สวัสดียามดึกเพื่อนๆชาวพันทิปอีกครั้งเช่นเคยครับ เมื่อวันหยุดเข้าพรรษาที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส
ไปเที่ยวทำบุญที่วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา มาครับ เลยมารีวิวแบ่งปันกันชมครับ ผิดพลาดประการ
ใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไปมาเมื่อวันอาทิตย์ที่21 ก.ค.56 ตื่นมาก็สายแล้วครับ ที่แรกก็ไม่ได้ตั้งใจ
จะไปหรอกครับ เลยตื่นซะสายเชียว แต่ตื่นมาท้องฟ้าปลอดโปร่งดี อารมณ์ก็ไม่อยากอยู่บ้านเลยตัดสินใจ
เดี๋ยวนั้นเลยครับ อยากไปวัดสมานมานานละ ไม่เคยไปซะที แต่รถคงติดยาวแน่นอนวันหยุดยาวแบบนี้
จำเป็นต้องพึ่งเจ้า2ล้อ SCOOPY i อีกครั้ง พาชิวๆไปเรื่อยๆดีก่า ว่าแล้วก็ไปกันเลยดีกว่าครับ
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็น วัดที่มีองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูง 16 เมตร ยาว 22 เมตร เนื้อชมพู เป็นพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ประวัติวัดสมานรัตนาราม
ปัจจุบันเมื่อกล่าวถึง "วัดสมานรัตนาราม" ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยว ตลอดถึงพ่อค้าประชาชน และนักแสวงบุญทั้งหลายเข้าทำบุญที่วัดไม่ขาดสายเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาในวัดนี้ นอกจากความสงบร่มรื่น และทิวทัศน์ที่สวยงามภายในวัดแล้ว เป้าหมายของผู้คนที่เดินทางมาที่วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ คือ องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทรงไว้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสามารถประสิทธิ์ประสาทพรแก่ผู้ที่มากราบสักการะให้สำเร็จผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
ส่วนประวัติการสร้างวัดสมานรัตนารามนั้น พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เล่าให้ฟังว่า ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบกันต่อกันมา เดิมที ณ ตำบลบางแก้วแห่งนี้ มีขุนท่านหนึ่ง เป็นคหบดีผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ขุนท่านนี้มีนามว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย สืบสมาน) ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือ นางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คน คือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) ต่อมาเมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่อนิจกรรมลง นางยี่สุ่นผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับภรรยาทั้ง 2 มีความประสงค์จะสร้างวัด เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ขุนสมานจีนประประชา จึงได้ดำเนินการสร้างวัดนี้ขึ้น เมื่อสร้างวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตั้งชื่อวัดว่า "วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร" แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกว่า "วัดใหม่ขุนสมาน" เป็นวัดราษฎร์ คณะสงฆ์ปกครองวัดสมัยนั้นเป็นฝ่ายมหานิกาย แต่ปกครองไม่นานนัก ผู้สร้างวัดได้ถวายพระในคณะธรรมยุตมี พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโพ) เป็นประธานสงฆ์ในการรับถวาย ภายหลังนางยี่สุ่นผู้เป็นน้องได้สร้างพระปรางค์เพื่อบรรจุอัฐิบรรพบุรุษเอาไว้ ซึ่งพระปรางค์ดังกล่าวยังปรากฏให้เห็นที่หน้าพระอุโบสถ์จนถึงปัจจุบัน
