พ่อหมออลเวง ตอนที่๑๐

กระทู้สนทนา
ตอนที่๑ http://ppantip.com/topic/30107518
ตอนที่๒ http://ppantip.com/topic/30480244
ตอนที่๓ http://ppantip.com/topic/30542963
ตอนที่๔ http://ppantip.com/topic/30608461
ตอนที่๕ http://ppantip.com/topic/30677615
ตอนที่๖ http://ppantip.com/topic/30694435
ตอนที่๗ http://ppantip.com/topic/30707197
ตอนที่๘ http://ppantip.com/topic/30746577
ตอนที่๙ http://ppantip.com/topic/30766589
____________________________________

ตอนที่ ๑๐


ห้องชมรมอาสาเพื่อสังคมคึกคักอีกเช่นเคย   พ่อหมอณภัทรก็เริ่มมีชื่อเสียงขจรไกลขึ้นเรื่อย ๆ   ล่าสุดเมื่อวานนี้ดาวมหาวิทยาลัยคนล่าสุดประจำปีนี้เพิ่งมาดูดวงกับเขา   และหลายวันก่อนกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์รุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็มาดูดวง   พวกเธอคงได้งานเงินเดือนดีเห็นใส่ค่าบูชาครูมาตั้งเยอะ   ตอนนี้ก็เหมือนกันมีสาวนางหนึ่งนั่งตรงหน้าเขา   เธอรูปร่างดีหน้าตาสะสวย   แม้ไม่มีตำแหน่งใด ๆ มาการันตีแต่ก็ทำให้ใจของพ่อหมอตุ๊มต่อม

“เอาละนะจ้องตาฉันไว้” ณภัทรบอกหญิงสาวรายนั้นพลางจ้องสายตาแน่วแน่ไปยังเธอ

“เปล่า ๆ ฉันไม่ได้มาดูดวง” เธอรีบยกมือปัดปฏิเสธ

ณภัทรแปลกใจ   ที่นี่สำนักหมอดูไม่มาดูดวงแล้วมาทำอะไร   มาถ่ายรูปสติ๊กเกอร์เหรอ   หมดยุคไปแล้วน้อง

“คืออยากให้ช่วยทำนายฝันให้หน่อย”

ณภัทรขมวดคิ้วชนกัน   ตั้งแต่เปิดสำนักหมอดูมายังไม่เคยมีใครขอให้ทำนายฝันมาก่อน   แต่คงไม่ต่างจากดูดวงหรอกเพราะสองสิ่งนี้อยู่บนพื้นฐานหลักการมั่วศาสตร์ที่เขาถนัดอยู่แล้ว   และหล่อนคงให้เงินเยอะเพราะขอร้องในสิ่งที่แปลกกว่าคนอื่น
“งั้นเล่ามาเลย”

“คือเมื่อสองวันก่อนฉันฝันไม่ค่อยดี   ฝันว่าถูกงูตัวใหญ่ยักษ์รัดจนแน่น”

“ก็ฝันดีนี่   โบราณว่าไว้ฝันเห็นงูจะเจอเนื้อคู่” ณภัทรพูดแทรก

“มันไม่จบแค่นั้นไง   ขณะที่งูกำลังรัดฉันอยู่นั้น   จู่ ๆ ภาพความฝันก็ตัดฉับไปอีกฉากหนึ่ง   เป็นภาพฉันกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวที่บ้าน   เห็นพ่อของฉันเดินเอาจานอาหารมาให้ชิม   ฉันชิมดูแล้วบอกพ่อว่าอร่อยดีและถามว่านี่คืออะไร   รู้ไหมในฝันพ่อฉันตอบว่ายังไง   พ่อฉันบอกว่านี่คือผัดกระเพรางู   ฉันเหลียวไปมองในครัวเห็นงูตัวนั้นถูกหั่นเป็นท่อน ๆ จมกองเลือดอยู่”
ณภัทรแอบขำกับความฝันแปลกประหลาดของเธอ

“หมายความว่ายังไง   พ่อฉันจะฆ่าแฟนฉันทิ้งเหมือนอย่างในฝันงั้นเหรอ   แฟนฉันคนนี้เพิ่งคบกันมาสองเดือนเองและฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ใช่   อยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขา   แต่ถ้าพ่อของฉัน...”

