By ScholarShip
หน่วยรบพิเศษ เป็นหน่วยที่มีความเชี่ยวช่ญทางด้านการรบเป็นพิเศษ ซึ่งในแต่ละประเทศทั่วโลกล้วนแล้วแต่มีหน่วยนี้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของประเทศนั่นเอง และนี่คือทั้ง 10 อันดับ!!!
10. Berets Verts หรือ French Naval Commandos
หน่วยคอมมานโดแห่งราชนาวี ที่ได้รับฉายาว่า หมวกเบเร่ย์เขียว การฝึกฝนของหน่วยนี้ยากและทรหดมาก ใช้เวลาในการเทรนทั้งสิ้น 20 สัปดาห์ โดยรวมถึง 1 สัปดาห์ ทดสอบ 6 สัปดาห์ เตรียมความพร้อม 4 สัปดาห์ ประเมินผล 7 สัปดาห์ และฝึกทักษะคอมมานโด และอีก 2 สัปดาห์ในการฝึกกระโดดร่ม ซึ่งเป็นการฝึกฝนที่หนักเป็นอย่างมาก โดยพวกเขามีเวลานอนหลับพักผ่อนเพียงแค่ 2 ชม. / วันเท่านั้นเอง
9. MARSOC
หน่วยรบพิเศษแห่งราชนาวีสหรัฐ หรือ The US Marine Corps Forces Special Operations Command หรือชื่อย่อว่า MARSOC ถูกตั้งขึ้นในปี 2007 โดยถือว่าเป็นสุดยอดของหน่วยทหาร ที่จะปฏิบัติภารกิจในเรื่องของความขัดแย้งต่างๆ รวมถึงภาระกิจการออกลาดตระเวน โดยจะมีการฝึกเรียนรู้วิธีการในการเอาตัวรอดในสภาวะธรรมชาติ รวมถึงศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆ อีกมากมาย
การฝึกฝนแบ่งเป็น 4 ช่วง ในระยะแรกเป็นการเทรนที่เรียกว่า SERE (Survival การเอาชีวิตรอด, Evasion การกวาดล้าง, Resistance การขัดขืน, Escape การหนีเอาตัวรอด) ซึ่งทหารที่เข้ารับการฝึกจะเรียนรู้วิธีการในการเอาตัวรอดในสภาวะธรรมชาติ รวมถึงศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆ
ในช่วง 2 และ 3 จะเป็นการทดสอบทักษะ การเป็นนักแม่นปืน การใช้ระเบิด และการลาดตระเวน ในเฟสที่ 4 จะเน้นในเรื่องของการทดสอบอย่างหนักในเรื่องของความเหมาะสม ด้วยการทดสอบความรู้ทางการทหารและการต่อสู้ที่ได้เรียนและฝึกมา
8. Spetsnaz (Russian Special Purpose Forces)
เป็นหน่วยรบที่มีมาตรฐานที่สูงส่งในการฝึกฝน มีผู้เข้ารับการฝึกเพียง 2 ใน 10 นายที่สามารถผ่านคอร์ส การฝึกที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือนนี้ได้ ซึ่งรวมถึงการฝึกการต่อสู้ด้วยมือเปล่า การใช้อาวุธ การเก็บข้อมูลข่าวกรอง การเจรจาเรื่องตัวประกันและการเข้าทำการช่วยเหลือ การควบคุมการจลาจล การรักษาพยาบาลภาคสนาม และมุ่งเน้นการดูแลรักษาร่างกายให้ฟิตอยู่เสมอ
7. U.S. Army Green Berets
United States Army Special Forces ก่อตั้งขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สมาชิกของหน่วยถูกฝึกมาหรับหรับงานก่อวินาศกรรม การกระโดดร่ม การปฏิบัติงานทั้ง บกและทางน้ำ การปีนเขาและสกี ทว่าทหารหน่วยนี้เป็นที่รู้จักในช่วงสงครามเวียดนาม ระหว่าง พ.ศ. 2510 – 2515 เพราะฝึกหน่วยรบนอกแบบให้กองทัพเวียดนามได้ต่อสู้กับการรบแบบกองโจร โดยใช้กลยุทธ์ในแบบฉบับ “setting a thief to catch a thief ”
สมาชิกของกรีนแบเรต์เป็นอาสาสมัคร ต้องมีความสามารถทางโดดร่ม ผ่านโปรแกรม การฝึกที่เข้มข้นยาวนานประมาณ 44 – 62 สัปดาห์ คัดผู้ที่ไม่เหมาะสมออกไป และทหารทุกคน ต้องมีทักษะทางด้านต่อสู้ไหวพริบ และความฉลาด การให้อาวุธพิเศษ การติดต่อสื่อสารหรือ ความชำนาญในการใช้ภาษาต่างประเทศ แต่ละกลุ่มของกรีนแบเรต์ จะมีตรารูปโล่เป็นสีต่างๆ ติดอยู่บนหมวก
