หน่วยรบพิเศษอังกฤษชื่อดังอย่าง SAS (ขออภัยลืมชื่อเต็ม) ที่หลายๆท่านรู้จัักกันดี เป็นหน่วยที่มีชื่อเก่งกาจ
....แต่อนิจจาในหนังในเกมก็แน่นอน แต่เมื่อต้องเจอทหารกองประจำการที่ฝึกอย่างดี สภาพภูมิประเทศ การสนับสนุนที่เข้าไปไม่ถึง จึงทำให้หน่วยรบพิเศษต้องถูกโดนล่าไปในที่สุด
แน่นอนในอดีตมีหน่วยรบพิเศษดังๆมากมายๆเช่นสเปซนาส กรีนเบเรต์ เดลต้า ต้องไปละลายเมื่อเจอกองโจรที่ฝึกอย่างดี สภาพภูมิประเทศที่ไม่เคยพบเจอ รวมถึงทหารรับจ้าง จนสิ้นชื่อมาแล้วเช่นกัน
สาเหตุปฏิับติการครั้งนี้ว่า สงครามอ่าวครั้งที่1เมื่ออิรักโดนสหรัฐตีโต้และตรึงแนวรบไว้ อิรักจึงใช้ของถนัดที่เคยทำให้สหรัฐและนาโต้ต้องหวั่นๆมาก่อนคือ ขีปนาวุธ " Scud "หรือ SS-1C D และในเวอร์ชั่นอิรักคือ อัลอุสเซน ซึ่งมีพิสัยยิงไกล650ก.ม. อัล-อับบาส ระยะยิง750-900ก.ม. ใส่หัวรบระเบิดแรงสูงหนักเกือบ1ตันและหัวรบระเบิดเคมี ชีวะ(น่ากลัวกว่านิวเคลียร์อีก....เพราะอันใดลองวินิจฉัยกันค้าบ)
แน่นอนว่าติดตั้งบนรถเคลื่อนย้ายไวมากก
....ความคลาดเคลื่อนห่างจากเป้าที่50เมตร (แต่คลาดเคลื่อนได้ถึง450-700เมตร) แต่วิเคราะห์ไว้ว่ามันน่าจะอยู๋ที่50เมตร จากความเสียหาย
ความพิเศษนอกจากระยะยิงไกลและความแม่นยำแบบพอรับได้ คือมันเคลื่อนที่และเตรียมยิงได้ไวมาก โซเวียตออกแบบให้พร้อมยิงและเคลื่อนที่ขั้นทดสอบใช้เวลาไม่ถึง20นาที.....แม้แต่นาโต้ยังปวดหัว ไม่ใช่การสกัดลูกจรวดที่ยิง(ถึงกระนั้นก็สกัดโดนมั่งไม่โดนมั่ง)มาแต่ต้องเสียเวลาตามหาฐานยิงที่เคลื่อนที่อีกและไปได้แทบทุกสภาวะ สภาพพื้นที่ ซ่อนพรางง่ายมาก
อิรักเชี่ยวชาญมากในการใช้SCUD เพราะตอนรบกับอิหร่านอิรักซัลโวใส่อิหร่านไปกว่า203ลูก แน่นอนนอกจากความเสียหาย ยังส่งผลทางจิตวิทยาให้ประชาชนหวั่นเกรง โดยเฉพาะอาวุธเคมีชีวะ ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนผลักดันให้ยุติสงครามโดยเร็วนั้นเอง
อิรักถล่มบาเรห์ ซาอุฯ อิสราเอล(โดนแบบนับได้ไป26ลูก) โดยเฉพสะอิสราเอลที่ต้องอดกลั้นสูงสุดและหวั่นกระแสผลักดันจากประชาชนให้บุกถล่มอิรัก......แน่นอนไม่ง่ายเพราะต้องขอเปิดน่านฟ้าบินข้ามหัวซาอุฯ จอร์แดน ซีเรีย เพื่อเข้าไปค้นหาฐานยิงSCUD ถ้าอิสราเอลบุกเข้าไปถล่มอิรักดังที่กล่าวมา ความไม่ชอบใจอิสราเอลในหมู่ชาวอาหรับเช่นอียิปต์จะเพิ่มมากแทนอิรักนั้นเอง......สหรัฐเลยต้องพยายามคุมอิสราเอลให้ทนไว้ๆ
ดังสองภาพด้านล่างMH-60Kที่ต้องบินลึกเข้าไปในเขตแดนอิรักเพื่อยืนยันเป้าหมายและส่งข้อมูลให้ส่งเครื่องบินเข้ามาถล่ม