“ไม่หรอก   โบราณว่าไว้อีกเหมือนกันว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี   เธอกำลังเรียนอยู่และแฟนของเธอก็คงกำลังเรียนอยู่ใช่ไหม   ตอนนี้ก็ตั้งใจเรียนให้จบอย่าทำอะไรไม่งามให้ผู้ใหญ่ขายหน้า   ฉันรับรองว่าถ้าถึงเวลาเธอสองคนได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเมื่อไหร่   พ่อของเธอจะรักแฟนของเธอไม่ต่างจากเธอแน่นอน   ฟันเฟิร์ม!”

“เฮ้อ! โล่งอกไปที   ขอบคุณมากนะพ่อหมอสุดหล่อ” หญิงสาวถอนหายใจระบายความไม่สบายใจออกมาจนหมดสิ้น   หล่อนควักเหรียญห้าบาทออกมาหย่อนลงขันเงินเป็นค่าบูชาครูแล้วเดินออกไปสีหน้าระรื่นไม่เหมือนตอนเดินเข้ามาทีแรก

พระพุทธเจ้าช่วย! ณภัทรอุทานในใจ   นอกจากเธอจะเป็นคนแรกที่มาขอให้ทำนายฝันให้   ยังเป็นคนแรกที่ให้ค่าบูชาครูน้อยที่สุดอีกด้วย   ขี้เหนียวแบบนี้แช่งให้พ่อของเธอทำกับว่าที่ลูกเขยเหมือนอย่างในฝันเสียดีไหม

ประธานชมรมอาสาเพื่อสังคมเปิดประตูเข้ามาในห้อง   เธอตกใจจนแทบหน้าหงายเมื่อเห็นผู้คนนั่งอยู่เต็มห้องเล็กแคบแห่งนี้   ลำพังอุปกรณ์ที่ทำไว้สำหรับใช้รณรงค์การรับน้องก็รกห้องพออยู่แล้ว   นี่ยังมีกลุ่มคนที่เรียกตนเองว่าชาวพุทธแต่งมงายเรื่องอำนาจอิทธิฤทธิ์นั่งแออัดเบียดเสียดกันเต็มห้องแย่งออกซิเจนกันหายใจอีก   เมื่อก่อนเธอยังพอรับได้เพราะลูกค้าของณภัทรมาแค่ทีละคนสองคน   แต่ดูตอนนี้สิแทบจะขี่คอกันอยู่แล้ว   อีกหน่อยไม่ครองตึกนี้ทั้งตึกเป็นสำนักหมอดูของตัวเองเลยเหรอ   น่าเกลียดจริง ๆ เธอต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้ว
น้ำเพชรก้าวฉับ ๆ มายืนค้ำหัวณภัทร   ไม่แยแสสายตาตำหนิจากคนที่เคารพศรัทธาในตัวพ่อหมอ   เธอประกาศเสียงกร้าว

“ฉันเป็นประธานชมรมอาสาเพื่อสังคม   ขอสั่งเด็ดขาดให้นายเลิกใช้ห้องส่วนรวมนี้เป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน!”

ณภัทรเงยหน้ามามองพลางทำหน้ายียวนใส่

“เป็นเจ้าของห้องนี้เหรอ   ซื้อเงินสดหรือผ่อนจ๊ะ?”

“เฮ้ย! ห้องชมรมไม่ใช่คอนโด” จ้อนช่วยณภัทรตบมุก   คนทั้งห้องหัวเราะครืน

“ไม่ตลกย่ะ” น้ำเพชรหน้าบึ้ง   หันไปประจันหน้ากับเหล่าลูกค้าของณภัทร “พวกเธอ   เธอ   เธอ   เลิกงมงายดูหมอไร้สาระได้แล้ว   หัดหันหน้าเข้าวัดบ้าง” น้ำเพชรชี้หน้าไปทั่วตวาดแว๊ดอย่างเหลืออด