6. MI-6
หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในภาพยยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ นั่นเอง โดย MI-6 มีที่มาจากหน่วยลับของอังกฤษ (British Secret Service) โดยมี William Melville เป็นหัวหน้า เขาใช้รหัสเรียกแทนตัวเองว่า “M” และสร้างนักสืบมาด้วยตัวเอง แต่เป็นเพียงหน่วยงานเล็กๆ จนกระทั้งหน่วยงานได้รับทุนและขยายตัวจนได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น Secret Service Bureau ในปี 1909 โดยมีงานคู่ขนาดคู่กัน 2 หน้าที่ คือ ป้องกันต่างชาติที่มาทำการโจรกรรมข่าวสารในอังกฤษและสืบข่าวลับในต่างประเทศ
MI6 ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศ รหัส 00 นั้นหมายถึงสถานะที่เรียกว่า licence to kill คับ คือ ฆ่าได้โดยไม่ผิดกฏหมายในการปฏิบัติหน้าที่
5. US Army Rangers
หน่วยพิทักษ์ป่ายุคใหม่ของสหรัฐอเมริกาจะถือกำเนิดในปี 1942 หน่วยนี้จะออกปฏิบัติการเป็นหน่วยย่อยๆซึ่งมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง หน่วยทหารราบพิเศษนี้เชียวชาญในการต่อสู้กับการโจมตีด้วยพลร่มและการโจมตีทางอากาศ ทุกๆยูนิตของหน่วยนี้สามารถไปที่ไหนก็ได้ในโลกภายในระยะเวลา 18 ชั่วโมง
4. The Delta Force
หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกา (USSOCOM หรือ United States Special Operation Command) ก่อตั้งโดย ร.อ. ชาร์ล เอ เบ็ควิค มีภารกิจในการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งส่วนมากเป็นการปฏิบัติการลับ โดยมีสายการบังคับบัญชาที่สั้น นอกจากการสั่งการโดยตรงจากหน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษแล้ว ยังรับคำสั่งโดยตรงจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นประธาน กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยจะต้องผ่านการคัดเลือกเป็นพิเศษ การปฏิบัติงานของหน่วยที่ผ่านมาส่วนมากอยู่ในชั้นความลับ แต่ก็มีเผยแพร่ออกมาอยู่บ้าง
หน้าที่ของ DELTA FORCE ที่คาดว่าต้องปฏิบัติประกอบไปด้วย
การปฏิบัติการด้านภารกิจพิเศษที่เน้นเรื่องของการสืบเสาะค้นหาความลับ ความเป็นไปได้ ความแท้จริงของเรื่องราวเพื่อไขข้อกระจ่างว่าจริงๆ แล้วเรื่องราวเหล่านี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร
ทำการผลิตวัตถุระเบิดจากวัตถุทั่วไปเพื่อเอาไว้ใช้เป็นอาวุธยามต้องป้องกันตัวหรือเอาไว้สำหรับการจู่โจมศัตรู
มีหน้าที่ปกป้องบุคคลสำคัญในกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติร้องขอ เช่น ให้คุ้มครองประธานาธิบดีในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ เป็นต้น
ทำสงครามตามคำสั่งที่ได้รับมอบหาย
DELTA FORCE ถือเป็นหน่วยรบที่มีความอันตราย น่ากลัว หน่วยรบหนึ่งของโลก ทุกคนผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก่อนเข้ามาปฏิบัติการยังหน่วยรบแห่งนี้ จึงไม่แปลกหากเราจะเห็นความเข้มแข็งของสหรัฐฯ
3. Shayetet 13 (Israel)
