สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
กระทู้นี้แสดงให้เห็นว่า "ประเทศนี้มันสงบสุขเกินไป"
ทำให้ประชาชนมีความ กระแดะผิดๆ หลายอย่าง
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Gendercide) มันเป็น systematic killing เปรียบไปก็เหมือนโรงฆ่าสัตว์
ที่เอา สัตว์ ใส่เข้าไปด้านหนึ่ง ผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างเป็นระบบ
เช่น คัดแยกประเภท ถอนขน ทำความสะอาด จนถึงทำให้ตายและออกมาเป็น ก้อนเนื้อ
โดยที่ สัตว์ ที่ถูกนำเข้ากระบวนการนี้ ไม่มีโอกาสใดๆ แม้แต่การได้รู้ว่า กำลังจะตาย
เพราะนาซีไม่เคย บอก หรือปล่อยให้ข้อเท็จจริงเล็ดรอดออกไปว่า ค่ายกักกัน มีไว้ทำอะไร
(ยุคนั้นการนำคนบางกลุ่มเข้าค่ายกักกันหรือค่ายแรงงานในช่วงสงครามเป็นเรื่องปกติ)
ส่วนการล่าอาณานิคม หรือค้าทาส นั้นแตกต่างออกไป
ล่าอาณานิคม จะเป็นรูปแบบ กึ่งสงคราม
นั่นคือ ฝ่ายที่เป็นเป้าหมายยังมีโอกาส ต่อสู้ หรือ หนี เช่น อินเดียนแดงหลายเผ่าที่บ้างก็สู้หรืออพยพไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น แมกซิโก
แม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เท่าเทียมกัน แต่ก็ยังมีโอกาส มีความหวังอยู่บ้าง
การค้าทาส เองก็เช่นกัน
แน่นอนว่า ทาส ที่ทำงานในอาณานิคม หรืออเมริกา มีความเป็นอยู่ที่โหดร้ายกว่า ทาสของไทยมาก
แต่จุดประสงค์หลักของการค้าทาส ก็คือ แรงงาน ดังนั้นนายทาสจะไม่ฆ่า ทาส พร่ำเพรื่อ
ตัวทาสเอง ก็ยังถูกใช้แรงงานต่อไปอีกหลายปี จนกว่าจะป่วยหรือเหนื่อยจนตาย
ซึ่งในช่วงเวลานั้น มีทาสจำนวนไม่น้อยที่ หนีและจับอาวุธสู้กับคนขาว หรือตั้งอาณานิคมของตนเองขึ้น
ไม่ว่าการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ล่าอาณานิคม ค้าทาส มันก็เป็นเรื่องโหดร้าย
แต่ระดับของความโหดร้ายนั้นแตกต่างกันมาก
จุดสำคัญที่ นาซี โดนประนามนั้นมาจาก
ความสำเร็จในการประดิษฐ์ กระบวนการฆ่ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนคำกล่าวว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ มันก็จริงพอๆ กับ อเมริกา ไม่เคยไปดวงจันทร์
อย่าลืมว่า ปัจจุบันก็ยังมี ชนชาติเยอรมันอยู่ ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่จริง จะไม่ออกมาแฉหรือ
เพราะเยอรมันเองก็เป็นพี่ใหญ่กลุ่มยูโรอยู่แล้ว
ทำให้ประชาชนมีความ กระแดะผิดๆ หลายอย่าง
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Gendercide) มันเป็น systematic killing เปรียบไปก็เหมือนโรงฆ่าสัตว์
ที่เอา สัตว์ ใส่เข้าไปด้านหนึ่ง ผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างเป็นระบบ
เช่น คัดแยกประเภท ถอนขน ทำความสะอาด จนถึงทำให้ตายและออกมาเป็น ก้อนเนื้อ
โดยที่ สัตว์ ที่ถูกนำเข้ากระบวนการนี้ ไม่มีโอกาสใดๆ แม้แต่การได้รู้ว่า กำลังจะตาย
เพราะนาซีไม่เคย บอก หรือปล่อยให้ข้อเท็จจริงเล็ดรอดออกไปว่า ค่ายกักกัน มีไว้ทำอะไร
(ยุคนั้นการนำคนบางกลุ่มเข้าค่ายกักกันหรือค่ายแรงงานในช่วงสงครามเป็นเรื่องปกติ)
ส่วนการล่าอาณานิคม หรือค้าทาส นั้นแตกต่างออกไป
ล่าอาณานิคม จะเป็นรูปแบบ กึ่งสงคราม
นั่นคือ ฝ่ายที่เป็นเป้าหมายยังมีโอกาส ต่อสู้ หรือ หนี เช่น อินเดียนแดงหลายเผ่าที่บ้างก็สู้หรืออพยพไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น แมกซิโก
แม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เท่าเทียมกัน แต่ก็ยังมีโอกาส มีความหวังอยู่บ้าง