คนทั้งห้องพร้อมใจกันป้องปากโห่ขับไล่คนที่มาอวดเบ่งว่าเป็นประธานชมรมนี้   ยายนี่มีสิทธิอะไรมาตัดสินความคิดคนอื่นว่างมงายไร้สาระ   ตัวเธอเองนั่นแหละที่ควรหันหน้าเข้าวัดในเมื่อมีจิตเบียดเบียนความคิดคนอื่นอย่างนี้

น้ำเพชรขายหน้าแทบจะมุดปูนซีเมนต์ดำดินลงไปจำศีลกับกบ   เกิดมาเธอไม่เคยขายหน้าอย่างนี้มาก่อนเลย   จำไว้นายพัดแค้นนี้ฉันจะกลับมาชำระให้ได้   เตรียมตัวระหกระเหินเป็นเจ้าไม่มีศาลเอาไว้ให้ดี   ฉันจะทำทุกวิธีทางเพื่อเฉดหัวนายกับนายจอห์นออกไปจากตึกนี้   แล้วหญิงสาวก็ก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องไปท่ามกลางเสียงโห่ไล่ที่ไม่ยอมหยุด

ณภัทรมองตามร่างอรอนงค์นั้น   ไม่รู้อะไรสะกดสายตาให้เขามองเธอจนลับสุดสายตา   จนจ้อนที่นั่งอุ้มขันเงินอยู่ข้าง ๆ ต้องตบเข่าปลุกเขาตื่นจากภวังค์

หญิงสาวเดินกระแทกส้นเท้าลงบันไดมายังชั้นล่างของตึกสโมสรนักศึกษาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว   มุกลัดดาที่นั่งดูดนมเย็นลุกจากโต๊ะม้าหินอ่อนเดินมาหาเพื่อนสาวที่ยืนหน้าหงิกหน้างอ

“อ้าว   ไหนบอกว่าขึ้นไปเอาเอกสารขออนุญาตติดป้ายโครงการแล้วไหนล่ะ?   แถมหน้าบูดหน้าบึงกลับมาอีกใครทำอะไรแก?”   มุกลัดดาถาม
“คนมาดูหมอกับนายพัดล้นห้องไปหมด   ฉันเพียงเข้าไปตักเตือนนายนั่นคนพวกนั้นกลับโห่ไล่ฉัน   เลยไม่มีอารมณ์ค้นเอกสารลงมาตัวเปล่าอย่างที่เธอเห็นนี่แหละ”

มุกลัดดายิ้มหลอดยังคาอยู่ในปาก

“ฮึ! เล่นกับใครไม่เล่น   ดันมาเล่นกับพ่อหมอณภัทร   เดี๋ยวนี้นายนั่นดังใหญ่แล้วแถมดูดวงแม่นสุด ๆ เลย”

“เดี๋ยวนะ! พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?” น้ำเพชรระแคะระคายคำพูดของเพื่อนสาว

มุกลัดดาตีหน้าเจื่อน   เธอเคยสัญญากับน้ำเพชรไว้ว่าจะไม่ดูดวงกับณภัทร   แต่แอบผิดสัญญาไปแล้วแถมปากบอนเผลอพูดออกไปให้ถูกจับได้อีก   น่าตบปากตัวเองจริง ๆ

“ก็แหม... นายนั่นดังออกขนาดนั้นแถมบอกจะดูดวงให้ฉันฟรีอีก   ล่อใจอย่างนี้ฉันก็อดใจไม่อยู่น่ะสิ   แต่นายนั่นดูดวงแม่นจริง ๆ นะ   ฟันเฟิร์ม!” มุกลัดดาเลียนแบบวลีติดปากของณภัทร

“ไม่อย่างเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นคนงมงายกับเขาไปด้วยอีกคน” น้ำเพชรผิดหวังในตัวเพื่อน