สุดยอดหน่วยคอมมานโดของราชนาวีอิสราเอล และเป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ กองกำลังป้องกันตนเองของอิราเอลอีกด้วย (ร่วมกับหน่วย Sayeret Matkal และ Shaldag Unit) หน่วย S’13 เชี่ยวชาญในการปฏิบัติการจู่โจมจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง การปฏิบัติการตอบโต้การก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม การรวบรวมข่าวกรองด้านการเดินเรือ การต่อสู้ชิงตัวประกันทางทะเล และการลำเลียงผู้โดยสาร
หลังแนวข้าศึกเพื่อให้ได้มาซึ่งสติปัญญาเชิงกลยุทธ์ Sayeret Matkal ยังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายและการช่วยเหลือตัวประกันเหนือพรมแดนของอิสราเอลอีกด้วย หน่วยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษหลังจากกองทัพอากาศพิเศษของกองทัพอังกฤษได้รับคำขวัญว่า “Who Dares, Winins”
ถ้าทำการเปรียบเทียบหน่วยนี้อิสราเอลเท่ากับของ Delta Force ของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งขึ้นตรงกับผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองทางทหารของ IDF พวกเขาเหล่านี้ล้วนผ่านการฝึกอันยากลำบาก และสุดโหด นอกจากจะผ่านการทดสอบทั้งทางด้านร่างกาย รวมทั้งความสามารถในการต่อสู้แล้ว ระหว่างปฏิบัติภารกิจพวกเขาจะได้รับการทดสอบสภาพจิตใจเป็นระยะๆ เพื่อเฟ้นหาบุคคลอันมีความแข็งแกร่งรอบด้าน
2. US Navy SEALs
หน่วย SEAL มีความหมายว่า Sea ทะเล, Air อากาศ, Land พื้นดิน เป็นหน่วยที่ประกอบด้วยกำลังพล 2,000 นาย ที่ต้องผ่านการฝึกตลอดทั้งปีก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วย สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งมักจะถูกเรียกว่า ‘สัปดาห์นรก’ ที่เป็นเรื่องที่ท้าทายสุดๆสำหรับทหารที่เข้ารับการฝึกทั้งทางร่างกายและจิตใจ ด้วยการต้องทนทุกข์ทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น การว่ายน้ำในทะเลครั้งละหลายๆไมล์แล้ววิ่งผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีทรายหยุ่นๆ
(สัปดาห์นรกจะเป็นการฝึก 5 วันต่อเนื่อง 120 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ไม่มีการเข้านอน ไม่มีการนั่งพักผ่อน ตลอดเวลา นทต. ต้องอยู่กับท่อนซุง ไม้พาย เสื้อชูชีพ และรับคำสั่งโหด ๆ จากครูฝึกที่เปลี่ยนกันมาฝึกทุกวัน วันละ 3 ชุด ชุดละ 8 ชั่วโมง)
หน่วย SEAL ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ เหตุผลก็คือภารกิจที่หน่วย SEAL ได้รับมักจะอันตรายอย่างที่สุดและถูกกดดันทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุดเสมอ
การฝึกของหน่วย SEAL จะกินเวลานานที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษทั่ว ๆ ไป คือกินเวลา ราว ๆ 8 - 11 เดือน ตามแต่เงื่อนไขของการฝึก
ส่วนใหญ่แล้ว การฝึกของหน่วย SEAL จะเน้นความแข็งแกร่งของจิดใจ ซึ่งนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) จะถูกฝึกให้อดทนต่อแรงกดดันต่าง ๆ จากครูฝึกตลอดเวลา และถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่บางทีแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลย
1. SAS (UK) และ SAS-R
หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศของอังกฤษ หรือ British Special Air Service เป็น ‘หน่วยที่ดีที่สุดของทั้งหมด best of the best’ การฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักของหน่วยนี้ เป็นแบบอย่างของโปรแกรมการฝึกของเกือบทุกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของโลก
หน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ หรือ
สเปเชียลแอร์เซอร์วิส (Special Air Service ตัวย่อ SAS) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1947 ซึ่งได้รับคำชมเชยและยกย่องเช่นเดียวกันกับ หน่วย Delta Force กับ Navy Seal ของ สหรัฐอเมริกา คำขวัญประจำหน่วยรบ
“Who Dare Wins – ผู้กล้าย่อมชนะ” ผลงานที่ทำให้โด่งดังไปทั่วโลก
สิ่งที่ทำให้หน่วยรบ SAS ได้รับการยกย่องและได้เปรียบหน่วยอื่นๆนั่นคือ การได้รับการฝึกจากหน่วยข่าวกรอง MI5 และ MI6 ด้วยความที่ถูกฝึกเป็นสายลับ จึงเชี่ยวชาญกระโดดร่ม เป็นอย่างมากจึงทำให้สามารถเข้าไปในพื้นที่และแทรกซึมเข้าไปทำลายพื้นที่ตั้งศัตรูทางอากาศได้ตลอดเวลา (เป็นทั้งทหารและสายลับ)
อีกทั้ง SAS คือหน่วยรบที่ไม่ได้มีงบประมาณสูง หากนำไปเทียบกับหน่วยรบระดับโลกของสหรัฐอเมริกาที่ทุ่มงบแบบไม่อั้นในการเสริมเขี้ยวเล็บต่างๆ SAS จึงต้องสร้างประสิทธิภาพในการรบสูงสุดโดยใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ซึ่งอาจถือเป็นจุดเด่นของ พวกเขาที่ต้องเค้นพลังสมองและพลังกายรวมทั้งไหวพริบ ทุกรูปแบบออกมาในสิ่งที่จำกัดหลายๆอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดเท่าที่นักรบคนหนึ่งจะสามารถทำได้
Source: Clipmass
Cr.
https://www.scholarship.in.th/10-best-special-force/
Cr.
http://oknation.nationtv.tv
หน่วยรบพิเศษที่ได้รับการขนานนามว่า เก่งและโหดที่สุดในโลก!!!
หน่วยรบพิเศษ เป็นหน่วยที่มีความเชี่ยวช่ญทางด้านการรบเป็นพิเศษ ซึ่งในแต่ละประเทศทั่วโลกล้วนแล้วแต่มีหน่วยนี้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของประเทศนั่นเอง และนี่คือทั้ง 10 อันดับ!!!
10. Berets Verts หรือ French Naval Commandos
หน่วยคอมมานโดแห่งราชนาวี ที่ได้รับฉายาว่า หมวกเบเร่ย์เขียว การฝึกฝนของหน่วยนี้ยากและทรหดมาก ใช้เวลาในการเทรนทั้งสิ้น 20 สัปดาห์ โดยรวมถึง 1 สัปดาห์ ทดสอบ 6 สัปดาห์ เตรียมความพร้อม 4 สัปดาห์ ประเมินผล 7 สัปดาห์ และฝึกทักษะคอมมานโด และอีก 2 สัปดาห์ในการฝึกกระโดดร่ม ซึ่งเป็นการฝึกฝนที่หนักเป็นอย่างมาก โดยพวกเขามีเวลานอนหลับพักผ่อนเพียงแค่ 2 ชม. / วันเท่านั้นเอง
9. MARSOC
หน่วยรบพิเศษแห่งราชนาวีสหรัฐ หรือ The US Marine Corps Forces Special Operations Command หรือชื่อย่อว่า MARSOC ถูกตั้งขึ้นในปี 2007 โดยถือว่าเป็นสุดยอดของหน่วยทหาร ที่จะปฏิบัติภารกิจในเรื่องของความขัดแย้งต่างๆ รวมถึงภาระกิจการออกลาดตระเวน โดยจะมีการฝึกเรียนรู้วิธีการในการเอาตัวรอดในสภาวะธรรมชาติ รวมถึงศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆ อีกมากมาย
การฝึกฝนแบ่งเป็น 4 ช่วง ในระยะแรกเป็นการเทรนที่เรียกว่า SERE (Survival การเอาชีวิตรอด, Evasion การกวาดล้าง, Resistance การขัดขืน, Escape การหนีเอาตัวรอด) ซึ่งทหารที่เข้ารับการฝึกจะเรียนรู้วิธีการในการเอาตัวรอดในสภาวะธรรมชาติ รวมถึงศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆ
ในช่วง 2 และ 3 จะเป็นการทดสอบทักษะ การเป็นนักแม่นปืน การใช้ระเบิด และการลาดตระเวน ในเฟสที่ 4 จะเน้นในเรื่องของการทดสอบอย่างหนักในเรื่องของความเหมาะสม ด้วยการทดสอบความรู้ทางการทหารและการต่อสู้ที่ได้เรียนและฝึกมา
8. Spetsnaz (Russian Special Purpose Forces)
เป็นหน่วยรบที่มีมาตรฐานที่สูงส่งในการฝึกฝน มีผู้เข้ารับการฝึกเพียง 2 ใน 10 นายที่สามารถผ่านคอร์ส การฝึกที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือนนี้ได้ ซึ่งรวมถึงการฝึกการต่อสู้ด้วยมือเปล่า การใช้อาวุธ การเก็บข้อมูลข่าวกรอง การเจรจาเรื่องตัวประกันและการเข้าทำการช่วยเหลือ การควบคุมการจลาจล การรักษาพยาบาลภาคสนาม และมุ่งเน้นการดูแลรักษาร่างกายให้ฟิตอยู่เสมอ
7. U.S. Army Green Berets
United States Army Special Forces ก่อตั้งขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สมาชิกของหน่วยถูกฝึกมาหรับหรับงานก่อวินาศกรรม การกระโดดร่ม การปฏิบัติงานทั้ง บกและทางน้ำ การปีนเขาและสกี ทว่าทหารหน่วยนี้เป็นที่รู้จักในช่วงสงครามเวียดนาม ระหว่าง พ.ศ. 2510 – 2515 เพราะฝึกหน่วยรบนอกแบบให้กองทัพเวียดนามได้ต่อสู้กับการรบแบบกองโจร โดยใช้กลยุทธ์ในแบบฉบับ “setting a thief to catch a thief ”
สมาชิกของกรีนแบเรต์เป็นอาสาสมัคร ต้องมีความสามารถทางโดดร่ม ผ่านโปรแกรม การฝึกที่เข้มข้นยาวนานประมาณ 44 – 62 สัปดาห์ คัดผู้ที่ไม่เหมาะสมออกไป และทหารทุกคน ต้องมีทักษะทางด้านต่อสู้ไหวพริบ และความฉลาด การให้อาวุธพิเศษ การติดต่อสื่อสารหรือ ความชำนาญในการใช้ภาษาต่างประเทศ แต่ละกลุ่มของกรีนแบเรต์ จะมีตรารูปโล่เป็นสีต่างๆ ติดอยู่บนหมวก
6. MI-6
หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในภาพยยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ นั่นเอง โดย MI-6 มีที่มาจากหน่วยลับของอังกฤษ (British Secret Service) โดยมี William Melville เป็นหัวหน้า เขาใช้รหัสเรียกแทนตัวเองว่า “M” และสร้างนักสืบมาด้วยตัวเอง แต่เป็นเพียงหน่วยงานเล็กๆ จนกระทั้งหน่วยงานได้รับทุนและขยายตัวจนได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น Secret Service Bureau ในปี 1909 โดยมีงานคู่ขนาดคู่กัน 2 หน้าที่ คือ ป้องกันต่างชาติที่มาทำการโจรกรรมข่าวสารในอังกฤษและสืบข่าวลับในต่างประเทศ
MI6 ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศ รหัส 00 นั้นหมายถึงสถานะที่เรียกว่า licence to kill คับ คือ ฆ่าได้โดยไม่ผิดกฏหมายในการปฏิบัติหน้าที่
5. US Army Rangers
หน่วยพิทักษ์ป่ายุคใหม่ของสหรัฐอเมริกาจะถือกำเนิดในปี 1942 หน่วยนี้จะออกปฏิบัติการเป็นหน่วยย่อยๆซึ่งมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง หน่วยทหารราบพิเศษนี้เชียวชาญในการต่อสู้กับการโจมตีด้วยพลร่มและการโจมตีทางอากาศ ทุกๆยูนิตของหน่วยนี้สามารถไปที่ไหนก็ได้ในโลกภายในระยะเวลา 18 ชั่วโมง
4. The Delta Force
หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกา (USSOCOM หรือ United States Special Operation Command) ก่อตั้งโดย ร.อ. ชาร์ล เอ เบ็ควิค มีภารกิจในการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งส่วนมากเป็นการปฏิบัติการลับ โดยมีสายการบังคับบัญชาที่สั้น นอกจากการสั่งการโดยตรงจากหน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษแล้ว ยังรับคำสั่งโดยตรงจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นประธาน กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยจะต้องผ่านการคัดเลือกเป็นพิเศษ การปฏิบัติงานของหน่วยที่ผ่านมาส่วนมากอยู่ในชั้นความลับ แต่ก็มีเผยแพร่ออกมาอยู่บ้าง
หน้าที่ของ DELTA FORCE ที่คาดว่าต้องปฏิบัติประกอบไปด้วย
การปฏิบัติการด้านภารกิจพิเศษที่เน้นเรื่องของการสืบเสาะค้นหาความลับ ความเป็นไปได้ ความแท้จริงของเรื่องราวเพื่อไขข้อกระจ่างว่าจริงๆ แล้วเรื่องราวเหล่านี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร
ทำการผลิตวัตถุระเบิดจากวัตถุทั่วไปเพื่อเอาไว้ใช้เป็นอาวุธยามต้องป้องกันตัวหรือเอาไว้สำหรับการจู่โจมศัตรู
มีหน้าที่ปกป้องบุคคลสำคัญในกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติร้องขอ เช่น ให้คุ้มครองประธานาธิบดีในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ เป็นต้น
ทำสงครามตามคำสั่งที่ได้รับมอบหาย
DELTA FORCE ถือเป็นหน่วยรบที่มีความอันตราย น่ากลัว หน่วยรบหนึ่งของโลก ทุกคนผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก่อนเข้ามาปฏิบัติการยังหน่วยรบแห่งนี้ จึงไม่แปลกหากเราจะเห็นความเข้มแข็งของสหรัฐฯ
3. Shayetet 13 (Israel)
สุดยอดหน่วยคอมมานโดของราชนาวีอิสราเอล และเป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ กองกำลังป้องกันตนเองของอิราเอลอีกด้วย (ร่วมกับหน่วย Sayeret Matkal และ Shaldag Unit) หน่วย S’13 เชี่ยวชาญในการปฏิบัติการจู่โจมจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง การปฏิบัติการตอบโต้การก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม การรวบรวมข่าวกรองด้านการเดินเรือ การต่อสู้ชิงตัวประกันทางทะเล และการลำเลียงผู้โดยสาร
หลังแนวข้าศึกเพื่อให้ได้มาซึ่งสติปัญญาเชิงกลยุทธ์ Sayeret Matkal ยังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายและการช่วยเหลือตัวประกันเหนือพรมแดนของอิสราเอลอีกด้วย หน่วยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษหลังจากกองทัพอากาศพิเศษของกองทัพอังกฤษได้รับคำขวัญว่า “Who Dares, Winins”
ถ้าทำการเปรียบเทียบหน่วยนี้อิสราเอลเท่ากับของ Delta Force ของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งขึ้นตรงกับผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองทางทหารของ IDF พวกเขาเหล่านี้ล้วนผ่านการฝึกอันยากลำบาก และสุดโหด นอกจากจะผ่านการทดสอบทั้งทางด้านร่างกาย รวมทั้งความสามารถในการต่อสู้แล้ว ระหว่างปฏิบัติภารกิจพวกเขาจะได้รับการทดสอบสภาพจิตใจเป็นระยะๆ เพื่อเฟ้นหาบุคคลอันมีความแข็งแกร่งรอบด้าน
2. US Navy SEALs
หน่วย SEAL มีความหมายว่า Sea ทะเล, Air อากาศ, Land พื้นดิน เป็นหน่วยที่ประกอบด้วยกำลังพล 2,000 นาย ที่ต้องผ่านการฝึกตลอดทั้งปีก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วย สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งมักจะถูกเรียกว่า ‘สัปดาห์นรก’ ที่เป็นเรื่องที่ท้าทายสุดๆสำหรับทหารที่เข้ารับการฝึกทั้งทางร่างกายและจิตใจ ด้วยการต้องทนทุกข์ทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น การว่ายน้ำในทะเลครั้งละหลายๆไมล์แล้ววิ่งผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีทรายหยุ่นๆ