ปฏิับัติการ " scud hunting " เมื่อหน่วยSAS ต้องสิ้นชื่อ
....แต่อนิจจาในหนังในเกมก็แน่นอน แต่เมื่อต้องเจอทหารกองประจำการที่ฝึกอย่างดี สภาพภูมิประเทศ การสนับสนุนที่เข้าไปไม่ถึง จึงทำให้หน่วยรบพิเศษต้องถูกโดนล่าไปในที่สุด
แน่นอนในอดีตมีหน่วยรบพิเศษดังๆมากมายๆเช่นสเปซนาส กรีนเบเรต์ เดลต้า ต้องไปละลายเมื่อเจอกองโจรที่ฝึกอย่างดี สภาพภูมิประเทศที่ไม่เคยพบเจอ รวมถึงทหารรับจ้าง จนสิ้นชื่อมาแล้วเช่นกัน
สาเหตุปฏิับติการครั้งนี้ว่า สงครามอ่าวครั้งที่1เมื่ออิรักโดนสหรัฐตีโต้และตรึงแนวรบไว้ อิรักจึงใช้ของถนัดที่เคยทำให้สหรัฐและนาโต้ต้องหวั่นๆมาก่อนคือ ขีปนาวุธ " Scud "หรือ SS-1C D และในเวอร์ชั่นอิรักคือ อัลอุสเซน ซึ่งมีพิสัยยิงไกล650ก.ม. อัล-อับบาส ระยะยิง750-900ก.ม. ใส่หัวรบระเบิดแรงสูงหนักเกือบ1ตันและหัวรบระเบิดเคมี ชีวะ(น่ากลัวกว่านิวเคลียร์อีก....เพราะอันใดลองวินิจฉัยกันค้าบ)
แน่นอนว่าติดตั้งบนรถเคลื่อนย้ายไวมากก
....ความคลาดเคลื่อนห่างจากเป้าที่50เมตร (แต่คลาดเคลื่อนได้ถึง450-700เมตร) แต่วิเคราะห์ไว้ว่ามันน่าจะอยู๋ที่50เมตร จากความเสียหาย
ความพิเศษนอกจากระยะยิงไกลและความแม่นยำแบบพอรับได้ คือมันเคลื่อนที่และเตรียมยิงได้ไวมาก โซเวียตออกแบบให้พร้อมยิงและเคลื่อนที่ขั้นทดสอบใช้เวลาไม่ถึง20นาที.....แม้แต่นาโต้ยังปวดหัว ไม่ใช่การสกัดลูกจรวดที่ยิง(ถึงกระนั้นก็สกัดโดนมั่งไม่โดนมั่ง)มาแต่ต้องเสียเวลาตามหาฐานยิงที่เคลื่อนที่อีกและไปได้แทบทุกสภาวะ สภาพพื้นที่ ซ่อนพรางง่ายมาก
อิรักเชี่ยวชาญมากในการใช้SCUD เพราะตอนรบกับอิหร่านอิรักซัลโวใส่อิหร่านไปกว่า203ลูก แน่นอนนอกจากความเสียหาย ยังส่งผลทางจิตวิทยาให้ประชาชนหวั่นเกรง โดยเฉพาะอาวุธเคมีชีวะ ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนผลักดันให้ยุติสงครามโดยเร็วนั้นเอง
อิรักถล่มบาเรห์ ซาอุฯ อิสราเอล(โดนแบบนับได้ไป26ลูก) โดยเฉพสะอิสราเอลที่ต้องอดกลั้นสูงสุดและหวั่นกระแสผลักดันจากประชาชนให้บุกถล่มอิรัก......แน่นอนไม่ง่ายเพราะต้องขอเปิดน่านฟ้าบินข้ามหัวซาอุฯ จอร์แดน ซีเรีย เพื่อเข้าไปค้นหาฐานยิงSCUD ถ้าอิสราเอลบุกเข้าไปถล่มอิรักดังที่กล่าวมา ความไม่ชอบใจอิสราเอลในหมู่ชาวอาหรับเช่นอียิปต์จะเพิ่มมากแทนอิรักนั้นเอง......สหรัฐเลยต้องพยายามคุมอิสราเอลให้ทนไว้ๆ
ดังสองภาพด้านล่างMH-60Kที่ต้องบินลึกเข้าไปในเขตแดนอิรักเพื่อยืนยันเป้าหมายและส่งข้อมูลให้ส่งเครื่องบินเข้ามาถล่ม