“จะว่างมงายก็ว่าได้นะเพราะเรื่องพรรค์นั้นพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้   แต่แกลองมองอีกแง่สิ   นายพัดก็ขายความสบายใจนะ   คนที่มาดูดวงกับเขาต่างก็มีเรื่องราวอึดอัดใจมาปรึกษาทั้งนั้น   เงินก็ไม่ได้เรียกร้อง   ใครอยากให้เท่าไหร่ก็ให้   ตอนที่ฉันดูดวงกับนายนั่นฉันถามไปว่าอนาคตจะมีสามีรึเปล่า   นายนั่นตอบมาอย่างไรรู้ไหม   เขาบอกว่าถ้าคิดว่าตนเองยังเป็นผู้หญิงและชอบผู้ชายอยู่รับรองหาสามีได้แน่นอน   ตอนนี้ฉันสบายใจเลิกกังวลแล้ว”

“ก็แหงล่ะสิ   ตอบแบบนั้นเป็นฉันก็ทำนายได้   เรื่องพรรค์นี้เธอว้าวุ่นใจไปเอง   ถ้ามั่นใจตัวเองเสียอย่างก็ไม่ต้องพึ่งพ่อหมอจอมลวงโลกคนนั้นหรือคนไหน ๆ   คอยดูนะฉันจะเฉดหัวนายนั่นกับคู่หูกระเด็นออกจากชมรมเราให้ได้เร็วที่สุด”

“แกจะทำยังไง   แอบเอาข้าวของพวกนั้นไปทิ้งตอนที่พวกเขาไม่อยู่เหรอ?”

“จะบ้าเหรอขืนทำแบบนั้นพวกเขาก็สงสัยฉันอยู่ดี   เพราะมีแต่ฉันเท่านั้นแหละที่เป็นปรปักษ์กับพวกเขา”

“แล้วมีวิธีอื่นอีกเหรอ   ฉันคิดไม่ออกเลย   ตัดสายเบรกรถนายจอห์นก็ดูแรงเกินไป”

“ให้อาจารย์พรเทพช่วยไง” แววตาน้ำเพชรมีเลศนัย

อาจารย์พรเทพเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมอาสาเพื่อสังคม   แกสอนวิชาชีววิทยา   บุคลิกนิสัยของแกค่อนข้างแปลกอยู่สักหน่อย   ได้ยินมาว่าอาจารย์ทั้งคณะวิทยาศาสตร์ไม่มีใครคบแกเลย   แต่แกก็ดูมีความสุขดีกับการไปไหนมาไหนคนเดียว   สมัยน้ำเพชรเรียนวิชาที่แกสอนตอนปีหนึ่ง   แกสอนเนื้อหาแค่ครึ่งเดียวเอง   อีกครึ่งที่เหลือโม้อะไรต่อมิอะไรไปเรื่อย   บางทีสอน ๆ อยู่ก็นอกเรื่องเสียอย่างนั้นทำให้เนื้อหาวิชาไม่ต่อเนื่อง   แรก ๆ น้ำเพชรไม่ชอบแกเลย   หาว่าแกบกพร่องในหน้าที่ด้วยซ้ำ   แต่หลัง ๆ เริ่มเห็นว่าที่แกโม้มานั้นเกี่ยวข้องกับอนาคตหน้าที่การงานทั้งนั้น   พอได้มาเข้าชมรมอาสาเพื่อสังคมก็ค่อย ๆ สนิทกันมากขึ้น

น้ำเพชรมายืนรอหน้าประตูห้องบรรยายที่อาจารย์พรเทพสอน   คาบนี้แกสอนเด็กปีหนึ่งเรื่องเซลล์พืชและเซลล์สัตว์   แกเหลือบมามองหญิงสาวหน้าประตูเป็นระยะ ๆ   สงสัยว่าเธอมีเรื่องร้อนอะไรถึงตามมาเฝ้าหน้าห้องเช่นนี้

“วันนี้พอแค่นี้แล้วกันนะครับนักศึกษา   เจอกับคาบเรียนหน้าครับ” กล่าวปิดคาบเรียนออกไมค์แล้วอาจารย์พรเทพก็หอบข้าวของของแกเดินออกมาหาน้ำเพชร “มีอะไรแม่ประธานชมรม   เห็นมาด้อม ๆ มอง ๆ ตั้งแต่กลางคาบแล้ว” แกสูงเท่าน้ำเพชรเลย   ผู้ชายสูงแค่นี้นับว่าเป็นคนตัวเล็ก

