polanski และคนอื่นมากมาย
ผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : ในฝรั่งเศส คือเรื่อง Delicatessen (1991) ขณะที่ใน อเมริกา แน่นอนว่าคือ Se7en (1995) สร้างบรรยากาศไม่น่าอภิรมย์ได้อย่างเหมาะสม
43 - Bruce Surtees
ด้วยสไตล์ที่คล้ายคลึงงานของ Tonino Delli Colli ผู้ถ่ายงาน Dollars trilogy ของ Sergio Leone จึงไม่น่าแปลกใจที่ Surtees ใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพของเขาทำงานกับคลินต์ อีสต์วู้ด
เป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อเขาเพิ่งเสียชีวิตไปปีที่แล้วหลังเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
งานที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ : Lenny(1974) ซึ่ง Surtees ได้รับการเสนอเข้าชิงออสการ์ แน่นอนงานชีวประวัติของสแตนอัพคอเมดี้อย่าง Lenny Bruce ต้องพึ่งพาการใช้แสงของ Surtees อย่างมาก โดยเฉพาะฉากสำคัญของเรื่อง ซึ่งถูกทำให้ระลึกถึงและน่าตกตะลึง
42 - Robert Richardson
Richardson เป็นนักผสมผสาน เขาใช้ประโยชน์จากเทคนิคแตกต่างหลากหลายตลอดอาชีพของเขา ประกอบด้วยการเปลี่ยนเลนส์ และฟิล์มขึ้นอยู่ความต้องการของโปรเจ็คต์
การเป็นคนง่ายๆและฟรีสไตล์ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของ Quentin Tarantino,Martin Scorsese และ Oliver Stone
ผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุด : Richardson ทำงานยอดเยี่ยมทั้ง Natural Born Killers (1994), Kill Bill (2003) และ JFK (1991) แต่เขาประสบความสำเร็จเป็นอื่นใดไม่ได้นอกจาก Hugo (2011) ซึ่งไม่ดูแต่มหัศจรรย์เท่านั้น แต่ 3D ก็ยังมหัศจรรย์ไปด้วย
41 - Robert Krasker
ได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากสไตล์ เยอรมัน expressionism และ ฟิล์ม นัวร์ - Krasker เกิดในออสเตรเลีย รู้จักกันดีกับงานด้านอารมณ์ งานนัวร์ชิ้นเอกของเขาคือ Brief Encounter (1945),The Third Man (1949) และ Uncle Silas (1947)
งานที่ประสบความสำเร็จที่สุด : Krasker ชนะออสการ์เรื่อง The Third Man และไม่ใช่เรื่องเดายากว่าทำไม แสงแข็งกระด้าง มุมกล้องแปลกและลึกซึ้ง สีดำที่อุดมไปทั้งภาพยนตร์ให้อารมณ์ที่รุนแรงและยากมากที่จะขจัดออกไป
จบตอน 1 แล้วครับ ขอบคุณมากที่ติดตามโปรดติดตามตอนที่ 2 ในเร็ววัน
ฝากติดตามบล็อกเกี่ยวกับภาพยนตร์ด้วยครับ : http://a-bellamy.com
ส่วนนี่เพจเฟซบุ๊กครับ : https://www.facebook.com/A.Surrealism