และได้ค้นพบหลักฐานที่สำคัญว่า ในปี พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประทับที่วัดนี้ว่า "พระบาทเสด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จทางชลมารคผ่านมาได้ทรงแวะเยี่ยมวัดขุนสมานจีนประชา ชาวบ้านผู้หนึ่งชื่อ นายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ วัดแห่งนี้ด้วย" ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญและเป็นอุดมมงคลยิ่งแก่วัดและประชาชนชาวบางแก้วสมัยนั้นจวบจนปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อครา สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จออกตรวจสังฆมณฑลทางเรือตามลำแม่น้ำบางปะกง พระองค์ได้เยี่ยมวัดนี้ และทรงเห็นป้ายวัดไม่สอดคล้องกับชื่อตำบลไผ่แสวก จึงทรงตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า "วัดไผ่แสวก" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของตำบล ครั้นกาลเวลาล่วงเลยมานานหลายสิบปี ทางราชการได้ยุบตำบลไผ่แสวกไปรวมกับตำบลบางแก้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเถระผู้ใหญ่พร้อมด้วยภิกษุ สามเณร ชาวบ้าน อุบาสก และอุบาสิกา ได้มีมติเห็นพร้องกันว่าสมควรที่จะเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ โดยชื่อวัดที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ต้องมีคำว่า "สมาน" เพื่อให้เกียรติแก่ตระกูลสืบสมานผู้สร้างวัด และให้มีคำว่า "แก้ว" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อตำบล จึงได้ขออนุญาตไปยังหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า "วัดสมานรัตนาราม" มาจนทุกวันนี้
http://travel.kapook.com/view24027.html
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ วิ่งถนนรามอินทรา ออกมีนบุรี ก่อนถึงมีนบุรีเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตป้ายบอกทางเมื่อจะเข้าแปดริ้วเลี้ยวซ้ายบนสะพาน (ตรงไปจะไปชลบุรี ) ไปเรื่อย ๆ เลยไฟแดงชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตรงไปถึงสี่แยกไฟแดงแยกคอมเพล็กซ์ เลี้ยวซ้ายไปทางบางคล้า 4 กิโลเมตร จะถึงปากทางวัดจุกเฌอ เลี้ยวช้ายเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางเบี่ยงขวาสังเกตป้าย วิ่งข้ามสะพานสูงซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำ ลงสะพานวิ่งต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม
http://www.paiduaykan.com/province/central/chachoengsao/watsaman.html
รีวิวที่ผ่านมา
http://ppantip.com/profile/784842
[CR] <<พาเที่ยวทำบุญ วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา2013>>BY ฟากฟ้าทะเลฝัน
ไปเที่ยวทำบุญที่วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา มาครับ เลยมารีวิวแบ่งปันกันชมครับ ผิดพลาดประการ
ใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไปมาเมื่อวันอาทิตย์ที่21 ก.ค.56 ตื่นมาก็สายแล้วครับ ที่แรกก็ไม่ได้ตั้งใจ
จะไปหรอกครับ เลยตื่นซะสายเชียว แต่ตื่นมาท้องฟ้าปลอดโปร่งดี อารมณ์ก็ไม่อยากอยู่บ้านเลยตัดสินใจ
เดี๋ยวนั้นเลยครับ อยากไปวัดสมานมานานละ ไม่เคยไปซะที แต่รถคงติดยาวแน่นอนวันหยุดยาวแบบนี้
จำเป็นต้องพึ่งเจ้า2ล้อ SCOOPY i อีกครั้ง พาชิวๆไปเรื่อยๆดีก่า ว่าแล้วก็ไปกันเลยดีกว่าครับ
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็น วัดที่มีองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูง 16 เมตร ยาว 22 เมตร เนื้อชมพู เป็นพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ประวัติวัดสมานรัตนาราม
ปัจจุบันเมื่อกล่าวถึง "วัดสมานรัตนาราม" ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยว ตลอดถึงพ่อค้าประชาชน และนักแสวงบุญทั้งหลายเข้าทำบุญที่วัดไม่ขาดสายเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาในวัดนี้ นอกจากความสงบร่มรื่น และทิวทัศน์ที่สวยงามภายในวัดแล้ว เป้าหมายของผู้คนที่เดินทางมาที่วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ คือ องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทรงไว้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสามารถประสิทธิ์ประสาทพรแก่ผู้ที่มากราบสักการะให้สำเร็จผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