“ห้องชมรมเป็นพื้นที่สาธารณะใช่ไหมคะ   ใครเอาไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวนี่ถือว่าผิดใช่ไหมคะ?” น้ำเพชรรีบพูดเหมือนอาจารย์พรเทพจะหายแวบไปภายในอีกสามนาที   ยังกั๊กไม่ยอมบอกว่ามาหาแกเรื่องอะไร

“อืม” อาจารย์พรเทพพยักหน้า “ใครคนนั้นเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก”

น้ำเพชรยิ้ม   เริ่มเห็นความสำเร็จของการขับไล่พ่อหมอลวงโลกเรืองรองขึ้นมาลาง ๆ แล้ว “นั่นสิคะ   คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นต้องจัดการให้เด็ดขาด   ตามมาค่ะ! อาจารย์คงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรวุ่นวายขึ้นที่ห้องชมรมของเรา   หนูอยากให้อาจารย์ใช้อำนาจการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมจัดการขั้นเด็ดขาดกับเรื่องนี้ที” พูดแล้วไม่รอช้าเดินนำอาจารย์พรเทพไปยังตึกสโมสรนักศึกษาทันที

ตอนนี้ทั้งคู่มาอยู่หน้าห้องชมรมอาสาเพื่อสังคมแล้ว   น้ำเพชรจับลูกบิดพร้อมเปิดประตูเข้าไป

“อาจารย์อย่าตกใจไปนะคะ   หนูรู้ว่าอาจารย์ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะแต่ครั้งนี้หนูขอโทษ   หนูฝากอาจารย์จัดการให้ห้องชมรมเรากลับมาสงบเหมือนเดิมด้วยค่ะ” พูดแล้วสาวเจ้าก็เปิดประตูเข้าห้องไป

สภาพห้องชมรมอาสาเพื่อสังคมในตอนนี้ไม่ต่างจากที่อาจารย์พรเทพเห็นเมื่อหลายเดือนก่อนเท่าใดนัก   อาจรกกว่าหน่อยหนึ่งเพราะมีอุปกรณ์รณรงค์การรับน้องวางอิงชิดผนังห้องด้านหนึ่ง   โต๊ะประชุมกระจัดกระจายไปด้วยเอกสารมากมายเช่นเดิม   ที่มุมห้องด้านหนึ่งมีณภัทรและจ้อนนั่งมองคนสองคนที่เข้ามาใหม่หน้าสลอน   ด้านหลังพวกเขามีชั้นวางของแปลก ๆ   ดูแล้วก็ไม่เห็นคนจะเยอะหรือมีอะไรผิดปกติเลยนี่

น้ำเพชรมองห้องโล่งตาค้าง   งุนงงว่าเหล่าสาวกลัทธิบูชาพ่อหมอณภัทรที่เมื่อกี้นั่งเกลื่อนเต็มห้องหายไปไหนหมดแล้วตอนนี้   โถ่... น่าเสียดาย   ถ้าอาจารย์พรเทพได้เห็นภาพเดียวกับเธอเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนคงอึ้งกิมกี่ไล่ตะเพิดสองคู่หูจนหนีออกจากตึกแทบไม่ทันเป็นแน่   รู้อย่างนี้เธอน่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อนก็ดี

“อะไรเหรอแม่ประธานชมรมที่เธอตามอาจารย์ให้รีบมาดู   จิ้งจกสองผัวเมียนั่นรึไง?” อาจารย์พรเทพชี้ให้ดูจิ้งจกสองตัวบนเพดาน

“ไม่ใช่ค่ะอาจารย์   แค่จิ้งจกหนูจะรีบร้อนไปตามอาจารย์ถึงคณะทำไมคะ   ก่อนหน้านี้ยังมีอยู่เลยคนที่มารอดูดวงกับนายณภัทร   ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนกันหมด” น้ำเพชรเสียหน้า   ความรู้สึกตอนนี้เหมือนตอนที่โดนโห่ไล่ไม่มีผิด
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่