การค้าทาส เองก็เช่นกัน
แน่นอนว่า ทาส ที่ทำงานในอาณานิคม หรืออเมริกา มีความเป็นอยู่ที่โหดร้ายกว่า ทาสของไทยมาก
แต่จุดประสงค์หลักของการค้าทาส ก็คือ แรงงาน ดังนั้นนายทาสจะไม่ฆ่า ทาส พร่ำเพรื่อ
ตัวทาสเอง ก็ยังถูกใช้แรงงานต่อไปอีกหลายปี จนกว่าจะป่วยหรือเหนื่อยจนตาย
ซึ่งในช่วงเวลานั้น มีทาสจำนวนไม่น้อยที่ หนีและจับอาวุธสู้กับคนขาว หรือตั้งอาณานิคมของตนเองขึ้น
ไม่ว่าการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ล่าอาณานิคม ค้าทาส มันก็เป็นเรื่องโหดร้าย
แต่ระดับของความโหดร้ายนั้นแตกต่างกันมาก
จุดสำคัญที่ นาซี โดนประนามนั้นมาจาก
ความสำเร็จในการประดิษฐ์ กระบวนการฆ่ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนคำกล่าวว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ มันก็จริงพอๆ กับ อเมริกา ไม่เคยไปดวงจันทร์
อย่าลืมว่า ปัจจุบันก็ยังมี ชนชาติเยอรมันอยู่ ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่จริง จะไม่ออกมาแฉหรือ
เพราะเยอรมันเองก็เป็นพี่ใหญ่กลุ่มยูโรอยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 35
คุณแยกแยะประเด็นก่อนดีกว่ามั้ย ผมตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ได้อย่างนึงว่า คนกลุ่มที่สนับสนุนเชิดชู Hitler ในหว้ากอเนี่ย จะมีแนวความคิดหลุดประเด็นเหมือนๆกัน คือ จะชอบอ้างอิงว่า ประเทศนู้นประเทศนี้เคยทำแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่โดนประนาม ไม่โดนเกลียด โดนอะไรแบบนาซี แบบเยอรมัน เอาให้มันอยู่ในประเด็น และอยู่ในเรื่องเดียวกันดีกว่ามั้ยครับ? นี่มันคนละประเด็น คนละเรื่องกันเลยด้วยซ้ำ การที่เราจะเอาอะไรมาเทียบเทียมกัน ก็ต้องอยู่ใน Base เดียวกัน ไม่ใช่จับหมูกับแกะมาเทียบกัน แล้วบอกว่า ก็เพราะเป็นสัตว์เหมือนกัน
แม้เรื่องการล่าอาณานิคมสมัยนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรมากมาย จริงที่ประเทศที่ล่าอาณานิคมเหล่านั้นก็ไปก่อความเดือดร้อนไว้ไม่น้อย แต่นั่นเค้าไม่ได้เล่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนเพียงเพราะความเชื่อในเรื่องเชื้อชาตินิครับ อาณานิคมที่ไปล่านั้นก็ล้วนแต่เอาประโยชน์เอาตัวทั้งสิ้น ซึ่งหลักๆก็คือด้านเศรษฐกิจ ให้ส่งส่วยบ้างก็ว่าไป ไม่ว่าจะเจงกิสข่านหรืออเล็กซานเดอร์ก็ล้วนทำเผื่อการขยายอำนาจ แต่ไม่ใช่เพราะความเชื่อเรื่องเชื้อชาติเป็นหลัก สงครามมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเสียชีวิต แต่ไม่ใช่การเสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เพียงแค่เพราะ "เชื้อชาติที่แตกต่าง" คนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตได้ไม่ว่าจะเกิดที่ประเทศไหน หรือเชื้อชาติใด แยกเหตุผลของการกระทำให้ออกด้วยครับ ที่ทุกวันนี้คนประนามพวกนาซีหรือ Hitler ไม่ใช่แค่เพราะการกระทำที่ผิด แต่เพราะ "แนวคิดที่มันผิด" ต่างหาก แนวคิดของพวกนาซีที่ว่า "เกิดมาเป็นยิว หรือคนที่มีความคิดเห็นต่างไม่ว่าชาติไหน ชีวิตก็ไม่มีค่า ไม่สมควรจะอยู่ก่อความเดือดร้อน สมควรโดนฆ่า โดนล้างเผ่าพันธ์" ถามจริงๆเถิด มันใช่ความคิดที่คนเราควรจะเห็นด้วยหรือครับ? คนเราไม่โดนเองกับตัว ไม่เข้าใจไม่เท่าไหร่ ยังไม่คิดนึกถึงผู้ที่เค้าเดือดร้อนที่ต้องเสียชีวิต เสียพ่อแม่ พี่น้อง แค่ตรงนี้คุณยังแยกแยะกันไม่ออกอีกหรือ?