ส่วนประวัติการสร้างวัดสมานรัตนารามนั้น พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เล่าให้ฟังว่า ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบกันต่อกันมา เดิมที ณ ตำบลบางแก้วแห่งนี้ มีขุนท่านหนึ่ง เป็นคหบดีผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ขุนท่านนี้มีนามว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย สืบสมาน) ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือ นางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คน คือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) ต่อมาเมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่อนิจกรรมลง นางยี่สุ่นผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับภรรยาทั้ง 2 มีความประสงค์จะสร้างวัด เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ขุนสมานจีนประประชา จึงได้ดำเนินการสร้างวัดนี้ขึ้น เมื่อสร้างวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตั้งชื่อวัดว่า "วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร" แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกว่า "วัดใหม่ขุนสมาน" เป็นวัดราษฎร์ คณะสงฆ์ปกครองวัดสมัยนั้นเป็นฝ่ายมหานิกาย แต่ปกครองไม่นานนัก ผู้สร้างวัดได้ถวายพระในคณะธรรมยุตมี พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโพ) เป็นประธานสงฆ์ในการรับถวาย ภายหลังนางยี่สุ่นผู้เป็นน้องได้สร้างพระปรางค์เพื่อบรรจุอัฐิบรรพบุรุษเอาไว้ ซึ่งพระปรางค์ดังกล่าวยังปรากฏให้เห็นที่หน้าพระอุโบสถ์จนถึงปัจจุบัน
และได้ค้นพบหลักฐานที่สำคัญว่า ในปี พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประทับที่วัดนี้ว่า "พระบาทเสด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จทางชลมารคผ่านมาได้ทรงแวะเยี่ยมวัดขุนสมานจีนประชา ชาวบ้านผู้หนึ่งชื่อ นายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ วัดแห่งนี้ด้วย" ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญและเป็นอุดมมงคลยิ่งแก่วัดและประชาชนชาวบางแก้วสมัยนั้นจวบจนปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อครา สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จออกตรวจสังฆมณฑลทางเรือตามลำแม่น้ำบางปะกง พระองค์ได้เยี่ยมวัดนี้ และทรงเห็นป้ายวัดไม่สอดคล้องกับชื่อตำบลไผ่แสวก จึงทรงตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า "วัดไผ่แสวก" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของตำบล ครั้นกาลเวลาล่วงเลยมานานหลายสิบปี ทางราชการได้ยุบตำบลไผ่แสวกไปรวมกับตำบลบางแก้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเถระผู้ใหญ่พร้อมด้วยภิกษุ สามเณร ชาวบ้าน อุบาสก และอุบาสิกา ได้มีมติเห็นพร้องกันว่าสมควรที่จะเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ โดยชื่อวัดที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ต้องมีคำว่า "สมาน" เพื่อให้เกียรติแก่ตระกูลสืบสมานผู้สร้างวัด และให้มีคำว่า "แก้ว" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อตำบล จึงได้ขออนุญาตไปยังหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า "วัดสมานรัตนาราม" มาจนทุกวันนี้
http://travel.kapook.com/view24027.html
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ วิ่งถนนรามอินทรา ออกมีนบุรี ก่อนถึงมีนบุรีเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตป้ายบอกทางเมื่อจะเข้าแปดริ้วเลี้ยวซ้ายบนสะพาน (ตรงไปจะไปชลบุรี ) ไปเรื่อย ๆ เลยไฟแดงชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตรงไปถึงสี่แยกไฟแดงแยกคอมเพล็กซ์ เลี้ยวซ้ายไปทางบางคล้า 4 กิโลเมตร จะถึงปากทางวัดจุกเฌอ เลี้ยวช้ายเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางเบี่ยงขวาสังเกตป้าย วิ่งข้ามสะพานสูงซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำ ลงสะพานวิ่งต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม
http://www.paiduaykan.com/province/central/chachoengsao/watsaman.html
รีวิวที่ผ่านมา http://ppantip.com/profile/784842
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น