(สัปดาห์นรกจะเป็นการฝึก 5 วันต่อเนื่อง 120 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ไม่มีการเข้านอน ไม่มีการนั่งพักผ่อน ตลอดเวลา นทต. ต้องอยู่กับท่อนซุง ไม้พาย เสื้อชูชีพ และรับคำสั่งโหด ๆ จากครูฝึกที่เปลี่ยนกันมาฝึกทุกวัน วันละ 3 ชุด ชุดละ 8 ชั่วโมง)
หน่วย SEAL ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ เหตุผลก็คือภารกิจที่หน่วย SEAL ได้รับมักจะอันตรายอย่างที่สุดและถูกกดดันทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุดเสมอ
การฝึกของหน่วย SEAL จะกินเวลานานที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษทั่ว ๆ ไป คือกินเวลา ราว ๆ 8 - 11 เดือน ตามแต่เงื่อนไขของการฝึก
ส่วนใหญ่แล้ว การฝึกของหน่วย SEAL จะเน้นความแข็งแกร่งของจิดใจ ซึ่งนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) จะถูกฝึกให้อดทนต่อแรงกดดันต่าง ๆ จากครูฝึกตลอดเวลา และถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่บางทีแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลย
1. SAS (UK) และ SAS-R
หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศของอังกฤษ หรือ British Special Air Service เป็น ‘หน่วยที่ดีที่สุดของทั้งหมด best of the best’ การฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักของหน่วยนี้ เป็นแบบอย่างของโปรแกรมการฝึกของเกือบทุกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของโลก
หน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ หรือ สเปเชียลแอร์เซอร์วิส (Special Air Service ตัวย่อ SAS) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1947 ซึ่งได้รับคำชมเชยและยกย่องเช่นเดียวกันกับ หน่วย Delta Force กับ Navy Seal ของ สหรัฐอเมริกา คำขวัญประจำหน่วยรบ “Who Dare Wins – ผู้กล้าย่อมชนะ” ผลงานที่ทำให้โด่งดังไปทั่วโลก
สิ่งที่ทำให้หน่วยรบ SAS ได้รับการยกย่องและได้เปรียบหน่วยอื่นๆนั่นคือ การได้รับการฝึกจากหน่วยข่าวกรอง MI5 และ MI6 ด้วยความที่ถูกฝึกเป็นสายลับ จึงเชี่ยวชาญกระโดดร่ม เป็นอย่างมากจึงทำให้สามารถเข้าไปในพื้นที่และแทรกซึมเข้าไปทำลายพื้นที่ตั้งศัตรูทางอากาศได้ตลอดเวลา (เป็นทั้งทหารและสายลับ)
อีกทั้ง SAS คือหน่วยรบที่ไม่ได้มีงบประมาณสูง หากนำไปเทียบกับหน่วยรบระดับโลกของสหรัฐอเมริกาที่ทุ่มงบแบบไม่อั้นในการเสริมเขี้ยวเล็บต่างๆ SAS จึงต้องสร้างประสิทธิภาพในการรบสูงสุดโดยใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ซึ่งอาจถือเป็นจุดเด่นของ พวกเขาที่ต้องเค้นพลังสมองและพลังกายรวมทั้งไหวพริบ ทุกรูปแบบออกมาในสิ่งที่จำกัดหลายๆอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดเท่าที่นักรบคนหนึ่งจะสามารถทำได้
Source: Clipmass
Cr.https://www.scholarship.in.th/10-best-special-force/
Cr.http://oknation.nationtv.tv