อีกอย่างแม้สงครามต่างๆจะมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่หากเทียบกันในระยะเวลาที่เท่าเทียมกัน จำนวนผู้คนที่เสียชีวิตมันเทียบกันไม่ได้เลยนะครับ สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 1939 - 1945 เวลาเพียงแค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตทั่วโลก (ไม่แค่พวกยิวเท่านั้น) รวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านคน!! ซึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพ จำนวนผู้ที่เสียชีวิต ก็คือจำนวนประชากรไทยที่มีนั่นแหละครับ ว่าง่ายๆว่า ลองนึกภาพว่า ประเทศไทยเราโดนฆ่าล้างประเทศจนไม่เหลือใครรอดชีวิตในเวลาแค่ 6 ปีเท่านั้น พวกเจงกีสข่านสามารถฆ่าคนในระยะเวลาสั้นๆได้เท่านั้นเลยหรือครับ? สรุปแล้วเรื่องสงครามต่างๆนี่จากระยะเวลา และความร้ายแรง ยังจะผลจากหลังสงครามอีก มันอยู่ในระดับที่ร้ายแรงพอกันหรือครับ? คิดว่ายังเป็นเรื่องเฉยๆอีกหรือครับ?
นอกจากนี้ กลุ่มคนที่นับถือเชิดชูพวกนาซี พวก Neo-Nazi ในปัจจุบัน หรือว่าง่ายๆว่า กลุ่มคนที่พวกคุณว่าเฉยๆกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนเนี่ย ทุกวันนี้ยังก่อกรรมทำชั่วจากความเชื่อผิดๆแบบนี้ไม่เลิกในประเทศเยอรมันนะครับ และไทยเราเองก็นับเป็นต่างชาติ เพราะฉะนั้นใช่ว่าพวกคุณไปนับถือยกย่องเค้า แล้วคุณไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมยกตัวอย่างข่าวอื้อฉาวสุดท้ายของเยอรมันให้เลย คือ ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Beate Zschäpe เป็นฆาตกรเลือดเย็นที่สังกัดกลุ่ม Neo-Nazi/NSU ในปัจจุบัน ได้โดนจับข้อหาฆาตกรรมทั้งหมด 10 ราย (เป็นฆาตกรต่อเนื่อง / Serial killer) ซึ่งผู้ที่สมรู้ร่วมคิดด้วยก็ชิ่งฆ่าตัวตายไปก่อนแล้ว จากคนที่ฆ่านั้น 2 คน คือ ตำรวจเยอรมัน อีก 7 คือ คนชาติตรุกีและอีก 1 ชาติกรีก ก็ด้วยความเชื่อผิดๆเรื่องต่อต้านเชื้อชาตินี่แหละ ทั้งๆที่กลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพราะฉะนั้นขออนุญาติใช้คำแบบ จขกท บ้างนะครับว่า
..ช่วยจำใส่หัวไว้ด้วยว่า ไทยเราก็ต่างชาติครับ เพราะฉะนั้นก็มีสิทธิ์โดนกลุ่มคนพวกนี้ฆ่าได้ เพราะความ "แตกต่าง" ด้านเชื้อชาติ ไม่ต่างกับพวกคนเหล่านี้ที่โดนฆ่าไปเลยแม้แต่น้อย ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ รวมถึงไทยเรานี่ไม่เข้าข่าย คนผมบลอนด์ ตาฟ้า เลยซักนิด..
เหตุการณ์ปัจจุบันเองแม้แต่คนเยอรมันยังถือว่า คนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มที่น่ารังเกียจ และเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับการยอมรับแม้แต่น้อยในสังคม เพราะก่อความเดือดร้อนให้คนในประเทศไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะคนเยอรมันหรือต่างชาติ ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า จะยกย่อง จะเชิดชูใคร จะอ้างความเข้าใจผิดที่คิดไปเองยังไง ก็ขอให้อยู่บนความเป็นจริง และช่วยพิจารณาตัวเองด้วยครับว่า ตัวเราเองในฐานะคนเอเชียก็เป็นต่างชาติในสายตาพวกหัวขวา คนเวียตนามเองก็เคยโดนพวกนี้ฆ่ามาแล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่าคิดว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของตนเลยเฉยๆได้ ต้องรอให้ตัวเองโดนเอง ถึงจะรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ มากกว่าเรื่องน่านำมายกย่องเชิดชูหรือครับ?
แม้เรื่องการล่าอาณานิคมสมัยนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรมากมาย จริงที่ประเทศที่ล่าอาณานิคมเหล่านั้นก็ไปก่อความเดือดร้อนไว้ไม่น้อย แต่นั่นเค้าไม่ได้เล่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนเพียงเพราะความเชื่อในเรื่องเชื้อชาตินิครับ อาณานิคมที่ไปล่านั้นก็ล้วนแต่เอาประโยชน์เอาตัวทั้งสิ้น ซึ่งหลักๆก็คือด้านเศรษฐกิจ ให้ส่งส่วยบ้างก็ว่าไป ไม่ว่าจะเจงกิสข่านหรืออเล็กซานเดอร์ก็ล้วนทำเผื่อการขยายอำนาจ แต่ไม่ใช่เพราะความเชื่อเรื่องเชื้อชาติเป็นหลัก สงครามมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเสียชีวิต แต่ไม่ใช่การเสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เพียงแค่เพราะ "เชื้อชาติที่แตกต่าง" คนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตได้ไม่ว่าจะเกิดที่ประเทศไหน หรือเชื้อชาติใด แยกเหตุผลของการกระทำให้ออกด้วยครับ ที่ทุกวันนี้คนประนามพวกนาซีหรือ Hitler ไม่ใช่แค่เพราะการกระทำที่ผิด แต่เพราะ "แนวคิดที่มันผิด" ต่างหาก แนวคิดของพวกนาซีที่ว่า "เกิดมาเป็นยิว หรือคนที่มีความคิดเห็นต่างไม่ว่าชาติไหน ชีวิตก็ไม่มีค่า ไม่สมควรจะอยู่ก่อความเดือดร้อน สมควรโดนฆ่า โดนล้างเผ่าพันธ์" ถามจริงๆเถิด มันใช่ความคิดที่คนเราควรจะเห็นด้วยหรือครับ? คนเราไม่โดนเองกับตัว ไม่เข้าใจไม่เท่าไหร่ ยังไม่คิดนึกถึงผู้ที่เค้าเดือดร้อนที่ต้องเสียชีวิต เสียพ่อแม่ พี่น้อง แค่ตรงนี้คุณยังแยกแยะกันไม่ออกอีกหรือ?
อีกอย่างแม้สงครามต่างๆจะมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่หากเทียบกันในระยะเวลาที่เท่าเทียมกัน จำนวนผู้คนที่เสียชีวิตมันเทียบกันไม่ได้เลยนะครับ สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 1939 - 1945 เวลาเพียงแค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตทั่วโลก (ไม่แค่พวกยิวเท่านั้น) รวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านคน!! ซึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพ จำนวนผู้ที่เสียชีวิต ก็คือจำนวนประชากรไทยที่มีนั่นแหละครับ ว่าง่ายๆว่า ลองนึกภาพว่า ประเทศไทยเราโดนฆ่าล้างประเทศจนไม่เหลือใครรอดชีวิตในเวลาแค่ 6 ปีเท่านั้น พวกเจงกีสข่านสามารถฆ่าคนในระยะเวลาสั้นๆได้เท่านั้นเลยหรือครับ? สรุปแล้วเรื่องสงครามต่างๆนี่จากระยะเวลา และความร้ายแรง ยังจะผลจากหลังสงครามอีก มันอยู่ในระดับที่ร้ายแรงพอกันหรือครับ? คิดว่ายังเป็นเรื่องเฉยๆอีกหรือครับ?
นอกจากนี้ กลุ่มคนที่นับถือเชิดชูพวกนาซี พวก Neo-Nazi ในปัจจุบัน หรือว่าง่ายๆว่า กลุ่มคนที่พวกคุณว่าเฉยๆกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนเนี่ย ทุกวันนี้ยังก่อกรรมทำชั่วจากความเชื่อผิดๆแบบนี้ไม่เลิกในประเทศเยอรมันนะครับ และไทยเราเองก็นับเป็นต่างชาติ เพราะฉะนั้นใช่ว่าพวกคุณไปนับถือยกย่องเค้า แล้วคุณไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมยกตัวอย่างข่าวอื้อฉาวสุดท้ายของเยอรมันให้เลย คือ ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Beate Zschäpe เป็นฆาตกรเลือดเย็นที่สังกัดกลุ่ม Neo-Nazi/NSU ในปัจจุบัน ได้โดนจับข้อหาฆาตกรรมทั้งหมด 10 ราย (เป็นฆาตกรต่อเนื่อง / Serial killer) ซึ่งผู้ที่สมรู้ร่วมคิดด้วยก็ชิ่งฆ่าตัวตายไปก่อนแล้ว จากคนที่ฆ่านั้น 2 คน คือ ตำรวจเยอรมัน อีก 7 คือ คนชาติตรุกีและอีก 1 ชาติกรีก ก็ด้วยความเชื่อผิดๆเรื่องต่อต้านเชื้อชาตินี่แหละ ทั้งๆที่กลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพราะฉะนั้นขออนุญาติใช้คำแบบ จขกท บ้างนะครับว่า
..ช่วยจำใส่หัวไว้ด้วยว่า ไทยเราก็ต่างชาติครับ เพราะฉะนั้นก็มีสิทธิ์โดนกลุ่มคนพวกนี้ฆ่าได้ เพราะความ "แตกต่าง" ด้านเชื้อชาติ ไม่ต่างกับพวกคนเหล่านี้ที่โดนฆ่าไปเลยแม้แต่น้อย ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ รวมถึงไทยเรานี่ไม่เข้าข่าย คนผมบลอนด์ ตาฟ้า เลยซักนิด..
เหตุการณ์ปัจจุบันเองแม้แต่คนเยอรมันยังถือว่า คนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มที่น่ารังเกียจ และเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับการยอมรับแม้แต่น้อยในสังคม เพราะก่อความเดือดร้อนให้คนในประเทศไม่รู้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะคนเยอรมันหรือต่างชาติ ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า จะยกย่อง จะเชิดชูใคร จะอ้างความเข้าใจผิดที่คิดไปเองยังไง ก็ขอให้อยู่บนความเป็นจริง และช่วยพิจารณาตัวเองด้วยครับว่า ตัวเราเองในฐานะคนเอเชียก็เป็นต่างชาติในสายตาพวกหัวขวา คนเวียตนามเองก็เคยโดนพวกนี้ฆ่ามาแล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่าคิดว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของตนเลยเฉยๆได้ ต้องรอให้ตัวเองโดนเอง ถึงจะรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ มากกว่าเรื่องน่านำมายกย่องเชิดชูหรือครับ?
แสดงความคิดเห็น
คุณว่าไหมทำไมมีแต่คนด่าเยอรม้นและฮิตเลอร์ เราโดนพวกแองโกงแซกซั่น พวก อังกฤษ ม้นล้างสมองหรือเปล่าครับ
พวกสองประเทศนี้และประเทศ อื่นม้นล่าอาณานิคม และแบ่งโลกเรียบร้อยแล้ว
จำใส่หัวไว้ สองประเทศนี้ ม้น ล่าทาส และ สูบทรัพยากร จากประเทศอื่นทั่วโลกมา
ดังนั้นเมื่อเยอรม้น รวมประเทศได้ก็ต้องการที่จะ มีที่ยืนบ้าง
ม้นผิดตรงไหนครับ
อีกอย่าง ก่อนที่อังกฤษ กับฝรั่งเศษ ม้นจะขึ้นมาใหญ่ ม้นก็ ล้ม สเปน และโปรตุเกศ ก่อน
ถ้า สเปนและโปรตุเกศ ไม่โดน สองประเทศหลังล้ม
อังกฤษและฝรั่งเศษ ม้นก็จะกลายเป็นผู้ร้าย
ดังนั้น เยอรม้น ไม่ใช่ผู้ร้าย แต่เยอรม้น แพ้สงคราม ดังนั้น ไอ้กัน อังกฤษ ฝรั่งเศษ และอื่นๆ ม้นเลย โยนทุกอย่างให้กับ เยอรม้น
ว่า เป็นผู้ร้าย
ผู้ชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ ครับ
ผมเฉยๆ กับการที่เยอรม้น ฆ่าล้างโคตรยิว
ม้นก็เหมือนกับ อังกฤษ และ ไอ้กัน ที่ฆ่าล้างโครต อินเดียนแดง และ สเปน ล้างโคตร อินคา
สรุปคือ คนชนะ ยังไงก็เป็นคนดี ทั้งๆที่อาจจะไม่ดีจริง แต่คนแพ้ จะกลายเป้นคนเลว